ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้วบทที่ 582 หยินหยางไม่ตัดสินใจ (1)
บทที่ 582 หยินหยางไม่ตัดสินใจ (1)
เพียงแค่นั้น…หรือ?
ในส่วนลึกของพื้นดิน ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วได้นำกองทัพตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์มาหยุดอยู่ตรงร่องหิน พวกเขา “เฝ้าดู” การต่อสู้บนท้องฟ้าจากระยะไกล
หลี่ฉางโซ่วเพิ่งเห็นการต่อสู้ระหว่างต้นไม้สมบัติเจ็ดมหัศจรรย์และแผนภาพไท่จี๋ จากนั้น เขาก็เห็นเหล่าเซียนเทียนสองสามคนต่อสู้กันบนท้องฟ้า หลี่ฉางโซ่วไม่ได้สนใจจริงๆ
เขายังรู้สึกอยากจะหัวเราะออกมาด้วยซ้ำ…
ใช่แล้ว ข้าไม่กังวลอะไรเลย
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ ข้าเพียงแค่กำลังคิดเพ้อเจ้อไป ข่งเชวี่ยนเป็นผู้ดำรงอยู่เยี่ยงใดกัน? เขาจะออกมากินคนด้วยเหตุใด ข่งเชวี่ยนเป็นผู้ที่ดีที่สุดในแดนปราบดาเทพ
พลังเวทภายในของเขา พู่กันใหญ่ และแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี ทำให้เขาสามารถปัดกวาด เอาชนะทุกสิ่งในมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพได้ พลังเวทและพู่กันสมบัตินี้ใช้ได้ผลดีกว่าเหรียญทองแดงลั่วเป่านับร้อยเท่า มันปัดกวาดแม้แต่จุ่นถี
มันสามารถใช้สังหารระดับกึ่งจอมปราชญ์ได้ด้วยซ้ำ ทว่าในระหว่างมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพ ข่งเชวี่ยนได้ต่อสู้กับจอมปราชญ์จุ่นถี ในขณะที่เขาใช้แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีเพื่อพันธนาการจอมปราชญ์จุ่นถี จอมปราชญ์จุ่นถี ก็ได้กลายเป็นร่างเวทจอมปราชญ์จากแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีนั้น และทำลายมัน และส่งผลให้ข่งเชวี่ยนหายไป …
แต่เมื่อพิจารณาจากมุมมองอื่น ต่อให้จุ่นถีจะเป็นเซียนที่มีอันดับต่ำ แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นเซียน
แม้ข่งเชวี่ยนจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่เขาก็บังคับให้ร่างเวทจอมปราชญ์ปรากฏขึ้นได้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่า พลังเวทของข่งเชวี่ยนนั้น ทรงพลังเพียงใด
เขาอยู่ในระดับเดียวศิษย์พี่ใหญ่ทั้งสามแห่งสามสำนักบำเพ็ญเต๋าอย่างสมบูรณ์!
ด้วยเหตุนี้ คำถามแรกที่เข้ามาในหัวของหลี่ฉางโซ่วก็คือ — เหตุใดสหายผู้นี้ถึงเข้าร่วมมหาทัณฑ์สวรรค์ปราบดาเทพโดยไร้เหตุผล?
ตามความเข้าใจของหลี่ฉางโซ่ว ข่งเชวี่ยนเป็นนกยูงตัวแรกในโลกที่ถือกำเนิดพร้อมกับมีพลังห้าธาตุเซียนเทียนติดตัวมาด้วย และดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ในสายสืบสานของหยวนเฟิ่งแห่งเผ่าหงส์… นั่นคือ ‘ข่าวลือเกี่ยวกับโลกบรรพกาล’ บางส่วน ซึ่งหลี่ฉางโซ่วไม่อาจยืนยันได้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่
มันมีบันทึกเรื่องดังกล่าวอยู่ในตำราของสำนักตู้เซียน
“ในช่วงระหว่างมหาสงครามจอมเวท-ปีศาจ เผ่ามนุษย์ต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด จู่ๆ ก็มีนกยูงศักดิ์สิทธิ์ตัวหนึ่งมาจากทางใต้ มันอ้าปากเพื่อกลืนกินเหล่ามนุษย์และปีศาจอย่างสนุกสนาน
ในเวลาต่อมา ด้วยเหตุที่ก่อกรรมหนักหนาในการเข่นฆ่าผู้คนมากเกินไป เขาจึงถูกลงโทษด้วยทัณฑ์แห่งสวรรค์และถูกปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่โจมตี จากนั้นนกศักดิ์สิทธิ์ก็พ่ายแพ้และถูกปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่จับได้ก่อนจะถูกส่งไปทางใต้”
นั่นคือการอ้างถึงเวลาในสมัยโบราณที่ข่งเชวี่ยนปรากฏตัวขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นบันทึกที่หายากในการออกโจมตีของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่
เวลานี้เขามองไปที่ท้องฟ้าเพื่อดูว่าปีศาจนกยูงกำลังต่อสู้กับเหล่าเซียนของสำนักตู้เซียน แท้จริงแล้ว มันเป็นเพียงปีศาจนกยูง ขนาดยาวสิบจั้ง มีกรงเล็บและจงอยปากที่แหลมคม ขนยาวของมันส่วนใหญ่เป็นสีฟ้าอมทอง และระดับฐานพลังของมันก็อยู่ในขอบเขตเซียนเทียนเท่านั้น
ในขณะนั้น มันกำลังถูกผู้อาวุโสหลายคนของสำนักตู้เซียน และโหย่วฉินเสวียนหย่ากำราบ โหย่วฉินเสวียนหย่ายืนอยู่ในหมู่เมฆ กำลังโค้งมือเรียวของนางเป็นนิ้วกระบี่ ขณะที่นางสร้างผนึกมือ นางก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วยิ่งจนทิ้งภาพติดตาเอาไว้เบื้องหลัง
จากนั้นกระบี่บินสิบหกเล่มที่เปล่งแสงสีฟ้าเย็นยะเยือกก็กวัดไกวไปซ้ายขวาจนทำให้ขนยาวของปีศาจนกยูงบินปลิวว่อนไปทั่วทุกที่และร่างกายของมันก็เต็มไปด้วยบาดแผล
มันเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอย่างแท้จริง ก้อนอิฐถูกปลิวกระเด็นลงมาจากระยะทางหลายพันลี้ และเมื่อสมบัติวิญญาณของจอมปราชญ์ และสมบัติเซียนเทียนขั้นสูงเข้าปะทะกันเบาๆ ทั่วหล้าก็มืดมัวลงราวกับว่าท้องฟ้ากำลังจะถล่มลงมา
ส่วนการต่อสู้ที่ดุเดือดจอมปลอมนั้น ขณะนี้ สายตาส่วนใหญ่ของผู้ชมได้ถูกเทพธิดาที่กำลังยืนอยู่บนก้อนเมฆดึงดูดเอาไว้ นางสวมชุดสีฟ้าเย็นยะเยือก และมัดเส้นผมสีดำของนางเอาไว้อย่างเรียบง่ายด้วยแถบผ้าไหมสีฟ้า แม้เรือนร่างของนางจะไม่ได้ดูเย้ายวนใจ แต่ก็ยังทำให้ลุ่มหลงได้ นางคือตัวตนที่ชัดเจนของคำว่า ‘เทพธิดา’ ที่สมบูรณ์แบบ
โดยรวมแล้ว สถานการณ์ที่นี่อยู่ภายใต้การควบคุมได้ทั้งหมด ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วมองดูตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของเขาและกองทัพตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่เขาเคลื่อนพลมาจากทะเลบูรพาเป็นการชั่วคราว แล้วเขาก็กระตุกมุมปาก
ในเมื่อข้ามาอยู่ที่นี่แล้ว ข้าก็ควรจะดูต่ออีกสักพัก
เขาตัดสินใจที่จะนิ่งรอให้เหล่าเซียนของสำนักตู้เซียนล่าถอยได้สำเร็จเรียบร้อยก่อน จากนั้นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของเขาก็จะล่าถอยไปพร้อมกับพวกเขาในทันที
มีแม่ทัพในชุดเกราะหลายสิบคนอยู่บนพื้น พวกเขาส่วนใหญ่อยู่ในขอบเขตคืนกลับอนัตตา หรือคืนกลับเต๋าวิถี มีห้าถึงหกคนที่มีพลังการต่อสู้ที่เทียบได้กับ… เซียนจั๋ว
เหล่าแม่ทัพแห่งแดนมนุษย์ได้สร้างค่ายกลที่ด้านล่าง พวกเขาไม่กล้าที่จะพุ่งออกไปจับปีศาจ ทว่าแม้พวกเขาจะไม่ได้ทำอะไรเลย แต่พวกเขาก็จะได้ผลงานหลังจากนี้
ตำแหน่งที่แน่นอนของสถานที่แห่งนี้อยู่ที่มุมตะวันตกเฉียงใต้ของดินแดนเทวะบูรพา มันอยู่ใกล้กับดินแดนเทวะทักษิณมาก และอยู่ห่างจากหุบเขาที่เสือดำและคู่ของมันอยู่ไม่ถึงหกพันลี้
แดนมนุษย์ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง หลี่ฉางโซ่วกวาดสัมผัสเซียนรับรู้ออกไปสำรวจทั่วพื้นที่ในรัศมีหลายหมื่นลี้รอบตัวเขา ที่ราบและภูเขาที่เขาเห็นนั้น ล้วนเต็มไปด้วยร่องรอยของมนุษย์
มีอาณาจักรที่ทรงอำนาจหลายอาณาจักรและมีอาณาจักรเล็กๆ หลายสิบอาณาจักรได้พัฒนาขึ้นมา ซึ่งพวกเขาต่างก็สู้รบกันเองปีแล้วปีเล่ามานานหลายปี
‘อาณาจักรโหย่วฉิน’ ที่เจ้าสำนักจี้อู๋โหย่วกล่าวถึงก็คือ บ้านเกิดของโหย่วฉินเสวียน ซึ่งเป็นอาณาจักรหงหลินแห่งดินแดนเทวะบูรพา
ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของอาณาจักรหงหลินนั้นไม่เหมือนใคร มันได้รับพรจากสวรรค์ มันตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของดินแดนเทวะบูรพา ตอนนี้มันได้แผ่ขยายอำนาจไปถึงดินแดนเทวะทักษิณและพัฒนากองกำลังของมันที่นั่น
แม้จะมีมนุษย์ไม่มากนัก แต่ก็มีหลายอาณาจักรและหลายเผ่าในสามอาณาจักร และอาณาจักรหงหลินก็ยังถือเป็น “อาณาจักรทรงอำนาจข้ามดินแดน” ที่หาได้ยากซึ่งขยายออกไปนอกดินแดนเดิมที่อาศัยอยู่ และโชคชะตาของอาณาจักรก็ถือว่าแข็งแกร่งทีเดียว
ในแดนมนุษย์ยามนี้ หากผู้ใดได้เป็นผู้ปกครองอาณาจักร พวกเขาก็จะได้รับพรจากโชคของเผ่ามนุษย์ด้วย
ทว่าก็เป็นเพราะโชคนี้เองที่ทำให้พวกเขาไม่อาจเริ่มต้นในวิถีแห่งการบำเพ็ญเพียรได้
ไม่มีอันใดอื่น เป็นกฎห้ามเต๋าสวรรค์
มีปรากฏการณ์ที่หลี่ฉางโซ่วพบว่าน่าสนใจทีเดียว คือ ในแดนมนุษย์ เกือบครึ่งหนึ่งของเหล่าแม่ทัพและจอมทัพจะมีฐานพลัง เดิมทีพวกเขาก็เป็นผู้ฝึกบำเพ็ญขั้นสูง
วิหารเทพทะเลของหลี่ฉางโซ่วได้แผ่ขยาย กระจายออกไปทั่วทะเลทักษิณแล้ว ครั้งหนึ่งเขาเคยเดินทางด้วยเรือในดินแดนเทวะทักษิณและได้ทำการตรวจสอบดินแดนเทวะทักษิณอย่างละเอียด
มีเหตุผลหลักสามประการที่ทำให้ผู้ฝึกบำเพ็ญจากดินแดนเทวะทักษิณเข้าสู่แดนมนุษย์
ประการแรก มีเหล่าเซียนจำนวนมากมายังแดนมนุษย์เพื่อเพลิดเพลินกับชีวิตเมื่อพวกเขารู้สึกสิ้นหวังที่พวกเขาจะทะลวงด่านพลัง หรือว่าหัวใจเต๋าของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความปรารถนาแรงกล้ามุ่งสู่เต๋า
พวกเขาเพลิดเพลินกับชีวิตอย่างไร?
โดยธรรมชาติแล้ว ผู้ฝึกบำเพ็ญนั้นจะดูแคลนสำนักโคมเขียวในแดนมนุษย์ ซึ่งมีไว้เพื่อการบรรเทาทุกข์ในประสบการณ์รักชั่วคราว
พวกเขาอาจกลายเป็น “เสนาบดีเซียน” ของอาณาจักร หรือไม่ก็ปกปิดตัวตน กลายเป็นแม่ทัพและจอมทัพ พวกเขาจะทำงานหนักเพื่อให้มีภรรยาและอนุเอาไว้บำเรอเป็นจำนวนมาก และพวกเขาจะมั่งคั่งและเจริญรุ่งเรืองพร้อมด้วยเกียรติยศสูงส่งอย่างยิ่ง…
………………………………………………………………..
Comments