สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหนเล่มที่ 22 633 ฉวยโอกาสเพื่อเลี่ยงปัญหา

Now you are reading สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน Chapter เล่มที่ 22 633 ฉวยโอกาสเพื่อเลี่ยงปัญหา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จงซูอี้มองกูสือซานอย่างมีความหวังอีกครั้ง แต่กูสือซานกลับส่งสายตาเย็นชา

“ผู้นำจง ท่านไม่ต้องมองราชครูอย่างข้า ราชครูอย่างข้าฟังคำสั่งประมุขหลาน ฉีอ๋องต้องการตัวเจ้า เจ้าช่วยเหลือแคว้นไหวเจียงของข้าอย่างจริงใจ แคว้นไหวเจียงของข้าจะไม่ลืมเจ้าอย่างแน่นอน”

โดยไม่มีผู้ใดคาดคิด กูสือซานพูดพลางเตะจงซูอี้ไปด้านข้างมู่หรงฉีอย่างแรง

ด้วยการเตะนั้น กูสือซานใช้กำลังแทบทั้งหมดของตนเอง หากปล่อยให้จงซูอี้ตกลงบนพื้น เขาคงเสียชีวิตอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นพวกเขาจึงรีบเข้าไปสกัดอย่างไม่ลังเล เพราะพวกเขาต้องการคนเป็น

ทุกคนรีบเข้าไปรับตัวจงซูอี้

ขณะที่สายตาของทุกคนจดจ่ออยู่ที่ตัวของจงซูอี้ หลานอวี่ กูสือซาน และเยี่ยเซินก็รีบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เยี่ยโยวเหยาและซูจิ่นซีเป็นคนแรกที่ตอบสนอง และรีบไล่ตามไปเพื่อขัดขวางคนทั้งสามเอาไว้

“โยวอ๋อง พระชายาโยวอ๋อง พวกเจ้าพูดแล้วว่าให้ทิ้งจงซูอี้ไว้ แล้วพวกเจ้าจะปล่อยข้าและคนอื่นๆ ไป นี่เป็นคำพูดที่เชื่อถือไม่ได้หรือ? ”

น้ำเสียงของเยี่ยโยวเหยาเย็นชาอย่างมาก “นั่นเป็นความต้องการของมู่หรงฉี หาใช่ความต้องการของข้า สิ่งที่ข้าต้องการนั้น ไม่ใช่เพียงจงซูอี้… ”

“โยวอ๋องประสงค์สิ่งใด? ” เพื่อเอาชีวิตรอด หากสามารถให้ได้ หลานอวี่จะให้ทั้งหมด

“สิ่งที่ข้าต้องการคือ… ” สายตาเย็นชาของเยี่ยโยวเหยากวาดมองไปที่ร่างของทั้งสามคน “ชีวิตของพวกเจ้า! ”

น้ำเสียงนั้นเย็นชาอย่างมาก ทำให้ร่างของเยี่ยเซินสั่นเทา และซวนเซถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

เขาเคยเป็นรัชทายาทของแคว้นจงหนิง คุ้นเคยกับวิธีการของเยี่ยโยวเหยามาตั้งแต่เด็ก และเข้าใจเยี่ยโยวเหยาเป็นอย่างดี เยี่ยโยวเหยาพูดสิ่งใด ก็ต้องทำสิ่งนั้น

วันนี้ พวกเขาหนีไม่พ้นแน่แล้ว

ดวงตาของหลานอวี่ถมึงทึง ทั้งยังหัวเราะอย่างไม่เต็มใจ “โยวอ๋อง พูดจาวางอำนาจเสียจริง! ”

เรื่องที่สามารถทำได้ เยี่ยโยวเหยาไม่เคยพูดมาก เขายกกระบี่เสวียนหยวนในมือโจมตีไปทางหลานอวี่และกูสือซาน

ทว่าเยี่ยโยวเหยาในวันนี้ มีวิชายุทธจิ่วเซียวขั้นเจ็ด ต่อให้พวกมู่หรงฉีไม่มา เพียงเขาร่วมมือกับซูจิ่นซีสองคน ก็สามารถรับมือกับหลานอวี่และกูสือซานได้มากเกินพอ

สำหรับเยี่ยเซิน เขาไม่ได้อยู่ในสายตาของเยี่ยโยวเหยาและซูจิ่นซี

ไม่นานนัก เยี่ยโยวเหยาและซูจิ่นซีก็จับหลานอวี่และกูสือซานได้

ส่วนเยี่ยเซิน เป็นเรื่องปกติที่จะมอบตัวเขาให้ฮูหยินเตี๋ยเมิ่งและอู๋จุนจัดการ

อาศัยวรยุทธ์ของเยี่ยเซิน อู๋จุนเพียงผู้เดียวก็เพียงพอให้รับมือได้แล้ว กอปรกับฮูหยินเตี๋ยเมิ่ง หลังจากประมือเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ไม่นานทั้งสองก็จับเยี่ยเซินได้

เยี่ยเซินถูกอู๋จุนคุมตัวไว้ รวมถึงหลานอวี่และกูสือซานที่ถูกจับมัดรวมกัน ทั้งสามต่างโต้เถียงกันไม่หยุด ซูจิ่นซีเห็นแววตาหมดความอดทนของเยี่ยโยวเหยา จึงมอบเข็มเงินให้พวกเขาคนละเล่มเพื่อปิดปาก

ฉินเทียนและจิ้นหนานเฟิงนำกำลังพลตามมาอย่างรวดเร็ว เยี่ยโยวเหยานำตัวคนทั้งสามมอบให้พวกเขาทั้งสอง

หลานอวี่กับกูสือซานถูกเยี่ยโยวเหยาและซูจิ่นซีจับตัวได้ เยี่ยโยวเหยาต้องการตัวพวกเขามานานแล้ว จึงไม่มอบพวกเขาให้มู่หรงฉี

เขาไม่ได้สนใจจงซูอี้ จึงมอบตัวให้มู่หรงฉีไป

สำหรับเรื่องนี้ มู่หรงฉีไม่ได้โต้แย้งอันใดเยี่ยโยวเหยา

ทุกคนพาเชลยซึ่งเป็นผู้นำของแคว้นไหวเจียงมาถึงด้านนอกเมืองเย่หลินอย่างรวดเร็ว

ในเวลานี้ กองทัพทหารสี่แสนนายของสกุลจงได้ถอยทัพไปแล้ว ไม่มีจงเนี่ย ไม่มีจงซูอี้ กองทัพเหล่านี้จึงต้องรับคำสั่งจากกรมกลาโหมของราชสำนัก กรมกลาโหมได้จัดระเบียบกองทัพเสียใหม่ ทั้งยังจัดเตรียมคนไว้สำหรับทำความสะอาดเมืองที่เคยเป็นสนามรบนองเลือด

ทว่าขุนพลผีของเยี่ยโยวเหยายังอยู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยที่นอกเมือง แม่ทัพหลายนายของกรมกลาโหม เมื่อเห็นกองทัพขุนพลผีแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ

ขุนพลผีของโยวอ๋องข้ามพรมแดนระหว่างสองประเทศมาได้อย่างไร พวกเขาเข้ามาได้ราวกับไม่มีผู้ใดอยู่ ทั้งยังตรงมาถึงที่นี่? เหตุใดกองทัพขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้จึงเข้ามายังพื้นที่ใจกลางของแคว้นหนานหลี โดยที่พวกเขาไม่ได้รับข่าวใดๆ แม้แต่น้อย?

นอกจากนั้น ในช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุดเช่นนี้ หากโยวอ๋องมีความทะเยอทะยาน คิดฉวยโอกาสนี้โจมตีเมืองเย่หลิน เขาคงยึดครองแคว้นหนานหลีได้โดยไม่ต้องใช้ความพยายามอันใด

โยวอ๋องจะทำเช่นนั้นหรือไม่?

คำพูดประโยคนี้ เหล่าแม่ทัพกรมกลาโหมไม่กล้าตั้งคำถามกับเยี่ยโยวเหยา ทั้งไม่กล้าวางใจขุนพลผี

อย่างไรเสีย ก่อนหน้านี้ ในช่วงเวลาสำคัญที่สุดของเมืองเย่หลิน เหล่ากองทัพทหารขุนพลผีได้ช่วยเหลือแคว้นหนานหลีไว้

ทว่าพวกเขากล้าแสดงความคิดเห็นต่อมู่หรงฉี!

ทันทีที่ม้าของมู่หรงฉีมาถึงนอกเมืองเย่หลิน แม่ทัพใหญ่หลายนายก็เข้าไปล้อมเขาไว้ และแยกตัวมู่หรงฉีออกมาจากกลุ่มคน ก่อนจะแสดงความคิดเห็นของพวกเขา มู่หรงฉีพยายามพูดเกลี้ยกล่อมพวกเขา และรับประกันว่ากองทัพของโยวอ๋องจะไม่เข้ามาในเมืองอย่างแน่นอน เหล่าแม่ทัพใหญ่จึงโล่งใจ

เมื่อมู่หรงฉีกลับมาพบเยี่ยโยวเหยาและซูจิ่นซีอีกครั้ง ใบหน้าของเขายังคงเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนและสุภาพ

“โยวอ๋อง ขอบคุณในความช่วยเหลือของท่านในวันนี้ เมืองเย่หลินของข้าจึงอยู่รอดปลอดภัย เหล่าแม่ทัพนายกองและทหารขุนพลผีที่ตั้งค่ายอยู่นอกเมือง ข้าจะให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ทั้งยังได้จัดเตรียมที่พักของโยวอ๋องไว้ในวัง ข้าจะพาโยวอ๋องไปด้วยตนเอง โยวอ๋อง เชิญทางนี้! ”

คำพูดประโยคนี้เป็นการช่วยเยี่ยโยวเหยาตัดสินใจ โดยไม่ถามความคิดเห็นของเขา

แท้จริงแล้ว สายตาของเยี่ยโยวเหยาอยู่ที่เมืองเย่หลินมาโดยตลอด ตอนที่ซูจิ่นซีวางแผนใช้โอกาสในการแข่งขันซิ่งหลินเพื่อลงมือจัดการกับสกุลจง เยี่ยโยวเหยาก็ได้รับข่าวนี้แล้ว ทั้งการเคลื่อนไหวของสกุลจงยังอยู่ในการควบคุมของเขา ดังนั้นเขาจึงนำคนมาช่วยเหลือได้ทันเวลา

ในทางกลับกัน มู่หรงฉีไม่ได้เพิกเฉยต่อเรื่องนี้

สกุลจงเป็นตระกูลที่หยั่งรากลึกในแคว้นหนานหลีมานานหลายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำนักโอสถสกุลจง ไม่ว่าด้านชื่อเสียงและพลังอำนาจที่เข้มแข็ง ตอนนี้พวกเขาได้พัฒนาไปสู่ขั้นที่รุ่งเรืองถึงขีดสุดแล้ว หากคิดกำจัดสำนักโอสถสกุลจง คงไม่ใช่เรื่องที่จะพูดกันได้ง่ายๆ กระมัง?

ในช่วงสองสามคืนก่อนการแข่งขันซิ่งหลิน เขาแทบจะนอนไม่หลับทั้งคืน เพราะเขาคาดเดาได้ถึงความโหดร้ายและเหตุการณ์นองเลือดที่จะเกิดขึ้นในวันที่ต้องกำจัดสำนักโอสถสกุลจง

หากมีเหตุร้ายเพียงเล็กน้อย ตัวเขาเอง หรือแม้กระทั่งมู่หรงอวิ๋นไห่ เสด็จพ่อของเขา น้องจิ่นซี ยังมีสำนักแพทย์สกุลจงและคนเหล่านั้นที่สนับสนุนเขาในราชสำนัก พวกเขาต้องตกสู่ขุมนรกเป็นแน่

และในช่วงเวลานั้นเอง ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาได้พบสายลับของเยี่ยโยวเหยาในเมืองเย่หลิน หลังจากครุ่นคิดดูแล้ว เขาจึงนึกแผนการขึ้นมาได้ เขาจงใจเปิดเผยสถานการณ์ในเมืองเย่หลินให้สายลับของเยี่ยโยวเหยารู้ ขณะเดียวกันก็ให้พวกเขาแจ้งผู้คุมที่ชายแดนว่า หากพบขุนพลผีของโยวอ๋อง ไม่ต้องขัดขวางและปล่อยให้เข้ามาทั้งหมด

แท้จริงแล้ว ที่มู่หรงฉีทำเช่นนี้ นับเป็นวิธีการที่เสี่ยงอันตรายอย่างมาก

เขากำลังเดิมพันความรู้สึกของเยี่ยโยวเหยาที่มีต่อซูจิ่นซี เดิมพันอุปนิสัยและตัวตนของเยี่ยโยวเหยา

เดิมพันความรักอันลึกซึ้งของเยี่ยโยวเหยาต่อซูจิ่นซี เมื่อรู้ว่าซูจิ่นซีพบกับอุปสรรคอันตราย เขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยซูจิ่นซี เดิมพันว่าโยวอ๋องจะไม่ฉวยโอกาสที่ผู้คนกำลังตกอยู่ในอันตราย ลงมือกับแคว้นหนานหลี

แม้พวกเขาจะเป็นผู้ที่มีใจทะเยอทะยาน คิดรวบรวมแผ่นดิน ทว่าสุภาพบุรุษที่รักในอำนาจ ต้องใช้วิถีแห่งคุณธรรมในการยึดครองประเทศ

ในความเป็นจริง มู่หรงฉีชนะเดิมพัน

อย่างไรก็ตาม ความคิดเหล่านี้ของมู่หรงฉี มีหรือที่เยี่ยโยวเหยาจะไม่เข้าใจ?

ในอีกแง่มุมหนึ่ง ที่มู่หรงฉีทำเช่นนี้ เป็นการแสดงออกว่าเชื่อใจเยี่ยโยวเหยา หากกล่าวอย่างละเอียดคือ มู่หรงฉียังเป็นตระกูลนักปกครองแว่นแคว้นที่โดดเด่นผู้หนึ่ง

วีรบุรุษต่างเข้าใจวีรบุรุษด้วยกันดี ระหว่างพวกเขาจะไม่มีความชื่นชมต่อกันได้อย่างไร?

ทว่าเยี่ยโยวเหยาเป็นผู้ใด? เมื่อชื่นชมผู้ใดก็แสดงออกหรือ?

ด้วยท่าทางที่เย็นชานั้น เยี่ยโยวเหยาพูดกับฉินเทียนว่า “นำขุนพลผีออกจากแคว้นหนานหลี และรออยู่ที่ชายแดน”

ให้ขุนพลผีถอยออกจากแคว้นหนานหลี?

ทำเช่นนั้นได้อย่างไร?

แม้ในอดีต เยี่ยโยวเหยาจะเคยมาแคว้นหนานหลี ทว่าทุกครั้งล้วนปิดบังสถานะ

แต่ครั้งนี้ต่างออกไป ครั้งนี้ ทุกคนรู้ว่าเขาคือโยวอ๋อง ผู้มีอำนาจครอบงำแคว้นจงหนิง เป็นราชาแห่งแคว้นจงหนิง

จับกุมโยวอ๋องได้ ก็เท่ากับยึดครองแคว้นจงหนิงได้

หากมีคนฉวยโอกาสนี้ ย่อมไม่อาจคาดเดาถึงผลที่จะตามมา

ขุนพลผีไม่อาจถอนกำลังได้เป็นอันขาด

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *