ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ 1629 เอาออกมาทั้งหมด
ทว่า รอยยิ้มของเขากลับต้องชะงักลงทันที
ลำแสงสีดำพุ่งทะยานขึ้นไปกลางอากาศ ชั่วพริบตาเดียวพลังการกดขี่ข่มเหงของราชาก็โจมตีเข้ามา
หงส์ดำเหล่านั้นของเผ่าหงส์ดำมองไปที่เจ้านั่นที่มีขนาดเล็กเท่าฝ่ามือด้วยความตกตะลึง นี่มัน นี่มันพลังการกดขี่ข่มเหงของหงส์นิลสายเลือดราชามิใช่หรือ?
แม้ว่าเผ่าหงส์ดำจะไม่ใช่สัตว์เผ่าเดียวกันกับเสี่ยวโม่โม่ แต่สายเลือดราชานั้นก็คล้าย ๆ กัน
เพียงแต่ว่าหากเป็นเผ่าหงส์นิลก็จะมีพลังอำนาจที่แข็งแกร่งกว่าก็เท่านั้น
“พวกเจ้าเผ่าหงส์นิล นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีสายเลือดราชาหลงเหลืออยู่”
ในที่สุดโม่เฉิงก็ได้รู้แล้วว่า เหตุใดมนุษย์ผู้นั้นถึงเข้าร่วมการประลองในครั้งนั้นได้ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีสายเลือดของเผ่าหงส์อยู่
เนื่องจากเจ้าตัวน้อยนี้ไม่เหมาะสมในการต่อสู้เลยจริง ๆ
เฮยอวิ๋นกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เจ้านั่นมีสายเลือดราชาแล้วอย่างไร ทุกคนล้วนแต่ถูกกดขี่ข่มเหงด้วยกันทั้งสิ้น เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า เลิกดิ้นรนได้แล้ว!”
โม่ชิงอู่ก็รู้ดีว่าเป็นเช่นนี้ สุดท้ายนางก็ทำได้เพียงแค่ต้องพึ่งตัวเอง
และในตอนนี้เอง ร่างของเสี่ยวโม่โม่ก็แผ่ซ่านพลังการกดขี่ข่มเหงอันแข็งแกร่งออกมาอีกครั้ง
พลังการกดขี่ข่มเหงนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีการกดขี่ข่มเหงแบบมุ่งเป้า
มุ่งเป้าไปที่เผ่าหงส์ดำ แต่คนของเผ่าหงส์นิลไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดเลย
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนล้วนแต่เบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ “เจ้านี่…”
หงส์ที่มีสายเลือดราชามีพรสรรค์อันแข็งแกร่งมากในวัยผู้ใหญ่ โดยเฉพาะความสามารถนี้ ความสามารถที่ใช้กดขี่ข่มเหงเป้าหมายได้
ทว่า เสี่ยวโม่โม่ที่เพิ่งจะฟักตัวออกมาจากไข่ได้ไม่นานแต่กลับมีความสามารถเช่นนี้ นี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริง ๆ
โอกาสดีแล้ว!
ในขณะที่เผ่าหงส์ดำเหล่านี้กำลังตกตะลึงอยู่ โม่ชิงอู่และพวกก็เริ่มโจมตีทันที
ตูม ตูม ตูม!
พลังอำนาจของฝ่ายตรงข้ามถูกยับยั้งไปสามระดับ ดังนั้นการต่อสู้ในครั้งนี้จึงไม่น่าเป็นห่วงเลย
“สถานการณ์ในตอนนี้ไม่เป็นใจต่อพวกเราเลย รีบล่าถอยเร็วเข้า!”
“รีบล่าถอย!”
ร่างในชุดม่วงร่างหนึ่งพุ่งไป มู่เฉียนซีพาเสี่ยวโม่โม่ไปขวางทางหนีของพวกเขาเอาไว้
“ข้าอนุญาตให้พวกเจ้าไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“คิดจะหนี มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะ” โม่ชิงอู่และพวกก็ไล่ล่ามาแล้วเช่นกัน ในตอนนี้คนของเผ่าหงส์ดำไร้หนทางหนีแล้ว
เสี่ยวโม่โม่กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “นายท่าน เสี่ยวโม่โม่เก่งกาจใช่หรือไม่?!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ใช่ เก่งกาจมาก!”
แม้ว่าอู๋ตี้กับเสี่ยวหงจะดูแล้วไม่ค่อยได้เรื่องสักเท่าไหร่ แต่การสอนให้เสี่ยวโม่โม่ใช้พลังอำนาจ พวกมันกลับสอนได้ดีมาก ตอนนี้เสี่ยวโม่โม่สามารถใช้มันได้อย่างง่ายดายแล้ว
“พวกเจ้าจะเอาเช่นไรกันแน่ ?” เฮยอวิ๋นกล่าวถาม
โม่ชิงอู่มองมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ?”
ครั้งนี้พวกเขาสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดายก็เพราะมู่เฉียนซี แม้ว่านางจะไม่อยากยอมรับก็ตาม
พรสวรรค์ของเสี่ยวโม่โม่ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก มิน่าล่ะว่าเหตุใดพ่อบุญธรรมถึงอยากได้นางมาเป็นบุตรเช่นนี้
มู่เฉียนซีกวาดสายตามองพวกเขา “พวกเจ้าเข้ามาเกะกะขวางทางเอง ตอนนี้แพ้แล้วคิดจะหนี พวกเจ้าไม่คิดจะเอาอะไรออกมาสักหน่อยเหรอ?”
“พวกเจ้าต้องการผลึกวิญญาณอัสนีอย่างนั้นเหรอ?” พวกเขากล่าวถาม
“ให้! ข้าเอาผลึกวิญญาณอัสนีให้พวกเจ้า”
มู่เฉียนซีกล่าว “พวกเจ้าคิดว่าแค่เอาผลึกวิญญาณอัสนีให้ข้าเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วอย่างนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เอาของล้ำค่าที่ติดตัวพวกเจ้าออกมาให้หมด!”
“เจ้า…นี่เจ้าจะเอายังไงกันแน่”
“ส่งมา! รีบส่งมาเร็วเข้า มิเช่นนั้นข้าจะเผาขนของพวกเจ้าให้หมดซะเลย” เสี่ยวโม่โม่กล่าวพลางจ้องมองไปยังพวกเขา
พวกของโม่ชิงอู่นิ่งเงียบไป ไม่คาดคิดเลยว่ามู่เฉียนซีจะเป็นมนุษย์ที่โหดเหี้ยมมากถึงเพียงนี้ เดิมทีพวกเขาคิดว่าแค่เอาผลึกวิญญาณอัสนีให้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “โม่ชิงอู่ ในเมื่อเจ้ารู้สึกว่าควรฟังความคิดของข้า เช่นนั้นก็จงฟังข้าซะ! หากว่าพวกเขาไม่มอบของให้ข้าแล้วละก็ ก็จงทุบตีพวกเขาซะ ทุบตีให้หนักไปเลย!”
“อื้ม” โม่ชิงอู่พยักหน้าตอบรับ
เมื่อพวกเขาเห็นว่าพวกคนจากเผ่าหงส์ดำเริ่มไม่พอใจแล้ว ดังนั้นจึงเริ่มทุบตีพวกเขา!
คนของเผ่าหงส์ดำเหล่านั้นรู้สึกว่าพวกของโม่ชิงอู่เตรียมหมุนเวียนพลังวิญญาณเพื่อโจมตีแล้ว จึงรีบกล่าวกันอย่างรีบร้อนว่า “ให้! พวกเราให้”
“ให้พวกเจ้า!”
ของแต่ละชิ้นที่ทุกคนมอบมาให้ มู่เฉียนซีต่างเก็บเอาไว้
เฮยเยว่กล่าวว่า “พวกเราไปกันเถอะ!”
“พวกเจ้ารอข้าก่อนเถอะ! รอให้พวกเราได้ไปรวมตัวกับพี่ใหญ่เฮยหลิวก่อน พวกเจ้าจะต้องได้เห็นดีกันอย่างแน่นอน”
เฮยหลิว!
โม่ชิงอู่ชะงักไปครู่หนึ่ง เฮยหลิวเป็นชายผู้ครอบครองสายเลือดของราชันย์แห่งเผ่าหงส์ดำ ชายผู้นั้นฝึกฝนอยู่ที่แคว้นเทพหงส์มาโดยตลอด คาดว่าน่าจะกำลังมาจากแคว้นเทพหงส์จึงไม่ได้มาพร้อมกับพวกเขา
ชายผู้นั้น นางไม่ใช่คู่มือของเขา และเขาก็เป็นคนที่ยากจะจัดการได้ด้วย
มู่เฉียนซีไม่ได้รู้สึกว่าจะมีเรื่องยุ่งวุ่นวายกำลังจะเยื้องกรายเข้ามาเลยแม้แต่น้อย และมองไปที่ของรางวัลของผู้พ่ายแพ้เหล่านั้น!
ยากจน! ยากจนมากเกินไปแล้ว!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าต้องการแค่ผลึกวิญญาณอัสนีเท่านั้น ส่วนของที่เหลือพวกเจ้าเอาไปแบ่งกัน เป็นอย่างไร?”
“ไม่มีปัญหา!” โม่ซูและโม่อี้เฟยตอบกลับ
ไป๋ฉางกล่าว “ไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้าจะต้องการผลึกวิญญาณอัสนีเหล่านี้ไปเพื่ออะไร? เมื่อออกไปจากแคว้นหลอมอัสนีแล้วก็ไม่สามารถที่จะดูดซับผลึกวิญญาณอัสนีได้แล้ว เจ้าอย่าบอกนะว่าจะรอให้เจ้าตัวน้อยนี้โตขึ้นแล้วค่อยใช้น่ะ”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เรื่องนี้ เจ้าไม่จำเป็นต้องสนใจหรอก! ข้าอยากจะใช้อย่างไรก็เรื่องของข้ามิใช่หรือ?”
“เช่นนั้นก็ดี! ข้าไม่ขัดข้องความคิดเจ้า!”
สิ่งของเหล่านี้ มีค่ามากกว่าผลึกวิญญาณอัสนีไม่กี่ชิ้นนั้นเสียอีก
หลังจากที่แจกจ่ายกันไปเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ออกเดินทางกันทันที เพื่อไปเก็บรวบรวมผลึกวิญญาณอัสนีกันต่อ
โม่ชิงอู่กล่าวว่า “ใกล้ที่จะถึงแล้ว ข้างหน้านี้ก็เป็นหอหลอมอัสนีแล้ว”
มู่เฉียนซีเหาะขึ้นไปกลางอากาศแล้วมองออกไป และแน่นอนว่าเบื้องหน้านั้นคือหอสีดำทะมึนขนาดใหญ่มหึมา
ด้านบนสุดของหอขนาดมหึมาถูกปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆสีดำ มีฟ้าร้องฟ้าแลบอยู่กลางอากาศ ราวกับว่าไม่เคยหยุดลงเลย
ครืน ครืน! เสียงสายฟ้าฟาดดังครั่นครื้นลงมาที่กลางหอสีดำนั้นอย่างไม่หยุดหย่อน
ที่นั่นก็คือหอหลอมอัสนี!
พลังจิตวิญญาณของนางกระจายออกไป และปรากฏว่ามีหงส์จำนวนไม่น้อยบินไปทางหอหลอมอัสนีนั้น
โม่ชิงอู่กล่าวว่า “สถานที่โดยรอบหอหลอมอัสนีที่เหมาะสมต่อการดูดซับและฝึกฝนผลึกวิญญาณอัสนี คาดว่าจะถูกผู้อื่นครอบครองไปจนหมดแล้ว พวกเรามาเลือกสถานที่ฝึกฝนที่นี่ก่อน เป็นอย่างไร?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไม่มีปัญหา!”
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงฝึกฝนกันที่นี่
ไป๋ฉางและโม่ชิงอู่พวกเขาดูดซับผลึกวิญญาณอัสนีด้วยกัน ส่วนผู้ผูกสัญญาของโม่ซูและโม่อี้เฟยนั้นไม่ใช่จอมภูตพลังธาตุอัสนี เช่นนั้นจึงคอยคุ้มกันพวกเขาแทน
และมู่เฉียนซีก็กำลังพยายามที่จะลองฝึกฝนการหมุนเวียนเคล็ดเทพต้านสวรรค์ เป็นพลังในการดูดซับผลึกวิญญาณอัสนี
พรึ่บ! ทันทีที่ดูดซับ ผลึกวิญญาณอัสนีนั้นก็กลายเป็นผุยผงไปโดยตรง
มีประโยชน์จริง ๆ นางมีพลังในการดูดซับผลึกวิญญาณอัสนีที่สมบูรณ์ อีกทั้งยังสามารถดูดซับได้อย่างราบรื่นเป็นอย่างมากอีกด้วย
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ! ผลึกวิญญาณอัสนีสองสามก้อนที่อยู่ในมือทั้งหมดถูกมู่เฉียนซีดูดซับไปแล้ว
และในเวลานี้พวกไป๋ฉางและโม่ชิงอู่ ก็ยังคงดูดซับไม่เสร็จเลยสักก้อนเดียว
ในสถานการณ์ที่แปลกประหลาดนี้พวกของไป๋ฉางไม่ทันได้สังเกตเห็น แต่ทว่าคนที่คอยปกป้องอีกสองคนนั้นกลับสังเกตเห็นมันเสียแล้ว นะ…นี่มันคือสถานการณ์อะไรกันแน่?
หรือว่า นางจะเป็นจอมภูตพลังธาตุอัสนีเช่นนั้นหรือ?
จงใจที่จะปกปิดคุณสมบัติหรอกหรือ!
พรึ่บ พรึ่บ!
และผลึกวิญญาณอัสนีสองสามก้อนนั้นก็เปลี่ยนกลายเป็นผุยผงไปในทันที
พวกเขาที่ได้เห็นก็มึนงงไปหมด ถึงแม้ว่านางจะเป็นจอมภูตพลังธาตุอัสนีแต่ก็ไม่ควรที่จะเร็วเช่นนั้น ชายผู้นี้ก็ได้กลายเป็นคนโง่งมไปแล้วอย่างสมบูรณ์!
มู่เฉียนซีครอบครองผลึกวิญญาณอัสนีมากกว่าพวกเขาเป็นสิบเท่า แต่ทว่ากลับดูซับได้เสร็จก่อนพวกเขาตั้งนานแล้ว
มุมปากของมู่เฉียนซียกขึ้นเล็กน้อย ผลลัพธ์ของผลึกวิญญาณอัสนีนี้ไม่เลวเลยทีเดียว
ตอนนี้นางสามารถสัมผัสถึงการทะลวงผ่านขีดจำกัดได้แล้ว สภาพแวดล้อมการฝึกฝนในโลกของหงส์ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
เดิมทีแล้วนางก็ไม่ได้วางแผนที่จะฝึกฝนให้คืบหน้าที่นี่ เพียงแต่ที่ดินแดนสัตว์เทพแห่งนี้ กลับมีของดีอยู่ไม่น้อยเลย อยากที่จะยกระดับความแข็งแกร่ง ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอีกต่อไปแล้ว
.
.
Comments