ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? 293 นายอำเภอตาบอด

Now you are reading ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? Chapter 293 นายอำเภอตาบอด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 293 นายอำเภอตาบอด

ตอนที่ 293 นายอำเภอตาบอด

เฉียวเยี่ยนกับมู่ฉินเจินไปถึงบ้านได้ไม่นาน พ่อแม่ของของหลี่ชุนเหมยก็มาหา เฉียวเยี่ยนจึงส่งองครักษ์ทั้งหมดในบ้านออกไป ด้วยฝีมือของพวกเขาแล้ว การไปแย่งคนถึงที่นับว่าเป็นเรื่องง่ายราวปอกกล้วย

พ่อแม่ของหลี่ชุนเหมยเป็นคนนำทาง คนกลุ่มหนึ่งตรงไปบุกจวนคหบดีจางโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง พวกองครักษ์ทำตามคำสั่งของเฉียวเยี่ยน ถีบประตูเข้าไป ทำตัวราวกับโจรบุกมาปล้นสะดม

คนรับใช้เฝ้าประตูตกใจกลัว ก่อนที่จะไหวตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ถูกคนกระชากคอเสื้อสะบัดทิ้งไปด้านข้าง จากนั้นก็เฝ้าดูคนกลุ่มนั้นถีบประตูใหญ่เดินเข้าไปอย่างองอาจด้วยตาปริบๆ

โจรสมัยนี้คลุ้มคลั่งกันมากขนาดนี้เชียวหรือ? ฟ้ายังไม่ทันมืด ก็ริอาจมาปล้นอย่างเปิดเผยแล้ว!

เริ่มแรกพ่อแม่ของหลี่ชุนเหมยรู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นฝีมือของพวกองครักษ์ พวกเขาก็เกิดกำลังใจกล้าแข็งขึ้น และพุ่งเข้าไปขวางคนในจวนตาม

ทุกคนบุกเข้าไป ทำให้ภายในจวนคหบดีจางคึกคักขึ้นมาทันที พ่อบ้านตีฆ้องร้องป่าวดังทั่วทั้งจวน พวกบ่าวสาวใช้ในจวนต่างวุ่นวายอลหม่านเหมือนมดบนหม้อร้อน

บางคนคิดว่าเป็นโจรที่มาปล้นฆ่า จึงรีบเก็บสัมภาระเตรียมวิ่งหนี ขณะพวกองครักษ์จับคนใช้สองสามคนมาสอบถามที่อยู่ของหลี่ชุนเหมย ทว่าพวกเขาไม่รู้อะไรเลย

จนกระทั่งจับตัวพ่อบ้านชราในจวนมาได้ ก็ข่มขู่ให้ตกใจกลัว ถึงได้ที่อยู่มา

ภายใต้การนำทางของพ่อบ้านชรา คนกลุ่มหนึ่งมุ่งตรงไปยังเรือนหลังเล็กที่หลี่ชุนเหมยอาศัยอยู่ทันที

ในเวลานี้ ฉากอันน่าขยะแขยงก็กำลังจะเกิดขึ้นในเรือนเล็กนี้พอดี

ชายชราบ้ากามวัยห้าสิบปีที่มีพุงพลุ้ยบีบบังคับเด็กสาวไปจนถึงมุมหนึ่ง ก่อนยื่นมือปลาหมึกไปหานาง พร้อมรอยยิ้มหยาบโลนบนใบหน้า

บนดวงหน้าและมือของเด็กสาวมีรอยฟกช้ำมากมาย ล้วนเป็นรอยจากการถูกทุบตีเพราะขัดขืน นางถอยร่นไปด้านหลังด้วยร่างอันสั่นเทา ทว่าด้านหลังเป็นกำแพง ไร้ซึ่งทางถอยหนี

ชายชราบ้ากามแสยะยิ้มฟันสีเหลือใหญ่ พลางมองเด็กสาวอ่อนวัยพร้อมกลืนน้ำลาย “แม่ยอดยาหยีจ๋า เจ้าเป็นของข้าเสียเถิด พ่อแม่เจ้าขายเจ้าให้ข้าในราคาห้าสิบตำลึงแล้ว เจ้าหนีไปไหนไม่ได้หรอก”

เมื่อเห็นชายชราบ้ากามเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ภายในใจหลี่ชุนเหมยก็รู้สึกหนาวสะท้าน สายตามองมุมโต๊ะข้างๆ อย่างเหม่อลอย ใจสั่นระรัว อยากพุ่งเข้าไปชนมุมโต๊ะนั้น

ในตอนที่นางกำลังจะพุ่งเข้าชน เสียงโครมก็ดังขึ้น ประตูถูกเตะเปิดจากด้านนอก จากนั้นชายแปลกหน้าหลายคนก็บุกเข้ามา โดยมีพ่อแม่นางตามหลังเข้ามาด้วย

คหบดีจางตกใจกับการเคลื่อนไหวกะทันหันนี้ เมื่อเห็นพ่อบ้านชราถูกจับเป็นตัวประกัน ความเป็นไปได้อันเลวร้ายนับไม่ถ้วนก็แวบเข้ามาในหัวเขา

เขาถามด้วยตัวสั่นเทา “พวกเจ้าเป็นใคร? บุกรุกเข้าบ้านคนอื่นกลางวันแสกๆ ระวังข้าจะฟ้องพวกเจ้า!”

พวกองครักษ์ไม่สนใจจะพูดกับเขา หลังจากพ่อแม่ของหลี่ชุนเหมยเห็นลูกสาวตัวเอง ก็เร่งรุดไปข้างหน้าปกป้องนาง

หลังจากช่วยชีวิตคนไว้ได้แล้ว คนกลุ่มหนึ่งก็เดินออกจากคหบดีจางอย่างสง่าผ่าเผยอีกครั้ง คหบดีจางกระทืบเท้าด้วยความโกรธ และสั่งให้คนในจวนไปขวางคนเอาไว้ ทว่าคนในจวนกลับไม่มีใครกล้าขยับ พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายเลย หากพุ่งเข้าไปก็มีแต่ต้องหัวหลุดจากบ่าเท่านั้น!

หลังจากช่วยคนกลับมาได้ ครอบครัวของหลี่ชุนเหมยก็ขอบคุณสองสามีภรรยาเฉียวเยี่ยนเป็นพันๆ ครั้ง จากนั้นก็กลับบ้านอย่างมีความสุข

แต่เฉียวเยี่ยนรู้ว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ ไม่แน่คืนนี้ไอ้คหบดีจางคนนั้นอาจจะแก้แค้นครอบครัวหลี่ พรุ่งนี้คงจะมีการฟ้องร้องกันขึ้นมา

หลังจากครอบครัวหลี่ทั้งสามคนจากไป เฉียวเยี่ยนก็ส่งองครักษ์สองคนไปซุ่มดูอยู่รอบๆ บ้านครอบครัวหลี่เพื่อปกป้องพวกเขา

กลางดึก มีคนแอบเข้าไปในบ้านครอบครัวหลี่เพื่อวางเพลิงจริงๆ แต่ถูกองครักษ์สองคนจับได้ ในขณะที่สามสมาชิกครอบครัวหลี่ยังคงจมอยู่ในความสุขแห่งการกลับมาพบกันอีกครั้งและไม่รู้เรื่องนี้เลย

คหบดีจางเห็นว่าคนที่ถูกส่งออกไปไม่กลับมารายงานเสียที จึงเตรียมแผนสอง โดยให้คนเขียนคำร้องในคืนนั้น และเตรียมกล่องเงินกล่องหนึ่ง ส่งไปยังที่ว่าการอำเภอพร้อมกระดาษคำร้อง

วันที่สอง นายอำเภอได้รับคำร้องของคหบดีจาง จึงส่งเจ้าหน้าที่ไปจับคนที่บ้านครอบครัวหลี่ เฉียวเยี่ยนได้คุยกับครอบครัวหลี่แล้ว ว่าหากทางการมา ให้ไปตามพวกเขาก็พอ เรื่องสู้คดีมีพวกเขาคอยช่วยอยู่แล้ว

หลังจากผ่านเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ครอบครัวหลี่ก็เชื่อใจและเคารพสองสามีภรรยาเป็นพิเศษ จึงตามเจ้าหน้าที่ไปอย่างเชิดหน้ายืดอก

หลายคนในหมู่บ้านติดตามไปดูความสนุกด้วย บางคนมีความสัมพันธ์ดีกับครอบครัวหลี่ รู้ว่าหลี่ชุนเหมยถูกแย่งไปในวันนั้นก็ตามไปเป็นพยาน

เฉียวเยี่ยนกับมู่ฉินเจินก็จัดการอย่างเหมาะสม พาคนกลุ่มใหญ่ไปพบกับนายอำเภอในตำนาน

ทั้งโจทก์และจำเลยอยู่กันพร้อมแล้ว นอกห้องพิจารณาคดีก็มีคนมาล้อมรอบไม่น้อย แต่นายอำเภอกลับมาถึงช้า ยามนั่งที่โต๊ะมีท่าทางเหมือนไม่ได้นอนอย่างไรอย่างนั้น

เมื่อตบค้อน ห้องพิจารณาคดีพลันเงียบลง นายอำเภอเฉินเปิดปากกล่าวตัดสินคู่สามีภรรยาหลี่ “หลี่ซางเกิน หลี่ซ่งซื่อ คหบดีจางฟ้องพวกเจ้าในข้อหาลักลอบเข้าบ้านแย่งคน โดยมีคนในจวนคหบดีจางทั้งหมดเป็นฐานะพยาน หลักฐานแน่นหนา ตอนนี้ข้าขอตัดสินให้พวกเจ้าถูกโบยสามสิบไม้ แล้วเนรเทศห่างไปสามพันลี้! พวกเจ้ายอมรับผิดหรือไม่?”

สมาชิกทั้งสามคนของครอบครัวหลี่รู้สึกสับสนกับสถานการณ์นี้ กระทั่งโอกาสให้พวกเขาได้พูดก็ไม่ไห้ กลับรีบตัดสินโทษให้พวกเขาแล้ว หากบอกว่าเขากับคหบดีจางไม่ได้ร่วมมือกัน ผีก็ไม่เชื่อ!

หลี่ชุนเหมยเป็นคนแข็งแกร่ง ถูกจับหนึ่งวันหนึ่งคืน แม้จะถูกทุบตีจนทั่วตัวเต็มไปด้วยรอยแผล นางก็ไม่ยอมเพลี่ยงพล้ำให้ชายชราน่ารังเกียจคนนั้น

นางคุกเข่าลงบนพื้น ยืดตัวตรง และมองตรงไปยังนายอำเภอ “เรียนใต้เท้า ข้าน้อยไม่ยอมรับเจ้าค่ะ ด้วยไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด!”

นายอำเภอเฉินจ้องอย่างดุเดือด และตบค้อนอีกครั้ง “บังอาจ! ในห้องพิจารณาคดี ใครให้เจ้าพูดเรื่องไร้สาระ เจ้าหน้าที่ ตบหน้านางให้ข้าที!”

เมื่อเเฉียวเยี่ยนเห็นเช่นนี้ ก็รู้แล้วว่นายอำเภอผู้นี้เป็นคนอย่างไร

นางหัวเราะเยาะออกมา เสียงใสกังวานดังขึ้น และกระทบโสตของทุกคนที่อยู่ที่นั่น

“ข้ามาจากต่างถิ่น จึงยังไม่รู้ว่าการพิจารณาคดีของศาลในอำเภอชิงผิงจะเป็นเช่นนี้ ท่านนายอำเภอช่างเปิดหูเปิดตาข้านัก!”

ทุกคนได้ยินเสียงนั้น ก็เคลื่อนสายตาไปมองนาง เมื่อท่านนายอำเภอเห็นนาง ตาพลันเปล่งประกายขึ้น มีคนงามเช่นนี้อยู่บนโลกด้วยหรือ!

คหบดีจางชายชราน่ารังเกียจก็หันไปมองนางด้วย ทันทีที่เขาเห็นใบหน้านาง รอยยิ้มหยาบโลนก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาอีกครั้ง เมื่อเทียบคนงามตรงหน้ากับเหล่านางบำเรอในจวนเขาแล้ว พวกนางเหล่านั้นพลันดูไม่น่ามองทันที

มู่ฉินเจินสังเกตเห็นสายตาของชายชราบ้ากามสองคนนั้น สีหน้าพลันมืดมนลงทันใด เขาก้าวไปข้างหน้าบังเฉียวเยี่ยนเอาไว้ พลางกวาดมองนายอำเภอที่นั่งอยู่ในห้องโถงรวมถึงคหบดีจางที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาเย็นชา

นายอำเภอกับคหบดีจางถูกจ้องจนรู้สึกหวาดกลัว และรู้สึกเย็นวาบไปทั้งสรรพางค์

นายอำเภอสงบสติขึ้นมา สีหน้าเปลี่ยนจนบิดเบี้ยว และเอ่ยด่าเฉียวเยี่ยน “บังอาจ! เจ้าเป็นใคร? เห็นข้าแล้วทำไมไม่คุกเข่าลง? แถมยังกล้าก่อความวุ่นวายคำสั่งของศาล ลากมาโบยให้ข้าสิบที! ”

เฉียวเยี่ยนโผล่หัวออกมาจากด้านหลังมู่ฉินเจิน และจับมือใหญ่ของเขา ตบเบาๆ อย่างปลอบโยน จากนั้นก็สบสายตากับนายอำเภอ พร้อมใบหน้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชา “ข้าเป็นใคร? ข้าเป็นแค่ผู้ผดุงความยุติธรรมที่ไม่ชินกับการมองคนตามืดบอดบางคนตัดสินคดีก็เท่านั้น”

นายอำเภอโมโหจนกัดฟัน จึงตบค้อนอย่างแรง “เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงดูถูกขุนนางราชสำนัก เห็นทีเจ้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว กดนางให้คุกเข่าลง! ”

พวกเจ้าหน้าที่ในศาลาว่าการลงมือปฏิบัติตามคำสั่ง ขณะพวกองครักษ์ที่ยืนล้อมอยู่ด้านนอกรีบพุ่งเข้ามาปกป้องเจ้านายทั้งสอง

ลูกทั้งสี่มีฮุ่ยเซียงคอยดูแลอยู่ และดูความสนุกสนานด้วยความสนใจอย่างมาก

พวกเขาไม่กังวลว่าพ่อแม่จะถูกรังแก เพราะพ่อแม่ของพวกเขาเก่งมาก มีแต่คนอื่นเท่านั้นที่ถูกรังแก

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ทำเป็นเบ่งไปเถอะ อีกเดี๋ยวก็ได้รู้กันล่ะว่าใครใหญ่กว่าใคร ไม่รู้ตัวเลยว่าอยู่ต่อหน้าท่านอ๋องมัจจุราชแล้ว

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด