สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหนเล่มที่ 29 867 ยาวิเศษจินตานเสริมพลัง

Now you are reading สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน Chapter เล่มที่ 29 867 ยาวิเศษจินตานเสริมพลัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลังจากคำนั้นถูกเปล่งออกมา ร่างของตงหลิงจวิ้นพลันสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เขาค่อยๆ ลืมตาที่เศร้าโศกและมองไปยังฮ่องเต้หลู่ที่อยู่เบื้องหน้า

เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วัน ทว่าเขาไม่รู้จักเสด็จพ่อของตนเองอีกต่อไป

เมื่อครู่ เขายังพูดกับเสด็จแม่ที่หายใจรวยรินว่าตนเองไม่ต้องการแผ่นดินหรืออำนาจกษัตริย์ อย่างไรก็ตาม ไม่คาดคิดว่าสภาพอารมณ์ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปในชั่วพริบตา

เขาสามารถเปลี่ยนขาวเป็นดำได้ในชั่วพริบตา…

เหล่าองครักษ์หยุดชะงักชั่วขณะ ไม่กล้าเดินมาข้างหน้า พวกเขาทั้งหมดค่อยๆ พุ่งเป้าไปที่ตงหลิงหวง

ฮ่องเต้หลู่จ้องตงหลิงจวิ้นด้วยสายตาเฉียบคมราวกับมีด

“เราหวนนึกถึงตอนที่เจ้ายังเด็กและไร้เดียงสา เจ้ากำลังถูกโจรกบฏหลอกลวงจึงเลอะเลือนไปชั่วขณะ เพียงเจ้ากลับใจ เจ้ายังเป็นบุตรชายของข้า ข้าจะฝังเสด็จแม่ของเจ้าในสุสานกษัตริย์ในฐานะของฮองเฮา ขอเพียงตงหลิงหวงตาย ต่อไปในอนาคต เจ้าจะเป็นรัชทายาท หลังจากข้าสวรรคต แคว้นนี้ แผ่นดินทั้งหมดในใต้หล้า หรือแม้แต่อาณาจักรเทียนเหอทั้งหมดจะเป็นของเจ้า”

ตงหลิงจวิ้นกัดฟันจนตัวสั่น น้ำตาไหลอาบแก้ม และไม่พูดอันใดแม้แต่น้อย

ฮ่องเต้หลู่หรี่ตาลงพลางก้าวไปทางตงหลิงจวิ้น และยื่นมือออกไป

“มานี่! ”

ดวงตาของตงหลิงจวิ้นมองฝ่ามือของฮ่องเต้หลู่ ผ่านไปครู่หนึ่ง… ขณะที่ฮ่องเต้หลู่คิดว่าตงหลิงจวิ้นจะยอมรับข้อตกลงอย่างชาญฉลาด กลับไม่คิดว่าเขาจะคว้ามือของฮ่องเต้หลู่ ก่อนจะกัดนิ้วหัวแม่มือและนิ้วนางที่สวมแหวนหยกกษัตริย์อย่างไร้ความปรานี

ฮ่องเต้หลู่ขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวดและกัดฟันแน่น ทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายอันตราย จากนั้นจึงโยนตงหลิงจวิ้นออกไป

“เจ้าลูกหมาป่า ไม่คิดเลยหรือว่าใครกันแน่ที่ให้เขี้ยวเล็บแก่เจ้า แม้แต่เสด็จพ่อของเจ้ายังกล้ากัดอีก”

ตงหลิงจวิ้นและฮ่องเต้หลู่อยู่บนเวทีสูง ฮ่องเต้หลู่มีพลังแข็งแกร่งมาก ท่ามกลางความโกรธนั้น ทำให้เขาแทบใช้แรงทั้งหมด

ตงหลิงจวิ้นถูกโยนห่างออกไปหลายจั้ง หลังจากตกลงบนพื้นก็กลิ้งไปอีกหลายตลบถึงจะหยุด

ทว่าเขาไม่ได้ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด และไม่มีท่าทีขลาดกลัวแม้แต่น้อย เขามองกลับไปที่ฮ่องเต้หลู่บนแท่นสูงอย่างไม่เกรงกลัว ทั้งยังเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

หลังจ้องอยู่ครู่หนึ่ง ตงหลิงจวิ้นจึงยื่นนิ้วโป้งไปทางฮ่องเต้หลู่ และค่อยๆ พลิกนิ้วโป้งลงพื้นอีกครั้ง

ฮ่องเต้หลู่กัดฟันกรอด “เจ้าหมายความว่าอย่างไร? ”

ที่มุมปากของตงหลิงจวิ้นยังมีเลือดไหลออกมา ทว่าเขาพยายามยกยิ้มเยาะเย้ยอันแปลกประหลาด

“เจ้าไม่คู่ควรเป็นบิดาของข้าตงหลิงจวิ้น ข้าตงหลิงจวิ้น ในชีวิตนี้ไม่เคยเห็นเจ้าอยู่ในสายตา”

ในฐานะที่เป็นบุตร กลับดูถูกบิดาของตนเอง…

ชัดเจนว่าตอนนี้ ฮ่องเต้หลู่เป็นเจ้าครองแคว้นตงเฉิน เป็นผู้ปกครองที่มีอำนาจสูงสุดในแคว้นตงเฉิน และมีฐานะสูงส่ง

ทว่าเวลานี้ ท่าทางอันทรงอำนาจบนร่างของเขาพลันสูญสลาย ดูอ้างว้างและโดดเดี่ยวเล็กน้อย

กลิ่นอายความโหดร้ายทั่วร่างของเขายังไม่เปลี่ยนแปลง แม้ตอนที่ตงหลิงจวิ้นบอกว่าตลอดชีวิตนี้ไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตา ใบหน้าและการแสดงออกของเขาไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

ทว่ารัศมีบนร่างของเขาอ่อนกว่าตงหลิงจวิ้นมาก

มีพระราชอำนาจของราชาแล้วจะมีประโยชน์อันใด? ควบคุมชะตาชีวิต ความเป็นความตายในใต้หล้าได้แล้วอย่างไร?

ในใต้หล้านี้ ต่อให้ท่านแข็งแกร่งเพียงใด ขอเพียงใจของใครบางคนไม่อยู่กับท่านและไม่ยึดติดกับท่านอีกต่อไป ไม่ว่าท่านจะสูงส่งและสูงศักดิ์เพียงใด ก็อ้างว้างโดดเดี่ยวไม่ต่างอันใดกับสุนัขตัวหนึ่ง

ความรักก็เป็นเช่นนี้ สายใยครอบครัวก็เป็นเยี่ยงนี้เช่นกัน

ไม่รู้ว่าในใจของฮ่องเต้หลู่กำลังคิดสิ่งใด เขาไม่ได้พูดอันใดกับตงหลิงจวิ้น และไม่หันไปมองตงหลิงจวิ้นอีกเลย จากนั้นจึงโน้มตัวลงอุ้มร่างของซินหรูและเดินไปทางด้านนอกสวนดอกไม้

ตงหลิงหวงที่กำลังต่อสู้กับองครักษ์เห็นฮ่องเต้หลู่เดินออกไปภายใต้การคุ้มกันขององครักษ์เงา ทันใดนั้น นางก็เข้าจู่โจมไปยังทิศทางของฮ่องเต้หลู่อย่างไม่สนใจสิ่งใด

ในขณะเดียวกัน นักฆ่าฉีเฟิงและฉานเยวี่ยได้รับคำสั่งจากตงหลิงหวงให้ไล่ตามไปในทิศทางเดียวกัน

ไม่นานนัก พวกเขาก็เข้าไปขวางทางฮ่องเต้หลู่อย่างรวดเร็ว

ฮ่องเต้หลู่หรี่ตาลงเล็กน้อย แววตาปรากฏความขุ่นเคืองแกมเปล่าเปลี่ยวอ้างว่าง

เขาวางร่างของซินหรูลง และค่อยๆ ชักกระบี่คู่กายออกมาจากเอว เตรียมพร้อมต่อสู้

ตงหลิงหวงพูดว่า “เข้ามาเถิด พวกเรามาจบปัญหาระหว่างหลานอย่างข้ากับเสด็จลุงเถิด”

ตงหลิงหวงแสดงท่าทีเย็นชา ทันใดนั้น นางก็นึกถึงคำพูดของตงหลิงจวิ้นที่ขอร้องนางตอนอยู่ในจวนหลู่หยางอ๋อง

ตงหลิงจวิ้นขอร้องนาง ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ขอให้นางไว้ชีวิตหลู่หยางอ๋อง

ตงหลิงหวงขมวดคิ้วและพูดว่า “ตงหลิงชาง ข้าจะให้โอกาสเจ้าสักครั้ง ให้องครักษ์ของเจ้าหยุดและถอนกำลังทั้งหมดออกจากพระราชวังที่อยู่ในอำนาจของเจ้า แล้ววันนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไป ไว้ชีวิตของเจ้า”

ตงหลิงชางราวกับกำลังฟังเรื่องขบขัน ทันใดนั้น เขาก็เงยหน้าและหัวเราะเสียงดังสองครั้ง แววตาเย็นชาอย่างมาก

“พูดจาไร้สาระอันใดมากมาย? สตรีอย่างไรก็คือสตรี ยังเป็นคนใจอ่อนอยู่ดี”

เมื่อสิ้นเสียงของฮ่องเต้หลู่ พัดเหล็กในมือของตงหลิงหวงก็บินออกไปโจมตียังจุดตายของฮ่องเต้หลู่

แววตาของฮ่องเต้หลู่พลันเปลี่ยนไป เขากระโดดขึ้น แม้จะหลบเลี่ยงพัดเหล็กของตงหลิงหวงได้ค่อนข้างยากลำบาก

พัดเหล็กหมุนวนกลางอากาศแล้ววกกลับมาที่มือของตงหลิงหวง

ตงหลิงหวงถือพัดเหล็ก และโจมตีฮ่องเต้หลู่อย่างรวดเร็วและไร้ความปรานี

วรยุทธ์การต่อสู้ของฮ่องเต้หลู่ใกล้เคียงกับอดีตฮ่องเต้ตงหลิงไท่แห่งแคว้นตงเฉิน ทั้งสองเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกัน ดังนั้นวรยุทธ์ของพวกเขาย่อมคล้ายคลึงกัน

วรยุทธ์ของตงหลิงหวงบางส่วนเรียนรู้มาจากเทียนซานเจี้ยนจง ส่วนที่เหลือ ตงหลิงหวงศึกษาด้วยตนเอง พูดตามเหตุผลแล้ว หากตงหลิงหวงใช้วิชากระบี่ของเทียนซานเจี้ยนจง ตงหลิงชางสามารถรับมือนางได้อย่างไม่มีปัญหา

ทว่าตอนนี้ ตงหลิงหวงไม่ได้ใช้วิชากระบี่ของเทียนซานเจี้ยนจง เพราะนางไม่มีกระบี่อยู่ในมือ

ตงหลิงชางจึงรับมือได้อย่างยากลำบาก

หลังผ่านไปหลายกระบวนท่า บาดแผลบนร่างกายของตงหลิงชางก็เพิ่มมากขึ้นหลายจุด ทว่าเขาไม่สามารถสัมผัสได้แม้แต่เส้นผมของตงหลิงหวง

หลู่หยางอ๋องเต็มไปด้วยความสงสัย ในที่สุด เขาก็เอ่ยปากถาม

“เจ้าไปเรียนวรยุทธ์นอกรีตพวกนี้มาจากที่ใดกันแน่? ”

หรือจะเป็นพลังเทพซิวเสวียนของผู้วิเศษจิ่วเทียนจากแหวนเก้ามังกรจริงๆ ?

ใบหน้าของตงหลิงหวงเย็นชาไร้ความรู้สึก

“จัดการเจ้าได้ก็เพียงพอแล้ว”

หากตงหลิงหวงใช้พลังเทพซิวเสวียนของผู้วิเศษจิ่วเทียนจริงๆ ไม่ว่าอย่างไร ฮ่องเต้หลู่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตงหลิงหวง

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ทันใดนั้นจึงฉวยจังหวะหันหลังกลับและหนีไปยังหอสูงในสวนดอกไม้วังหลวง

ตงหลิงหวงไล่ตามมาด้านหลังอย่างกระชั้นชิด ทั้งยังมีนักฆ่าฉีเฟิงหลายคนที่ตามมาต่อสู้ร่วมกับนางที่หอสูงนั้นเช่นกัน

ขณะที่หลบหนี ฮ่องเต้หลู่ได้ทิ้งระยะห่างจากตงหลิงหวงมากพอสมควร

เมื่อยืนนิ่งอยู่ในหอสูง ฮ่องเต้หลู่ก็หยิบยาเม็ดสีทองขึ้นมาทาน

มันเป็นยาวิเศษที่หาได้ยากยิ่งในอาณาจักรเทียนเหอ และไม่มีใครเคยได้ยินหรือได้เห็นยาวิเศษเม็ดสีทองนี้

ตงหลิงหวงเฝ้าระวังสูงสุดมาตลอด ทันทีที่เห็นฮ่องเต้หลู่กินยาเม็ดวิเศษสีทอง นางจึงไม่ไล่ตามไป ทว่าถอยกลับลงมาจากหอสูง

นักฆ่าฉีเฟิงหลายคนก็ติดตามตงหลิงหวงถอยกลับไปด้านล่างห้องใต้หลังคาเช่นกัน

นักฆ่าที่เป็นหัวหน้าถามตงหลิงหวงว่า “รัชทายาท เขารับประทานสิ่งใดหรือ? ”

ตงหลิงหวงส่ายศีรษะเล็กน้อย “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ทว่าเคยได้ยินมาว่า มีบางคนที่ฝึกฝนวรยุทธ์ขั้นสูง ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างคัมภีร์ฝึกวรยุทธ์ของอาณาจักรเทียนเหอกับคัมภีร์ลึกลับซิวเสวียน ทว่าเนื่องจากพวกเขาไม่มีแก่นพลังวิญญาณบำเพ็ญเพียร จึงไม่สามารถแสดงฝีมือทั้งหมดได้ ทำได้เพียงหันไปใช้ยาวิเศษจินตานช่วยเสริมพลังปราณให้แข็งแกร่งขึ้นในทันที

หรือว่า… นี่เป็นเรื่องจริง? “

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *