ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ 1474 ข้ามาช้า

Now you are reading ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ Chapter 1474 ข้ามาช้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของกู้ไป๋อี เป่ยกงจั๋วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา

“หาน ฆ่าข้าอย่างนั้นเหรอ? เจ้าแน่ใจเหรอ!”

กู้ไป๋อีไม่ได้ตอบคำถามเป่ยกงจั๋วแต่อย่างใด แต่เขาใช้กระบี่ตอบเป่ยกงจั๋วแทน

กลิ่นอายกระบี่เย็นยะเยือกราวกับน้ำค้างหนาวเหน็บในยามรัตติกาล และคมกระบี่เต็มไปด้วยจิตสังหาร!

เผชิญหน้ากับกู้ไป๋อีที่กำลังจะทำทุกอย่างเพื่อสังหารเขาเช่นนี้ สีหน้าของเป่ยกงจั๋วก็เคร่งขรึมขึ้นทันที

กู้ไป๋อีที่ครั้งก่อนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ไม่เพียงแต่เขาจะหายดีแล้วเท่านั้น แต่ความแข็งแกร่งของเขากลับยังทวีคูณเพิ่มขึ้นอีกด้วย!

ฝีมือการรักษาของมู่เฉียนซีเก่งกาจกว่าที่เขาได้จินตนาการเอาไว้มากนัก ดังนั้น หม้อเทพนิรันดร์ เขาจะต้องเอามันมาให้จงได้

ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!

เนื่องจากกู้ไป๋อีและพวกตามไล่ล่ามาจนทัน เป่ยกงจั๋วและพวกจึงไม่สามารถใช้ค่ายกลส่งตัวระยะไกลหนีไปได้ ทำได้เพียงแค่ต้องต่อสู้เท่านั้น

“อย่าให้พวกสารเลวพวกนี้หนีไปได้เป็นอันขาด” ลั่วเหมี่ยวกล่าวเสียงขรึม

การต่อสู้ เมื่อเปรียบเทียบนางกับยอดฝีมือผู้ผ่านศึกมานับร้อยครั้งเหล่านี้แล้ว นางช่างอ่อนแอเกินไปแล้วจริง ๆ

ทว่า นางกลับมีประโยชน์มากกว่านั้น

จักรพรรดินีแห่งดอกบัวเงินครามหัวใจทะเลบานสะพรั่งอยู่กลางอากาศ ลำแสงสีฟ้าส่องประกายลงมาและเริ่มส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ในการต่อสู้ครั้งนี้อีกด้วย

สีหน้าของเป่ยกงจั๋วยิ่งเคร่งเครียดขึ้น “สิ่งนี้อีกแล้ว!”

มีลั่วเหมี่ยวคอยสนับสนุน พลังของกู้ไป๋อีก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น

และพลังของเขาก็เริ่มใกล้เคียงพลังของเป่ยกงจั๋วเข้าไปทุกที!

ตูม!

ร่างในชุดสีขาวทั้งสองร่างพัลวันกันอยู่กลางอากาศ รูปร่างหน้าตาของทั้งสองเหมือนกันมาก

หากไม่ใช่เพราะว่าคนหนึ่งใช้กระบี่ อีกคนใช้พลังธาตุน้ำแข็งและพลังธาตุอัสนีแล้วละก็ พวกเขาคงต้องสับสนอย่างแน่นอน

ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!

การต่อสู้ในครั้งนี้ดำเนินไปอย่างยืดเยื้อยาวนาน

กองกำลังสนับสนุนของหอหมอปีศาจแห่กันมาอย่างต่อเนื่อง ทางฝ่ายของเป่ยกงจั๋วในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ที่ถูกล้อมโจมตี

แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังคงยืนหยัดต่อสู้อยู่ได้ถึงครึ่งค่อนวัน

เวลาครึ่งค่อนวันนี้ ทำให้จิตใจของกู้ไป๋อีไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ

นานถึงเพียงนี้แล้ว แต่ซีเอ๋อร์ก็ยังไม่กลับมา

หากเกิดอันใดขึ้นกับซีเอ๋อร์ แล้วการกำจัดเป่ยกงจั๋วมันจะไปมีความหมายอันใด?

ก็ไม่มี!

ดูเหมือนว่าเป่ยกงจั๋วจะสังเกตเห็นและพอจะคาดเดาออกแล้ว สมกับที่เป็นพี่น้องฝาแฝดกันจริง ๆ แม้กู้ไป๋อีจะมีสีหน้าที่เย็นยะเยือก แต่เขาก็ดูออก

“มู่เฉียนซีอาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือไม่ก็ตายไปแล้ว มิเช่นนั้น การต่อสู้อันดุเดือดเลือดพล่านเช่นนี้ นางไม่มีทางพลาดอย่างแน่นอน!”

“และหากนางเข้ามาร่วมด้วยแม้แต่เพียงก้าวเดียว ไม่แน่ บางทีข้าอาจจะต้องอยู่ในดินแดนสี่ทิศนี้อย่างถาวรก็เป็นได้”

“หุบปากของเจ้าไปซะ!” กู้ไป๋อีกล่าวน้ำเสียงเย็นชา

กู้ไป๋อีเผยจุดอ่อนออกมา นั่นไม่ใช่กระบี่เฉียนหานที่ไม่สามารถเอาชนะได้อีกต่อไปแล้ว

เป่ยกงจั๋วยิ้มเย้ยหยัน และยั่วโมโหกู้ไป๋อีอย่างไร้ท่าทีที่จะหยุด

อย่างไรเสียเป่ยกงจั๋วก็เป็นคนที่เชี่ยวชาญในการยั่วยุ ยั่วโมโหคนเป็นอย่างมาก

จิตสังหารของกระบี่ของกู้ไป๋อียิ่งทวีความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันจุดอ่อนของเขาก็เผยออกมามากมาย!

“ที่แท้ หาน เจ้าเองก็มีจุดอ่อนเหมือนกันหรือนี่” เป่ยกงจั๋วกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ตูม! เมื่อพลังมีความแตกต่างกันเช่นนี้ เป่ยกงจั๋วจึงฉวยโอกาสนี้ตอบโต้กลับ

ทว่า เขาเองก็ประเมินกู้ไป๋อีต่ำไปแล้ว หลังจากที่ถูกกดดันหลายต่อหลายครั้ง กระบี่ของกู้ไป๋อีก็ระเบิดขึ้นอีกครั้ง

เขาต้องรีบฆ่าเป่ยกงจั๋วให้เร็วที่สุด แล้วจะไปตามหาซีเอ๋อร์!

ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!

นี่เป็นครั้งแรกที่เป่ยกงจั๋วได้เห็นกู้ไป๋อีบ้าคลั่งมากถึงเพียงนี้ หลังจากที่ต่อสู้กันไปมาหลายต่อหลายกระบวนท่า ร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย

ชุดคลุมยาวสีขาวถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลจากคมกระบี่มากมาย!

พรวด! ไม่เพียงแค่บาดเจ็บภายนอกเท่านั้น ภายในก็ได้รับบาดเจ็บมากเช่นกัน

เป่ยกงจั๋วกล่าว “หาน ข้าไม่มีทางมาตายที่นี่แน่! ข้า เป่ยกงจั๋วจะต้องกลายเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแดนซวนเทียนให้จงได้”

อ๊า! ทันใดนั้นเป่ยกงจั๋วก็ส่งเสียงร้องออกมา เส้นเลือดทั่วทั้งร่างกายก็ผุดพรายขึ้นทั่วทั้งร่าง

ใบหน้าอันงดงามนั้นในตอนนี้พลันเปลี่ยนเป็นโหดร้ายขึ้น

พลังที่ยับยั้งเอาไว้ในตอนนี้ก็ได้ระเบิดออกมาแล้ว!

ครั้งก่อนสิ่งที่ต้องชดใช้นั้นมีเพียงน้อยนิด แต่สิ่งที่ต้องชดใช้ในครั้งนี้กลับมากมายยิ่ง

แต่ไม่เป็นไร ขอเพียงแค่ได้หม้อเทพนิรันดร์มาครอบครอง เช่นนั้นทุกอย่างมันก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

“พวกเจ้าทุกคน ตายซะเถอะ!”

ครืน เปรี้ยง เปรี้ยง!

ทันใดนั้นเอง ท้องฟ้าก็ปรากฏอัสนีสีเงินขึ้นและฟาดฟันลงมาอย่างเดือดดาล

“ท่านหัวหน้าตำหนัก! อ๊า!”

พวกเขาไม่ยากจะเชื่อว่าท่านหัวหน้าตำหนักที่เพิ่งจะรอดพ้นมาจากความตาย สุดท้ายจะถูกองค์รัชทายาทฆ่าเช่นนี้

เหลิ่งหนิงจือกล่าว “รีบล่าถอยเร็วเข้า!”

“องค์รัชทายาทเป่ยกงบ้าไปแล้ว รีบล่าถอยเร็วเข้า!”

ครืน เปรี้ยง เปรี้ยง!

แม้ว่าพวกเขาจะล่าถอยทัน แต่การบาดเจ็บล้มตายในครั้งนี้ก็น่าสังเวชยิ่งนัก

เป่ยกงจั๋ว นึกไม่ถึงเลยว่าจะฝืนกฎของดินแดนสี่ทิศอีกครั้ง

ตูม!

“ท่านกู้!”

“ท่านหัวหน้าตำหนัก!”

คนอื่น ๆ ต่างรีบล่าถอยออกไป แต่กู้ไป๋อีกลับยังไม่มีท่าทีที่จะล่าถอย!

เปรี้ยง! สายฟ้าอันน่าสะพรึงกลัวฟาดฟันลงบนร่างของกู้ไป๋อีอีกครั้ง

ทว่า เป่ยกงจั๋วไม่ได้หวังจะให้กู้ไป๋อีตายด้วยวิธีนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นสายฟ้าที่ฟาดฟันลงมาในครั้งนี้จึงไม่รุนแรงเพียงพอที่จะคร่าชีวิตของกู้ไป๋อีได้

แม้จะถูกสายฟ้าฟาดฟันเช่นนี้ แต่กู้ไป๋อียังคงยืนหยัดที่จะสู้ต่อไป

สองเท้าเหยียบพื้นดิน ร่างพุ่งออกไปราวกับคมศร กระบี่เฉียนหานกวัดแกว่งร่ายรำ เพลงกระบี่ตัดผ่านอากาศ และก่อตัวเป็นเงากระบี่นับหมื่นพันเงา!

เป่ยกงจั๋วกลับยิ้มพลางกล่าวว่า “หาน เจ้าในตอนนี้ เมื่อเทียบกับข้าแล้วมันช่างห่างชั้นกันยิ่งนัก!”

“ไม่ว่ากระบี่ของเจ้ามันจะเก่งกาจสักเพียงใด มันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี!”

ปัง ปัง ปัง! น้ำแข็งอันเย็นยะเยือกขวางกระบี่ของกู้ไป๋อีเอาไว้

กระบี่ของกู้ไป๋อีแทงน้ำแข็งอันเย็นยะเยือกนั้นไปได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น สิ่งนี้จะทำให้เป่ยกงจั๋วได้รับบาดเจ็บได้อย่างไรกันเล่า

“หาน การโจมตีของเจ้ามันจบลงแล้ว ถึงตาข้าแล้วล่ะ”

ครืน เปรี้ยง เปรี้ยง!

สายฟ้าอันน่าสะพรึงกลัวฟาดฟันลงมาบนร่างของกู้ไป๋อีอีกครั้ง

แม้ว่ามันจะไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ความเจ็บปวดทั่วทั้งร่างกายนั้น ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะทนรับได้

ร่างของกู้ไป๋อีไม่ได้ล้มลงไปแต่อย่างใด และไม่แม้แต่จะเผยสีหน้าท่าทางความเจ็บปวดออกมา

ภายนอกดูเหมือนว่าเขาไม่ได้เจ็บปวดกับการโจมตีทั้งหมดนี้เลย แม้ความจริงแล้วเขาจะเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก!

สีหน้าของเป่ยกงจั๋วพลันเคร่งขรึมขึ้น “หาน ข้าเกลียดสีหน้าท่าทางเช่นนี้ของเจ้าเหลือเกิน!”

“ข้าจะทำให้เจ้าคุกเข่าลงให้จงได้ ข้าจะทำให้เจ้าคุกเข่าลงตรงหน้าข้าให้ได้!”

เปรี้ยง เปรี้ยง!

เป่ยกงจั๋วใช้สายฟ้าโจมตีกู้ไป๋อีอย่างต่อเนื่อง

อาการบาดเจ็บเริ่มสาหัสหนักขึ้นเรื่อย ๆ กู้ไป๋อีเองก็เริ่มจะอดทนไม่ไหวแล้ว และร่างของเขาในตอนนี้ก็เริ่มสั่นคลอนแล้ว

ทว่า กู้ไป๋อีกลับไม่ยอมคุกเข่าลงง่าย ๆ!

สายฟ้าอีกสายหนึ่งฟาดฟันลงมาอีกครั้ง พลันนั้นร่างในชุดสีม่วงก็พุ่งลงมาจากกลางอากาศ

“เสี่ยวไป ข้ามาช้าไปแล้ว ขอโทษด้วย!”

“ซีเอ๋อร์ รีบหลบไป!”

เมื่อเห็นว่าสายฟ้านั้นกำลังจะโจมตีมู่เฉียนซี สีหน้าท่าทางอันสงบและเย็นชานั้นของกู้ไป๋อีก็พลันเปลี่ยนไปในทันที

ตื่นตระหนก เป็นกังวล และหวาดกลัว!

เป่ยกงจั๋วเห็นสีหน้าท่าทางอันหลากหลายนั้นของกู้ไป๋อีเข้า ก็หัวเราะขึ้นอย่างชอบใจ “หาน สีหน้าท่าทางของเจ้าเช่นนี้ ไม่เลวเลย! เช่นนี้ ข้าก็ยิ่งอยากจะทำลายนางมากยิ่งขึ้นเสียแล้วสิ”

ระดับการโจมตีของเป่ยกงจั๋วทวีคูณมากขึ้นเรื่อย ๆ หากการโจมตีนี้ฟาดฟันลงบนร่างของมู่เฉียนซีเข้าแล้วละก็ ไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัสมากเป็นแน่

“เป่ยกงจั๋ว!” กู้ไป๋อีเห็นเช่นนี้เข้า เขาก็ตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนกและหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง

กู้ไป๋อีรีบพุ่งไปที่มู่เฉียนซี ทว่า มันก็สายเกินไป!

เปรี้ยง!

สายฟ้าฟาดฟันลงบนร่างของมู่เฉียนซีโดยตรง แต่ร่างในชุดสีม่วงนั้นกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย

“องค์รัชทายาทเป่ยกง! ข้าว่า สายฟ้ากระจอก ๆ นั้นของเจ้า มันไม่เพียงพอที่จะทำให้ข้ารู้สึกคันได้เลยแม้แต่น้อย! ช่างอ่อนหัดเกินไปหน่อยแล้วกระมัง!” มู่เฉียนซีมองหน้าเป่ยกงจั๋วพลางกล่าวอย่างเย้ยหยัน

นางที่ถูกอัสนีสวรรค์ฟาดฟันมาหลายครั้ง เมื่อเทียบกับสายฟ้าที่ก่อตัวมาจากพลังวิญญาณของเป่ยกงจั๋วแล้ว สำหรับนางนับว่ากระจอกมาก

มู่เฉียนซีไม่เป็นอะไร กู้ไป๋อีก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง

“เหตุใดถึงไม่เป็นอะไรเลย!” เป่ยกงจั๋วเผยสีหน้าท่าทางประหลาดใจออกมา

และในขณะที่เขากำลังประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น กลางอากาศก็ปรากฏบัวอัคคีสีแดงฉานดอกหนึ่ง และน้ำเสียงอันเย็นชาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “บัวแดงพิฆาต!”

.

.

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด