เทพสังหาร ยุทธการระห่ำบทที่ 480 เย่เทียนเฉินยังไม่ฟื้นก็เกิดเรื่องอีกแล้ว

Now you are reading เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ Chapter บทที่ 480 เย่เทียนเฉินยังไม่ฟื้นก็เกิดเรื่องอีกแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ที่แท้​หลังจากที่​เย่​เทียน​เฉิน​เอาชนะ​มัตสึ​โมโตะ​ชิโมะเค็น​ได้​แล้ว​ สมาชิก​ทั้งหมด​ของ​กลุ่ม​สิบ​สามจ้าว​สวรรค์​ก็​ฆ่ายอด​ฝีมือ​ทั้ง​สามสิบ​คน​ของ​สำนัก​โฮคุ​ชิน​อิต​โต​ริว​ทั้งหมด​ และ​ใน​ระหว่างทาง​กลับ​ เย่​เทียน​เฉิน​ที่​บาดเจ็บสาหัส​ก็​อยู่​ใน​สภาพ​สลบไสล​ไม่ได้สติ​ ใน​ตอนที่​รู้​ตัวอย่าง​ลาง​เลือน​ เย่​เทียน​เฉิน​ก็​บอก​กับ​พวก​อู๋เสวี่ย​ว่า​ให้​ส่งเขา​กลับ​ไป​ยัง​คฤหาสน์​แล้ว​ให้​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​บน​เตียง​ ถ้าหา​จางอี​เต๋อ​ไม่เจอ​ก็​อย่า​แตะต้อง​เขา​

พวก​อู๋เสวี่ย​เป็นห่วง​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​เย่​เทียน​เฉิน​มาก​ และ​เป็นห่วง​ว่า​คน​อันตราย​อย่าง​คุณชาย​ใหญ่​แห่ง​มหาวิทยาลัย​หลง​เถิงจะมาโจมตี​ด้วย​ จะอย่างไร​นี่​ก็​เป็น​คนหนุ่ม​ที่​ร้ายกาจ​ที่สุด​ใน​ประวัติศาสตร์​ประเทศ​จีน​ที่​เล่าขาน​ต่อกัน​มา ถูก​เรียก​ว่า​เป็น​ผู้​สยบ​แห่ง​ยุค​ ส่วน​เขา​จะแข็งแกร่ง​ขนาด​ไหน​กัน​แน่​ก็​ไม่มีใคร​รู้​ เขา​จะมีหน้าตา​อย่างไร​ก็​ไม่มีใคร​รู้​ เขา​จะมีชื่อว่า​อะไร​ก็​ไม่มีใคร​รู้​!

จาก​การ​คาดเดา​ของ​เย่​เทียน​เฉิน​ เขา​ควรจะ​มีความสามารถ​เหนือกว่า​มัตสึ​โมโตะ​ชิโมะเค็น​ นี่​ทำให้​พวก​อู๋เสวี่ย​ต่าง​ต้อง​สั่นสะท้าน​ ถ้าเช่นนั้น​ไม่ใช่ว่า​คุณชาย​ใหญ่​แห่ง​มหาวิทยาลัย​จะอยู่​ใน​รายชื่อ​ผู้​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ใน​โลก​ทั้ง​สิบ​คน​ด้วย​หรือ​? ต้อง​ทราบ​ว่า​หากว่า​กัน​ตาม​การ​คาดเดา​ คุณชาย​ใหญ่​แห่ง​มหาวิทยาลัย​หลง​เถิงก็​มีอายุ​ไม่เกิน​ 30 กว่า​ปี​เท่านั้น​ นี่​จะทำให้​ผู้คน​สั่นสะท้าน​ขนาด​ไหน​กัน​?

แต่​เย่​เทียน​เฉิน​กลับ​ไม่นำพา​ ถึงแม้เขา​จะไม่เคย​พบ​หน้า​คุณชาย​ใหญ่​และ​ไม่เคย​ประมือ​ด้วย​ แต่​ตั้งแต่​ที่​คุณชาย​ใหญ่​ส่งคน​มาโจมตี​ เขา​ก็ได้​เห็น​ลักษณะนิสัย​ใน​การกระทำ​เรื่อง​ต่างๆ​ ของ​คุณชาย​ใหญ่​แล้ว​ คน​คน​นี้​เชื่อมั่น​ใน​ตัวเอง​เป็นอย่างมาก​ และ​มั่น​ใจมากว่า​จะฆ่าตน​ได้​ มิฉะนั้น​อีก​ฝ่าย​คง​ไม่มีอารมณ์​หยอกล้อ​จนถึงที่สุด​เช่นนี้​

ยอด​ฝีมือ​ที่​แท้จริง​จะไม่ลอบ​โจมตี​เป็นอันขาด​ จะไม่ฉวยโอกาส​ที่​คนอื่น​ตกอยู่ในอันตราย​ และ​ยิ่ง​ไม่ฆ่าคน​ที่​ไม่มีเรี่ยวแรง​แม้แต่​จะฆ่าไก่​ ดังนั้น​เย่​เทียน​เฉิน​จึงตัดสินใจ​ได้​ว่า​คุณชาย​ใหญ่​แห่ง​มหาวิทยาลัย​หลง​เถิงจะต้อง​ไม่ส่งคน​มาฆ่าตน​ในเวลานี้​แน่นอน​ และ​ยิ่ง​ไม่ทำอันตราย​กับ​ครอบครัว​ของ​เขา​ด้วย​

หมอก​โลหิต​ที่​เป็น​ขุนพล​อันดับ​หนึ่ง​ใน​หมู่​ลูกน้อง​ของ​คุณชาย​ใหญ่​ถูก​ตน​ฆ่าตาย​ไป​แล้ว​ เรียก​ได้​ว่า​ทำให้​คุณชาย​ใหญ่​เสีย​แขนขา​ที่​ทรงพลัง​ที่สุด​ไป​แล้ว​ ถ้าเขา​คิด​จะลงมือ​จริงๆ​ คง​ต้อง​ให้​คุณชาย​ใหญ่​แห่ง​มหาวิทยาลัย​หลง​เถิงมาด้วยตัวเอง​

หาก​พูด​กัน​ตาม​สถานการณ์​ปัจจุบัน​ เย่​เทียน​เฉิน​ยัง​ไม่อยาก​เผชิญหน้า​กับ​คุณชาย​ใหญ่​ อย่าง​น้อย​ก็​ไม่คิด​จ้ะสู้กับ​คน​ที่​มีความ​ลึกล้ำ​และ​ลึกลับ​คน​นี้​ เนื่องจาก​เขา​มีโอกาส​ชนะ​ไม่มาก​ เขา​ต้องการ​เวลา​ ต้องการ​เวลา​พัฒนา​พลัง​การบ่ม​เพาะ​ของ​ตัวเอง​ ต้องการ​เวลา​เพื่อ​ทำความเข้าใจ​กับ​ความสามารถ​ของ​คุณชาย​ใหญ่​ให้​ชัดเจน​ เขา​ใน​ตอนนี้​ยังอยู่​ใน​สภาพ​ถูกกระทำ​

แต่​สิ่งที่​ทำให้​เย่​เทียน​เฉิน​คาดไม่ถึง​ก็​คือ​ หลังจากที่​อู๋​เสวี่ย​ หวัง​เจี๋ย​ หลิน​ตวน​และ​เปา​เทียน​หลง​ พา​ตน​มาส่งยัง​คฤหาสน์​แล้วก็​รีบ​เดินทาง​ไป​ยัง​บ้าน​ตระกูล​จางทันที​ ไป​ตามหา​จางอี​เต๋อ​ให้​มาช่วยชีวิต​เขา​ แต่​จางอี​เต๋อ​ไป​อยู่​ที่อื่น​นาน​แล้ว​ ที่​บ้าน​นั้น​มีใยแมงมุม​ขึ้น​มาก​ แสดงให้เห็น​ว่า​จางอี​เต๋อ​ไป​จาก​บ้าน​ตระกูล​จางนาน​แล้ว​ ใต้​หล้า​กว้างใหญ่​ จะไป​ตามหา​เขา​ได้​ที่ไหน​?

เจ็ด​วัน​เจ็ด​คืน​ผ่าน​ไป​ ดูเหมือน​อู๋​เสวี่ย​ หวัง​เจี๋ย​ หลิน​ตวน​และ​เปา​เทียน​หลง​จะวิ่ง​ไป​ทั่ว​ทั้ง​เมืองหลวง​แล้ว​ พวกเขา​ไม่กล้า​ไป​ไกล​ หาก​มีคน​ถือโอกาส​ที่​พี่ใหญ่​เย่​เทียน​เฉิน​บาดเจ็บสาหัส​มาเอาชีวิต​เขา​ แบบ​นั้น​ก็​แย่​แล้ว​ ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​ใช้ความสัมพันธ์​และ​อิทธิพล​มากมาย​เพื่อ​ตามหา​จางอี​เต๋อ​แต่​ก็​ไม่ได้รับ​อะไร​กลับมา​เลย​

ภายใต้​สถานการณ์​ที่​ทำ​อะไร​ไม่ได้​ อู๋เสวี่ย​จึงทำได้​เพียง​ตามหา​ชางหลา​ง ให้​ชางหลา​งใช้อำนาจ​ของ​ทางการ​ไป​ตามหา​ จะอย่างไร​สำหรับ​ประเทศ​ประเทศ​หนึ่ง​ หาก​บุคคล​ผู้มีอำนาจ​สูงสุด​ต้องการ​ตามหา​คน​คน​หนึ่ง​นับว่า​มีพลัง​พอที่จะ​กระ​ทำได้​ เพียงแต่​น่าเสียดาย​ ก่อน​มาอู๋เสวี่ย​โทร​ไปหา​ชางหลา​งแล้ว​ หลังจากที่​ท่าน​ผู้นำ​สูงสุด​รู้​สภาพ​ของ​เย่​เทียน​เฉิน​ก็​รีบ​ออกคำสั่ง​ ส่งของ​กำลัง​ทหาร​ออก​ไป​ ในขณะเดียวกัน​ก็​ส่งหน่วย​สืบราชการลับ​ชั้นยอด​มากมาย​ไป​ทั่วประเทศ​เพื่อ​ตามหา​จางอี​เต๋อ​ และ​ยัง​ใช้อำนาจ​ลับ​นอก​ประเทศ​อีกด้วย​ แต่​ก็​ยัง​ไม่พบ​อะไร​

สิ่งที่​ทำให้​พวก​อู๋เสวี่ย​คิดไม่ถึง​ก็​คือ​ สุดท้าย​แม้จะใช้พลัง​ของ​ทางการ​ ใช้วิธีการ​มากมาย​ที่​คนอื่น​ไม่รู้​ แต่​ก็​ยัง​ไม่สามารถ​หา​ตัว​จางอี​เต๋อ​ได้​ เซียน​แพทย์​เท​วะ​คน​นี้​ร้ายกาจ​จริงๆ​ เขา​หายตัว​ไป​โดย​ไม่เหลือ​ร่องรอย​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​หา​เขา​ไม่พบ​ ทำให้​ผู้คน​นับถือ​วิธีการ​ของ​จางอี​เต๋อคน​นี้​จริงๆ​

“รอ?​ ต้อง​รอ​แบบนี้​ไป​อีก​นาน​เท่าไหร่​ล่ะ​คะ​? เทียน​เฉิน​มีสภาพ​แบบนี้​แล้ว​ ไม่ได้​กิน​ดื่ม​เจ็ด​วัน​เจ็ด​คืน​แล้ว​…” เสี้ยว​ห​ยา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เอ่ยปาก​อย่าง​ร้อนใจ​

คำพูด​ประโยค​หลัง​ของ​เสี้ยว​ห​ยา​ไม่ได้​พูด​ต่อไป​ หาก​พูด​กัน​ถึงเรื่อง​ความสามารถ​ พวก​อู๋เสวี่ย​ย่อม​ร้ายกาจ​กว่า​พวก​ตน​มาก​ ยิ่งไปกว่านั้น​พวกเขา​ยัง​ไม่ได้​ใคร่​ครวญถึง​สถานการณ์​เช่นนี้​ ถ้าส่งเย่​เทียน​เฉิน​ไป​รักษาตัว​ที่​โรงพยาบาล​แล้ว​มีได้ผล​ พวกเขา​ควร​ทำ​ไป​นาน​แล้ว​ คง​ไม่รั้งรอ​จน​ตน​ต้อง​พูด​อย่าง​ร้อนใจ​แบบนี้​ออกมา​

“ไม่มีวิธี​อะไร​เลย​จริงๆ​ เหรอ​?” ใน​ฐานะ​ที่​หลัว​เยี่ยน​เป็น​แม่ย่อม​ปวดใจ​มาก​ที่สุด​ แต่​ยังมี​เย่​เชี่ยน​เห​วิน​ ฉีหรู​เสวี่ย​และ​เสี้ยว​ห​ยา​อยู่​ที่นี่​ด้วย​ เธอ​รู้​ว่า​ตัวเอง​ต้อง​เข้มแข็ง​ ไม่อาจ​ล้ม​ลง​ได้​ มิฉะนั้น​ผู้หญิง​ทั้ง​สามคน​ที่​เหลือ​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะเป็น​ยังไง​จริงๆ​

พวก​อู๋เสวี่ย​มอง​ไป​ยัง​หลัว​เยี่ยน​ แม่ของ​พี่ใหญ่​ก็​เป็น​เหมือนกับ​แม่ของ​พวกเขา​ พวกเขา​อยาก​บอก​หลัว​เยี่ยน​ว่า​มีวิธี​แต่กลับ​พูดไม่ออก​ เย่​เทียน​เฉิน​นั่งขัดสมาธิ​โดย​ไม่ขยับเขยื้อน​มาเจ็ด​วัน​เจ็ด​คืน​ ลมหายใจ​อ่อนแรง​ลง​เรื่อยๆ​ ไม่กิน​ไม่ดื่ม​มาเจ็ด​วัน​เจ็ด​คืน​ ถ้าจะหิว​ตาย​หรือ​กระหาย​น้ำตาย​ก็​เป็นเรื่อง​ปกติ​

ปัง​!

หวัง​เจี๋ย​ซัด​หมัด​เข้าไป​บน​กำแพง​ เอ่ยปาก​ด่า​อย่าง​ดุดัน​ว่า​

“แม่งเอ้ย​ จางอี​เต๋อ​ไป​อยู่​ที่ไหน​กัน​แน่​ ถ้าฉัน​หา​เขา​เจอ​ฉัน​จะถลก​หนัง​เขา​ออกมา​ซะ พวก​ชางหลา​งก็​ไม่สนใจ​อะไร​ ไม่ออกแรง​อะไร​เลย​สักนิด​ หนึ่ง​ใน​สามราชัน​นักรบ​แห่ง​ประเทศ​จีน​อะไร​กัน​ ขุนพล​ระดับ​ทัพ​ฟ้าอะไร​กัน​ มีแต่​พวก​เศษสวะ​ทั้งนั้น​!”

“ไม่ได้​ พวกเรา​จะนั่ง​อยู่​แบบนี้​ไม่ได้​แล้ว​ ออก​ไป​ตามหา​ต่อ​เถอะ​ ดีกว่า​รอ​อยู่​ที่นี่​!” หลิน​ตวนอด​ไม่ได้​ที่จะ​เอ่ยปาก​

“ไป​เถอะ​ อย่า​เสียเวลา​อยู่​ที่นี่​อีก​เลย​ ตามหา​ยัง​ดีกว่า​ไม่ตามหา​!” เปา​เทียน​หลง​ก็​เอ่ยปาก​ขึ้น​เช่นกัน​

อู๋เสวี่ย​พยักหน้า​ มอง​ไป​ยัง​หลัว​เยี่ยน​ เย่​เชี่ยน​เห​วิน​ ฉีหรู​เสวี่ย​และ​เสี้ยว​ห​ยา​ เขา​ไม่ได้​พูด​อะไร​ เขา​เอง​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะพูด​อะไร​ดี​จึงหมุนตัว​เดิน​ออก​ไป​ที่​ประตู​ หวัง​เจี๋ย​เดิน​อยู่​หลัง​สุด​ เพิ่งจะ​เดิน​ไป​ถึงประตู​ก็​มีคน​สวม​ชุด​ทหาร​สอง​คน​ขวาง​เอาไว้​ คน​หนึ่ง​ก็​คือ​ชางหลา​ง อีก​คน​ก็​คือ​เฮย​เมี่ยน​

คน​ทั้งสอง​ใน​กองทัพ​จีน​ที่​ไปมาหาสู่​กับ​เย่​เทียน​เฉิน​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​เฮย​เมี่ยน​และ​ชางหลา​ง เมื่อ​รู้​ว่า​เย่​เทียน​เฉิน​ฆ่ามัตสึ​โมโตะ​ชิโมะเค็น​ได้​ ชางหลา​งและ​เฮย​เมี่ยน​ก็​ตื่น​ตะลึง​จน​หน้าถอดสี​ รู้สึก​สั่นสะท้าน​จริงๆ​ พวกเขา​สอง​คน​ คน​หนึ่ง​เป็นหนึ่ง​ใน​สามราชัน​นักรบ​แห่ง​ประเทศ​จีน​ อีก​คน​เป็น​ขุนพล​ระดับ​ทัพ​ฟ้า ความสามารถ​ของ​ทั้งสอง​แข็งแกร่ง​เป็นอย่างมาก​ กระทั่ง​เย่​เทียน​เฉิน​ก็​ยัง​ให้ความสำคัญ​ สามารถ​ทำให้​พวกเขา​ตื่น​ตะลึง​จน​หน้าถอดสี​ได้​นับ​เป็นเรื่อง​ที่​หา​ได้​ยาก​จริงๆ​

แน่นอน​ว่า​พวกเขา​มีอคติ​ต่อ​เย่​เทียน​เฉิน​ แต่​ก็​ชื่นชม​มาก​ด้วย​ ใน​ตอนที่​รู้​ว่า​เย่​เทียน​เฉิน​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ จำเป็นต้อง​ตามหา​เซียน​แพทย์​เท​วะ​เพื่อ​มาช่วย​รักษา​ พวกเขา​ก็​รีบ​เคลื่อน​กองกำลัง​ที่​ตน​มีทั้งหมด​ ภายใน​เวลา​ระยะเวลา​สั้น​ๆ เพียง​ไม่กี่​วัน​ก็​ตามหา​ไป​ทั่ว​ทุก​เมือง​ของ​ประเทศ​จีน​แล้วแต่​ก็​ยัง​ไม่พบ​ร่องรอย​ของ​จางอี​เต๋อ​ และ​ยัง​ตรวจสอบ​บันทึก​เข้าออก​ทั้ง​ทางบก​และ​ทางทะเล​แล้วก็​ยัง​ไม่มีชื่อ​ของ​จางอี​เต๋อ​บันทึก​ไว้​ ชาย​ชรา​คน​นี้​ราวกับ​ระเหย​หาย​ไป​ ไม่รู้​ว่า​ไป​อยู่​ที่ไหน​

“พวกเรา​สอง​คน​เป็น​เศษสวะ​ แล้ว​พวก​แก​หา​เซียน​แพทย์​เท​วะ​เจอ​หรือเปล่า​?” ชางหลา​งมอง​ไป​ยัง​หวัง​เจี๋ย​แล้ว​พูด​ขึ้น​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​

“กล้า​มาสบประมาท​ขุนพล​ระดับ​ทัพ​ฟ้าของ​พวกเรา​ พวก​แก​นี่​เป็น​พวก​ขี้​แพ้​จริงๆ​!” เฮย​เมี่ยน​มอง​ไป​ยัง​พวก​อู๋เสวี่ย​แล้ว​พูด​อย่าง​เย็นชา​

“หึ​ พวกเรา​ไม่มีประโยชน์​ ช่วย​พี่ใหญ่​ไม่ได้​ แล้ว​พวก​แก​มีประโยชน์​อะไร​ล่ะ​? ขุนพล​ระดับ​ทัพ​ฟ้า พวก​แก​คิด​ว่า​บิดา​จะกลัว​พวก​แก​เหรอ​?” หวัง​เจี๋ย​เอ่ยปาก​พูด​อย่าง​ดุดัน​

“ทำไม​? จะลองดู​หน่อย​หรือเปล่า​?”

เฮย​เมี่ยน​เอง​ก็​เป็น​พวก​บ้า​การต่อสู้​คน​หนึ่ง​ ตอนนี้​เย่​เทียน​เฉิน​เหนือ​เขา​ไป​แล้ว​ ใน​ใจของ​เขา​ย่อม​รู้สึก​ไม่พอใจ​ เคย​ได้ยิน​ว่า​กลุ่ม​สิบ​สามจ้าว​สวรรค์​ที่​เย่​เทียน​เฉิน​ก่อ​ตั้งขึ้น​ แต่ละคน​ต่าง​ก็​เป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​ชั้นยอด​ พวกเขา​ฆ่ายอด​ฝีมือ​ทั้ง​สามสิบ​คน​ของ​สำนัก​โฮคุ​ชิน​อิต​โต​ริว​ไป​ได้​ นี่​ทำให้​เฮย​เมี่ยน​ยิ่ง​อยาก​จะเห็น​สักหน่อย​ว่า​กลุ่ม​สิบ​สามจ้าว​สวรรค์​ที่​เย่​เทียน​เฉิน​ก่อ​ตั้งขึ้น​จะมีความสามารถ​ขนาด​ไหน​

“ลอง​ก็​ลอง​สิ บิดา​กลัว​แก​รึ​ไง?” หวัง​เจี๋ย​จ้อง​ตา​เฮย​เมี่ยน​ เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​ขุนพล​ระดับ​ทัพ​ฟ้าคน​นี้​เขา​ก็​ไม่ยอม​ถอย​แม้แต่น้อย​ รวม​กับ​ที่​ตอนนี้​พี่ใหญ่​เป็น​ตาย​ก็​ยัง​ไม่รู้​ ใน​ใจของ​เขา​จึงมีความร้อนรน​และ​ไม่มีที่​ระบาย​ ต้องการ​จะต่อสู้​สักครั้ง​

“มีความกล้า​ดี​ พวกเรา​ออก​ไป​เถอะ​ ฉัน​จะอัด​แก​จน​ต้อง​คุกเข่า​ร้องขอ​ชีวิต​!” เฮย​เมี่ยน​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​เย็นชา​

“เอาล่ะ​ หวัง​เจี๋ย​ แก​ยอม​ถอย​ไป​เถอะ​ ตอนนี้​ไม่ใช่เวลา​มาพูด​เรื่อง​พวก​นี้​ พวกเรา​ต้อง​ช่วย​ให้​พี่ใหญ่​ฟื้น​ขึ้น​มาก่อน​!”

อู๋เสวี่ย​เดิน​เข้ามา​ มอง​ไป​ยัง​ชางหลา​งและ​เฮย​เมี่ยน​ อู๋เสวี่ย​ย่อม​รู้ดี​ว่า​สอง​คน​นี้​แข็งแกร่ง​มาก​จริงๆ​ ส่วน​หวัง​เจี๋ย​จะเป็น​คู่ต่อสู้​ของ​เฮย​เมี่ยน​ได้​หรือไม่​เขา​เอง​ก็​ไม่รู้​และ​ไม่สนใจ​อยาก​จะรู้​ด้วย​ ถ้าหาก​เป็น​ก่อนหน้านี้​ บางที​เขา​คง​ดู​อย่าง​สนุกสนาน​ว่า​กองทัพ​ที่​ถูก​เรียกขาน​ว่า​เป็น​กองทัพ​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ในประเทศ​จีน​จะแข็งแกร่ง​ขนาด​ไหน​กัน​แน่​ แต่​ตอนนี้​กลับ​ไม่มีความสนใจ​แบบ​นั้น​

หวัง​เจี๋ย​มอง​ไป​ยัง​เฮย​เมี่ยน​อย่าง​ดุดัน​ เขา​เข้าใจ​ว่า​อู๋เสวี่ย​พูด​ได้​มีเหตุผล​จริงๆ​ ตอนนี้​พี่ใหญ่​ยัง​สลบไสล​ไม่ได้สติ​ ไม่ใช่เวลา​จะมาก่อเรื่อง​ สิ่งสำคัญ​อันดับ​แรก​คือ​ต้อง​ตามหา​เซียน​แพทย์​เท​วะ​จางอี​เต๋อ​ก่อน​

ตอนนี้​เอง​ อู๋เสวี่ย​มอง​ไป​ยัง​ชางหลา​งและ​เฮย​เมี่ยน​ก่อน​จะเอ่ยปาก​ว่า​ “คุณ​ทั้งสอง​ ผม​คิด​ว่า​พวกคุณ​คง​ไม่ได้มา​เพื่อ​จะพูด​เรื่อง​พวก​นี้​หรอก​นะ​ครับ​? มีข่าว​อะไร​หรือเปล่า​?”

เฮย​เมี่ยน​ไม่ได้​ตอบ​อะไร​ ทำ​เพียงแค่​นเสียง​เย็น​แล้ว​เดิน​ไป​ด้าน​ข้าง​ ชางหลา​งสุขุม​กว่า​จริงๆ​ ไม่ได้​บุ่มบ่าม​เหมือน​เฮย​เมี่ยน​ เขา​เดิน​ไป​เบื้องหน้า​อู๋เสวี่ย​แล้ว​พูดว่า​ “พวกเรา​เอง​ก็​หา​จางอี​เต๋อ​ไม่พบ​ เพียงแค่​มาดู​ว่า​จะช่วย​อะไร​ได้​หรือเปล่า​…”

“หาไม่​พบ​? หาไม่​พบ​แล้ว​พวก​แก​มาทำไม​ เชิญเถอะ​ ไม่ส่ง!” หวัง​เจี๋ย​ได้ยิน​คำพูด​ของ​ชางหลา​งก็​เกิด​โทสะ​ขึ้น​มาทันที​ กล้า​เชิญชางหลา​งและ​เฮย​เมี่ยน​มา แต่​ยัง​ไม่มีข่าวดี​อะไร​ มาเยี่ยม​ดู​เท่านั้น​ เมื่อ​คิด​ว่า​พี่ใหญ่​สลบไสล​ไม่ได้สติ​ไป​เจ็ด​วัน​เจ็ด​คืน​แล้วแต่​คน​กลุ่ม​นี้​กลับ​ไม่มีประโยชน์​อะไร​ ใน​ใจของ​หวัง​เจี๋ย​จึงรู้สึก​โกรธเกรี้ยว​

“ไอ้​หนู​ แก​พูด​กับ​ฉัน​ให้​ระวัง​หน่อย​ กลุ่ม​สิบ​สามจ้าว​สวรรค์​งั้น​เหรอ​? หึ​ เย่​เทียน​เฉิน​สลบไสล​ไม่ได้สติ​ ฉัน​ว่า​ยัง​ไม่ถึงเวลา​ให้​พวก​แก​กลุ่ม​สิบ​สามจ้าว​สวรรค์​มาพูด​!” เฮย​เมี่ยน​แค่น​เสียง​เย็น​แล้ว​พูด​อย่าง​ไม่พอใจ​

“จะถึงเวลา​ให้​ฉัน​พูด​หรือเปล่า​ แกก็อ​ย่า​มายุ่ง​ ฉัน​ไม่อยาก​เห็น​หน้า​แก​ ไสหัวไป​ซะ!” หวัง​เจี๋ย​กล้า​ไม่น้อย​ ถึงกับ​กล้า​ไล่​เฮย​เมี่ยน​ให้​ไสหัวไป​ ต่อให้​เป็น​เย่​เทียน​เฉิน​ก็​ยัง​ไม่กล้า​พูด​

ฟุ่บ​!

คำพูด​ของ​หวัง​เจี๋ย​เพิ่งจะ​ถูก​กล่าว​ออกมา​ก็​มีหมัด​ปะทะ​มาบน​ใบหน้า​ ซัด​สันจมูก​ของ​เขา​อย่าง​แรง​จน​กระเด็น​ออก​ไปนอก​หน้าต่าง​ทั้ง​ร่าง​…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด