ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 300 ราชาปีศาจออกเดินทาง (1)
ตอนที่ 300 ราชาปีศาจออกเดินทาง (1)
เวลาต่อจากนั้น ฟางผิงก็พยายามฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้ ไม่ได้รีบทะลวงด่านแต่อย่างใด
ทะลวงสะพานฟ้าดินทั้งห้าแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ฝึกวิชา อันที่จริงร่างกายก็หลอมตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ระดับกลางเป็นร่างทองกึ่งหนึ่ง นี่ไม่ใช่คำพูดเลื่อนลอย
สำหรับเคล็ดวิชาต่อสู้ ฟางผิงอาศัยหมัดจินกังและหมัดหมัวเหอเป็นหลัก
เคล็ดวิชาระดับสูงฝึกได้ยาก ภายในช่วงเวลาสั้นๆ ฝึกหลายเคล็ดวิชาระดับสูงพร้อมกันยังไม่สู้ตั้งใจฝึกอย่างใดอย่างหนึ่งไปเลย
สาเหตุที่ไม่ได้ฝึกวิชาดาบพิชิตสวรรค์ ไม่ใช่เพระว่าชื่อน่าอาย หลักๆ ยังเป็นเพราะเคล็ดวิชาดาบซับซ้อนกว่าวิชาหมัด ทั้งบางสถานการณ์ วิชาหมัดจะใช้สะดวกกว่าวิชาดาบ ก่อนหน้านี้ที่ทิ้งอาวุธของตัวเองไว้ในถ้ำ ฟางผิงยังจำได้ไม่ลืม
—
ในขณะที่ฟางผิงพยายามฝึกเคล็ดวิชาต่อสู้อย่างขยันขันแข็ง มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไม่หยุดหย่อนเช่นกัน
วันที่ 20 กันยายน คลาสฝึกศิลปะการต่อสู้ที่ควบคุมโดยสมาคมผู้ฝึกยุทธ์มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้สองแห่งก็เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการพร้อมกับเริ่มรับนักเรียนจากภายนอก
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองขั้นสามบางส่วนเริ่มออกจากมหาวิทยาลัย เข้าร่วมการแลกเปลี่ยนแต่ละแห่ง รวมถึงเข้าร่วมการแข่งขันของผู้ฝึกยุทธ์ในบางพื้นที่ด้วย
เย่ฉิงยอดมือขั้นสามสูงสุดเดินทางขึ้นเหนือ เริ่มท้าประลองยอดฝีมือในการจัดอันดับขั้นสามอย่างเป็นทางการ
โรงงานยาบำรุงและโรงงานผลิตอาวุธภายในมหาวิทยาลัยเริ่มทำการขยับขยาย นักศึกษาสาขาศึกษาวิจัยจำนวนมากเข้าร่วมฝึกงานกับกิจการภายในของมหาวิทยาลัยเช่นกัน
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหยวนฟาง ระบบกู้ยืมนั้นเริ่มขยายขนาดใหญ่ นักศึกษาใหม่จำนวนมากได้รับสิทธิ์กู้ยืมคะแนน
วันเก่าๆ ที่เงียบสงบของเซี่ยงไฮ้ ตอนนี้ครึกครื้นขึ้นอย่างมาก
อาจารย์บางคนที่อยู่เซี่ยงไฮ้มานานล้วนเห็นผ่านตา จำได้ขึ้นใจ ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจ
การจากไปของอธิการเฒ่าทำให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ตกสู่ในช่วงตกต่ำที่สุด
แต่ยุคสมัยของนักศึกษาใหม่กลับจุดประกายความมีชีวิตชีวา มอบความสดใสให้กับเซี่ยงไฮ้ขึ้นอีกครั้ง
ตอนนี้การแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งทั่วประเทศกำลังเป็นประเด็นร้อนไปทั่ว
การแข่งขันขั้นหนึ่งทั่วประเทศที่มีมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เป็นเจ้าภาพ ดึงดูดสายตาจากคนทั้งประเทศ
นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2009 เป็นต้นมา การแข่งขันของผู้ฝึกยุทธ์ก็ผุดขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย
แต่การแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์ที่จัดโดยรัฐบาลในพื้นที่ยังไม่น่าเชื่อถือเท่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ การแข่งขันแลกเปลี่ยนของนักศึกษาใหม่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วประเทศครั้งแรกก็จัดที่เซี่ยงไฮ้ ผู้ชนะก็ยังเป็นมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้
ตอนนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จัดการแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งทั่วประเทศสืบเนื่องอีกครั้ง ยิ่งได้รับความเชื่อใจมากขึ้นไปอีก
ตอนที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ประกาศรับสมัครผ่านทางสายด่วน เว็บไซต์ อีเมล์ รวมถึงสรรหาผู้สนับสนุนจากภายนอก เสนอราคาเพื่อถือสิทธิ์ออกอากาศการแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์ก็ดึงดูดความสนใจคนนับไม่ถ้วนเช่นกัน
การแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีแค่สนามเดียว แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าครั้งนี้คงไม่จัดแบบเล็กๆ เวลาแข่งขันก็คงไม่สั้นเหมือนกัน
ยุคสมัยที่ประชาชนให้ความสนใจกับผู้ฝึกยุทธ์ ความนิยมของการแข่งขันศิลปะการต่อสู้จึงไม่น้อยไปกว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกพวกนี้เลย
ตอนแรกสถานีโทรทัศน์เซี่ยงไฮ้เสนอราคาห้าสิบล้านเพื่อซื้อสิทธิ์ผูกขาดการออกอากาศการแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์ ตอนหลังสถานีโทรทัศน์หนานหูเสนอราคามาอีกแปดสิบล้าน
ผลปรากฏว่าทั้งสองฝั่งยังไม่ทันรู้แพ้ชนะ สถานีโทรทัศน์กลางก็สอดมือเสนอราคาหนึ่งร้อยล้านซื้อสิทธิ์ผูกขาดไปตรงๆ
—
เรื่องขายสิทธิ์ออกอากาศเป็นประเด็นพูดคุยอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน
ช่วงนี้สมาคมผู้ฝึกยุทธ์ยุ่งจนตัวเป็นเกลียว
ผลปรากฏว่าตามหาตัวฟางผิง หาให้ตายยังไงก็ไม่เจอ หัวหน้าแต่ละฝ่ายโมโหจนแทบอยากจะโยนทุกอย่างทิ้งไป
ตอนนี้สมาคมผู้ฝึกยุทธ์มีประธานทั้งหมดห้าคน
หาตัวฟางผิงไม่เจอ เซี่ยเหล่ยก็ไม่รู้หนีไปที่ไหน ฉินเฟิ่งชิงใครจะกล้าตามเขามาจัดการ เขาจะถือดาบไล่ฆ่าคุณน่ะสิ เหลียงเฟิงหวายุ่งกับการเชื่อมสะพานฟ้าดินไม่มีเวลาว่าง เฉินเหวินหลงไปหน่วยทหารแทบไม่เห็นแม้แต่เงา
ประธานห้าคนไม่มีใครอยู่จัดการเรื่องราวสักคน
รอเฉินอวิ๋นซีไปสอดส่องแถวหน้าประตูบ้านพักหลู่เฟิ่งโหรวอยู่หลายวัน ในที่สุดก็ไล่ตามฟางผิงทัน แทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ
“ฟางผิง นายจะไปไหน!”
เฉินอวิ๋นซีเอ่ยด้วยเสียงไม่พอใจ ฟางผิงที่ได้ยินขนลุกซู่ขึ้นมาอยู่บ้าง เอ่ยอย่างกลัดกลุ้มว่า “ไม่ได้ไปไหน หลายวันนี้ยุ่งกับการฝึกวิชาแถวริมทะเลในขตทางใต้เฉยๆ”
ฟางผิงอับจนหนทางเช่นกัน ฝึกวิชาในหอพักหรือริมอ่างเก็บน้ำ หากทำลายข้าวของต้องถูกปรับเงิน
ตอนนี้สมาคมผู้ฝึกยุทธ์เฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ฟางผิงขึ้นชื่อว่าเป็นประธานจะเป็นหัวโจกทำลายกฏไม่ได้
หากจางอวี่เป็นประธาน ฟางผิงเป็นหัวโจกยังพอว่า ตอนนี้เขาเป็นประธาน หากเป็นหัวโจกอีก ตัวปัญหาคนอื่นต้องโผล่ขึ้นมาไม่หยุดหย่อนอย่างแน่นอน
ริมทะเลไม่มีอะไรให้กังวลมากมาย
รู้ว่าฟางผิงไปฝึกวิชา เฉินอวิ๋นซีก็ไม่ถามมากมาย “เรื่องการแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งทั่วประเทศเริ่มตระเตรียมอย่างเป็นทางการแล้ว การขายสิทธิ์ออกอากาศที่นายพูดก่อนหน้านี้ ตอนนี้สถานีโทรทัศน์กลางเสนอราคาออกมาถึงหนึ่งร้อยล้านเพื่อซื้อสิทธิ์ผูกขาดในการออกอากาศทางสื่อทั้งหมด”
ระหว่างที่เฉินอวิ๋นซีพูดก็เอ่ยด้วยใบหน้านับถือว่า “นายเก่งจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะมีคนเสนอราคาสูงขนาดนี้เพื่อซื้อสิทธิ์ออกอากาศของพวกเราด้วย…”
“หนึ่งร้อยล้านปอนด์หรือดอลลาร์สหรัฐ?”
ฟางผิงแทรกบทสนทนาทันที
เฉินอวิ๋นซีชะงักไปเล็กน้อย เอ่ยอ้อมแอ้มด้วยใบหน้าขึ้นสีว่า “ร้อยล้านหยวน”
ฟางผิงเบะปาก “ซื้อสิทธิ์ออกอากาศสื่อทั้งหมดแค่หนึ่งร้อยล้าน? คิดว่าฉันโง่หรือไง? สิทธิ์ออกอากาศของสื่อใหม่ยังมากกว่าร้อยล้านเลย ปัจจุบันนี้คลิปวิดีโอบนอินเทอร์เน็ตในประเทศมีการเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลายเว็บไซต์อยากเชิดหน้าชูหน้ากลับขาดแคลนโอกาสนี้ การแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งทั่วประเทศ ตอนนี้เซี่ยงไฮ้จัดงานได้อย่างน่ายำเกรงที่สุด ขนาดใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลที่สุด ขายให้แห่งหนึ่งยี่สิบสามสิบล้าน ขนหน้าแข้งพวกเขายังไม่ร่วงเลย ขายให้สี่ห้าแห่ง นั่นก็เป็นหนึ่งร้อยล้านแล้ว นี่ยังเป็นแค่ค่าออกอากาศของสื่อใหม่เท่านั้น การออกอากาศทางโทรทัศน์ สถานีโทรทัศน์ต่างๆ ก็แย่งซื้อกัน ยังไงก็ไม่จบที่หนึ่งร้อยล้านยู่แล้ว นี่สถานีโทรทัศน์กลางคิดอะไรอยู่? ควักแค่หนึ่งร้อยล้านซื้อสิทธิ์ขาดเนี่ยนะ? บอกพวกเขาไป หนึ่งร้อยล้านก็ได้ แต่มีสิทธิ์แค่ทางโทรทัศน์เท่านั้น สื่อใหม่อื่นๆ ไม่นับรวมในนั้น”
สำหรับเรื่องพวกนี้ฟางผิงมองอย่างทะลุปรุโปร่ง บางทีเขาอาจจะเข้าใจเรื่องของผู้ฝึกยุทธ์ไม่เยอะเท่าคนอื่น แต่กับเรื่องพวกนี้คนของเซี่ยงไฮ้สู้เขาไม่ได้จริงๆ
หลายปีมานี้ ในสายตาของคนเซี่ยงไฮ้ การจัดการแข่งขันแลกเปลี่ยนทุกครั้งจะขาดทุนเข้าเนื้อตลอด
ไม่ใช่ว่าไร้อัจฉริยะหัวการค้า ประเด็นอยู่ที่ท่าทีของมหาวิทยาลัยก่อนหน้านี้คืออนุรักษ์นิยม รักษาสภาพแบบเดิม
อธิการเฒ่านั้นเป็นคนที่ประพฤติตัวดี แต่พูดโดยสรุปแล้วก็อายุมากอยู่บ้าง ตามไม่ค่อยทันยุคสมัย ถึงกระทั่งไม่สนใจเรื่องเงินทองเท่าไหร่ ในสายตาของอธิการเฒ่าสอนหนังสือคน บ่มเพาะผู้ฝึกยุทธ์ จะเอาผลประโยชน์หรือทำเป็นธุรกิจเกินไปไม่ได้
ที่มาของเงินทุน ด้านหนึ่งคือการจัดสรรจากรัฐบาล อีกด้านพึ่งพายอดฝีมือของมหาวิทยาลัยช่วงชิงมาจากถ้ำใต้ดิน
ตัวอธิการเฒ่าเองก็เป็นคนชอบลงมือปฏิบัติ เขาควบคุมมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มาห้าสิบกว่าปี อยู่ในถ้ำใต้ดินมาอย่างน้อยยี่สิบปี เวลาที่เหลืออยู่ ส่วนมากก็ใช้ไปกับการรักษาอาการบาดเจ็บ
ในหนึ่งปี เวลาเกือบครึ่งใหญ่ใช้ไปในถ้ำใต้ดิน นี่จึงเป็นสาเหตุหลักที่ว่าแม้จะเป็นร่างทองขั้นแปดก็มีบาดแผลโรคภัยรุมเร้า
ฟางผิงไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินว่าอธิการเฒ่าทำถูกหรือผิด แต่ตาเฒ่าไม่ได้ใช้ผลประโยชน์จากทรัพยากรทั้งหมดของเซี่ยงไฮ้ให้คุ้มค่าจริงๆ แน่นอนว่าอธิการเฒ่าอาจจะรู้ แต่ไม่อยากทำ บางทีในสายตาเขา ผู้ฝึกยุทธ์ให้ความสำคัญกับเงินทองน้อยหน่อยจะดีกว่า
ตกลงแล้วเขาคิดยังไง ตอนนี้ชายชราตายในสงครามถ้ำใต้ดินไปแล้ว ฟางผิงไม่คิดจะคาดเดาเช่นกัน
แต่เขาไม่ใช่อธิการเฒ่า ทั้งไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างคนอื่นเขา ชั่วชีวิตนี้ต้องอยู่ที่ถ้ำใต้ดิน ผลปรากฏว่าหลังตายในสนามรบ มหาวิทยาลัยจัดการทรัพย์สินของต่างหน้าของเขา กลับพบว่าเขาไม่เคยใช้แม้แต่บัตรเอทีเอ็ม ชายชราเข้ามาอยู่ที่เซี่ยงไฮ้หกสิบปี นึกไม่ถึงว่าจะไม่มีเงินติดตัวสักแดงเดียว
ชั่วชีวิตนี้ไม่แต่งภรรยา อุทิศให้แต่มหาวิทยาลัย น่ายกย่องทั้งน่าเศร้าใจในเวลาเดียวกัน
ไม่ครุ่นคิดเรื่องพวกนี้อีก ฟางผิงเอ่ยต่อว่า “อีกอย่างค่าสปอนเซอร์จะเก็บถูกๆ ไม่ได้ ต่ำกว่าสิบล้านไม่ต้องสนใจ ทั้งไม่จำเป็นต้องเยอะเกินไป รับสักไม่กี่สิบที่ก็พอแล้ว การแข่งหนึ่งสนาม รับค่าออกอากาศและค่าสปอนเซอร์สักสามร้อยล้านก็ใช้ได้แล้ว ส่วนรางวัลรวมถึงค่าใช้จ่ายอย่างอื่น หนึ่งร้อยล้านฉันคิดว่าน่าจะเหลือเฟือเช่นกัน หรือจะให้รางวัลเยอะหน่อย ดึงดูดคนมาเข้าร่วมมากกว่านี้ อย่างน้อยจ่ายออกไปหนึ่งร้อยล้าน ครั้งหน้าจัดการแข่งขันอีกครั้ง น่าจะได้กำไรเยอะกว่านี้”
——————–
Comments