Scholar’s Advanced Technological System 167 การค้นพบที่ไม่คาดฝัน

Now you are reading Scholar’s Advanced Technological System Chapter 167 การค้นพบที่ไม่คาดฝัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“…อันที่จริงสิ่งนี้ยังไม่สมบูรณ์ ลองเดาซิว่าคำตอบของคนใน CERN นั้นว่ายังไง?”

“คำตอบของพวกเขา?”

เหยียนซินเจวี๋ยเลียนแบบน้ำเสียงของอีแวนส์ “แน่นอนว่ามันเป็นความจริง ถ้าคุณสามารถสร้างเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนได้ใหญ่เท่าดาวเสาร์และเตาปฏิกรณ์ใหญ่เท่าดวงจันทร์ เราก็จะสร้างหลุมดำได้ ดังนั้นเราจึงต้องการเงินทุน”

ลู่โจวหัวเราะ

แม้ว่ารุ่นพี่เหยียนจะไม่ได้พูดต่อ แต่เขาเดาได้แล้วว่า CERN คงไม่ได้รับเงินทุน

การสร้างเครื่องชนอนุภาคได้ใหญ่เท่าดาวเสาร์ คงมีแต่มนุษย์ต่างดาวเท่านั้นแหละมั้งที่ทำได้

ไม่นานรถก็ขับผ่านเข้ามาในเขตเหนือ

เหยียนซินเจวี๋ยจอดรถที่โรงจอดรถแล้วพาลู่โจวเข้าไปในทางเข้าหลักของศูนย์วิจัย

เครื่องชนอนุภาคสามารถแบ่งได้เป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นท่อเล็กๆ ที่ล้อมรอบด้วยโลหะบิสมัท อีกส่วนคือเครื่องตรวจจับมากมายที่ถูกฝังอยู่ในท่อใหญ่นอกท่อเล็ก

ทั้งสองอยู่ใกล้กับวงโคจรที่ขนานกันสองวงโคจรที่ตัดกันในจุดที่มีรูป ‘x’ ซึ่งเป็นตัวเร่งทิศทางต่างๆ และลำแสงทั้งสองก็จะชนกันที่จุดตัดนี้

มันมี’จุดเกิดปฏิกิริยา’ประมาณสี่จุดที่เป็นแบบนี้ และรอบจุดเกิดปฏิกิริยาเหล่านี้ เครื่องตรวจจับต่างๆ จะถูกเชื่อมต่อกันเพื่อรวบรวมปรากฏการณ์ทางกายภาพที่เกิดจากการชนกันของลำแสงอนุภาค

แน่นอนมันไม่ใช่ว่าอนุภาคทั้งหมดจะชนกันได้ และอนุภาคที่ชนกันได้ก็อาจไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันกับส่วนอื่นเพื่อทำลายแรงปฏิสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งภายใน

ดังนั้นการชนอนุภาคทั้งหมดจึงขึ้นอยู่กับการบรรจุอนุภาคให้มากที่สุดในท่อที่มีจำนวนจำกัด และสะสมการชนกันด้วยความน่าจะเป็นที่น้อยนิดในการสะสมข้อมูลที่ยาวเหยียดจนหาที่สุดไม่ได้

อนุภาคฮิกส์ที่ทำให้โลกฟิสิกส์ตกใจก็ถูกค้นพบในลักษณะนี้

ศูนย์วิจัยที่เหยียนซินเจวี๋ยพาลู่โจวมารับผิดชอบในการสังเกตและรวบรวมข้อมูลของการชนกันของอนุภาค มีห้องแล็บมากมายอยู่ในศูนย์วิจัย แต่ละแห่งก็มีหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูล ณ จุดตรวจจับที่แตกต่างกัน

พวกเขาเดินเข้าไปในห้องแล็บห้องหนึ่งแล้วเห็นชายผิวขาวที่สวมชุดกาวน์อยู่คนหนึ่ง เขากำลังดื่มกาแฟอยู่หน้าคอมพิวเตอร์

เหยียนซินเจวี๋ยเดินเข้าไปแล้วแนะนำเขาให้ลู่โจวรู้จัก

“ท่านนี้คือศาสตราจารย์เกรเยอร์ นายอาจเคยเห็นชื่อเขาหลายครั้งในวิทยานิพนธ์ CERN ตอนที่ฉันมาฝึกงานที่นี่ เขาก็ทำงานอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว”

“อย่าอธิบายทำให้ฉันดูแก่แบบนั้นสิ ฉันเริ่้มทำงานในปี 2008 เอง” ศาสตราจารย์เกรเยอร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม เขายื่นมือออกมาแล้วกล่าวกับลู่โจว “ยินดีที่ได้พบ มิสเตอร์ลู่”

ลู่โจวจับมือ “สวัสดีครับ”

ตอนแรกลู่โจวคิดว่าศาสตราจารย์เกรเยอร์จะมีอายุพอๆกับศาสตราจารย์หรูเสินเจียน แต่ที่จริงศาสตราจารย์เกรเยอร์ดูอายุราวๆ สี่สิบเท่านั้น

ศาสตราจารย์เกรเยอร์ปล่อยมือแล้วกล่าว “ฉันขอโทษที่พาพวกเธอเดินทัวร์ไม่ได้ เพราะการทดลองกำลังจะเริ่มแล้ว ฉันต้องนั่งแช่อยู่หน้าคอมตัวนี้ ถ้าเธอมาสักสองอาทิตย์ก่อน ฉันคงพาพวกเธอลงไปชมข้างล่างแล้ว แต่ตอนนี้ไปไม่ได้เพราะทางเข้าถูกปิด”

ลู่โจวยิ้ม “ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ตอนนี้พวกเราก็กำลังยืนอยู่ในแถวหน้าของประวัติศาสตร์แล้ว”

“ฮ่าๆ เธอเป็นเด็กใหม่สินะ” ศาสตราจารย์เกรเยอร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม “มีนักวิจัยหลายพันคนที่กำลังทำงานในโปรเจ็คนี้ ชื่อของทุกคนจะถูกเรียงตามลำดับตัวอักษรบนวิทยานิพนธ์”

ชื่อหลายพันคนบนวิทยานิพนธ์ และจัดเรียงตามลำดับตัวอักษร…

เอิ่ม…

ฟังดูไม่มีแรงจูงใจเลย

จู่ๆ ลู่โจวก็สังเกตเห็นว่าภาพบนหน้าจอคอมพิวเตอร์กำลังเคลื่อนไหว เขาจึงถาม “การทดลองเริ่มแล้วเหรอ?”

ศาสตราจารย์เกรเยอร์ยิ้ม “ยังไม่เริ่ม ตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงทดลอง เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าช่องสัญญาณชัดเจน และเครื่องตรวจจับทำงานปกติ ดังนั้นก่อนที่เราจะเริ่มการมองหาเพนตาควาร์ก เราต้องทดลองก่อนสองสามครั้ง ตอนนี้บน ATLAS เธอคงได้เห็นรูปคู่แล้ว”

เมื่อลู่โจวมองภาพบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เขาก็สับสน

เขาไวต่อตัวเลขมาก แต่เขามักจะรู้สึกว่าภาพมันไม่ชัดเจน

อย่างไรก็ตามหลังจากเพ่งมองภาพสักครู่ เขาก็รู้สึกถึงความคุ้นเคย

ลู่โจวอดถามอย่างสงสัยไม่ได้

“ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนเคยเห็นภาพนี้มาก่อน?”

“เพราะเราทำข้อมูลจากส่วน B1 และส่วนนี้ก็ถูกรวบรวมโดยศาสตราจารย์เกรเยอร์” เหยียนซินเจวี๋ยกล่าว

“โอ้ จะว่าไป ฉันได้ยินมาว่าพวกเธอเอาชนะบรูนอสเหรอ?” ศาสตราจารย์เกรเยอร์ถามด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ

“ใช่ครับ” เหยียนซินเจวี๋ยกล่าวล้อเลียน

ศาสตราจารย์เกรเยอร์ยิ้ม “ฮ่าๆ…ตอนที่ฉันเห็นเขาครั้งก่อน เขามีสีหน้าไม่ดีนัก มันเป็นเพราะเรื่องนี้นี่เอง”

ดูเหมือนว่าศาสตราจารย์บรูนอสจะไม่เป็นที่นิยมกับเพื่อนร่วมงานนัก เพราะทั้งศาสตราจารย์หรูเสินเจียนและทั้งศาสตราจารย์เกรเยอร์ก็ไม่ชอบเขา

พวกเขาคุยกันอยู่สักพักก่อนจะรีบกลับไปสนใจการทดลอง

ศาสตราจารย์เกรเยอร์ได้ยินว่าลู่โจวสนใจแล็บของเขา ดังนั้นเขาจึงตบไปที่คอมพิวเตอร์แล้วพูดด้วยท่าทางชัดเจน

“CERN ไม่ใช่แค่เป็นเครื่องชนอนุภาคแฮดรอนที่ใหญ่ที่สุดของโลกเท่านั้น เรายังมีระบบคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดในโลกเช่นกัน TCG เพื่อคำนวณการทดลองของเรา สิ่งนี้จะทำให้เราสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์หลายแสนเครื่องจากทั่วโลก คอมพิวเตอร์ ATLAS จะใช้เพื่อสรุปข้อมูลและส่วนใหญ่จะรับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลจากเครื่องตรวจจับ…”

“…จากคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ เธอจะได้เห็นวิถีการชนกันของอนุภาคโปรตอน แน่นอนนี่เป็นเพียงแบบจำลอง แต่เหตุการณ์จริงก็ไม่ได้แตกต่างกันนัก”

ศาสตราจารย์เกรเยอร์เพิ่มอีกประโยคหนึ่ง

“ถ้าเธอสนใจฟิสิกส์ของอนุภาค เธอมาหาฉันได้ ฉันต้องการผู้ช่วยที่เก่งคณิตศาสตร์ การทำงานที่ CERN จะ…”

เหยียนซินเจวี๋ยพูดขัด “อย่าไปฟังเขา เขาทำงานที่นี่มาเป็นสิบปี ตีพิมพ์วิทยานิพนธ์นับร้อย แต่เขาก็ยังไม่สามารถเป็นผู้เขียนคนแรก ถ้าชื่อนายอยู่ในวิทยานิพนธ์ที่มีชื่อคนเขียนอีกเป็นพันๆ ใครจะไปสนใจนายกัน…”

ศาสตราจารย์เกรเยอร์มองเหยียนซินเจวี๋ยอย่างไม่พอใจ

อย่างไรก็ตามเหยียนซินเจวี๋ยแค่ยักไหล่แล้วกล่าวอย่างเฉยเมย “ขอโทษที่เปิดโปง แต่ผมปล่อยให้คุณหลอกเพื่อนผมไม่ได้”

ศาสตราจารย์เกรเยอร์กล่าวอย่างดื้อดึง “‘หลอก’หมายความว่าไง? ฉันแค่ให้คำแนะนำ!”

เห็นได้ชัดว่าทั้งสองสนิทกัน

อาจเป็นเพราะเหยียนซินเจวี๋ยเคยทำงานที่นี่มาก่อน

ต่อมาบทสนทนาของทั้งสองก็เริ่มน่าเบื่อ ดังนั้นลู่โจวจึงเลิกฟัง

ตอนนี้ลู่โจวกำลังสนใจข้อมูลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์

ทันใดนั้นเองลู่โจวก็เห็นโซนพลังงานบนแผนที่แล้วขมวดคิ้ว

เมื่อเหยียนซินเจวี๋ยสังเกตเห็นสีหน้าของลู่โจว เขาก็ถาม “มีอะไรเหรอ?”

ลู่โจวชี้ไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์

“คุณไม่คิดว่าข้อมูลในโซนพลังงานนี้มันดู…แปลกเล็กน้อยเหรอ?”

……………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด