Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ 264

Now you are reading Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ Chapter 264 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จวินโม่เซี่ยสูดหายใจลึก และเร่งความเร็วขึ้น  เขาตามหลังชายชุดดำอยู่ราวร้อยหลา และเดินตามจังหวะพวกเขา  ทันใดนั้นเขาสัมผัสถึงปราณผันผวนได้ และตระหนักได้ว่ามีบางผู้กำลังสะกดรอยทั้งสามอยู่  และบอกจากการเคลื่อนไหวของคนผู้นั้นได้ว่า การบำเพ็ญของเขาสูงส่งยิ่งกว่าชายทั้งสามที่เขากำลังไล่ตามอยู่ …

 

อย่าบอกข้า ว่า เขามาจากราชสำนัก ?

จวินโม่เซี่ย ครุ่นคิดชั่วครู่และวางแผนการ …

 

ขุนนางเหวินสัมผัสการมีอยู่ของใครบางคนได้  แต่กระนั้นเขาก็มิอาจระบุตำแหน่งของคนผู้นั้นได้ขณะเขามองไปรอบๆ  อย่างไรก็ตาม ขุนนางมีสติอันทรงพลัง และและบอกได้ว่าคนผู้นี้คือยอดฝีมือที่น่าเกรงกลัวมิอาจคาดเดา

 

แต่เหตุใดข้าจึงมิอาจระบุตัวเขาได้ ?

 

เบื้องหน้าโล่งแจ้ง  เงาที่มิอาจแยกแยะกระโดดขึ้นกำแพงเมือง และเหาะจากไปในไม่นาน  ขุนนางเหวินใช้ช่วงเวลานั้นเพื่อพินิจและหยุดอยู่ชั่วครู่  เขาไม่เชื่อว่าเด็กพวกนั้นสามารถหลบหนีเขาได้  ดั้งนั้น เขาจึงตัดสินใจค้นหาว่า คนผู้นั้นปิดบังตัวเองในพื้นที่กว้างใหญ่ได้อย่างไร

 

ข้าไม่คิดว่าผู้อาวุโสชั้นเลิศจะปิดบังตัวเองจากสายตาข้าในที่กว้างใหญ่เช่นนี้ได้ !

 

แต่กระนั้น ขุนนางเหวินต้องผิดหวัง

 

เขารออยู่ชั่วขณะ แต่ยังไม่พบคนผู้นี้  ทั้งหมดที่ทำได้คือ สัมผัสการมาถึงของลมปราณที่แข็งแกร่งและน่าหวาดกลัว จากนั้นห่างออกไปไกล  แท้จริงแล้ว กลิ่นอายนั้นเคลื่อนผ่านพื้นที่อันว่างเปล่านั้นไป  แม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่เห็นผู้ใด

 

นี่ … เป็นไปได้เช่นไร ?

 

มีคนเช่นนี้อยู่ในโลกมนุษย์ !

ขุนนางเหวินสูดหายใจลึก  แต่กระนั้น ภายในร้อนรุ่มไปด้วยความปรารถนา

ชีวิตจะดีได้เพียงใด … หากข้าต่อสู้กับยอดฝีมือเช่นนี้ตัวต่อตัว ?

 

นางเหวินจัดแต่งตัวเองหลังจากพ่นอากาศออกมา และกระโดดขึ้นอย่างแผ่วเบา  เขาร่อนลงสู่กำแพงเมืองแผ่วเบาประหนึ่งเส้นผม จากนั้น หายตัวไปในทิศนั้นเช่นกัน  องครักษ์ประตูเมืองที่ง่วงเหงาหาวนอนมิอาจสังเกตุได้ และยังคงไม่รู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

 

” พี่ใหญ่ สภาพของน้องห้าไม่ค่อยดีนัก  ข้าถ่ายปราณเชวียนเข้าสู่ร่างของเขา แต่ยังไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง  พวกเราจักต้องฟื้นฟูการบาดเจ็บของเขาเร่งด่วน  มิเช่นนั้น ข้ากลัวว่า … “

น้ำเสียง โจวเจียนหมิง ร้อนรน

 

” อยี่กู้ฮั่น โหดร้ายอย่างแท้จริง !  สภาพน้องสี่ก็เลวร้ายเช่นกัน “

เล่ยเจียนฮ้งขบฟันด้วยความเกลียดชัง  จากนั้นเอ่ยอย่างรวดเร็ว

” สภาพของน้องห้านั้นรุนแรง  แต่เขาจักกลับมาเป็นปกติเมื่อเรารักษาเขาสำเร็จ  แต่กระนั้น น้องสี่อาจจะพิการไปตลอด  หัวไหล่ของเขาถูกตัดออก และใบหน้ายับเยิน … แม่เจ้า อยี่กู้ฮั่น ! “

 

” ข้ามิคาดว่า อยี่กู้ฮั่น ผู้นี้จักเป็นปัญหามากยิ่งเช่นนี้ !  พวกเราแต่ละคนอยู่ขั้นสวรรค์เชวียน มิได้อ่อนด้อยในอาณาจักรนี้ !  คนผู้นั้นเผชิญหน้ากับเราทั้งหมดเพียงผู้เดียว และทุกสิ่งกลับกลายเช่นนี้ไป ! “

ศิษย์สาวสาม ฟางเปียวฮ้ง ถอนใจ

” โชคดี ที่เขาตายไป !  แม้นสิ่งที่เขาทำกับน้องสี่จะน่าเวทนา …. “

 

” ทั้งหมดนี่เป็นเพราะนังโสเภณีหลิงเมิงผู้นี้ ! “

เล่ยเจียนฮ้งคำรามโกรธเคือง

” ข้าจักทำให้นางโสเภณีผู้นี้มีชีวิตอย่างเสียใจ หลังจากข้าพบเรื่องราวของผู้ลึกลับที่ขว้างมีดบินนั้นมา  !  ข้าจักดูแลจัดการนาง … องค์หญิงน่ารังเกียจผู้นี้ ! “

 

” พวกเราจักต้องรอคอยจนกระทั่ง อาจารย์มาถึงแม้นเราจะได้สิ่งที่ต้องการแล้ว “

ฟางเปียวฮ้งถอนใจอีกหน

” น้องสี่และกำลังจะตาย น้องหกไม่มีหวังจะฟื้นฟู  กระดูกน้องเจ็ด ถึงสิบ ถูกฝังไว้ภายในนครเทียนเชียง  ผู้ใดคาดคิดจะเกิดสิ่งเหล่านี้ … มันควรเป็นเช่นนี้หรือ ?! “

นางต่อด้วยการถอนใจอีกครั้ง

” โทสะอาจารย์จักพุ่งพล่านเมื่อได้ยินสิ่งนี้ !  พี่ใหญ่ อาจารย์จักมาถึงในสองวัน  พวกเราจักต้องตระเตรียม ! “

 

” ข้าจักตระเตรียมอันใดได้ ? “

เล่ยเจียนฮ้งเอ่ยสิ้นหวัง

” หากพ่อไม่เฆี่ยนตีข้าจนตาย ข้ากลัวว่าเขาจักทำให้ข้าอยู่ในสภาพเจียนตายนานนับครึ่งปี !  ข้านำพาศิษย์เก้าคนมาที่นี่ … และเวลานี้ หลงเหลือเพียงแค่สาม  มันจักไม่ทำให้ผู้เฒ่ามีโทสะมหาศาลหรือ ?  หากอภัยให้ข้าโดยง่ายคงเป็นเรื่องอัศจรรย์ ! “

 

โจวเจียนหมิงถอนใจเช่นกัน

” ข้าคาดว่าทั้งสามก็มิสามารถทำอันใดได้ง่ายในเวลานี้  ท่านอาจารย์จักมาถึงในสองวัน  เมื่อถึงเวลานั้น … โอ้วพระเจ้า !  ข้ามิอาจคาดว่าท่านอาวุโสจักกระทำเช่นไร “

 

” อาจารย์ทุ่มเทใจให้แก่ศิษย์ทั้งสิบเอ็ด … ตอนนี้ …. เฮ้อ !  ข้ามิอาจรู้ได้เขาจะเสียใจเพียงใด ! “

ฟางเปียวฮ้งเอ่ยโศกเศร้า  นางมิอาจห้ามปรามดวงตามิให้แดงก่ำ …​

 

ชายป่าปรากฏขึ้นตรงหน้าขณะพวกเขากำลังพูดคุยกัน  พวกเขาหันมองด้านหลังเป็นครั้งแรกเพื่อแน่ใจว่าไม่มีผู้ใดตามมา  จากนั้นพวกเขาเข้าไปด้านใดโดยไร้ลังเล  มือสังหารจวินติดตามพวกเขาไปโดยไร้รูปร่าง หรือสมบัติทางกายภาพใดๆ  เขาล่อลอยอยู่ในอากาศขณะติดตาม

 

จวินโม่เซี่ยฟังเหล่าผู้ลักพาอย่างระมัดระวัง  ศิษย์ของ เล้ยวูเบ้ยเป็นส่วนหนึ่งในการโจมตีเพื่อแกนเชวียน ในค่ำคืนพายุฝนฟ้าคะนอง

 

จวินโม่เซี่ยเสียขวัญจากสิ่งที่เขาได้ยิน

เลวูเบ้ย ปรมาจารย์เลือดเย็นจะมาถึงเทียนเชียงในอีกสองวัน ?!

 

นี่คือข่าวใหญ่ !

 

ทั้งสามยังคงระมัดระวังแม้นจะอยู่ในป่ารก  พวกเขาเปลี่ยนเส้นทางและเลี้ยวสองครั้ง ครั้งแรกซ้าย จากนั้นขวา  แล้วหยุดตรงตอไม้แห้งยาว จากนั้น พี่ใหญ่ของพวกเขา เล่ยเจียนฮ้ง ยื่นมือไป และกดบางสิ่งลงบนพื้นที่ปริศนา  ตอไม้สามตอหายไปในทันที และเผยให้เห็นแผ่นหินใหญ่  จากนั้นแผ่นหินเคลื่อนออกและเผยเส้นทางเข้าถ้ำ

 

จวินโม่เซี่ยก้าวเพียงหนึ่ง และหายเข้าสู่ด้านในขณะที่มันเผยออกมา  ถ้ำปลอดภัยอย่างมากเนื่องด้วยไม่มีผู้ใดอยู่ภายใน  ทั้งสามรวมทั้ง เล่ยเจียนฮ้งประจำตำแหน่ง และเดินลึกเข้าไป ช้าๆและระมัดระวัง  ถ้ำนี้คับแคบ จนสองคนมิอาจเดินเข้าสู่ด้านในเคียงข้างโดยมิชนกันได้  พวกเขาจักรู้หรือไม่ว่า นายน้อยจวินอยู่ที่นั่น … เฝ้ารอพวกเขาเข้าไปอย่างเงียบเฉียบ …

 

ตอไม้ค่อยๆกลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมหลังจากพวกเขาเข้าไปแล้ว  ธรณีกลับดูเงียบสงบลงอีกครั้ง ไม่มีเสียงของสิ่งใดให้ได้ยิน …

 

ขุนนางเหวินติดตามทั้งสามมาถึงชายป่า  พวกเขามิอาจหลบซ่อน หรือทิ้งห่างจากจิตสัมผัสของเขาได้  ความจริง เขาเห็นพวกเขาเดินเข้าไปในป่า  แต่กระนั้น เขาได้สูญเสียเวลาไปในการค้นหาผู้ที่น่าเกรงขามนั้น  ดังนั้น เขาจึงมาถึงทางเข้าถ้ำช้าเกินไป  แผ่นหินกลับคืนสู่ตำแหน่งในขณะที่เขามาถึง  ไม่มีร่องรอยของทางเข้าหลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย  เขาค้นหาทุกที่ แต่มิอาจะค้นพบผู้ที่เขาตามมาได้เลย  ขุนนางเหวิน สัมผัสได้เพียงกลิ่นอายของพวกเขา  รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาอยู่ไม่ไกล แต่มิอาจระบุตำแหน่งได้  เขามิอาจกลั้นความกังวล  สิ่งนี้เป็นดั่งเช่น แมวแก่เผาหนวดตัวเอง

 

ขุนนางเหวินรู้ว่าคนเหล่านั้นจักต้องหลบหนีลงใต้พื้นดินโดยใช้กลไกลับเพื่ออำพรางเส้นทาง  แต่กระนั้น พวกเขาจักไปที่ใดหลังจากมุดลงใต้ดินแล้ว ?  เขามั่นใจว่า สามารถรู้ได้หากเขาขับเคล็ดวิชาให้ครอบคลุมพื้นที่นี้  แต่สิ่งนั้นจักทำให้พวกเขาสงใส  น่าเวทนาที่จักต้องแหวกหญ้าให้งูตื่น เขามิอาจคิดแผนการอื่นได้

 

แต่กระนั้น องค์หญิงหลิงเมิงจะตกในเงื้อมมือพวกเขาหากพวกเขาไม่แสดงตัว  และข้าจักทำเช่นไรหากบางสิ่งเลวร้ายเกิดแก่นาง … ?  ข้าจักเผชิญหน้ากับองค์จักรพรรดิได้เช่นไร ?

ขุนนางเหวิน รู้สึกอึดอัดใจขณะขมวดคิ้ว  เขาคิดหนักมากมายเกี่ยวกับการตอบโต้สิ่งที่มิอาจคาดเดาได้ …

 

โพรงนำไปสู่พื้นที่ขนาดมหึมา  ผืนดินแบนราบมั่งคง  แต่กระนั้น สถานที่นี้มีกลับอับชื้นเนื่องจากอยู่ใต้ดิน

 

” พวกเจ้าทั้งสอง รีบเร่งฟื้นฟูน้องสี่และห้า  ข้าจักสอบสวนนางโสเภณีนี่ ! “

เล่ยเจียนฮ้ง มีสีหน้าอาฆาตรแค้น

 

” พี่ใหญ่ ข้ารู้ว่าพวกเขาคือ ศิษย์น้องของเจ้าและ เจ้ากำลังโมโห องค์หญิงหลิงเมิง แต่ข้าจักขอให้เจ้า พิจารณาวิธีการของเจ้าเล็กน้อย “

ฟางเปียวฮ้งลังเล แต่นางยังคงต่อ

” ข้าเห็นได้ว่าเรื่องนี้จักนำพาความเจ็บปวดสู่น้องโย่วหลานได้  ข้าเข้าใจ … ว่าตัวตนของพวกเรายังมิถูกเปิดเผย  หากเขาขอให้ น้องโย่วหลานมาที่นี่เสแสร้งคนดี .. และเขาจักกลายเป็นวีรบุรุษช่วยเหลือองค์หญิงจากอันตราย … หากโย่วหลานทำสำเร็จ … มันจักถือได้ว่า … “

 

” ..​ดีมาก  ติดต่อ น้องโย่วหลาน  ข้ามิต้องการทำอันตรายนาง “

เล่ยเจียนฮ้ง ขบฟัน

 

ฟางเปียวฮ้ง กระแอม แต่ยังคงเงียบ  จากนั้นนางจึงหันไปรักษาสหายศิษย์ของนางอย่าเต็มกำลัง

 

หัวใจ จวินโม่เซี่ย เริ่มเต้นรัวในความมืด

” น้องโย่วหลาน ?! “​

 

สองคนนี้

” โย่วหลาน … ลี่โย่วหลาน … หมายความว่า เจ้าหนุ่มนั่นมิอาจสำราณได้อีกต่อไป

 

อย่าบอกข้านะ … ลี่โย่วหลานเกี่ยวพันกับคนเหล่านี้ในเรื่องใหญ่เช่นนี้ ?

 

เล่ยเจียนฮ้งใช้แขนยอก องค์หญิงหลิงเมิงขึ้น และวางนางลงพิงกำแพง  จากนั้นเขายื่นมืออกไปและวางลงบนหัวของนาง  ปลดปล่อยปราณเชวียนบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างนาง  สิ่งนี้ทำให้องค์หญิงตื่นขึ้น

 

” เจ้าคนเลว !  ปล่อยข้าไป ! “

องค์หญิงหลิงเมิง เพิ่งจะลืมตา และโกรธเคืองอย่างมาก  นางตะโกน

” ข้าต้องการไปหาน้า อยี่ !  ปล่อยข้าไป ! “

 

” พระองค์ ท่านประสงค์เป็นอิสระ และ ท่านจะไปได้ … อย่างง่ายดาย  ทั้งหมดที่ข้าต้องการจากท่าน คือตอบเพียงหนึ่งคำถาม  จากนั้น ท่านจักถูกปล่อยตัว “

เล่ยเจียนฮ้งคำรามทางจมูก  เขาเอ่ยกับนางขณะเยาะเย้ย

” พระองค์ ท่านโอบกอดมีดบินจำนวนหนึ่ง และเก็บมีดอันตรายไว้อย่างรักใคร่  ไม่ประหลาดไปหน่อยหรือ องค์หญิงหลิงเมิง ?  ด้วยเกียรติขององค์หญิง ข้าจักปล่อยท่านเป็นอิสระ หากบอกข้าว่าเจ้าของมีดเหล่านั้นคือผู้ใด …  ข้าจักไม่ผิดสัญญา “

 

” เจ้าของมีดบิน ? “

องค์หญิงหลิงเมิง เบิดตากว้างอย่างประหลาดใจ  คนเหล่านี้ลักพานางมาเพื่อถามเรื่องนี้ ?

” ข้ามิเคยพบผู้ที่ฝีมือสูงส่งเช่นนั้น เช่นนั้นข้าจักรู้ได้อย่างไร ?

 

” ฮ่า ฮ่า !  … องค์หญิง เมื่อท่านเอยเช่นนั้น … ท่านคิดว่าพวกเราทั้งสามเป็นเด็กกระนั้น ! “

เล่ยเจียนฮ้ง ยิ้มชั่วร้าย

” ศิษย์น้องข้าจำนวนมากถูกเขาสังหาร  แท้จริงแล้ว พวกเรามิเคยได้ยินว่าผู้ใดมีฝีมือเช่นนั้นในโลกหล้า  แต่งานแรกที่เขาทำคือช่วยชีวิตท่าน !  อย่าบอกข้าว่าองค์หญิงลืมไป ?  คนผู้นั้นมาถึงในเวลาสุดท้ายที่ท่านเผชิญหน้ากับมือสังหาร สิ่งแรกที่เขาทำ คือการช่วยชีวิตท่าน !  แต่เขาคงจะเป็นวิญญาณอย่างแท้จริง หากองค์หญิงยืนยันว่าไม่รู้ตัวตนของเขา ! “

 

จวินโม่เซี่ย กระสับหระส่ายอยุ่ภายใน  เขาช่วยเหลือองค์หญิงอย่างลับๆเมื่อนางประสบการลอบสังหารครั้งล่าสุด

ข้าเกี่ยวพันกับนาง เพราะช่วยนาง ?

ความขุ่นเคืองนี้ยากจะคิดถึง …

 

คนเหล่านี้รู้ถึงการเชื่อมโยงของสองเหตุการณ์ที่อิสระต่อกันได้เช่นไร ?

ความคิดของจวินโม่เซี่ย กลับไปยัง ลี่โย่วหลาน ทันที

 

มันเป็นเช่นนี้เอง !  ทุกสิ่งจักชัดเจนเมื่อเรานำ สกุลลี่มาพิจารณา !

 

” เจ้าสังหารน้าอยี่เพื่อถามคำถามนี้ ? “

องค์หญิงหลิงเมิง มิอาจขยับตัว  แต่กระนั้น ดวงตาของนางยังคงเบิกกว้างขณะมองอย่างเกลียดชังไปยังผู้ที่จับตัวนางมา  ราวกับนางจะพ่นใฟใส่เขาในไม่ช้า

 

” เอาละ !  องค์หญิง ลืมเรื่องที่จะออกไปจากที่นี่เสีย เนื่องจากนางยืนยันจะไม่บอกพวกเราเกี่ยวกับเจ้าของมีดเหล่านั้น … ! “

เล่ยเจียนฮ้งยิ้มชั่วร้ายขณะเขาเอ่ยเสียงต่ำ

” พวกเรามีอีกหลายวิธีที่จะทำให้เจ้าพูดออกมา “

 

จวินโม่เซี่ยรีบคิดถึงกระบวนท่าที่เขาสามารถใช้ได้  เขาคิดจะเข้าไปใกล้ๆองค์หญิงหลิงเมิง และหายตัวไปพร้อมกับนางโดยใช้เจดีย์หงษ์จวิน  แต่กระนั้น แม้เขาพยายามหลายครั้งก็ยังไม่สำเร็จ

ชัดเจนว่า เจดีย์หงส์จวินไม่ส่งผลต่อผู้ใดนอกจากเขา … ?  หรือการบำเพ็ญของข้าอาจยังไม่เพียงพอ ?

 

ความปรารถนาของเขา แตกเป็นเสี่ยงเนื่องจากแผนการนี้มิอาจใช้ได้  มันจักเป็นการง่ายสำหรับเขาหากเขาสามารถนำพาองค์หญิงไปในเจดีย์หงส์จวินได้  จวินโม่เซี่ยมั่นใจว่าเขาสามารถใช้ประโยชน์จากความสับสนนั้นได้  เขาจักพาตัวนางหนีไป  ความจริง เขาสามารถทำให้มือสังหารผู้หนึ่งบาดเจ็บหรือตายได้

 

ช่วยเหลือองค์หญิงจึงมิใช่เรื่องงยาก  แต่กระนั้น คนเหล่านี้คือยอดฝีมือสวรรค์เชวียน  ดังนั้นเขาจักต้องเผชิญกับหายนะ หากพวกเขาพบตำแหน่งของเขา

 

เล่ยเจียนฮ้ง บีบกรามองค์หญิง และบังคับให้นางเงยหน้า  จากนั้นถามอย่างดุร้าย

” ข้าจักถามเจ้าครั้งสุดท้าย เจ้าจะยังไม่เอ่ยใช่หรือไม่ ?  ข้าต้องลงโทษองค์หญิงอย่างไร้ทางเลือกหากนางยังคงปากแข็งเช่นนี้ ! “

 

ทันใดนนั้น เสียงหัวเราะ อันสูงส่ง รุนแรง และเยาะเย้ยดังขึ้นอย่างปริศนา มันก้องสะท้อนไปทั่วภายในถ้ำ

” เล้ยวูเบ้ยสั่งสอนขยะเช่นนี้ ?  เขาเป็นพี่ที่เลือดเย็นเช่นไร ?  ช่างน่าขันยิ่งนัก ! “

 

เสียงยังไม่จางหายเมื่อแสงสีครามปรากฏครอบคลุมพื้นที่  จากนั้น มีดบินบางๆ ถูกปาออกมาจากที่ใดก็มิอาจทราบ  และเปล่งประกายแสงดั่งฝันขณะที่มันสะท้อนใบหน้าของทุกคน

 

ฉึบบ !

 

มีดบินเล่มนั้นปักลงพื้นดิน  ส่งเสียงคล้ายดั่งท่อนไม้ผุ

 

ทั้งสามกระโดดขึ้นด้วยความตะลึง  เล่ยเจียนฮ้ง เอามือปกป้องหน้าอก  จากนั้นเขาตะโกนลั่น

” เนื่องจากท่านผู้ได้รับเกียรติมาถึง … ท่านต้องการสิ่งใด ?  เหตุใดท่านจึงหลบซ่อน ?  ข้าเฝ้ารอท่านมายาวนาน ! “

 

โจวเจียนหมิง และ ฟางเปียวฮ้งคว้าด้ามกระบี่และดึงมันออกมา พวกเขาประทับกระบี่ไว้ตรงหน้าอกเป็นแนวขวาง จากนั้นมองไปรอบๆราวกับเผชิญกับศัตรูที่อันตราย

 

เสียงหัวเราะดังขึ้นแผ่วเบา

” เด็กหนุ่มอย่างพวกเจ้าประเมินความสามารถตัวเองสูงส่งเกินไปที่มาท้าทายข้า ! “

 

ดวงตาขององค์หญิงหลิงเมิงเอ่อนองด้วยน้ำตา เนื่องจากมันส่งผลต่อความรู้สึกของนาง  นางตะเกียกตะกาย ขณะถาม

” ท่านพี่ … เป็นท่าน ?  ข้าขอร้อง !  ข้าขอร้อง ให้ท่านนำพาข้าไปหา น้าอยี่ !  ข้าวิงวอนให้ท่านสังหารคนเหล่านี้เพื่อแก้แค้นให้ท่านน้าข้า ! “​

 

การเคลื่อนไหวใต้ดินเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงตะโกนของ เล่ยเจียนฮ้งดังชัดเจนในหูของ ขุนนางเหวินที่อยู่ด้านนอก  สิ่งนี้ช่วยให้เขาระบุตำแหน่งของพวกเขาได้

 

เขากำลังค้นหาเบาะแส  แต่กระนั้น เสียงตะโกนของ เล่ยเจียนฮ้ง ทำให้เขาระบุตำแหน่งของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น  เขาไปยังทางเข้าถ้ำอย่างรวดเร็ว และกลั้นหายใจขณะตั้งใจฟัง  เขาสามารถเข้าไปในที่ซ่อนตัวได้ตราบใดที่เขาสามารถบอกตำแหน่งของมันได้

 

แต่กระนั้น เล่ยเจียนฮ้ง และสหายทั้งสอง เพิ่งจะประสบกับเหตุการณ์อันน่าตกตะลึง  ความจริง มันน่าหวาดกลัว แปลกประหลาด และบังเกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ … ร่างอันบอบบางขององค์หญิงถูกยกขึ้นพิงกำแพง แต่ทันใดนั้นนางลอยขึ้นในอากาศด้วยเสียง ฉึบ  จากนั้นนางเริ่มลอยไป  ราวกับ เกาทัณฑ์ ที่ถูกยิ่งออกมาจากคันศร

 

เล่ยเจียนฮ้ง กระโดดขึ้นด้วยความตระหนก และกระโจนเข้าใส่องค์หญิง  แต่แล้ว เขาช้าไป  จวินโม่เซี่ย พุ่งทะลุแผ่นหินตรงทางเข้าด้วยเสียง ตู้ม ! พร้อมด้วยองค์หญิงในมือ  ลำแสงพระอาทิตย์สาดส่องเข้าไปในถ้ำ

 

เล่ยเจียนฮ้ง และคนอื่นๆ ร้องตะโกนขณะติดตามไป

 

ขุนนางเหวิน เดินไปมาหน้าตอไม้  เขาคิดทำลายพื้นดินเพื่อช่วยเหลือองค์หญิงอย่างลังเล  จากนั้น เขาได้ยินเสียงดังลั่นราวดินถล่ม  และตามมาด้วยเสียงระเบิด ขณะทางเข้าถ้ำพังทะลาย  ขุนนางเหวิน ไม่ทันตั้งตัวและล้มลงสู่พื้น  เขากำลังจะอ้าปากสถบขณะเห็นร่างหนึ่งตรงมาที่เขา ราวกับว่าถูกโยนใส่เขา ร่างอันบอบบางนี้คือ องค์หญิงหลิงเมิง …

 

คนชุดดำสามหน้ากากทั้งสามรีบออกมาด้านนอกและล้อมเขา  จากนั้น พวกเขาผู้หนึ่งตะโกน

” เจ้าชั่ว !  ครั้งก่อนเจ้ายังหลบซ่อน และครั้งนี้เจ้ายังหลบซ่อนอีก !  แต่เจ้าหนีไปไม่ได้อีกแล้วใช่ไหม ?!  ข้าจักเฝ้าดูว่าเจ้าจะหนีไปอย่างไร ! “

 

ขุนนางเหวินยื่นมืออกไปและคว้าตัวองค์หญิงหลิงเมิง  จากนั้นพบว่าตัวเขาถูกลอมและกำลังเผชิญหน้า  เขามิอาจกลั้นเสียงครวญครางแห่งทุกข์ยากนี้ ! …..

 

คนผู้นี้ใส่ร้ายเขา !

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด