เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]บทที่ 1566 ปีศาจเหยียนซาน

Now you are reading เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] Chapter บทที่ 1566 ปีศาจเหยียนซาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1,566 ปีศาจเหยียนซาน

ทุกคนตกตะลึงและหยุดชะงัก

หลินเป่ยเฉินเงยหน้ามอง

ประตูทางเข้าสำนักกระบี่เหินฟ้ายังคงเงียบสงบ หลินเป่ยเฉินสัมผัสไม่ได้ถึงภัยคุกคามใด ๆ และมองไม่เห็นร่องรอยของการต่อสู้หรือสิ่งผิดปกติ บางครั้งก็จะมีลำแสงกระบี่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ศิษย์ของสำนักกระบี่เหินฟ้าบางส่วนยังคงฝึกวิชาอย่างขยันขันแข็ง ห่างไกลออกไปยังคงมีควันไฟจากการทำอาหารลอยตลบขึ้นสู่ท้องฟ้า…

ทุกอย่างยังคงเป็นปกติ

ดังนั้น ทุกคนจึงจ้องมองไปที่ท่านเจ้าสำนักด้วยความสงสัย

หลิวอู่เหยียนขมวดคิ้วตอบกลับมาว่า “ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล…”

ยิ่งเข้าไปใกล้ประตูมากเท่าไหร่ ชายชราก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากเท่านั้น

เขาสัมผัสได้ถึงสังหรณ์อัปมงคลบางอย่าง

หลิวอู่เหยียนชักกระบี่ออกมาจากข้างเอวของลูกศิษย์ที่ยืนอยู่ข้างกายจากนั้นจึงฟันออกไปหนึ่งกระบวนท่า

ลำแสงกระบี่พุ่งผ่านอากาศ

พุ่งเข้าไปที่ประตูทางเข้าสำนักกระบี่เหินฟ้า

และในทันใดนั้น ภาพแห่งความเงียบสงบก็สลายลงไปไม่ต่างจากภาพวาดที่ถูกกระชากลงมาจากผนังและได้รับการทำลายทิ้ง

ในเวลาเดียวกันนั้น กลิ่นเน่าเหม็นก็ลอยตลบอบอวลในอากาศ

ภาพแห่งความเป็นจริงปรากฏขึ้นเบื้องหน้า

สิ่งปลูกสร้างภายในสำนักกระบี่เหินฟ้าพังทลาย ผืนป่าถูกวางเพลิง กลิ่นแห่งความตายลอยอยู่ในอากาศ…

ควันไฟและเถ้าถ่านลอยอยู่ในสายลม!

ประตูทางเข้าสำนักกระบี่เหินฟ้าพังทลายไม่เหลือชิ้นดี

เสาหินขนาดใหญ่ที่แกะสลักเป็นชื่อสำนักกระบี่เหินฟ้าพังถล่ม ศาลานั่งเล่นจำนวนมากกลายเป็นเพียงซากปรักหักพังอยู่ข้างทาง

หน้าทางเข้าสำนักกระบี่เหินฟ้ามีซากศพของผู้คนนอนกองทับถมกันเป็นภูเขาขนาดย่อม

ล้วนเป็นซากศพของลูกศิษย์สำนักกระบี่เหินฟ้า

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเพิ่งตายได้ไม่นาน โลหิตไหลออกมาจากซากศพกลายเป็นบึงน้ำสีเลือดขนาดใหญ่

ภาพที่เห็นทำให้พวกหลินเป่ยเฉินตกตะลึง

แม้จะรู้ดีว่ากองทัพปีศาจและเผ่าพันธุ์อสูรไล่ล่าฆ่าฟันมนุษย์ด้วยความโหดเหี้ยมอำมหิต แต่ไม่มีผู้ใดคิดเลยว่าพวกมันกลับนำซากศพคนตายมากองทับถมเป็นภูเขาอยู่หน้าสำนักผู้คนเช่นนี้…

ก่อนหน้านี้ ทุกคนยังพอจะมีความหวังอยู่บ้าง

พวกเขาไม่คิดว่ากองทัพปีศาจและเผ่าพันธุ์อสูรจะสามารถโจมตีสิบเอ็ดสำนักใหญ่ได้ในเวลาเดียวกัน!

แต่บัดนี้ ความหวังสุดท้ายได้พังทลายลงแล้ว

สำนักกระบี่เหินฟ้าจบสิ้นลงแล้ว

ประตูทางเข้าสำนักถูกทำลาย

ผู้คนที่อยู่ภายในสำนักถูกฆ่าตายหมดสิ้น

“ฮ่า ๆๆ”

เสียงหัวเราะที่ดังกังวานไปทั่วแผ่นฟ้าดังขึ้นด้านหลังประตูทางเข้าสำนัก “หลิวอู่เหยียน เจ้ามาช้าเกินไป ข้าผู้มีนามว่าเหยียนซานรอเจ้าอยู่ที่นี่นานแล้ว”

หลินเป่ยเฉินเงยหน้ามองไปตามทิศทางที่มาของเสียงพูดนั้น

เสียงพูดดังมาจากด้านบนสุดของกองภูเขาซากศพ

ด้านบนสุดของกองภูเขาซากศพมีบัลลังก์สีทองคำบัลลังก์หนึ่งตั้งอยู่อย่างโดดเด่นเป็นสง่า

บนบัลลังก์มีปีศาจตนหนึ่งนั่งอยู่

ปีศาจตนนี้มีร่างกายเป็นสีม่วงอ่อน ใบหน้าและรูปร่างหน้าตาไม่ได้แตกต่างไปจากมนุษย์ มันสวมใส่ชุดเกราะสีม่วงประดับอัญมณีแวววาว ตามข้อต่อของชุดเกราะปกคลุมด้วยหนามแหลม ยามผู้คนจ้องมองก็ให้ความรู้สึกเหมือนหนามแหลมนั้นกำลังทิ่มแทงสายตา

มันไม่ใช่อสูร

แต่มันเป็นผู้คนจากเผ่าพันธุ์ปีศาจ

เหยียนซาน?

ปีศาจตนนี้มีชื่อว่าเหยียนซาน

หลินเป่ยเฉินพลันนึกขึ้นมาได้ทันทีว่าระหว่างที่หลบหนีออกมาจากยอดเขาอวิ๋นเจวี่ยน นี่เป็นนามของหัวหน้าปีศาจที่ไล่ล่าพวกเขามาไม่ใช่หรือ?

แสดงว่าเจ้าปีศาจเหยียนซานอะไรนี่จะต้องมีฝีมือไม่ต่ำต้อย

หลินเป่ยเฉินสำรวจมองเพียงเล็กน้อยก็ก้มหน้าต่ำ

เพราะปีศาจตนนี้แข็งแกร่งมากเกินไป ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหลินเป่ยเฉิน เขาจึงทำได้เพียงชำเลืองมองเท่านั้น ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว

โดยขณะเดียวกัน พลังปราณในร่างกายของหลินเป่ยเฉินก็ได้ปั่นป่วนขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก

ศัตรูน่ากลัวมากเกินไป

แม้แต่ผู้อาวุโสระดับสูงของสำนักกระบี่เหินฟ้า ซึ่งมีพลังอยู่ในขั้นจอมเทพระดับ 3 ก็ยังตัวสั่นเทากันอย่างถ้วนหน้า หากไม่ใช่เพราะว่ายังมีท่านเจ้าสำนักยืนอยู่ทั้งคน ป่านนี้พวกเขาก็คงเป็นลมหมดสติไปนานแล้ว

“เหยียนซาน เจ้าเป็นผู้อาวุโสระดับสูงของสำนักอสูรในเมืองชิงอวี้ไม่ใช่หรือ?”

หลิวอู่เหยียนคำรามออกมาไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่กำลังได้รับบาดเจ็บ

เหยียนซานผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ใหญ่เหนือภูเขาซากศพคือผู้อาวุโสระดับสูงจากสำนักอสูรที่เคยเป็นพันธมิตรกันมาช้านาน

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา กองทัพปีศาจและเผ่าพันธุ์อสูรต้องอยู่ภายใต้อำนาจของฝ่ายมนุษย์ มีเพียงเหยียนซานเท่านั้นที่เล่นละครตบตาผู้คนจนกลายมาเป็นพันธมิตรของพวกเขาได้สำเร็จ

“ใช่แล้ว เป็นข้าเอง”

ปีศาจผิวสีม่วงอ่อนผู้นั่งอยู่บนบัลลังก์ทองคำกล่าวด้วยความสะใจ “หลิวอู่เหยียน ข้ายังไม่ลืมของฝากที่เจ้าทิ้งเอาไว้เมื่อหกสิบปีที่แล้ว วันนี้ ข้าจะมามอบของขวัญให้กับเจ้าบ้าง…”

จิตสังหารแผ่ปกคลุมรอบบริเวณ มวลอากาศปั่นป่วนขึ้นมาในพริบตา

หลิวอู่เหยียนถือกระบี่ในมือแนบแน่น สีหน้าแสดงออกถึงความโกรธแค้น

พลังปราณระเบิดออกไปจากร่างกาย มวลอากาศโดยรอบปั่นป่วนรุนแรง คลื่นพลังกดดันของทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างหนักหน่วง

“สำนักกระบี่เหินฟ้าถึงคราวจบสิ้นแล้ว สิ่งเดียวที่เหลือต่อจากนี้ก็คือการ… ฆ่าเจ้าซะ”

เหยียนซานเคลื่อนกายเป็นลำแสงพุ่งวาบลงมาจากด้านบนของภูเขาซากศพ กำปั้นของมันพุ่งทะลวงมาข้างหน้า ปราณปีศาจห่อหุ้มร่างกายก่อนจะถาโถมออกมาไม่ต่างจากมังกรเวทมนตร์เตรียมขย้ำเหยื่อ

หลิวอู่เหยียนยกกระบี่ขึ้นฟาดฟันด้วยความเด็ดเดี่ยว

แคว่ก!

ได้ยินเสียงเสื้อผ้าฉีกขาด ลำแสงกระบี่ขนาดใหญ่ยักษ์ต้านทานการโจมตีจากปีศาจเหยียนซาน คลื่นพลังของทั้งสองฝ่ายแยกออกจากกันคล้ายระลอกคลื่นยักษ์สึนามิ

ตู้ม!

ลำแสงจากกำปั้นของเหยียนซานปะทะเข้ากับลำแสงกระบี่ของหลิวอู่เหยียน

หลิวอู่เหยียนระเบิดเสียงคำรามกึกก้อง โลหิตไหลทะลักออกมาจากริมฝีปาก แต่ชายชราก็ยังยืนหยัดอยู่ที่เดิม ไม่ยอมก้าวถอยหลังแม้แต่ก้าวเดียว

เหยียนซานหมุนตัวตีลังกากลับไปนั่งอยู่บนบัลลังก์ทองคำตามเดิม

“ฮ่า ๆๆ คิดไม่ถึงเลยว่าแขนขาดไปตั้งหนึ่งข้าง เจ้ากลับยังมีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ สมควรแล้วที่ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้แข็งแกร่งอันดับที่สองของเมืองชิงอวี้”

ปีศาจเหยียนซานระเบิดเสียงหัวเราะอย่างคุ้มคลั่ง

หลิวอู่เหยียนรั้งกระบี่กลับมาพลางก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยฝีเท้าที่มั่นคง

“วันนี้ข้าจะตัดหัวเจ้ามาเป็นเครื่องเซ่นให้แก่ลูกศิษย์สำนักกระบี่เหินฟ้า”

พลังปราณปกคลุมร่างกายหนาแน่น กระบี่ในมือเรืองแสงแวววาว ชายชราพร้อมที่จะต่อสู้อีกครั้ง

แม้แต่ผู้อาวุโสอวี้อู๋เฉียนและคนอื่น ๆ ก็ยังต้องประหลาดใจ

นี่คือระดับความแข็งแกร่งที่ท่านเจ้าสำนักไม่เคยเปิดเผยมาก่อน

บางทีในวันนี้พวกเขาอาจมีความหวังบ้างแล้วกระมัง?

แต่ทันใดนั้น ผู้อาวุโสอวี้อู๋เฉียน หลินเป่ยเฉินและคนอื่น ๆ ก็ได้ยินเสียงของหลิวอู่เหยียนถูกส่งผ่านมาทางกระแสจิตว่า ‘สถานการณ์ย่ำแย่แล้ว ข้าคงต้านได้อีกไม่นาน พวกเจ้ารีบหนีไปซะ’

อ้าวเฮ้ย…

หลินเป่ยเฉินหัวใจกระตุกวูบ

ดูเหมือนหลิวอู่เหยียนคงจะสู้ไม่ไหวแล้วสินะ

จังหวะนั้น…

วูบ! วูบ!

กลุ่มปีศาจที่ฆ่าล้างสำนักกระบี่เหินฟ้าก็ปรากฏตัวออกมาหลายร้อยชีวิตและพวกมันก็ห้อมล้อมพวกของหลินเป่ยเฉินอยู่ตรงกลาง

“ยังไม่รีบหนีไปอีก?”

หลิวอู่เหยียนระเบิดเสียงคำรามออกมา

ยังไม่ทันขาดคำ ร่างกายของชายชราก็หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับกระบี่ ทั้งคนทั้งกระบี่พุ่งเป็นลำแสงตรงเข้าไปหาปีศาจเหยียนซานที่อยู่ด้านบนสุดของกองภูเขาซากศพ!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด