เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]บทที่ 1781 ศพเจ้าของสุสาน

Now you are reading เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] Chapter บทที่ 1781 ศพเจ้าของสุสาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​ 1,781 ศพ​เจ้าของ​สุสาน​

นั่น​เป็น​เพราะ​การหลอม​โลหิต​พิสุทธิ์​แต่ละครั้ง​จำเป็นต้อง​ใช้เวลา​ และ​การ​เปิด​สุสาน​จันทรา​มิลืมเลือน​จะเกิดขึ้น​เพียง​ไม่นาน​นัก​ ใน​ระหว่าง​ที่​ยังอยู่​ใน​สุสาน​ หลิน​เป่ยเฉิน​จึงควร​รีบ​ทำเวลา​เพื่อ​ปล้น​สุสาน​จึงจะมีประโยชน์​มากกว่า​

ใช่แล้ว​!

หลิน​เป่ยเฉิน​มาที่นี่​เพื่อ​ปล้น​สุสาน​จริง ๆ​

เด็กหนุ่ม​ไม่ลืม​ทำตาม​พิธีกรรม​โบราณ​อย่าง​การนำ​เทียนไข​ และ​ ‘กีบ​ลา​ดำ​’*[1] ติดตัว​มาด้วย​ ใน​ส่วน​ของ​กีบ​ลา​ดำ​นั้น​หลิน​เป่ยเฉิน​เลือก​เอา​กีบ​ลา​ดำ​ที่​มีอายุ​ถึงห้า​ร้อย​ปี​มา แม้ว่า​นั่น​จะทำให้​เขา​เสียเงิน​ไป​ไม่น้อย​ก็ตาม​

เพียงเท่านี้​ เขา​ก็​ไม่ต้อง​กลัว​พวก​ผีดิบ​อีกแล้ว​

“ทีนี้​ เรา​มาหา​สิ่งของ​ที่​ล้ำค่า​ที่สุด​ใน​สุสาน​กัน​เลย​ดีกว่า​”

หลิน​เป่ยเฉิน​ป้อน​คำ​ค้นหา​เข้าไป​ใน​แอ​ป​ไป่​ตู้​ แมป​

คำ​ค้นหา​ของ​เขา​ก็​คือ​…

‘ศพเซี่ยเต๋อ​จี’!

ในไม่ช้า​ ผล​การ​ค้นหา​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​บน​หน้าจอ​

มัน​มีเส้นทาง​ให้​หลิน​เป่ยเฉิน​เลือก​หลาย​รูปแบบ​

ไม่ว่า​จะเป็น​เส้นทาง​ที่​รวดเร็ว​ที่สุด​ เส้นทาง​ที่​ปลอดภัย​ที่สุด​ ไป​จนถึง​เส้นทาง​ที่​ราคา​ถูก​ที่สุด​…

หืม?​

เส้นทาง​ที่​ราคา​ถูก​ที่สุด​อย่างนั้น​หรือ​?

หลิน​เป่ยเฉิน​รู้สึก​ชาดิก​ไป​ทั้งตัว​ อย่า​บอก​นะ​ว่า​เมื่อ​แอ​ป​ไป่​ตู้​ แมป​อัปเดต​ครั้งนี้​ มัน​จะคิดเงิน​เขา​ทุกครั้งที่​ใช้งาน​? แม้แต่​การคำนวณ​ระยะทาง​ก็​คิดเงิน​ด้วย​หรือ​?

หลังจาก​ชั่งใจอยู่​พักใหญ่​ และ​แน่ใจ​แล้ว​ว่า​ไม่มีเส้นทาง​ที่​ไม่ต้อง​เสียเงิน​ให้​ใช้งาน​ หลิน​เป่ยเฉิน​ก็​จำต้อง​จ่าย​ไป​ร้อย​ตำลึง​เงิน​ถ้วน​

นับว่า​เป็น​แอปพลิเคชัน​ที่​ผลาญ​เงิน​โดยแท้​

เมื่อ​เขา​เดิน​ออก​มาจาก​วิหาร​อาน​เซิน​ หลิน​เป่ยเฉิน​ก็​เดินตาม​การนำทาง​ของ​ลูกศร​ ซึ่งมุ่งตรง​ไป​ยัง​ทาง​ข้างหน้า​

เส้นทาง​ยังคง​คดเคี้ยว​วกวน​ สอง​ข้างทาง​เต็มไปด้วย​สิ่งปลูกสร้าง​มากมาย​ ซึ่งไม่ต่าง​กับ​การ​เดิน​อยู่​ใน​เขาวงกต​ แต่​สำหรับ​หลิน​เป่ยเฉิน​ เขา​ไม่มีวัน​หลงทาง​อยู่แล้ว​

แต่​เด็กหนุ่ม​กำลัง​เกิด​คำถาม​ขึ้น​ใน​ใจ

เขา​สงสัย​อยู่​สอง​ประเด็น​

ประเด็น​แรก​ เหตุ​ไฉน​พื้นที่​ใน​อาณาเขต​สุสาน​จันทรา​มิลืมเลือน​ถึงไม่ได้​มีการ​สร้าง​ค่าย​อาคม​ป้องกัน​เอาไว้​เลย​ แม้แต่​กลไก​สังหาร​หัวขโมย​ก็​ไม่มี ผีดิบ​ที่​ใช้เฝ้าสุสาน​ก็​ไม่เห็น​ บรรยากาศ​โดยรวม​ก็​เงียบสงบ​ ราวกับว่า​ทุกสิ่งทุกอย่าง​กำลัง​ตก​อยู่​ใน​ห้วง​ภวังค์​หลับ​ลึก​ก็​ไม่ปาน​

ประเด็น​ที่สอง​ หลิน​เป่ยเฉิน​แน่ใจ​ว่า​คณะ​สำรวจ​สุสาน​ใน​ครั้งนี้​มีผู้คน​จำนวน​ไม่น้อย​เข้ามา​ที่นี่​ แต่​ทำไม​เขา​ถึงไม่พบ​กับ​ผู้ใด​เลย​สัก​คน​ เป็นไปได้​อย่างไร​ที่​เมื่อ​ทุกคน​เข้ามา​อยู่​ใน​สุสาน​แล้วก็​จะหายตัว​ไป​ และ​พวกเขา​จะไม่บังเอิญ​เดิน​มาเจอกัน​บ้าง​เชียว​หรือ​?

แต่​หลิน​เป่ยเฉิน​ก็​ไม่ได้​สนใจ​มาก​นัก​

เพราะ​เขา​มีงาน​สำคัญ​ต้อง​รีบ​ทำให้​สำเร็จ​

ผ่าน​ไป​ชั่ว​ชงน้ำชา​หนึ่ง​ถ้วย​ หลิน​เป่ยเฉิน​ก็​เดิน​มาถึงตึกสูง​ซึ่งตั้งอยู่​ใจกลาง​สุสาน​จันทรา​มิลืมเลือน​

“เฮ้ย​… สุสาน​อะไร​มีตึก​ใหญ่​ขนาด​นี้​อยู่​ด้วย​วะ​เนี่ย​?”

หลิน​เป่ยเฉินอด​อุทาน​ออกมา​ไม่ได้​

นี่​คือ​การ​ออกแบบ​ ‘ตึก​แฝด​’ ชัด​ ๆ

ตึก​ที่อยู่​ทาง​ด้านหน้า​และ​ด้านหลัง​นั้น​มีส่วนสูง​เท่ากัน​เฉลี่ย​อยู่​ที่​ห้าสิบ​ชั้น​ พวก​มัน​เป็น​ตึก​สีแดง​ที่​ให้​บรรยากาศ​น่าเกรงขาม​ นับว่า​โดดเด่น​ไม่เหมือน​ผู้ใด​

“เอ่อ​ อย่า​บอก​นะ​ว่า​จะมีการ​สร้าง​สุสาน​ซ้อน​สุสาน​เอาไว้​จริง ๆ​ น่ะ​?”

หลิน​เป่ยเฉิน​ขมวดคิ้ว​อย่าง​ใช้ความคิด​

และ​ภายใต้​การนำทาง​ของ​แอ​ป​ไป่​ตู้​ แมป​ หลิน​เป่ยเฉิน​ก็​เดิน​เข้าไป​ใน​ตึก​ที่อยู่​ทาง​ด้านหน้า​และ​ไม่ได้​เดิน​ขึ้นไป​บน​ชั้นสอง​ทันที​ แต่​เขา​กลับ​ได้​พบ​กับ​ประตู​ลับ​ที่ซ่อน​อยู่​บน​พื้น​ทางเดิน​ชั้นแรก​ เมื่อ​เดินตาม​การนำทาง​ไป​เรื่อย ๆ​ เด็กหนุ่ม​ก็​ค้นพบ​ทาง​เข้าสู่​เฉลียง​ทางเดิน​ลับ​อย่าง​ง่ายดาย​

ทางเดิน​ลับ​มีความ​ยาว​ไม่ถึงครึ่ง​ลี้​ ข้าง​ซ้าย​และ​ข้าง​ขวา​เป็น​กำแพง​ตั้ง​สูง และ​ทุก ๆ​ การ​เดิน​สิบ​ก้าว​ หลิน​เป่ยเฉิน​ก็​จะต้อง​พบ​กับ​รูปปั้น​ของ​หญิงสาว​ตาบอด​หนึ่ง​ตัว​

เป็น​รูปปั้น​ที่​มีลักษณะ​เดียว​กับ​ที่​ตั้งอยู่​ด้านนอก​

หลิน​เป่ยเฉิน​เดินตาม​การนำทาง​ของ​โทรศัพท์มือถือ​ไป​ตาม​ทางเดิน​ลับ​ สอง​เท้า​ของ​เขา​ย่อง​ไป​บน​พื้น​หิน​ด้วย​ความระมัดระวัง​

เพราะ​บน​หน้าจอ​โทรศัพท์มือถือ​แจ้งเตือน​ว่า​ใน​ทางเดิน​ลับ​แห่ง​นี้​ มีบางสิ่งบางอย่าง​ที่​อาจ​เป็น​ภัย​คุกคาม​ต่อ​ชีวิต​ของ​หลิน​เป่ยเฉิน​ได้​

และ​จังหวะ​ที่​เขา​เดินผ่าน​ไป​ ส่วนหัว​ของ​รูปปั้น​หญิงสาว​ตาบอด​ที่​ตั้งอยู่​สอง​ข้างทาง​ก็​จะหัน​มอง​มาที่​เขา​อย่าง​ไม่ให้​คลาด​สายตา​

นี่​คือ​ภาพ​ที่​น่าขนลุก​และ​แปลกประหลาด​เป็น​อย่างยิ่ง​

แต่​หลิน​เป่ยเฉิน​ไม่รู้เรื่อง​เลย​สักนิด​!

เขา​เดิน​มาจน​สุด​ทางเดิน​และ​พบ​กับ​ประตู​ทองสัมฤทธิ์​บาน​ใหญ่​

ประตู​บาน​นี้​มีความสูง​เท่ากับ​คน​สิบ​คน​สามารถ​ต่อตัว​กัน​ขึ้นไป​ได้​

เหนือ​ประตู​ทองสัมฤทธิ์​บาน​นี้​ปรากฏ​เดือย​แหลม​สีขาว​ดำ​จำนวนมาก​ประดับ​อยู่​บน​นั้น​อย่าง​ไม่ทราบ​ความหมาย​ มองดู​แล้ว​ไม่ต่าง​จาก​ขน​ตา​ของ​ดวงตา​มนุษย์​

นอกจากนี้​ สอง​ฝั่งของ​บานประตู​ยัง​ปรากฏ​หมุด​ยึด​อีก​สามช่อง​เป็น​จำนวน​หก​แถว​ รวม​แล้วจึง​ได้​หมุด​ยึด​เป็น​จำนวน​ทั้งสิ้น​สามสิบ​หก​ตัว​

และ​บน​ประตู​ทั้ง​บาน​ทางซ้าย​และ​บาน​ทางขวา​ก็​ยังมี​ห่วง​เคาะ​ประตู​ที่​ทำ​ขึ้น​มาจาก​แร่​ทองคำ​ศักดิ์สิทธิ์​อีกด้วย​

ห่วง​เคาะ​ประตู​ทั้งสอง​ห่วง​นั้น​ถูก​หลอม​ขึ้น​มาเป็น​ลักษณะ​ของ​หัว​มังกร​กำลัง​อ้า​ปาก​

แอ​ป​ไป่​ตู้​ แมป​แจ้งพิกัด​ว่า​ศพ​ของ​เซี่ยเต๋อ​จีอยู่​หลัง​ประตู​บาน​นี้​เอง​

หลิน​เป่ยเฉิน​ยก​มือขึ้น​ผลัก​ประตู​

แต่​ประตู​ไม่เปิด​ออก​

ทันใดนั้น​ เขา​ก็​รู้สึก​ได้​ถึงความ​เย็นเยียบ​ที่​วิ่ง​ขึ้น​มาจาก​แผ่น​หลัง​ ไม่ต่าง​กับ​มีเข็ม​แหลม​นับ​ร้อย​เล่ม​กำลัง​ทิ่มแทง​ลง​ไป​ถึงจิตวิญญาณ​

อันตราย​!

คำเตือน​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​หัวสมอง​ของ​หลิน​เป่ยเฉิน​ทันที​ กล้ามเนื้อ​ของ​เขา​แข็ง​เกร็ง​ กระบี่​ฆ่าวาฬ​ปรากฏ​อยู่​ใน​มือ​โดยพลัน​

กำแพง​วายุ​

เด็กหนุ่ม​สร้างกำแพง​วา​ยุขึ้น​มาเพื่อ​รับมือ​การ​ลอบ​โจมตี​

แต่​ เมื่อ​หลิน​เป่ยเฉิน​หันกลับ​ไป​มอง​ทาง​ด้านหลัง​ เขา​ก็​ไม่พบเห็น​ผู้ใด​เลย​ทั้งสิ้น​

ไม่มีผู้คน​

ไม่มีการทำงาน​ของ​กลไก​กับดัก​

ไม่มีสัตว์​อสูร​

ไม่มีผีสาง​วิญญาณ​ร้าย​ ไม่มีผีดิบ​ ไม่มีบ๊ะจ่าง​*[2]

“หรือว่า​เรา​ระแวง​ไป​เอง​หว่า​?”

หลิน​เป่ยเฉิน​กะพริบตา​ปริบ ๆ​

แต่​ความรู้สึก​ถึงอันตราย​เมื่อ​สักครู่​นี้​มาจาก​ไหน​กัน​?

และ​ใน​จังหวะ​ที่​หลิน​เป่ยเฉิน​หมุนตัว​กลับ​ไป​มอง​ทาง​ด้านหลัง​ เขา​จึงยืน​หันหลัง​ให้​กับ​ประตู​ทองสัมฤทธิ์​ หมุด​ยึด​ทั้ง​สามสิบ​หก​ตัว​ที่อยู่​ข้าง​ประตู​นั้น​ก็​เปลี่ยนเป็น​ดวงตา​สามสิบ​หก​ดวง​คอย​จ้องมอง​เขา​อยู่​ใน​ความ​เงียบ​

หลิน​เป่ยเฉิน​ไม่รู้ตัว​เลย​สักนิด​

เมื่อ​แน่ใจ​แล้ว​ว่า​ใน​ทางเดิน​ไม่มีผู้คน​ เขา​ก็​ค่อย ๆ​ หัน​กลับมา​จ้องมอง​ประตู​ทองสัมฤทธิ์​อีกครั้ง​

หมุด​ยึด​ข้าง​ประตู​กลับ​ไป​เป็น​หมุด​ยึด​ธรรมดา​

ขณะนั้น​ หลิน​เป่ยเฉิน​หันขวับ​กลับ​ไป​มอง​ทาง​ด้านหลัง​อีกครั้ง​อย่าง​รวดเร็ว​

ยังคง​ไม่มีการเคลื่อนไหว​

เขา​สังเกต​ด้วย​ความระมัดระวัง​

เอ๊ะ​?

ดูเหมือน​องศา​ส่วนหัว​ของ​รูปปั้น​หญิงสาว​ตาบอด​จะเปลี่ยนไป​หรือเปล่า​นะ​?

หลิน​เป่ยเฉิน​ขมวดคิ้ว​ด้วย​ความสงสัย​

แต่​เมื่อ​ลอง​จ้อง​มองดู​ดี ๆ​ หลิน​เป่ยเฉิน​ก็​รู้สึก​ว่า​ตนเอง​อาจจะ​คิดมาก​ไป​เอง​

“เฮ้อ​ ต่าง​คน​ต่าง​อยู่​เถอะ​นะ​…”

หลิน​เป่ยเฉิน​นึก​อะไร​บางอย่าง​ขึ้น​มาได้​จึงนำ​กีบ​ลา​ดำ​ออกมา​ถือ​อยู่​ใน​มือ​ เพื่อ​เป็น​เครื่องมือ​ยึดเหนี่ยว​จิตใจ​

และ​เขา​ก็​ไม่ลืม​จุด​เทียนไข​นำมา​ตั้ง​ไว้​บน​พื้น​หิน​

เพื่อ​เป็น​เครื่องมือ​ยึดเหนี่ยว​จิตใจ​เช่นกัน​

หลังจากนั้น​ หลิน​เป่ยเฉิน​จึงหันหน้า​มาผลัก​ประตู​

แต่​ก็​เปิด​ไม่สำเร็จ​

“พี่สาว​ตาบอด​ หาก​ท่าน​ไม่อยาก​ให้​ข้า​เข้าสู่​ห้อง​แห่ง​นี้​ ท่าน​ก็​จงเป่า​เทียน​ของ​ข้า​ให้​ดับ​ซะ” หลิน​เป่ยเฉิน​พึมพำ​ “ข้า​กำลังจะ​ลอง​ผลัก​ประตู​อีกครั้ง​… หาก​ท่าน​เป่า​เทียน​ให้​ดับ​ ข้า​ก็​จะกลับ​ออก​ไป​โดยทันที​ แต่​หาก​ท่าน​พี่​อนุญาต​ให้​ข้า​เข้าไป​ได้​ ก็​ขอให้​ประตู​จงเปิด​ออก​ด้วย​เถิด​”

แล้ว​เด็กหนุ่ม​ก็​พยายาม​ผลัก​ประตู​อีกครั้ง​

[1] กีบ​ลา​ดำ​ คือ​ เครื่องรางของขลัง​สำหรับ​ป้องกัน​สิ่งชั่วร้าย​ เป็นที่นิยม​ใช้ใน​หมู่​โจร​ขุด​สุสาน​

[2] บ๊ะจ่าง​ คำ​สแลง​ที่​ชาว​จีน​เอาไว้​ใช้เรียก​ผีดิบ​ใน​สุสาน​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด