สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 914 เสียใจ

Now you are reading สตรีแกร่งตระกูลไป๋ Chapter 914 เสียใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 914 เสียใจ

“เสิ่นเทียนจือ…” องค์หญิงใหญ่เอ่ยเรียกเสิ่นเทียนจือ

“พ่ะย่ะค่ะ!” เสิ่นเทียนจือก้าวไปด้านหน้า

“มัดจักรพรรดิต้าจิ้นไว้กับเสาให้แน่น จากนั้นพาคุณหนูรองออกไป…” องค์หญิงใหญ่เอ่ยสั่งด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยบารมี จากนั้นมองไปทางไป๋จิ่นซิ่วด้วยใบหน้ารักใคร่ “ย่าคงไม่อยู่รอดูพิธีราชาภิเษกของพี่หญิงใหญ่ของเจ้าแล้ว บอกพี่หญิงใหญ่ของเจ้าด้วยว่าอย่าโกรธเคืองย่า จงมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ดี!”

สิ้นเสียงขององค์หญิงใหญ่ คนของเสิ่นเทียนจือจึงเข้าไปจับตัวไป๋จิ่นซิ่ว

ไป๋จิ่นซิ่วเตรียมชักดาบออกมาสู้กับคนของเสิ่นเทียนจือ ทว่า กลับถูกเสิ่นเทียนจือห้ามไว้เสียก่อน “คุณหนูรองยังไม่เข้าใจอีกหรือขอรับ! องค์หญิงใหญ่คือองค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นต้าจิ้นเหมือนกับที่บรรดาท่านลุงและท่านอาของคุณหนูรองคือคนของกองทัพไป๋ พวกเขาจะปกป้องสิ่งที่พวกเขาต้องปกป้องจนวันตายขอรับ!”

เสิ่นเทียนจือมองไป๋จิ่นซิ่วอย่างจริงจัง องค์หญิงใหญ่ปกป้องราชวงศ์หลินและแคว้นต้าจิ้นมาทั้งชีวิต เพื่อแคว้นต้าจิ้นแล้ว นางหวาดระแวงแม้กระทั่งสามี บุตรชาย หลานชายและหลานสาวของตัวเอง

บัดนี้เรื่องดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว องค์หญิงใหญ่รู้ดีว่าแคว้นต้าจิ้นเน่าเฟะถึงรากเหง้าแล้ว นางสอนหลักการเป็นจักรพรรดิให้หลานสาวของตัวเอง ทว่า นางไม่อาจมองดูไป๋ชิงเหยียนขึ้นครองบัลลังก์ได้

การที่นางต้องการจบชีวิตลงที่นี่ในวันนี้เพราะนางจะได้ดับสูญไปพร้อมกับแคว้นต้าจิ้น

ทว่า การให้องค์หญิงใหญ่มองดูไป๋ชิงเหยียนขึ้นครองราชย์เท่ากับการให้นางมองดูหลานสาวของตัวเองโค่นล้มราชวงศ์หลิน องค์หญิงใหญ่ไม่อยากเห็นภาพนั้น

นี่คือศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจขององค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นต้าจิ้น สำหรับคนอย่างพวกนางแล้วศักดิ์ศรีสำคัญกว่าชีวิตของตัวเองมากนัก

เหมือนกับ…

ความยุติธรรมของขุนนาง

ความกล้าหาญของนักรบ

จักรพรรดิต้าจิ้นที่ถูกมัดอยู่กับเสายังคงด่าทออย่างรุนแรง เขาดิ้นสะบัดตัวอย่างแรง องครักษ์คนหนึ่งซึ่งโผล่ออกมาจากที่ใดก็ไม่รู้ยัดผ้าใส่ปากของจักรพรรดิต้าจิ้น

“ฮูหยินฉินลองนึกถึงเจิ้นกั๋วอ๋องดูสิขอรับ ช่วงสุดท้ายของชีวิตเขาจะไม่รู้เลยหรือว่าที่ตระกูลไป๋ต้องมีจุดจบเช่นนี้เป็นเพราะจักรพรรดิหวาดระแวงในตัวขุนนาง ทว่า เหตุใดเจิ้นกั๋วอ๋องจึงไม่สั่งเสียให้คนตระกูลไป๋ที่เหลือช่วยแก้แค้นให้พวกเขาขอรับ นั่นก็เพราะเจิ้นกั๋วอ๋องจงรักภักดีต่อแคว้นต้าจิ้นขอรับ” เสิ่นเทียนจือกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “

เสิ่นเทียนจือไม่แน่ใจว่าไป๋จิ่นซิ่วจะเข้าใจความหมายที่เขาต้องการสื่อออกมาหรือไม่

นี่คือยุคสมัยที่บ้านเมืองและสังคมมีแต่ความวุ่นวาย หนุ่มสาวที่สามารถเข้าใจศรัทธาและความคิดของคนรุ่นองค์หญิงใหญ่มีน้อยลงทุกวัน

“ไปเถิด!” องค์หญิงใหญ่นั่งลงบนเก้าอี้ยิ้มๆ จากนั้นเริ่มนับลูกประคำในมือ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยยิ้มเมตตา “ราชวงศ์ต้าจิ้นสิ้นสุดลงแล้ว ย่าคือองค์หญิงใหญ่ของราชวงศ์ต้าจิ้น…ย่าควรจากไปแล้ว”

ต่อให้องค์หญิงใหญ่จะหนีไปพร้อมกับไป๋จิ่นซิ่วในวันนี้ นางก็คงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว

เมื่อขีดจำกัดของร่างกายมาถึง ทุกคนจะรับรู้ได้เอง

มนุษย์ทุกคนต้องตาย ในเมื่อเป็นเช่นนั้นเหตุใดต้องรอให้ถึงวันที่ขีดจำกัดของร่างกายมาถึงแล้วจากไปจากเจ็บปวดทรมานด้วย หากเป็นเช่นนั้นไม่สู้จากไปวันนี้ดีกว่า จากไปพร้อมกับราชวงศ์จิ้นในวันที่ราชวงศ์จิ้นจะกลายเป็นเพียงบันทึกในประวัติศาสตร์เท่านั้น

ในสายตาของเสิ่นเทียนจือไป๋จิ่นซิ่วยังเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง ถึงแม้ทายาทตระกูลไป๋จะฉลาดเกินวัย ทว่า สติปัญญาของไป๋จิ่นซิ่วไม่ได้โดดเด่นเท่าไป๋ชิงเหยียน คำบางคำหากเขาไม่กล่าวออกมาไป๋จิ่นซิ่วไม่มีทางเข้าใจได้

ไป๋จิ่วซิ่วมองไปทางองค์หญิงใหญ่ที่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเด็ดเดี่ยวทั้งน้ำตา “ท่านย่า…”

เมื่อเห็นไป๋จิ่นซิ่วยังคงยืนกรานเช่นเดิม เสิ่นเทียนจือจึงเอ่ยโน้มน้าวราวกับญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง “ก้มศีรษะคำนับองค์หญิงใหญ่ จากนั้นพวกเราไปกันเถิด!”

จักรพรรดิต้าจิ้นที่ถูกผ้าอุดปากไว้โมโหจนเส้นเลือดบริเวณหน้าผากปูดโปน ไม่รู้ว่าเขากำลังกล่าวสิ่งใดอยู่เพราะถ้อยคำล้วนติดอยู่ในลำคอ

ไป๋จิ่นซิ่วลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นปล่อยมือออกจากดาบชิงเฟิง หญิงสาวคุกเข่าคำนับศีรษะให้องค์หญิงใหญ่ “ท่านย่า จิ่นซิ่วยังหวังว่าท่านย่าจะออกไปพร้อมจิ่นซิ่วเจ้าค่ะ หากท่านย่าเป็นอันใดไปที่นี่พี่หญิงใหญ่ต้องเสียใจมากแน่ๆ เจ้าค่ะ ท่านย่าเลี้ยงดูพี่หญิงใหญ่มาตั้งแต่เล็ก พี่หญิงใหญ่สนิทสนมกับท่านย่ามากที่สุดในบรรดาพี่น้องทุกคนนะเจ้าคะ”

“เพราะเป็นเช่นนี้ย่าจึงไม่อยากเห็นวันที่พี่หญิงใหญ่ของเจ้าขึ้นครองบัลลังก์อย่างไรเล่า! ทว่า ย่าก็หวังอยากให้นางขึ้นครองบัลลังก์อยู่ดี” องค์หญิงใหญ่ก้มมองน้ำชาตรงหน้าที่ยังดื่มไม่หมด จากนั้นยกดื่มจนหมดถ้วย “ชาติหน้าย่าจะเป็นย่าที่ดีของพวกเจ้า!”

ในน้ำชามียาพิษ นั่นคือยาพิษชนิดเดียวกับที่องค์หญิงใหญ่เคยใช้กับจี้ถิงอวี๋ องค์หญิงใหญ่ดื่มไปเล็กน้อยตั้งแต่เมื่อวานทันทีที่รู้ว่าไป๋ชิงเหยียนจะเข้ามาในเมืองลั่วหง เมื่อดื่มยาพิษอีรื้อเหมียนเข้าไป คนผู้นั้นจะสลบไสลและเสียชีวิตลงในความฝัน

เมื่อวานองค์หญิงใหญ่ดื่มไปเพียงเล็กน้อย วันนี้เมื่อไป๋ชิงเหยียนมาถึงองค์หญิงใหญ่ถึงเพิ่มปริมาณมากขึ้น

บัดนี้นางดื่มยาพิษเข้าไปหมดแล้ว อีกไม่นานองค์หญิงใหญ่ก็จะรู้สึกง่วงนอน จากนั้นสลบไปในหอลั่วหงแห่งนี้

องค์หญิงใหญ่โบกมือให้ไป๋จิ่นซิ่ว “ย่าจะไปพบเสด็จพ่อ เสด็จแม่ จะไปขอโทษท่านปู่ บรรดาท่านอาและน้องชายของเจ้าแล้ว”

กล่าวจบองค์หญิงใหญ่จึงหลับตาลงอย่างแน่วแน่ ไม่กล่าวสิ่งใดออกมาอีกทั้งสิ้น…

“ไปเถิดขอรับ!” เสิ่นเทียนจือเอื้อมมือไปจับแขนของไป๋จิ่นซิ่ว “หากไม่ไปตอนนี้อาจหนีไม่ทันนะขอรับ ไฟเริ่มลามแล้วขอรับ!”

ควันไฟจากด้านนอกเริ่มแทรกเข้ามาในห้องผ่านรูประตูและหน้าต่างที่ปิดสนิท เสิ่นเทียนจือสำลักออกมาอย่างทนไม่ไหว ควันไฟเริ่มลุกลามขึ้นเรื่อยๆ อีกไม่นานเปลวเพลิงคงกลืนกินหอลั่วหงทั้งหอแน่นอน

“ท่านย่า!” ไป๋จิ่นซิ่วน้ำตาไหลพราก นางหวังว่าท่านย่าจะยอมหนีไปพร้อมนาง

เสิ่นเทียนจือเห็นริมฝีปากขององค์หญิงใหญ่เปลี่ยนสีจึงหน้าเปลี่ยนสีทันที เขาเงยหน้ามองเปลวไฟที่กำลังคืบคลานเข้ามาทางหน้าต่าง จากนั้นรีบเอ่ยกับไป๋จิ่นซิ่ว “องค์หญิงใหญ่ทานยาพิษเข้าไปแล้ว ฮูหยินฉิน หากไม่ไปตอนนี้จะไม่ทันแล้วนะขอรับ!”

“ท่านย่า!” ไป๋จิ่นซิ่วตกตะลึง

“ไปเถิดขอรับ!” เสิ่นเทียนจือกระชากแขนของไป๋จิ่นซิ่ว “หากฮูหยินฉินจบชีวิตลงที่นี่ด้วย ฝ่าบาทจะทรงเสียพระทัยมากนะขอรับ! ไปเถิดขอรับ!”

ไป๋จิ่นซิ่วกัดฟันกรอด ไม่เอ่ยขอร้องอีก หญิงสาวจับแขนเสิ่นเทียนจือแน่น “รีบสั่งให้คนแบกท่านย่าของข้าออกไปโดยไม่ต้องสนว่าท่านจะขัดขืนหรือไม่เดี๋ยวนี้ เร็วเข้า! มิเช่นนั้นหากท่านย่าเป็นอันใดขึ้นมา ข้าจะบอกพี่หญิงใหญ่ว่าเจ้าเป็นคนทำ!”

“นี่มัน…”

เสิ่นเทียนจือหน้าซีดเผือด ล่วงเกินองค์หญิงใหญ่ผู้เป็นย่าของจักรพรรดินีแห่งต้าโจว ผู้ใดกล้าทำเช่นนั้นกัน

“หากเจ้าไม่ยอมทำ ข้าจะทำเอง” ไป๋จิ่นซิ่วกล่าว

เสิ่นเทียนจือได้แต่พยักหน้า “แบกองค์หญิงใหญ่ออกไป…”

ตอนนี้องค์หญิงใหญ่ยังพอมีสติอยู่ ทว่า ร่างกายของนางไร้เรี่ยวแรงแล้ว นางกำลังจะหมดสติลง ไม่มีแรงแม้แต่จะลืมตาขึ้นมอง

จักรพรรดิต้าจิ้นที่ถูกมัดอยู่กับเสายืดคอยาวราวกับกำลังตะโกนสิ่งใดอยู่ ทว่า ไม่มีผู้ใดสนใจเขาสักคน

จักรพรรดิต้าจิ้นมองดูทหารแบกร่างขององค์หญิงใหญ่ออกไป มองดูคนที่อยู่ในหอลั่วหงทยอยกันออกไปทีละคนจนเหลือแค่เขาเพียงคนเดียว ในที่สุดเขาก็หวาดกลัวจนแทบเสียสติ เขาเบิกตาที่แดงฉานโพลงพลางตะคอกใส่ไป๋จิ่นซิ่ว

ไป๋จิ่นซิ่วออกไปจากประตู หญิงสาวเงยหน้ามองจักรพรรดิต้าจิ้นแวบหนึ่ง จากนั้นปิดประตูให้เขาด้วยตัวเอง…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด