ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ) 20 ยูริเอ็นจิ้น ทำงาน!!

Now you are reading ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ) Chapter 20 ยูริเอ็นจิ้น ทำงาน!! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

มิวล์ เอสเซ่ ไอซ์เบิร์ต เป็นลูกสาวคนเล็กของตระกูล ไอซ์เบิร์ต

ตระกูลไอซ์เบิร์ตนั้น เป็นตระกูลดยุกที่โด่งดังในฐานะตระกูลนักเวทย์อันทรงเกียรติ

 

ในโลกนี้ ตระกูลไอซ์เบิร์ตนั้น เป็นตระกูลดยุกที่เป็นตระกูลหญิง (พ่อแม่เป็นผู้หญิง)

 

ทั้งตระกูลมีแต่ชื่อผู้หญิงจนถึงขนาดที่ว่ารัฐบาลยังสงสยเลยว่ามีการคัดเลือกเพศแบบผิดกฎหมายรึเปล่า

 

เธอมีพี่น้องอยู่ 5 คน ซึ่งทุกคนนั้นเรียนจบจากโรงเรียนเวทมนตร์หญิงโอโตริ ด้วยคะแนนสูงสุดทั้งหมด และถึงแม้ว่าพวกเธอจะเรียนจบไปแล้ว พวกเธอก็ยังมีชื่อหรือหน้าตาปรากฎให้เห็นในหนังสือพิมพ์หลาย ๆ ฉบับ แล้วมียังมีหน้ามีตาในด้านการเมือง ธุรกิจ และสังคมเวทมนตร์ด้วย ขยันกันสุด ๆ เลยล่ะ

 

ถ้าจะให้พูดล่ะก็ ตระกูลไอซ์เบิร์ตน่ะ อยู่ในระดับตระกูลชั้นนำเลยทีเดียว

 

และแน่นอน มิวล์เองก็เกิดมาพร้อมกับความคาดหวังนั้น…แต่ว่าเธอก็ไม่สามารถทำได้อย่างที่พ่อแม่ต้องการ

 

ตัวเธอเองเกิดมาพร้อมกับความบกพร่องทางเวทย์

 

พลังเวทย์ของเธอนั้นเรียกได้ว่าแทบจะเป็นศูนย์เลย แถมเธอยังไม่สามารถร่ายเวทย์อะไรได้เลยด้วย

 

อุปกรณ์เวทย์ที่เป็นไม้กายสิทธิ์ที่ห้อยอยู่ข้างเอวของเธอนั้นก็เป็นเพียงแค่เครื่องประดับเท่านั้น ที่ฉายาของเธอคือ [จอมปลอม] นั้น เพราะเธอมักถูกเรียกว่า [นักเวทย์จอมปลอม] นั่นเอง

 

ถึงเธอจะไม่สามารถใช้เวทย์ได้ แต่อย่างน้อย ถ้าเธอแสดงความสามารถในด้านอื่นได้ มันก็อาจจะดีกว่านี้ก็ได้

 

แต่ทว่า แม้ในด้านวิชาการเธอก็ไม่มีความสามารถเลย ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถเทียบเคียงกับเวทมนตร์ของเหล่าพี่น้องได้เลย

 

ในทุก ๆ วัน วันแล้ว วันเล่า

 

ที่มิวล์ต้องพยายามอย่างหนัก…จนกระทั่งวันหนึ่ง แม่ของเธอก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

 

[พอแล้ว ลูกน่ะเลิกพยายามซะเถอะ]

 

ในจังหวะนั้น หัวใจของเธอก็ได้แตกสลาย

 

สิ่งที่เธอยังพอจะเหลืออยู่นั้น ก็มีแค่ตำแหน่งผู้ดูแลหอพักฟลาวุมที่ตระกูลไอซ์เบิร์ตมอบให้เท่านั้น และท่าทางอวดดีแบบนั้นก็เป็นผลจากการแบกรับความคาดหวังในฐานะตระกูลไอซ์เบิร์ตนั่นเอง

 

มิวล์จึงลืมการที่จะต้องวางตัวให้เหมือนกับคนในตระกูลไอซ์เบิร์ตไป เหลือไว้แต่เพียงท่าทางและคำพูดที่ดูอวดดี

 

เพราะแบบนั้น ผู้คนที่ได้รู้จักเธอในตอนแรก จึงได้เริ่มตีตัวออกห่างเธอไปกันหมด

 

และก่อนที่จะรู้ตัว รอบตัวเธอก็เหลือเพียงแค่คนรับใช้เพียงแค่คนเดียวแล้ว

 

“อึก…ฮึก…ฮือ…!”

 

“อะ…อะไรเนี่ย ซันโจ ฮิอิโระ จู่ ๆ ก็ร้องไห้ทำไมน่ะ?”

 

“กะ…ก็ไม่รู้สินะ…?”

 

ณ ห้องชั้นบนสุดของหอพักฟลาวุม

ผมถูกพามาที่ห้องพักใหญ่ และมาถึงที่ห้องรับแขกที่ดูดี

และจากนั้นผมก็ร้องไห้เพราะนึกถึงฉากสุดท้ายในรูทของมิวล์

 

นั่น…นั่นน่ะ…มันแย่มากเลย…นั่นคือเรื่องราวการเติบโตของมิวล์ที่เหนือล้ำเหมือนกับยูริ…การพัฒนาในตอนสุดท้ายนั่นน่ะ มันทำเอาซะแทบน้ำตาไหลไม่หยุดเลยล่ะ…!

 

“ขะ…ขอโทษนะครับ”

 

ผมที่นั่งอยู่บนโซฟาได้พูดต่อหน้ามิวล์ด้วยเสียงที่แผ่วเบา

 

“ผะ…ผมน่ะอยู่ข้างคุณนะครับ…พวกศัตรูของ…และอุปสรรคที่คอยขัดขวางไม่ให้คุณมีความสุขนั่นน่ะ…ผมจะใช้ร่างกายนี้ กำจัดมันไปให้เองครับ…!”

 

“ถะ…ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ช่างเป็นความภักดีที่น่ายินดีนะ! หึหึ แม้แต่ผู้ชายก็ยังสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ที่มากล้นของฉันคนนี้เลยงั้นสินะ! เนอะ ลิลลี่?”

 

ลิลลี่ คลาสสิคอล  

ผู้ที่มาพร้อมกับมิวล์และอยู่กับมิวล์ตั้งแต่แรกจนถึงท้ายที่สุด

 

เธอเงยหน้าขึ้นมาและพูดด้วยท่าทางที่ดูสง่างามว่า [ค่ะ ถูกต้องอย่างที่ว่าเลยค่ะ] และโค้งคำนับ

 

“จะว่าไปแล้วนะครับ ผู้ดูแล”

 

ผมเช็ดน้ำตาด้วยผ้าเช็ดหน้าที่คุณลิลลี่มอบให้

 

“ทำไมคุณถึงได้เลือกผมให้เป็นผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อพิเศษล่ะครับ?”

 

“เอ๊ะ?”

 

หลังจากที่เธอพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ  

เธอก็ได้หันกลับไปหาคุณลิลลี่ด้วยหน้าตาที่ดูเหมือนจะสื่อว่างานเข้าแล้วสิ

 

คุณเมดที่ยืนประสานมืออยู่ ได้หลับตาพร้อมกับตอบคำถามนั้น

 

“แน่นอนว่าเป็นเพราะท่านฮิอิโระ คือคนที่คุณหนูให้การยอมรับยังไงล่ะคะ”

 

“ชะ…ใช่แล้ว! ฉันน่ะคือมิวล์ เอสเซ่ ไอซ์เบิร์ตแห่งตระกูลไอซ์เบิร์ตเชียวนะ! เอาจริง ๆ แล้ว ก็ไม่ค่อยอยากเจอหน้ากับผู้ชายอย่างนายหรอก แต่ดูเหมือนว่านายจะมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ ฉันก็เลยเสนอชื่อนายเป็นพิเศษยังไงล่–“

 

“…คุณหนูคะ”

 

มิวล์ตกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะกอดอกแล้วพูดว่า [ฮะ…ฮึ่ม!] ออกมา

 

“ปะ…เปล่าซะหน่อยนี่ ฉันก็ไม่ได้พูดผิดตรงไหนเลยนี่! ขนาดท่านแม่ยังบอกเลยว่าผู้ชายน่ะมันคือขยะน่ะ! ดะ…เดิมทีแล้วฉันก็เป็นทายาทของตระกูลไอซ์เบิร์ตด้วย ไม่ควรต้องมาเจอผู้ชายแบบนี้เลยด้วยซ้ำ! แต่ยัยนั่นยืนกรานว่า ไม่ว่ายังไงก็–“

 

“โฮ่”

 

ผมยิ้มออกมา

 

“หรือก็คือ [ยัยนั่น] ที่ว่า คือคนที่ขอให้ผมได้รับการเสนอชื่อเป็นพิเศษสินะครับ?”

 

คุณลิลลี่กุมขมับแล้วถอนหายใจออกมา

 

มิวล์นั้น เอาแต่โบกมือเลิ่กลั่กและพูดว่า [ฉะ…ฉันไม่รู้เรื่องนะ! ไม่รู้ ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น!!]

 

ผมยิ้มอย่างขมขื่น และตะโกนเรียกใครบางคนทางด้านหลัง

 

“ยังไงก็คงจะแอบฟังอยู่ใช่มั้ยล่ะ เข้ามาสิ”

 

ประตูเปิดออก–

 

“สึกิโอริ”

 

ตัวเอก สึกิโอริ ซากุระได้เดินเข้ามาข้างใน

 

“นอกจากจะเก่งดาบแล้ว หัวก็ยังดีด้วยสินะ”

 

“นั่นชมหรือว่าประชดล่ะ?”

 

เธอเดินเข้ามาในห้องรับแขก จากนั้นก็นั่่งลงที่ข้างผมและโอบแขนผมไว้

 

“…เฮ้ย เดี๋ยวเถอะ”

 

“ทำไมถึงรู้ล่ะ? ตั้งแต่ตอนไหนกัน?”

 

ดูเหมือนไม่ใช่ว่าจะหว่านเสน่ห์หรืออะไรเลย

ที่ยัยนี่แนบแขนผมไว้แบบนี้ ก็เพราะจะไม่ให้ผมหนีเท่านั้นเอง

 

มิวล์ที่เข้าใจผิด ก็ได้หน้าแดงแจ๋ ส่วนคุณลิลลี่ก็ค่อย ๆ หลับตาลงช้า ๆ

 

“ก็แค่สรุปเอาตามปกติน่ะสิ ถ้าคิดดูดี ๆ แล้วล่ะก็ มันไม่มีทางที่ทายาทตระกูลไอซ์เบิร์ตจะมาเลือกผู้ชายที่มีคะแนน 0 อย่างฉันให้เป็นผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อพิเศษอยู่แล้ว ตอนแรกฉันก็นึกว่าเป็นการเคลื่อนไหวลับหลังของตระกูลซันโจด้วยซ้ำ แต่การที่จะให้ฉันเข้าหอพักมันก็ไม่น่ามีประโยชน์อะไรกับเจ้าพวกนั้นน่ะนะ”

 

สึกิโอริมองหน้าผมด้วยความสนใจ

 

“ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว มันก็หมายความว่าก็ต้องเป็นใครบางคนในโรงเรียนที่เกี่ยวข้องกับฉัน แล้วก็อยากให้ฉันเข้าไปอยู่ในหอพักด้วย…ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ มันก็เหลือแค่เธอเท่านั้นแล้วล่ะ สึกิโอริ ซากุระ”

 

ผมล้มเลิกที่จะต้านแขนของผมกับเธอ และพูดต่อไปทั้ง ๆ แบบนั้น

 

“ในตอนเช้า ฉันได้ยินมาว่าก่อนจะเข้าโฮมรูม มีคนเห็นสึกิโอริ ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ดูแลหอพักมิวล์ ตามปกติแล้ว คนที่ถูกเสนอชื่อตอนแรกก็น่าจะเป็นสึกิโอริ…เธอใช่มั้ยล่ะ? เธอที่รู้แบบนั้นแล้ว ก็เลยหาวิธีที่จะทำให้ฉันได้เข้าไปอยู่ในหอพักโดยใช้วิธีการเสนอชื่อพิเศษ จึงได้เข้าหาผู้ดูแลหอพักแล้วพูดคุยกัน คงจะพูดประมาณว่า [ซันโจ ฮิอิโระมีความสามารถที่ทัดเทียมกับฉัน ถ้าให้ฮิอิโระเข้าหอพักล่ะก็ ฉันก็สัญญาว่าจะยอมเข้าร่วมหอพักฟลาวุมอย่างไร้เงื่อนไขเลย] ใช่รึเปล่าล่ะ?”

 

ก็นะ เรื่องที่รู้ว่ามีคนไปเห็นน่ะมันก็โกหกแหละนะ เพราะความจริงแล้ว มันก็เป็นแค่สิ่งที่ผมรู้มาจากเกมเท่านั้น แล้วพวกสึกิโอริที่ไม่ได้รู้เรื่องนั้นก็คงจะตกใจกันไม่น้อยแน่ ๆ พวกเธอก็เลยมองมาทางผมด้วยตาที่เบิกกว้าง

 

“ยอดเลย…ไม่ใช่แค่แข็งแกร่งอย่างเดียว แต่ยังฉลาดอีกด้วย”

 

สึกิโอริยิ้มและโอบแขนผมไว้ราวกับจะไม่ปล่อยให้ผมไปไหน

 

กลิ่นแชมพูที่ลอยมาจากผมสีเกาลัดของเธอ พร้อมดวงตาของเธอที่จ้องมาที่ผม

 

“ฮิอิโระคุง”

 

เธอกระซิบมาพร้อมกับเสน่ห์ที่ไม่อาจจะต้านทานไหว

 

“จะเข้า…หอฟลาวุม…รึเปล่า?”

 

ยะ…ยัยนี่ แค่ผู้หญิงยังไม่พอ ยังจะเอาผมที่เป็นผู้ชายด้วยเรอะ!?

 

“ผะ…ผู้ชายน่ะ ถ้าตั้งใจก็ทำได้เหมือนกันนะ! อย่างที่สึกิโอริพูดนั่นแหละ! เพียงเท่านี้ หอฟลาวุมของเราก็เตรียมตั้งเป้าเป็นที่ 1 ไว้ได้เลย! เนอะ ลิลลี่!?”

 

“ค่ะ…บอกตามตรงก็รู้สึกตกใจอยู่เหมือนกันค่ะ…ราวกับว่าเคยเห็นมากับตาแล้วยังไงยังงั้นเลย… “

 

ขอโทษครับ ก็เคยเห็นกับตามาแล้วจริง ๆ นั่นแหละ

 

สึกิโอริจ้องมาทางผมด้วยแววตาที่เป็นประกาย…แบบนี้ผมคงหนีไม่พ้นแล้วล่ะนะ  

 

“เข้าสิครับ เข้าหอฟลาวุมน่ะ ถึงจะคิดอะไรหลาย ๆ อย่างดูแล้ว แต่บางทีนี่คงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วล่ะครับ”

 

สึกิโอริขยับตัวโดยเอาปากเข้ามาใกล้หูของผม

 

“อดใจรอไม่ไหวเลยนะ…ชีวิตรั้วโรงเรียนหลังจากนี้ไปน่ะ”

 

เธอยิ้มให้ผมพร้อมกับแก้มแดง ทั้งที่ผมยังไม่รู้อะไรเลย

 

จากนั้นเธอก็เดินออกจากห้องไปอย่างงดงาม

 

สมแล้วที่เป็นตัวเอกผู้แข็งแกร่งในการต่อสู้…ถ้าจะมีอะไรที่มันจะกวนใจผมล่ะก็ คงจะเป็นการที่เธอเป็นประเภทกินเนื้อที่จะทำให้อีกฝ่ายเงียบด้วยการทำคาเบะด้งแล้วจูบน่ะ…สำหรับยูริแล้ว ก็มีหลายฉากเลยที่เธอไปจูบคนอื่น…ถึงผมจะมีความสุขกับมันก็เถอะ…แต่มันทำไมถึงได้กวนใจแบบนี้กันนะ…?

 

“เอาล่ะ! ถ้างั้นฉัน! มิวล์ เอสเซ่ ไอซ์เบิร์ตคนนี้! อนุมัติให้นายเข้าหอพักฟลาวุมได้!”

 

เธอหลับตาลง จากนั้นก็โบกไม้กายสิทธิ์แล้วเอนหลังพูด

 

“ลิลลี่! ช่วยนำทางหมอนี่ไปที่ห้องหน่อย–“

 

“ไม่ล่ะ ไม่จำเป็นต้องมีห้องของผมหรอกครับ”

 

“เอ๊ะ หมายความว่ายังไงน่ะ?”

 

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอช็อตไปครู่นึงรึเปล่านะ เธอเลยดันเผลอแสดงปฏิกิริยาที่ดูน่ารักสมวัยออกมา

 

จากนั้นเธอก็กระแอม เพื่อที่จะเรียกศักดิ์ศรีของเธอคืนมา

 

“นะ…นั่นนายหมายความว่ายังไงน่ะ ซันโจ ฮิอิโระ?”

 

“ก็ผมเป็นผู้ชายนี่ครับ ผมไม่คิดที่จะเข้าไปยุ่มยามยูริของทุกคนกับผู้ดูแล-ไม่ใช่สิ ผมไม่อยากจะไปรบกวนชีวิตของคนอื่นเขาน่ะครับ เพราะงั้นผมขออยู่ห้องใต้หลังคาเถอะครับ ส่วนพวกสิ่งอำนวยความสะดวกรวม ผมจะพยายามใช้ตอนเช้าค่ำ ไม่ก็ตอนดึกเอา เพื่อไม่ให้ใครสังเกตเห็นผมครับ”

 

“โอ้ เป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมมากเลยนี่! รู้สถานะที่ต่ำต้อยของตัวเองดี–“

 

“…คุณหนูคะ”

 

“เอ๊ะ ตะ…แต่ว่านะลิลลี่ ก็หมอนี่พูดออกมาเองนี่”

 

“คุณหนู”

 

“อูว…”

 

ผู้ดูแลหอพักถึงกับต้องหันหลังกัดฟันเลยทีเดียว

 

คุณลิลลี่โค้งตัวขอโทษผมอย่างสุดซึ้งด้วยความรู้สึกผิด

 

“ต้องขอโทษด้วยนะคะ ท่านซันโจ เด็กคนนี้น่ะทำอะไรให้เข้าใจผิดได้ง่ายๆ–“

 

“ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่มองดูนิดหน่อย ก็พอจะรู้ได้แล้วล่ะครับว่าเธอไม่ได้หมายความแบบนั้นจริง ๆ”

 

เธอเงยหน้าขึ้นมองด้วยความแปลกใจ และยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน

 

“อะ…อะไรของนายกันน่ะ! เป็นแค่ผู้ชายแท้ ๆ แต่คิดจะมาตีสนิทกับลิลลี่งั้นเหรอ! ฉันไม่ยอมหรอกนะจะบอกให้!!”

 

“อะฮ่ะๆ ไม่หรอกครับ (เอาแล้ว ดูอิจฉาตาร้อนสุด ๆ ไปเลยไม่ใช่รึไงนั่น!! กลิ่นยูริแบบนี้มันช่างหอมเกินต้านจริง!! ยูริเอ็นจิ้นมันกำลังเริ่มอุ่นเครื่องหลังจากที่ไม่ได้เจอมานานแล้ว!! แบบนี้มีแต่ต้องระเบิดมันออกมาเต็มพิกัดแล้ว!! บรื้นๆๆๆๆๆ!!)”

 

“ต้องขอขอบคุณสำหรับการตัดสินใจนั้นนะคะท่านฮิอิโระ แต่ไม่ต้องไปอยู่ห้องใต้หลังคาก็…”

 

คุณลิลลี่ดูกังวล ผมจึงตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม

 

“ไม่เลยครับๆ อย่างผมน่ะ แค่นั้นก็พอแล้วล่ะครับ ถ้าจำไม่ผิด หอพักนี้เป็นที่ที่สามารถทำให้เกิดยูริได้ง่า–ไม่ใช่สิ เป็นที่ที่ผู้หญิงจะใช้ชีวิตกันได้อย่างราบรื่น เพราะงั้นจะให้ผู้ชายอย่างผมเข้าไปแทรกแซงมันก็คงไม่ได้หรอกครับ”

 

“เดี๋ยวผมจะอยู่ตัวคนเดียวแล้วก็ทำความสะอาดเอาเองนะครับ”

 

“แต่ว่า…”

 

“ปล่อยไปเถอะลิลลี่! หมอนี่ก็บอกเองแล้วนี่ ว่าไม่เป็นไรน่ะ! ให้เขาทำในแบบที่อยากเถอะ!”

 

“…นั่นสินะคะ ถ้ามากกว่านี้คงจะเป็นการสร้างปัญหามากกว่าสินะคะ”

 

ฮิ้ววว! ตามน้ำได้แจ๋วมาก ผู้ดูแลหอพัก!! แจ่มมาก!!

 

“งั้นก็พอเท่านี้”

 

นี่แหละคือโอกาสแล้ว!! ผมพยายามเดินออกจากห้องให้ไวด้วยความคิดแบบนั้น

 

“อ๊ะ จริงสิ ซันโจ ฮิอิโระ”

 

ผมได้ยินเสียงมาจากผู้ดูแลหอพัก

 

“คู่หมั้นของนายน่ะกำลังรออยู่ข้างนอกนะ ถ้าไม่อะไรกับการอยู่ใต้หลังคาล่ะก็ จะอยู่ด้วยกันฉันก็ไม่ว่าอะไรนะ”

 

“อ๋อ งั้นเหรอครับ ถ้างั้นก็ขอบคุณมากนะครับ”

 

ผมเปิดประตูออกไป

 

“คู่หมั้นของผมงั้นเรอะ!?”

 

ผมกรีดร้องออกมาดังลั่นจนผู้ดูแลถึงกับกลัวเลยทีเดียว

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด