เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน 287 นักกินผู้น่ากลัว

Now you are reading เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน Chapter 287 นักกินผู้น่ากลัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​ 287 นักกิน​ผู้​น่ากลัว​

ทันใดนั้น​ ผู้​แข็งแกร่ง​ของ​ปีศาจ​เผ่า​ต่าง ๆ​ พลัน​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ ท่าทาง​ของ​ทุกคน​เต็มไปด้วย​ความ​เหลือเชื่อ​

‘ผู้​ที่​เหนือกว่า​จักรพรรดิ​ ? ’

‘คน​ผู้​นั้น​จะมีตบะ​บารมี​ระดับ​ไหน​กัน​ ? ’

‘น่า​เหลือเชื่อ​ ! ’

‘ช่างน่า​เหลือเชื่อ​ยิ่งนัก​ ! ’

‘คาด​มิถึงว่า​จงหยวน​จะมีผู้​ที่​น่ากลัว​เช่นนี้​อยู่​ด้วย​ ! ’

‘ใช่แล้ว​’

‘บรรพบุรุษ​ของ​เผ่า​จิ้งจอก​วิญญาณ​ตน​นี้​ได้​เผยความลับ​ต่อหน้า​ปีศาจ​ทุก​ตน​ใน​เทือกเขา​แดน​ใต้​’

‘หรือว่า​นาง​เคย​พบ​ผู้​ที่​เหนือกว่า​จักรพรรดิ​ท่าน​นั้น​มาแล้ว​ ? ’

‘เป็นไป​มิได้​ ! ’

‘นาง​เป็น​ถึงผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​จ้าว​ปีศาจ​ มิมีโอกาส​ที่จะ​เข้าไป​ใน​จงหยวน​ได้​อย่าง​แน่นอน​’

คิดถึง​ตรงนี้​

“ถูซื่อ​ เจ้าอย่า​พูด​ให้​ทุกคน​ที่นี่​ตกใจ​ไป​หน่อย​เลย​”

บรรพบุรุษ​ของ​เผ่า​พยัคฆ์​ดำ​ เฮย​ฉางมู่ แสยะ​ยิ้ม​ออกมา​ ก่อน​จะลุกขึ้น​เอ่ย​ว่า​ “โลก​ใบ​นี้​เป็น​เพียง​โลก​ใบ​เล็ก​ ๆ จักรพรรดิ​ถือเป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​ที่สุด​แล้ว​”

“ผู้​ที่​เหนือกว่า​จักรพรรดิ​ จะมาอยู่​บน​โลก​ใบ​นี้​ได้​เยี่ยง​ไร​กัน​ ? ”

ทันทีที่​สิ้น​เสียง​ ผู้​แข็งแกร่ง​เผ่า​อื่น​ ๆ ก็​ลอบ​ถอนหายใจ​ออกมา​ ก่อน​จะพุ่ง​เป้า​ไป​ที่​ถูซื่อ​

“จ้าว​ปีศาจ​ฉางมู่พูด​ถูก​ ข้า​ว่า​ทั้งหมด​นี้​ก็​เป็น​เพียง​คำพูด​ไร้สาระ​ก็​เท่านั้น​”

“จริง​ด้วย​ จ้าว​ปีศาจ​ถูซื่อ​ เหตุใด​ต้อง​ดูถูก​ความสามารถ​ของ​ตนเอง​ด้วย​เล่า​ หรือว่า​เผ่า​จิ้งจอก​วิญญาณ​ของ​เจ้าลักลอบ​คบค้าสมาคม​กับ​พวก​มนุษย์​จริง ๆ​ งั้น​หรือ​ ? ”

“จ้าว​ปีศาจ​ถูซื่อ​ เจ้าควร​ไตร่ตรอง​ให้​ดี​นะ​ หาก​เผ่า​จิ้งจอก​วิญญาณ​ของ​เจ้ากล้า​หักหลัง​พวกเรา​ชาว​เทือกเขา​แดน​ใต้​ เชื่อ​ว่า​ทุกคน​ที่นั่ง​อยู่​ใน​ที่นี่​พร้อม​จะไป​กวาดล้าง​ชิงชิว​ภายใน​คืนนี้​อย่าง​แน่นอน​”

“บัดนี้​ความจริง​เห็นได้ชัด​ว่า​ถูซื่อ​ก็​แค่​ต้องการ​ถ่วงเวลา​พวกเรา​เอาไว้​ ให้​พวก​มนุษย์​เอาชนะ​ฝ่าย​มาร​ทาง​แดน​เหนือ​ได้​ จากนั้น​ก็​จะมีเวลา​ตั้ง​รับ​และ​ค่อย​ปะทะ​กับ​พวกเรา​อีกที​น่ะ​สิ ! ”

“ถูซื่อ​ คิด​มิถึงว่า​เผ่า​จิ้งจอก​วิญญาณ​ของ​เจ้าจะต่ำช้า​เช่นนี้​”

“……”

“……”

ขณะเดียวกัน​ ระหว่าง​ที่​ถูซื่อ​รวมทั้ง​เผ่า​จิ้งจอก​วิญญาณ​ของ​นาง​กำลัง​ถูก​ผู้​แข็งแกร่ง​จาก​เผ่า​ต่าง ๆ​ โจมตี​ด้วย​วาจา​อยู่​นั้น​

ชิว​หลง​ที่นั่ง​อยู่​ด้านหน้า​สุด​ก็​ขมวดคิ้ว​ขึ้น​เล็กน้อย​ ดวงตา​มีประกาย​ความ​สับสน​บางอย่าง​วาบ​ผ่าน​

“น้อง​ชิว​หลง​ เจ้าชำนาญ​เรื่อง​การ​ทำนาย​ เจ้าคิด​ว่าที่​ถูซื่อ​พูด​มาเป็น​ความจริง​หรือไม่​ ? ”

ผู้เฒ่า​หลัง​ค่อม​ที่นั่ง​อยู่​ชั้น​บนสุด​มอง​สีหน้า​เคร่งขรึม​ของ​ถูซื่อ​ พลาง​เพ่ง​กระแสจิต​เอ่ย​ถามขึ้น​

ชิว​หลง​นิ่งเงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​ ก่อน​จะพยักหน้า​น้อย​ ๆ แล้ว​ตอบกลับ​ว่า​ “เรื่อง​นี้​ช่างแปลก​ยิ่งนัก​”

“ตอนนั้น​ร่าง​แยก​ของ​ถูซื่อ​ได้​เข้าไป​ใน​จงหยวน​อยู่​ครา​หนึ่ง​ หลังจากนั้น​นาง​ก็ได้​นำ​เรื่อง​ที่​ได้​พบเห็น​ มารายงาน​ให้​ข้า​ทราบ​ทั้งหมด​”

เอ่ยถึง​ตรงนี้​สีหน้า​ของ​ชิว​หลง​ก็​เริ่ม​เคร่งเครียด​ขึ้น​ ก่อน​เอ่ย​ต่อว่า​ “จากนั้น​ข้า​ก็ได้​ใช้เคล็ด​การ​ทำนาย​คน​ผู้​นี้​ดู​ แต่​คาด​มิถึงว่า​ทั้ง​ด้านหน้า​และ​ด้านหลัง​ของ​คน​ผู้​นี้​กลับ​เลือนลาง​ไป​หมด​ มิหนำซ้ำ​ตัว​ข้า​เอง​ยัง​ถูก​ครอบงำ​โดย​มิรู้ตัว​อีกด้วย​”

ผู้เฒ่า​หลัง​ค่อม​พยักหน้า​ แล้ว​เพ่ง​กระแสจิต​อีกครั้ง​ “หาก​เป็น​เช่นนี้​จริง​ ก็​อาจจะ​เป็นไปได้​”

ตอนนั้น​เอง​บุรุษ​วัยกลางคน​ท่าทาง​สง่างามก็​ยก​ยิ้ม​มีเลศนัย​ขึ้น​ แล้ว​ส่งกระแสจิต​เอ่ย​แทรก​ขึ้น​ว่า​ “ข้า​มองว่า​ต่อให้​จงหยวน​จะมีผู้​ที่​แข็งแกร่ง​เช่นนั้น​อยู่​จริง​ หาก​เขา​ยื่นมือ​เข้ามา​ยุ่ง​กับ​ศึก​ทางโลก​ใน​ครา​นี้​ จะต้อง​ได้รับ​ผลกรรม​ไป​ด้วย​อย่าง​แน่นอน​”

“อีก​ทั้ง​ที่นี่​ยัง​เป็น​เพียง​โลก​ใบ​เล็ก​ ๆ หาก​ผู้​ที่​เหนือกว่า​จักรพรรดิ​เช่นนั้น​ กล้า​ลงมือ​ย่อม​ต้อง​ประสบ​วิถี​ฟ้าครอบงำ​”

“เช่นนั้น​ข้า​มองว่า​เขา​มิเพียง​จะมิยื่นมือ​เข้ามา​ยุ่ง​เรื่อง​เทือกเขา​แดน​ใต้​แล้ว​ คง​มิกล้า​ยื่นมือ​เข้าไป​ยุ่ง​เรื่อง​ระหว่าง​จงหยวน​และ​ดินแดน​ร้าง​ทางเหนือ​อีกด้วย​”

สตรี​รูปร่าง​อวน​อั๋น​ที่นั่ง​ถัดไป​จาก​บุรุษ​วัยกลางคน​ท่าทาง​สง่างาม พยักหน้า​เห็นด้วย​พร้อม​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​นุ่มนวล​ว่า​ “ไป๋​จื่อ​พูด​ถูก​ หาก​เขา​เป็น​ผู้​ที่​เหนือกว่า​จักรพรรดิ​จริง​ ย่อม​มิมีทาง​เอา​ตัวเอง​เข้ามา​แปดเปื้อน​กับ​ผลกรรม​เช่นนี้​แน่นอน​”

“อีก​ทั้ง​ต่อให้​เขา​ยื่นมือ​เข้ามา​จริง​ ย่อม​ถูก​วิถี​ฟ้าของ​โลก​ใบ​นี้​จำกัด​เอาไว้​ ส่วน​การ​ถูก​ครอบงำ​นั้น​ก็​มิใช่ว่า​จะเป็นไป​มิได้​”

ทันทีที่​เอ่ย​จบ​ ถูซื่อ​ที่​ถูก​ปีศาจ​เผ่า​ต่าง ๆ​ เอ่ย​โจมตี​ต่าง ๆ​ นานา​ ก็​หันไป​มอง​ทาง​เฮย​ฉางมู่

“เฮย​ฉางมู่ ใน​เมื่อ​เจ้าเอ่ย​เช่นนี้​ ข้า​ก็​อยาก​จะถามเจ้าเช่นกัน​”

ดวงตา​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​ถูซื่อ​เปล่งประกาย​เย็นชา​จน​น่า​หวั่นเกรง​ออกมา​ พร้อม​คำราม​ก้อง​ว่า​ “เช่นนั้น​เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​หก​ปีก่อน​ เฮย​ฉางห​ลิง​ตาย​เช่นไร​กัน​แน่​ ? ”

“ถูก​ผู้ใด​สังหาร​กัน​ ? ”

“ห๊ะ​ ! ”

ทันทีที่​ถูซื่อ​เอ่ย​ถามออกมา​

ทุกคน​ต่าง​ก็​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ พร้อมกับ​หันไป​มอง​ทาง​เฮย​ฉางมู่ที่​มีร่างกาย​กำยำ​ แต่กลับ​มีสีหน้าเขียว​คล้ำ​

มินาน​ เมื่อ​เห็น​เฮย​ฉางมู่ถึงกับ​พูด​มิออก​

“เจ้ามิรู้​ แต่​ข้า​รู้​ ! ”

ถูซื่อ​ก็ได้​เอ่ย​ประโยค​ที่​ทำให้​ทุกคน​ต้อง​ตกใจ​จน​แทบ​หล่น​จาก​เก้าอี้​ ด้วย​สีหน้า​เย็นชา​ “เฮย​ฉางห​ลิง​หา​ได้​ตาย​ด้วย​น้ำมือ​ของ​ผู้อาวุโส​ท่าน​นั้น​ไม่ หาก​แต่​เป็น​เพียง​คนรับใช้​ผู้​หนึ่ง​ของ​เขา​เท่านั้น​ มิหนำซ้ำ​ยัง​ถูก​สังหาร​ภายใน​พริบตา​อีกด้วย​”

“ส่วน​สาเหตุ​ที่​แท้จริง​ที่​เขา​สังหาร​เหย​ฉางห​ลิง​นั้น​เพียง​เพราะ​ผู้อาวุโส​ท่าน​นั้น​อยาก​กิน​เนื้อ​เสือดำ​ หา​ใช่เป็น​เพราะ​เฮย​ฉางห​ลิง​บุกเข้าไป​ใน​จงหยวน​ไม่”

ความจริง​แล้ว​เรื่อง​ที่​ผู้อาวุโส​เย่​ท่าน​นั้น​กิน​ร่าง​เดิม​ของ​เฮย​ฉางห​ลิง​ ถูซื่อ​เอง​ก็​เพิ่งจะ​ทราบ​จาก​ปาก​ของ​ถูสือ​ซาน​ใน​ภายหลัง​เช่นกัน​

แน่นอน​ว่า​นี่​เป็น​เพียง​การ​คาดเดา​ของ​ถูสือ​ซาน​เท่านั้น​

สาเหตุ​ก็​เพราะ​ผู้อาวุโส​เย่​ท่าน​นั้น​ชอบ​นำ​เนื้อ​เสือดำ​มาต้อน​รับแขก​

ส่วน​เหตุผล​ที่​ถูซื่อ​เอ่ย​เรื่อง​นี้​ออกมา​ก็​เพราะ​

นาง​ถูก​เฮย​ฉางมู่ไล่ต้อน​จน​หมดหนทาง​แล้ว​นั่นเอง​

ทันใดนั้น​ภายใน​ตำหนัก​หิน​อัน​กว้างใหญ่​ ก็​ตก​อยู่​ใน​ความ​เงียบสงัด​ราวกับ​ไร้​ซึ่งผู้คน​อีกครั้ง​

ส่วน​ผู้​แข็งแกร่ง​จาก​เผ่า​ต่าง ๆ​ เวลานี้​ต่าง​ก็​มองหน้า​กัน​ด้วย​สีหน้า​เคร่งเครียด​

ซึ่งเหตุผล​หลัก​ ๆ ที่​พวกเขา​ต้องการ​เข้าไป​ใน​จงหยวน​ก็​คือ​

เพียง​เพื่อ​ต้องการ​หา​ของ​ที่​ใช้ใน​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ รวมทั้ง​สืบหา​โบราณ​สถานที่​เหล่า​บรรพบุรุษ​ทิ้ง​เอาไว้​ มิแน่​อาจจะ​ได้รับ​การ​ถ่ายทอด​อะไร​บางอย่าง​จาก​สมัย​บรรพกาล​ และ​ทำให้เกิด​การ​บรรลุ​อีกครั้ง​ก็​เป็นได้​

ทว่า​บัดนี้​จงหยวน​กลับ​มีนักกิน​ผู้​น่ากลัว​เช่นนี้​เร้น​กาย​อยู่​

ใช่แล้ว​ !

เป็น​นักกิน​ผู้​น่ากลัว​จริง ๆ​ !

แม้แต่​ผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​จ้าว​ปีศาจ​แค่​อยาก​กิน​ก็​จะต้อง​กิน​ให้ได้​ อีก​ทั้ง​ผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​จ้าว​ปีศาจ​ยัง​ถูก​สังหาร​ภายใน​พริบตา​ ด้วย​น้ำมือ​ของ​คนรับใช้​ผู้​หนึ่ง​เท่านั้น​

พวกเขา​รู้ดี​ว่า​

ต่อหน้า​คน​ผู้​นั้น​ ต่อให้​มีผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​จ้าว​ปีศาจ​มากมาย​กว่า​นี้​ ก็​เปล่าประโยชน์​

และ​กว่า​ที่​พวกเขา​สามารถ​มีตบะ​บารมี​เช่น​ทุกวันนี้​ได้​ ต้อง​ประสบ​กับ​ความยากลำบาก​มากมาย​เพียงใด​

บัดนี้​จักรพรรดิ​มาร​ตน​นั้น​ออกมา​โลก​ภายนอก​ได้​แล้ว​ สงคราม​ระหว่าง​จงหยวน​และ​ดินแดน​รกร้าง​ทางเหนือ​จะต้อง​เปิดฉาก​ขึ้น​ใน​เร็ว ๆ นี้​อย่าง​แน่นอน​

และ​การ​ที่​ปีศาจ​เผ่า​ต่าง ๆ​ ต้องการ​จะบุก​เข้า​ทางใต้​ของ​จงหยวน​ เชื่อ​ว่า​คง​มิได้​ลำบาก​เกินไป​นัก​

แต่​เข้า​โจมตี​จงหยวน​ได้​ แล้ว​เยี่ยง​ไร​เล่า​ ?

หาก​วันใดวันหนึ่ง​ผู้​ที่​เหนือกว่า​จักรพรรดิ​ท่า​นั้น​เกิด​เบื่อ​ขึ้น​มา อยาก​จะลอง​ชิมรสชาติ​ของ​จ้าว​ปีศาจ​ตน​ใด​ขึ้น​มาอีก​

เช่นนั้น​จ้าว​ปีศาจ​มิตน​ใด​ก็​ตน​หนึ่ง​ที่นั่ง​อยู่​ใน​ที่นี่​ มิเท่ากับ​ต้อง​กลายเป็น​อาหาร​อัน​โอชะ​เข้า​สักวัน​หรอก​หรือ​ ?

ป่าเถื่อน​ !

ช่างป่าเถื่อน​ยิ่งนัก​ !

เช่นนี้​ต่อให้​บุก​เข้า​จงหยวน​ได้​ ทว่า​ใน​ทุก ๆ​ วัน​ต้อง​อยู่​อย่าง​อกสั่นขวัญแขวน​ มิสู้อยู่​ใน​เทือกเขา​แดน​ใต้​อย่าง​สงบสุข​ต่อไป​ยัง​จะดี​เสีย​กว่า​

คิดถึง​ตรงนี้​ ผู้​แข็งแกร่ง​จาก​เผ่า​ต่าง ๆ​ ก็​มีสีหน้า​ลังเล​ขึ้น​มาอย่า​งอด​มิได้​

มินาน​จ้าว​ปีศาจ​วานร​ที่​ก่อนหน้านี้​ร้อง​ตะโกน​ว่า​จะเป็น​ทัพหน้า​ให้​ก็ได้​ลุกขึ้น​ยืน​ พลาง​ส่งยิ้มแห้ง​ ๆ ออกมา​ “ทุกท่าน​ ข้า​คิด​ว่า​พวกเรา​อยู่​ที่​เทือกเขา​แดน​ใต้​ก็​มิเลว​เหมือนกัน​ ที่นี่​มีทิวทัศน์​ที่​งดงาม​ เหมาะ​แก่​การ​ใช้ชีวิต​ยาม​ชรา​มาก​ทีเดียว​”

ทันทีที่​สิ้น​เสียง​ ก็​มีเสียง​อีก​มากมาย​เอ่ย​สนับสนุน​ในทำนองเดียวกัน​

“จ้าว​ปีศาจ​วานร​พูด​มามีเหตุผล​ ข้า​คิด​ว่า​อากาศ​ใน​จงหยวน​จะต้อง​มิบริสุทธิ์​เท่า​อากาศ​ใน​เทือกเขา​แดน​ใต้​ของ​เรา​อย่าง​แน่นอน​”

“ก่อนหน้านี้​ข้า​เคย​บอก​แล้ว​ว่า​ แม้พวกเรา​จะเป็น​ปีศาจ​แต่​ก็​ต้องการ​ความสงบ​ พวกเรา​จึงจะก้าว​ไป​ได้​ไกล​ วัน ๆ​ เอาแต่​เข่นฆ่า​กัน​ ช่างไร้​อารยธรรม​สิ้นดี​”

“ท่าน​พี่​ท่าน​นี้​พูด​ได้​ถูกต้อง​แล้ว​ ข้า​เอง​ก็​สัมผัส​ได้​ว่า​อีก​แสน​ปี​ข้า​ก็​จะถึงเวลา​จำกัด​ของ​ข้า​แล้ว​ หาก​เทียบ​กับ​การ​ต้อง​บุก​เข้า​จงหยวน​ มิสู้นั่ง​ตกปลา​อยู่​ที่​เทือกเขา​แดน​ใต้​ยัง​จะมีความสุข​เสีย​กว่า​”

ตอนนั้น​เอง​

“เปรี้ยง​ ! ”

พลัง​อัน​น่าสะพรึงกลัว​พลัน​พวยพุ่ง​ออกมา​ ก่อน​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​ทั้ง​ตำหนัก​หิน​

บุรุษ​วัยกลางคน​ผู้​สวม​ชุด​บัณฑิต​ที่นั่ง​อยู่​ด้านหน้า​สุด​ได้​ลุกขึ้น​ยืน​ พลัง​ปราณ​ปะทุ​อยู่​รอบกาย​ พร้อมทั้ง​ปล่อย​ไอ​พลัง​อัน​น่ากลัว​ออกมา​

“จ้าว​ปีศาจ​ถูซื่อ​ ใน​เมื่อ​เผ่า​จิ้งจอก​วิญญาณ​ของ​พวก​เจ้าต้องการ​ที่จะ​อยู่​ที่​เทือกเขา​แดน​ใต้​ เช่นนั้น​ก็​จงอยู่​ที่​เทือกเขา​แดน​ใต้​ไป​ให้​ตลอด​ล่ะ​”

บุรุษ​วัยกลางคน​ที่​สวม​ชุด​บัณฑิต​เอ่ย​ด้วย​ท่าทาง​เย็นชา​และ​น่าเกรงขาม​ ก่อน​จะกวาดตา​มอง​ถูซื่อ​เล็กน้อย​ “แต่​เผ่า​ที่​เหลือ​พรุ่งนี้​ให้​มารวมตัว​กันที่​ชายแดน​ทางใต้​ของ​จงหยวน​”

“และ​ข้า​ขอ​บอก​พวก​เจ้าไว้​ก่อน​นะ​ว่า​ เป็นไปได้​ว่า​จงหยวน​อาจจะ​มีผู้​ที่​เหนือกว่า​จักรพรรดิ​อยู่​จริง ๆ​ แต่​ศึก​ใหญ่​เช่นนี้​ผู้​ที่อยู่​ใน​ระดับ​นั้น​ หาก​ยื่นมือ​เข้ามา​ยุ่ง​จริง ๆ​ ย่อม​ได้รับ​ผลกรรม​อย่าง​แน่นอน​”

“ยิ่งไปกว่านั้น​ เยี่ยง​ไร​เสีย​โลก​ใบ​นี้​ก็​เป็น​เพียง​โลก​ใบ​เล็ก​ ๆ หาก​เขา​ลงมือ​จริง​ย่อม​ถูก​วิถี​ฟ้าจัดการ​ และ​ประสบ​วิถี​ฟ้าครอบงำ​อย่าง​แน่นอน​”

เอ่ยถึง​ตรงนี้​บุรุษ​วัยกลางคน​ที่​สวม​ชุด​บัณฑิต​ก็​ระเบิด​ไอ​สังหาร​อัน​น่าสะพรึงกลัว​ออกมา​ พร้อมกับ​เอ่ย​เสียง​เข้ม​ “จงหยวน​มีสิ่งที่​บรรพบุรุษ​เผ่า​ปีศาจ​ของ​พวกเรา​หลงเหลือ​เอาไว้​มากมาย​ หาก​พวก​เจ้าต้องการ​ที่จะ​ก้าว​ขึ้น​สู่ระดับ​ที่สูง​กว่า​ อยาก​ที่จะ​บรรลุ​เป็น​เซียน​ ก็​จำเป็น​จะต้อง​อาศัย​สิ่งที่​เหล่า​บรรพบุรุษ​หลงเหลือ​เอาไว้​”

“อีก​อย่าง​หาก​มีเผ่า​ใด​อยาก​ที่จะ​อยู่​เทือกเขา​แดน​ใต้​ต่อ​ ก็​เท่ากับ​เป็นการ​หักหลัง​พวกพ้อง​ เรื่อง​นี้​หมายความ​เช่นไร​ข้า​คง​มิต้อง​บอก​กระมัง​”

เอ่ย​จบ​บุรุษ​วัยกลางคน​ที่​สวม​ชุด​บัณฑิต​ก็​เพ่ง​กระแสจิต​ออก​ไป​ “จ้าว​ปีศาจ​ถูซื่อ​ นับแต่​นี้​ต่อไป​ข้า​ขอ​สั่งห้าม​เจ้ามิให้​ออกจาก​ชิงชิว​แม้แต่​ครึ่ง​ก้าว​ คน​ของ​เผ่า​จิ้งจอก​วิญญาณ​ของ​เจ้าก็​ห้าม​ก้าว​เข้าไป​ใน​จงหยวน​ มิเช่นนั้น​ข้า​จะทำลาย​เผ่า​ของ​เจ้าเสีย​ด้วย​น้ำมือ​ข้า​เอง​”

ถูซื่อ​จ้องเขม็ง​ไป​ยัง​บุรุษ​วัยกลางคน​ที่​สวม​ชุด​บัณฑิต​

นาง​แค่น​หัวเราะ​อยู่​ใน​ใจ ‘รอ​ให้​ถูสือ​ซาน​ได้​เป็น​จักรพรรดิ​ของ​เผ่า​ปีศาจ​เมื่อใด​ ข้า​จะดู​สิว่า​เจ้าจะทำลาย​เผ่า​จิ้งจอก​วิญญาณ​ของ​ข้า​ได้​อย่าง​ที่​พูด​หรือไม่​’

คิด​แล้ว​ถูซื่อ​ก็​หันไป​เหลือบมอง​ถูซาน​เหยา​ที่อยู่​ทาง​ด้านหลัง​ ก่อน​จะหมุนตัว​เดิน​ออกจาก​ตำหนัก​หิน​ในทันที​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด