ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋องบทที่ 27 ข้าไม่หลงกลหรอก

Now you are reading ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง Chapter บทที่ 27 ข้าไม่หลงกลหรอก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซียวเยี่ยนกล่าวว่า “เปิ่นหวางคิดไม่ถึงว่าบุตรีคนโตของจวนมหาเสนาบดี กลับมีความสามารถเช่นแม่มดปีศาจเช่นนี้ เลี้ยงงูไว้ในเรือนเป็นโขยง กลิ่นหอมที่กำจายอยู่ในอากาศ หากเปิ่นหวางบอกว่าเจ้าใช้วิชามารทำร้ายเจ้านาย วางแผนลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้ ไม่ใช่เจ้าเพียงคนเดียวที่ต้องตาย สกุลหลินของเจ้าก็ต้องตายตามเจ้าไปด้วย”

หลินชิงเวยเอ่ยขึ้นอย่างเห็นขัน “ชู่ว ใช้ไม้แข็งกับข้า” นางยักไหล่ด้วยสีหน้าไม่แยแส “อยากจะจัดการกับสกุลหลินอย่างไร เชิญท่านอ๋องลงมือได้ตามสบาย อย่างไรก็ไม่มีความเกี่ยวพันอะไรกับข้า ยังมีอีก ท่านอ๋องกล่าวว่าเรือนหลังนี้มีงูเป็นโขยง เชิญท่านอ๋องลองหาดู งูสักครึ่งตัวก็ไม่มี ท่านอ๋องกล่าวว่ามีกลิ่นหอมผิดธรรมดาในอากาศ นี่ หากกลิ่นหอมของสมุนไพรก็ถูกนับเป็นกลิ่นหอมผิดธรรมดาไปด้วย เช่นนั้นภายในตำหนักในมีสวนสมุนไพรแปลงใหญ่อยู่ผืนหนึ่งเล่า ท่านจะไปจัดการหรือไม่”

เมื่อนางเอ่ยถึงสวนสมุนไพรในตำหนักเย็นนั้น นางจับจ้องสีหน้าของเซียวเยี่ยน เห็นแววตาของเขาเปลี่ยนไป ดูท่าแล้วเขารู้ดีว่าเจ้านายที่อาศัยอยู่ในตำหนักในนั้นเป็นเทพเซียนองค์ใด

เห็นเซียวเยี่ยนไม่เอ่ยวาจาใด หลินชิงเวยจึงกล่าวเสริมอีกว่า “อาการปวดท้องจนแทบจะทนไม่ได้ อีกทั้งยังมีอาการตัวร้อนไม่ลด ความร้อนนี้จะทำลายส่วนสมอง ถึงเวลานั้นฮ่องเต้มิเพียงแต่ร่างกายพิการ แต่สมองยังได้รับความเสียหายไปด้วย หากท่านอ๋องต้องการมาไต่สวนหาความผิดแล้วละก็ เชิญท่านเอาหลักฐานมาพิสูจน์ หากจะมาทำการใส่ร้ายป้ายสีคนดีโดยไม่แยกแยะเช่นนี้ แต่ถ้ามาเพื่อขอให้ช่วยคิดหาวิธีรักษาฮ่องเต้แล้วละก็…” หลินชิงเวยก้าวขึ้นมากระทั่งตนเองอยู่ในคลองจักษุของเซียวเยี่ยน ค่อยๆ เขย่งปลายเท้าเชิดปลายคางเรียวเล็กขึ้นเล็กน้อย แนบชิดใบหน้าของเขา ริมฝีปากห่างจากใบหน้าของเขาไม่ถึงนิ้ว “ท่านอ๋องก็ควรจะแสดงท่าทีให้เห็นถึงความจริงใจจึงจะถูกต้อง ท่าทีแข็งกร้าวเช่นนี้ของท่าน ข้าน่ะไม่หลงกลท่านหรอกนะ”

เซียวเยี่ยนหายใจลึกๆ อีกครั้ง จึงสามารถควบคุมอารมณ์วู่วามของตนที่หมายจะยื่นมือไปบีบคอสตรีใจกล้าเทียมฟ้านางนี้ให้ตายคามือ พลางถามว่า “เจ้าต้องการอะไรกันแน่?”

หลินชิงเวยกล่าว “ข้าสามารถรักษาอาการประชวรของฮ่องเต้ได้ แต่มีเงื่อนไข”

“เงื่อนไขอะไร?”

หลินชิงเวย “ท่านว่าเงื่อนไขอะไรเล่า ข้าจำได้ว่าครั้งก่อนที่ท่านอ๋องมาที่นี่ ก่อนจากไปยังได้ทิ้งคำพูดเอาไว้ว่า ต้องรอให้ถึงชาติหน้าจึงจะยินยอมปล่อยข้าออกไปจากตำหนักเย็น เวลานี้ดูท่าแล้ว ไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้ากระมัง” เมื่อคำพูดนี้กล่าวออกไป สีหน้าของเซียวเยี่ยนไม่น่าดูอย่างที่สุด เวลานี้เมื่อเขาคิดย้อนกลับไป นี่เขาถูกสตรีนางนี้วางหมากให้เดินแต่แรก นางรู้เนิ่นนานแล้วว่าเขาต้องย้อนกลับมาหานางอีกครั้ง หลินชิงเวยหันกลับไปมองในห้อง ซินหรูอยู่ในห้องโดยมิกล้าส่งเสียงตามคำสั่งของนาง นางถาม “ซินหรู เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วหรือไม่?”

เวลานี้ซินหรูจึงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน “ล้วน…ล้วนเก็บเรียบร้อยดีแล้วเจ้าค่ะ”

นางตื่นเต้นยิ่งยวด ด้วยอายุยังน้อยจึงมิอาจซุกซ่อนความคิดในใจได้ อารมณ์และความรู้สึกทั้งหมดล้วนปรากฏชัดเจนในน้ำเสียงของนาง นางถือกำเนิดในตำหนักเย็น ใช้ชีวิตอยู่ในตำหนักเย็นเป็นเวลาหลายปี ซินหรูไม่รู้แม้กระทั่งว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไร นางติดตามหลินชิงเวย ไม่มีใครกล้ารังแกข่มเหงนาง นางมีชีวิตดียิ่ง หลินชิงเวยไม่มีวันทอดทิ้งนาง ทั้งยังพานางออกไปจากที่นี่พร้อมกันด้วย

เซียวเยี่ยนรู้สึกเดือดดาลราวกับมีเพลิงกองใหญ่สุมอยู่ในใจกับการกระทำตัดสินใจโดยพลการของนาง “เจ้าถือดีอย่างไรจึงแน่ใจว่าเปิ่นหวางจะปล่อยเจ้าออกไปจากที่นี่?”

หลินชิงเวยกล่าว “เริ่มตั้งแต่เซ่อเจิ้งอ๋องก้าวเข้ามาในเรือนของข้าก้าวแรก ผลลัพธ์มีเพียงอย่างเดียว”

เขาขัดหูขัดตากับท่าทีมั่นใจในตนเองอย่างเอกอุ ท่าทีที่ราวกับเห็นทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง

ทว่าเขาก็ถูกนางกวนโทสะเสียจนไม่อาจทำอะไรได้

นางรู้ตั้งแต่แรกว่าเขาจะย้อนกลับมา และรู้ด้วยว่าเขากลับมาด้วยเหตุใด ลำพังเพียงแค่จุดนี้ ในเรื่องนี้ถือว่าเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้

เซียวเยี่ยนปล่อยหลินชิงเวยเป็นอิสระในที่สุด เขาผละออกแล้วถอยหลังไปสองก้าว จากนั้นหันกายกลับมา “เจ้าทุ่มเทกำลังความสามารถมากมายไปกับการต้องการออกไปจากที่นี่ เปิ่นหวางส่งเสริมเจ้าได้ แต่ทันทีที่ออกจากประตูใหญ่นี้ไป ต่อไปเจ้าจะตายหรืออยู่ จะมีวาสนาหรือเคราะห์ภัยอันใด เปิ่นหวางจะไม่สนใจเจ้าอีก”

พูดแล้วเขาก็สาวเท้าก้าวยาวๆ จากไป

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *