ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 182-2 ขั้นสองสูงสุด (2)
ตอนที่ 182 ขั้นสองสูงสุด (2)
วันที่ 16 มีนาคม
มณฑลตงหลิน
จินเฉิง
ฟางผิงถอนหายใจเบาๆ เอ่ยอย่างพอใจว่า “ทะลวงขั้นสองสูงสุดสักที!”
ครึ่งเดือนนี้เขาไม่ได้ใช้ระบบหลอมกระดูกอีก
อาศัยการบ่มเพาะปราณด้วยตัวเอง ใช้ค่าทรัพย์สินแค่พอเหมาะพอควร เสียเวลาไปครึ่งเดือน สุดท้ายก็หลอมกระดูกที่เหลือหกชิ้นได้สำเร็จ
ทรัพย์สิน : 6,000,000
ปราณ : 480 แคล (515 แคล)
จิตใจ : 420 เฮิรตซ์ (439 เฮิรตซ์)
หลอมกระดูก : 126 ชิ้น (90%) , 80 ชิ้น (30%)
สะสมทรัพย์สินได้หกล้าน เทียบกับก่อนที่จะออกมา เพิ่มขึ้นกว่าห้าล้าน
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฟางผิงได้รับทั้งหมด ในความเป็นจริง ผ่านมากว่าสิบภารกิจ แค่ยาบำรุงที่ได้มาก็มีมูลค่าสูงถึงสิบล้านแล้ว
นอกจากนี้ฟางผิงยังได้รับการแบ่งคะแนนอีกแปดสิบคะแนน รางวัลที่ได้รับทั้งหมดจึงเกินกว่าสิบสองล้าน ค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นกว่าสิบล้านเช่นกัน แต่ส่วนหนึ่งใช้ไปกับการต่อสู้และฝึกฝนวิชาในวันปกติไปแล้ว
ฝึกวิชาเสร็จแล้ว ฟางผิงอาบน้ำอย่างลวกๆ ก่อนจะออกมาจากห้อง ไปร้านกาแฟของโรมแรม
พวกฟู่ชางติ่งรออยู่ที่ร้านกาแฟแล้ว
เห็นฟางผิงเข้ามา แววตาของทุกคนก็ปรากฏคำถามขึ้นมาทันที
ฟางผิงพยักหน้าเบาๆ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ขั้นสองสูงสุดแล้ว”
ฟู่ชางติ่งเอ่ยว่า “งั้นหมายความว่าพวกเราควรจะรับภารกิจขั้นสามสูงสุดอันนั้นแล้วสินะ?”
ฟางผิงเงียบไปพักหนึ่ง “พวกเราหกคนรับภารกิจขั้นสามตอนต้น เป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ไม่ได้หลอมกระดูกแกนกลาง ไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไร แต่ขั้นสามสูงสุด นั่นเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่หลอมกระดูกแกนกลางแล้ว…”
“แล้วมันยังไง…”
“แล้วมันยังไง?” ฟางผิงเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “นั่นหมายความว่าปราณของอีกฝ่ายสูงเกือบหนึ่งพันแคล จุดตายก็มีน้อย หากพวกเราต้านไม่ไหว คิดจะหนียังเป็นเรื่องยาก”
หยางเสี่ยวม่านเบ้ปาก “งั้นนายจะให้พวกเรามาจินเฉิงเพื่ออะไร? ไม่ใช่เพราะภารกิจขั้นสามสูงสุดอันนั้นหรือไง?”
สองวันก่อน จินเฉิงส่งภารกิจใหม่ออกมา จับกุมผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุดคนหนึ่ง รางวัลภารกิจสูงอย่างยิ่ง!
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุดทั่วไป อย่างมากก็ให้หนึ่งร้อยคะแนน ไม่ก็เงินสดหรือทรัพยากรที่เท่ากัน
แต่ครั้งนี้ นอกจากจินเฉิงจะให้รางวัลเป็นเงินห้าล้านแล้ว ยังให้พลังงานแร่มาอีกหนึ่งชิ้น…
จากข้อมูลเขียนว่าหนักถึงห้ากรัม
ฟางผิงถามหลู่เฟิ่งโหรวแล้ว พลังงานแร่เป็นสิ่งของห้ามจำหน่าย รัฐบาลไม่อนุญาตให้ขายออกไปข้างนอก
แต่คนที่เข้าถ้ำใต้ดินมีจำนวนมาก บางคนได้รับมาอย่างบังเอิญก็มีการลอบขายบ้างเช่นกัน
มูลค่าของหนึ่งกรัมปาไปกว่าล้านแล้ว!
ของสิ่งนี้ล้ำค่าอย่างมาก
สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ พลังงานนั้นมีประสิทธิภาพสูงกว่ายาบำรุงเลือดและปราณ จะบำรุงกำลัง หลอมกระดูก ทะลวงด่านล้วนสามารถใช้ได้ทั้งนั้น
ฟางผิงทะลวงขั้นสองสูงสุด อยากจะทะลวงขั้นสามอย่างราบรื่น หากสามารถเอาพลังงานแร่ชิ้นเล็กๆ นี้มาอยู่ในมือ โอกาสก็มีมากขึ้นกว่าเดิม
ผู้ฝึกยุทธ์ในถ้ำใต้ดิน ใช้พลังงานแร่ในการฝึกวิชา เพราะมีความบริสุทธิ์มากกว่ายาบำรุง
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุดคนหนึ่ง รางวัลภารกิจเกือบสิบล้าน
คนที่สนใจมีไม่น้อย ภารกิจครั้งนี้ไม่ได้จำกัดแค่ทีมของหน่วยทหารเท่านั้น จินเฉิงเปิดกว้างให้ทุกคนรับภารกิจอย่างอิสระ
อยู่ที่ว่าใครจะหาคนได้ก่อนเท่านั้น!
เดิมทีฟางผิงบอกว่าจะไปหนานเจียง แต่จู่ๆ ก็พาคนมาที่จินเฉิง
ทุกคนต่างคาดเดาว่าเขาน่าจะสนใจภารกิจในครั้งนี้
“จะว่าใช่ก็ใช่ จะว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่ อันที่จริงฉันแค่อยากดูโอกาส หลายวันมานี้ได้ยินว่าหลายคนกำลังตามหาหมอนั่น ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายอาจจะหนีออกไปจากจินเฉิงแล้ว จะหาง่ายขนาดนั้นที่ไหนกัน? จินเฉิงมีผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางอยู่ถมเถ ปรมาจารย์ก็ไม่ได้ขาดแคลน ฝ่ามือเดียวก็ซัดอีกฝ่ายตายได้แล้ว แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครเจอ ฉันกลัวว่าจะสิ้นเปลืองเวลา ทั้งหาเจอก็ใช่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้เสมอไป ดังนั้นตอนนี้จะรับภารกิจหรือจะค้นหาหรือไม่ ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจ”
ว่าแล้ว ฟางผิงยังเอ่ยต่อ “อีกอย่าง จินเฉิงเสนอค่าตอบแทนออกมาสูงขนาดนั้นเพื่อผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามคนหนึ่ง พวกนายได้สืบสาเหตุมาหรือเปล่า?”
หลายคนส่ายหัว จ้าวเหล่ยครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยว่า “ฉันมีเพื่อนนักเรียนคนหนึ่ง เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยตงหลิน สองวันก่อนฉันเห็นเขาพูดในกลุ่มว่า ครั้งนี้คนที่ถูกไล่จับกุม เหมือนจะเป็นนักวิจัยของสถาบันวิจัยแห่งหนึ่ง…”
จ้าวเหล่ยเอ่ยเสียงเบา “ได้ยินว่าสถาบันวิจัยวิจัยอะไรบางอย่างออกมาได้ มีคนเสนอราคาสูงลิ่วจ้างให้เขาขโมยข้อมูลการวิจัย หมอนี้ยอมเสี่ยงเพราะเข้าตาจน สุดท้ายถูกค้นพบ แต่เวลานั้นคนที่สถาบันวิจัยต่างไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา จึงทำให้เขาหนีออกมาได้ ตอนนี้นายทุนที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังสถาบันวิจัยล้วนไม่พอใจ จึงได้ประกาศภารกิจผ่านทางการของเจียงเฉิง…”
“เรื่องนี้เพื่อนนายก็รู้?”
“ฟังจากที่เขาพูด มหาวิทยาลัยตงหลินน่าจะเป็นหนึ่งในผู้ให้ความสนับสนุน สมาชิกบางส่วนในสถาบันวิจัยเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยตงหลินเช่นกัน ดังนั้นตอนนี้พวกนักศึกษาแนวหน้าของตงหลินก็กำลังตามหาอีกฝ่าย เสร็จสิ้นภารกิจแล้ว มหาวิทยาลัยยังจะให้ผลประโยชน์ที่มากกว่านี้อีก”
“อีกฝ่ายขโมยข้อมูลหนีไป?”
“ไม่แน่ใจ อาจจะไม่หรอกมั้ง ไม่งั้นภารกิจคงระบุให้เอาข้อมูลกลับมาด้วยแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ พวกเขาคงไม่เปิดเผยต่อภายนอกหรอก ฉันสงสัยว่าอาจจะอยากจะข่มขู่ ถือโอกาสใช้ข้อเสนอล่อลวงอีกฝ่าย การใช้อำนาจของผู้มีอิทธิพลพวกนี้เป็นเหมือนกันหมด ไม่อาจฉีกหน้าอย่างตรงๆ เลยอาศัยการเตือนอีกฝ่ายผ่านวิธีเป็นทางการแบบนี้”
จ้าวเหล่ยยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ นี่ถึงจะเป็นท่าทีปกติของการเผชิญหน้าระหว่างผู้มีอำนาจ
อีกฝ่ายกล้าให้คนขโมยผลวิจัยผู้มีอิทธิพลของมหาวิทยาลัยตงหลิน ความสามารถคงไม่ได้ธรรมดา
ตอนนี้มหาวิทยาลัยตงหลินไม่คิดจะทำอะไร แค่โยนอีกฝ่ายให้กลายเป็นผู้ถูกไล่จับกุม
เสนอราคาออกมาสูงลิ่ว เมื่อเป็นแบบนี้ คนผู้นั้นคงไม่ได้ผุดได้เกิดอย่างแน่นอน
แบบนี้จะไม่เป็นการฉีกหน้าเช่นกัน ในขณะเดียวกันก็เป็นการเตือนสมาชิกของตัวเองว่า อยากได้เงินก็ต้องใช้ชีวิตแลกเหมือนกัน
ฟางผิงฟังจบก็เบะปาก นี่น่าจะเป็นการผูกมัดของทั้งสองฝ่าย ไม่งั้นหากทะเลาะกันซึ่งๆ หน้า ท้ายที่สุดคงไม่น่าดูท่าไหร่
“น่าเสียดาย พวกเราหาคนไม่เจอ และแม้จะหาเจอ ก็ยากที่จะลงมือ…”
“อีกฝ่ายเป็นแค่นักวิจัย พวกเราอาจจะมีโอกาส ฟางผิง จะรับหรือเปล่า?”
“ฉันอยากไปหนานเจียงสักหน่อย ตอนนี้สิ้นเปลืองเวลาเกินไป…”
ฟู่ชางติ่งแนะนำว่า “พวกเราใช้เวลาสามวันในการหาคน หาไม่เจอก็แล้วไป ถ้าหาเจอก็ลองดู อีกฝ่ายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุด ตอนนี้เสนอรางวัลสูงขนาดนี้ ตอนที่เขาหนีคงพกอะไรติดตัวไปด้วย ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุดจะไม่มียาบำรุงขั้นสามติดตัวเลยหรือไง? ฝีมือการต่อสู้ของนักวิจัยไม่ได้แข็งแกร่งมาก ถ้าทำสำเร็จอาจจะเป็นหลายสิบล้านด้วยซ้ำ ทั้งคนของพวกเราเยอะขนาดนี้ ทำมาสิบกว่าภารกิจแล้ว มีการพัฒนาไม่น้อย เวลานี้ควรจะฝึกปรือสักหน่อย ทีมนักศึกษาใหม่ของเซี่ยงไฮ้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ล้อมกำราบนักวิจัยที่ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์กลุ่มสู้รบ แม้ว่าจะสูงกว่าพวกเราหนึ่งขั้น แต่พวกเราจะสู้ไม่ได้เลยอย่างนั้นเหรอ? มีทั้งหลอมกระดูกสองครั้งและหลอมกระดูกสามครั้ง ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ พวกเราคงไร้ฝีมือแล้ว!”
พวกเขาหกคน หลอมกระดูกสองครั้งสี่คน หลอมกระดูกสามครั้งหนึ่งคน
ฟางผิงอยู่ขั้นสองสูงสุด คนอื่นๆ ตอนนี้หลอมกระดูกกว่าเจ็ดสิบห้าชิ้นแล้วทั้งนั้น มีเพียงถังซงถิงที่น้อยกว่าหน่อย
ขบวนรบแบบนี้ แม้จะเป็นขั้นสามก็ไม่ควรเกรงกลัว
ฟางผิงเห็นทุกคนเผยใบหน้าคาดหวัง ครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้าว่า “ได้ งั้นค้นหาจนถึงวันที่ยี่สิบ ถ้าวันที่ยี่สิบยังหาไม่เจอ พวกเราก็ไปหนานเจียง รับภารกิจที่นั่น ฉันจะถือโอกาสกลับไปที่บ้านด้วย”
“ได้!”
ทุกคนต่างกระตือรือร้นอยากจะลอง ภารกิจครั้งก่อนพวกเขาร่วมมือกันจัดการผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนต้นคนหนึ่ง
ปรากฏว่าอีกฝ่ายหลอมแค่กระดูกแขนขาสำเร็จเท่านั้น ยังไม่ได้หลอมกระดูกแกนกลาง
ปราณของฟางผิงสูงกว่าเขา ทั้งยังหลอมกระดูกเยอะกว่าเขา เพราะฟางผิงหลอมกระดูกสามครั้ง กระดูกจึงแข็งแรงกว่าเขา
ตอนที่เจออีกฝ่าย เขาประเมินฟางผิงต่ำไป
ปรากฏว่าฟางผิงแทบจะเหมือนรับมือกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองสูงสุดทั่วไป สามารถจัดการอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
นี่ทำให้พวกฟู่ชางติ่งผิดหวังอยู่บ้าง
แม้จะหาเงินได้เยอะ แต่ยังน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทุกคนยังไม่มีโอกาสแสดงฝีมือต่อสู้อย่างเต็มที่ สู้อย่างไม่หนำใจ
ทำภารกิจกว่าครึ่งเดือน เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการเดินทาง ทุกคนจึงรู้สึกเหงาหงอยอยู่บ้าง
ตอนนี้เจอกับภารกิจขั้นสามสูงสุด อีกทั้งรางวัลยังสูงลิ่ว ไม่แปลกที่ทุกคนจะฮึกเหิมอยากลอง
อันที่จริงฟางผิงก็ใจคล้อยตามเช่นกัน ตอนนี้ค่าทรัพย์สินของเขาเพิ่งจะหกล้าน
รางวัลของภารกิจขั้นสามแบบนี้ไม่ได้พบบ่อยนัก แม้จะเจอเขาก็อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้อีกฝ่าย
พวกเขาปรึกษากันยกใหญ่ ก่อนฟางผิงจะรับภารกิจ มอบหมายให้พวกหวังเฉิงไปหาคน
ความจริงฟางผิงรู้เช่นกัน โอกาสที่จะหาเจอมีน้อยมาก
ตอนนี้มีคนรับภารกิจหลายคน บางทีมนั้นมีฝีมือยิ่งกว่าทีมของฟางผิงเสียอีก
————————
Comments