ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 966 ถอยไม่ได้ + 967 เหมือนตายไปแล้ว

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 966 ถอยไม่ได้ + 967 เหมือนตายไปแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 966 ถอยไม่ได้

จ้าวเสวียหลินได้ฟังคำบรรยารูปลักษณ์ของแขกที่มา ก็เดาได้ง่าเป็นเฮ่อเหลียนเช่อที่จับตัวเหมยเหมยไป ในใจก็ร้อนรุ่ม ไหนเลยยังจะมีกะจิตกะใจมาสนใจร้านอาหารอีก เหลือแค่เพียงจ้าวเสวียไห่ไว้เพื่อควบคุมสถานการณ์โดยรวม คนอื่น ๆ ต่างก็กลับบ้านเพื่อไปขอความช่วยเหลือจากคุณปู่

ตอนบ่ายคุณปู่ไม่ได้ออกไปไหน ช่วงนี้เขาพยายามที่จะออกจากบ้านให้น้อยลง ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่บ้านเพื่อจับตาเฝ้าดูคุณย่าเอาไว้!

“คุณปู่ เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแล้ว……”

จ้าวเสวียกงวิ่งเร็วที่สุด เป็นคนแรกที่พุ่งเข้าไปในห้อง ทำเอาคุณปู่ตกใจยกใหญ่ เขาเล่าเรื่องที่เฮ่อเหลียนเช่อจับตัวเหมยเหมยไปอย่างติด ๆ ขัด ๆ   พอได้ฟังคุณปู่ก็โมโหเดือดดาลขึ้นมาทันที

“เจ้าเวรนี่กล้ามากขนาดนี้เลยเหรอ กลางวันแสก ๆ ยังกล้าจับตัวหลานสาวฉันไป…….

จ้าวเสวียเอ๋อร์รีบห้ามคุณปู่ที่โมโหจนจะพุ่งตัวไปชำระแค้นกับเฮ่อเหลียนเช่อด้วยตัวเอง พูดอย่างใจเย็นว่า “คุณปู่ไปบอกนายใหญ่ก่อนจะดีกว่า เรื่องตามหาเหมยเหมยเป็นหน้าที่พวกผมเอง”

คุณปู่ก็ได้สติคืนมา รีบร้อนโทรศัพท์รายงานเรื่องนี้กับนายใหญ่ ขณะที่คุยโทรศัพท์ก็ร้องห่มร้องไห้ขี้มูกน้ำตาไหล เอาเฮ่อเหลียนเช่อไปด่าทอว่าไม่เห็นใครอยู่ในสายตาอย่างไร  แล้วก็พูดว่าตัวเองน่าสงสารขนาดไหน

แน่นอนว่านายใหญ่ก็โมโหมากเหมือนกัน ขนาดกลางวันแสก ๆ ยังกล้าฉุดหลานสาวตระกูลจ้าวไป  เฮ่อเหลียนเช่อคนนี้ช่างไม่มีขื่อไม่มีแปเลยจริงๆ คิดว่าเมืองหลวงเป็นของตระกูลมันหรือไง?

นายใหญ่ที่โมโหเดือดดาลก็โทรหาหนิงเฉินเซวียน……

คนของเฮ่อเหลียนชิงที่อยู่ภายใต้การบัญชาของเสี่ยวเมิ้งก็รีบเร่งมุ่งหน้ากันไปทางบ้านของเฮ่อเหลียนเช่อ ในเวลาเดียวกันหนิงเฉินเซวียนก็พาคนไปด้วยตัวเองเหมือนกัน

หนิงเฉินเซวียนรูปร่างผอมสูง หน้าตาคล้ายกับเฮ่อเหลียนชิงอยู่หลายส่วน เพียงแต่มองแล้วไม่มีสีหน้าหม่นหมองเท่าหลานชายขนาดนั้น รู้สึกเหมือนเป็นสุภาพบุรุษที่อ่อนโยนสง่างามคนหนึ่ง ดูน่าคบหา

แต่คนที่สนิทคุ้นเคยกับเขาจะรู้กันหมดว่าหัวใจของหนิงเฉินเซวียน โหดเหี้ยมกว่าเฮ่อเหลียนเช่ออยู่เยอะมาก!

ทางด้านบนเฮ่อเหลียนเช่อที่โดนเหมยซูหานดึงเอาไว้อย่างเอาเป็นเอาตายนั้นก็ยิ่งทำให้เฮ่อเหลียนเช่อยิ่งโมโหมากกว่าเดิมไม่ใจอ่อนต่อเหมยซูหานอีกต่อไป ฟาดแส้ใส่เขาอยู่หลายต่อหลายครั้ง เลือดสดไหลรินลงมา แต่ยังไงเหมยซูหานก็ไม่ยอมปล่อยมือ

“ปล่อยนะ ถ้ายังไม่ปล่อยมืออีกฉันจะฆ่านายก่อน!”

ความเหี้ยมโหดภายในร่างกายของเฮ่อเหลียนเช่อใกล้จะควบคุมไว้ไม่ได้แล้ว เวลานี้เขาคิดแต่อยากจะฆ่าคน ไม่มีอะไรที่จะทำให้เขามีความสุขเท่าฆ่าคนอีกแล้ว

แต่เขาก็ยังมีสติรับรู้อยู่ว่าห้ามฆ่าเหมยซูหาน ถ้าฆ่าคนๆนี้ เขาจะต้องเสียใจในภายหลังแน่!

“อาเช่อ สงบสติอารมณ์ลงมาก่อน คุณฟังผมพูดก่อน……”

เหมยซูหานก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเฮ่อเหลียนเช่อที่เหมือนราวกับปีศาจ เขาพยายามเรียกคืนสติของเฮ่อเหลียนเช่อ

สีหน้าท่าทางของเฮ่อเหลียนเช่อนิ่งลงเล็กน้อยไปชั่วขณะ  สายตาได้สติขึ้นมาอยู่บ้าง แต่ก็ดุร้ายขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว มองเหมยซูหานด้วยสายตากระหายเลือด ถีบเขาออกไปไกลๆ หันไปยิ้มอย่างเย็นชาใส่เหมยเหมยเดินเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

ยิ่งเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ……

เหมยเหมยสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายความตาย เธอถอยจนสุดแล้ว แต่ด้านหลังเป็นหน้าต่างถอยไม่ได้อีกแล้ว……

ตอนที่ระยะห่างของเธอและเฮ่อเหลียนเช่อไม่ถึงหนึ่งเมตร เหมยเหมยก็กัดฟัน เตรียมชนกระจกหน้าต่างเพื่อกระโดดลงไป อย่างไรเสียก็ห้ามตายภายใต้เงื้อมือของคนจิตวิปริตเฮ่อเหลียนเช่อได้

ด้านล่างเป็นสวนดอกไม้ อีกทั้งยังเป็นแค่ชั้นเดียว กระโดดลงไปคงจะไม่ถึงตาย มากที่สุดก็คงจะแขนหักขาหักแหละ!

เฮ่อเหลียนเช่อมองออกถึงแผนการของเหมยเหมย ก็ยิ้มออกมา รอยยิ้มดูกระหายเลือดและชอบใจมาก

“คิดจะกระโดดลงไป? แกลองชนดูสิ กระจกของฉันกันกระสุนได้ ถ้าแกมีความสามารถชนแตกได้ ฉันจะไว้ชีวิตชั่วๆของแก!”

เหมยเหมยไม่เชื่อคำพูดของเขา จึงกระแทกชนไปอย่างแรง กระแทกจนเวียนหัวมึนงงไปหมด แต่กระจกกลับไม่เป็นรอยเลยสักนิด  ใจเธอจึงหล่นไปถึงตาตุ่มทันที!

…………………………………………..

ตอนที่ 967 เหมือนตายไปแล้ว

เหมยซูหานก็มองออกว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะเอาเหมยเหมยถึงตาย เขาทนความเจ็บปวดไว้แล้วพุ่งตัวเข้าหาเฮ่อเหลียนเช่อ กอดเขาเอาไว้แน่น หันไปร้องตะโกนใส่เหมยเหมยบอกให้เธอรีบหนีไป!

เหมยเหมยตกตะลึง รีบวิ่งไปทางประตู เธอไม่มีเวลาจะไปสนใจว่าเหมยซูหานจะเป็นหรือตายแล้ว!

อีกอย่างนับว่าเธอมองออกว่าเฮ่อเหลียนเช่อตัดใจฆ่าเหมยซูหานไม่ลง อย่างมากก็ฟาดแส้ไปไม่กี่ที ให้เลือดออกนิดหน่อยก็เท่านั้น และคงทะนุถนอมเขาไม่กล้าตีอีกต่อไป!

แต่เธอไม่เหมือนกัน ถ้าไม่หนีคงตายจริงๆแน่!

แต่เธอเพิ่งจะวิ่งถึงหน้าประตู ร่างของเธอก็โดนแส้หนังรัดรั้งตัวเอาไว้ แล้วกระแทกลงที่พื้นอย่างแรง เจ็บจนเธอเกือบหยุดหายใจ!

……

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เสี่ยวเมิ้งและหนิงเฉินเซวียนก็มาถึงบ้านคฤหาสน์ในเวลาเดียวกัน ลูกน้องของเฮ่อเหลียนเช่ออยู่ที่ด้านล่างทั้งหมด เห็นปีศาจดาวร้ายสองคนนี้ แม้กระทั่งถามก็ยังไม่ต้องถาม รีบบอกสถานที่กักขังของเหมยเหมยไปด้วยตัวเอง

“หากมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณหนูจ้าว ฉันอยากเห็นว่าคุณชายหนิงจะสารภาพกับนายใหญ่อย่างไร?”

เสี่ยวเมิ้งพูดเหน็บแนม เขาภักดีต่อเฮ่อเหลียนชิง สำหรับโอกาสใดๆที่สามารถโจมตีหลานชายของหนิงเฉิน เขาจะไม่ปล่อยมันไป

หนิงเฉินเซวียนมองไปที่เสี่ยวเมิ้งอย่างเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “นี่เป็นเรื่องระหว่างฉันกับนายใหญ่ ยังไม่ถึงคราวหมาอย่างแกต้องมาสอด!”

เสี่ยวเมิ้งก็ไม่ได้โมโห ยิ้มพร้อมกับเหน็บแนมว่า “หมาก็ดีกว่าลูกชู้แล้วกัน!”

กลิ่นอายของหนิงเฉินเซวียนแข็งไปในชั่วขณะ ลูกน้องเฮ่อเหลียนเช่อที่อยู่ในห้องต่างก็ตัวสั่นกันไปหมด มองดูเจ้านายเก่าของเขาด้วยความหวาดกลัว แอบเกลียดเสี่ยวเมิ้งในใจที่พูดอะไรไม่พูดมาพูดเรื่องนี้ จะต้องแทงมีดมาจี้หัวใจของเจ้านายเก่าเขาให้ได้

“กลับไปบอกเฮ่อเหลียนชิง ตายเร็วจะได้เกิดเร็ว ตายตอนนี้ ฉันยังไม่เอาความกับแค้นเก่าในอดีต ให้เช่อเอ๋อร์ส่งเขาขึ้นเขา เพื่อจะได้ไม่ต้องโดดเดี่ยวและลำบากยากแค้นอีกในอนาคต ในฐานะที่เป็นเพื่อนกัน เห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ!”

หนิงเฉินเซวียนยิ้มอย่างเย็นชา คำพูดที่พูดออกมาจากปาก กลับแทงใจทุกๆคำ

เสี่ยวเมิ้งตอบกลับอย่างเหน็บแนม “เรื่องสารเลวแบบนี้คุณหนิงเก็บเอาไว้ใช้เองเถอะ นายท่านของผมอายุยืนเป็นร้อยปี ใครจะตายก่อนใครยังไม่รู้เลย!”

ทั้งสองคนต่างก็ไม่มีใครยอมใคร ลิ้นกับฟันพบกัน นายมาฉันไป สายตาที่มองมีไฟแห่งสงครามลุกโหมขึ้นแล้ว ลูกน้องของทั้งสองฝั่งก็อดไม่ได้ที่จะเตือนสติพวกเขา

รีบหยุดสงครามก่อนเถอะ ถ้ายังทะเลาะกันต่อไปอีกคุณหนูจ้าวคงจะจบเห่แน่!

เหมยเหมยยังไม่จบเห่ แต่ก็เหลือแค่ครึ่งชีวิตแล้วล่ะ เธอโดนเฮ่อเหลียนเช่อเล่นเหมือนแมวจับหนูก็ไม่ปาน ใช้แส้หนังรัดไว้แล้วก็ปล่อยโยนลงพื้น เหมือนทุบกระสอบทราย  ทุกครั้งที่โดนทุบก็เหมือนกับว่ากระดูกจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ

เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองโดนทุบไปแล้วกี่ครั้ง เพราะว่าพอถึงตอนท้ายเธอก็สลบไป ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วทั้งนั้น เพียงแต่กุมฉาฉาตรงข้อมือเอาไว้อย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อไม่ให้เจ้าตัวน้อยปรากฏตัวออกมา……

ภายใต้การนำทางของลูกน้องของเฮ่อเหลียนเช่อ เสี่ยวเมิ้งและหนิงเฉินเซวียนก็มาถึงห้องที่กักขังเหมยเหมยเอาไว้ แต่กลับเห็นเธอนิ่งเหมือนตายกองอยู่บนพื้นแล้ว  ทั้งสองคนตกใจยกใหญ่ ถ้าหากจ้าวเหมยตายไปจริงๆ เมืองหลวงคงถึงคราวเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว

“ไม่เป็นไร เพียงแค่สลบไปก็เท่านั้นเอง……”

มีคนเอามือไปอังที่จมูกของเหมยเหมย ร้องออกมาอย่างดีใจ ทั้งเสี่ยวเมิ้งและหนิงเฉินเซวียนต่างก็ถอนหายใจ ไม่ตายก็ดี

“เช่อเอ๋อร์ล่ะ?” หนิงเฉินเซวียนถามเสียงต่ำ สีหน้าเคร่งขรึมเห็นได้ชัดว่ากำลังโมโห

ถึงแม้ว่าจ้าวเหมยจะไม่ตาย แต่ทำจนมีสภาพกลายเป็นแบบนี้ เขาจะมีหน้าไปบอกกับนายใหญ่ว่ายังไง ใครใช้ให้เฮ่อเหลียนเช่อคนชั่วช้านี่   ลักพาตัวคนอื่นมาตอนกลางวันแสก ๆ  แล้วยังลักพาตัวมาอย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุอีก

ครั้งนี้นายใหญ่และจ้าวหวายซานจะต้องเอาเรื่องนี้มาเป็นเรื่องแน่ๆ เขาจะไม่โมโหได้อย่างไร?

ลูกน้องชี้ไปที่ห้องถัดไปด้วยความหวาดกลัว หนิงเฉินเซวียนเดินเข้าไปด้วยหน้าด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เตะเปิดประตูที่ปิดแน่นอยู่ไปทีหนึ่ง  ฉากที่อยู่ในห้องทำเอาทุกคนต้องรีบปิดตา

…………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด