ชายาเคียงหทัย 340-2 ไม่พบไม่รู้จัก

Now you are reading ชายาเคียงหทัย Chapter 340-2 ไม่พบไม่รู้จัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

​เยี​่ย​หลี​เห็น​สีหน้า​ของ​ม่อ​อู๋​โยว​ ​แต่กระนั้น​ก็​ไม่​พูด​ออก​ไป​ให้​นาง​ขายหน้า​ ​สวี​ชิงปั​๋​วอ​ย่าง​ไร​ก็​ต้อง​มีใจ​ให้​อู๋​โย​วอ​ยู่​บ้าง​ ​มิเช่นนั้น​แล้ว​เขา​ที่​ถึงแม้​จะ​สุภาพ​เรียบร้อย​ ​แต่กลับ​มี​ความคิด​เป็น​ของ​ตัวเอง​สูง​ ​ไม่มีทาง​โอนอ่อน​ตามที่​สวีฮู​หยิน​ใหญ่​ต้องการ​อย่างแน่นอน​ ​ท่าทาง​ยาม​ที่​ม่อ​อู๋​โยว​เอ่ยถึง​สวี​ชิงปั​๋​วนั​้น​ ​ก็​ดู​ไม่​เหมือน​คน​ไม่มี​ใจ​ ​ถึงอย่างไร​ทั้งสอง​ก็​ยัง​อายุ​ไม่​มาก​ ​ยัง​มี​เวลา​ให้​บ่ม​เพาะ​อีก​นาน​ก็​เท่านั้น

“​พระ​ชายา​ ​ฉาง​ซิ่ง​อ๋อง​กับ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​ขอ​เข้าพบ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​ใน​ระหว่าง​ที่​ทุกคน​กำลัง​คุย​เล่น​กัน​อยู่​นั้น​ ​ชิง​ซวง​ก็​เข้ามา​รายงาน

ทุกคน​พากั​นอึ​้ง​ไป​ ​สีหน้าฮ​ว่า​ฮองเฮา​กับ​อู๋​โยว​ดูจะ​ซับซ้อน​กว่า​ใคร​เพื่อน​ ​คนอื่นๆ​ ​อย่างมาก​ก็​เพียง​รู้สึก​แปลกใจ​ ​แต่​พวก​นาง​ทั้งสอง​มี​ความสัมพันธ์​กับ​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋น​และ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​มากกว่า​ ​มู่​หรง​ถิง​เอ่ย​ขึ้น​ด้วย​ความใคร่​รู้​ว่า​ ​“​พวกเขา​มาตำ​หนัก​ติ้ง​อ๋อง​ในเวลานี้​ทำไม​กัน​”​ ​ตั้งแต่​ย้าย​มา​อยู่​ที่​เมือง​หลี​ ​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋​นกั​บองค​์​หญิง​เจิน​หนิง​ก็​เก็บตัว​เงียบ​ไม่​ค่อย​ออก​ไป​ไหน​มา​ไหน​ ​นอกจาก​ตอน​มาคา​รวะ​เยี​่ย​หลี​ยาม​ที่​เพิ่ง​มาถึง​ที่นี่​ใหม่​ๆ​ ​ก็​ไม่เคย​เหยียบ​เข้ามา​ใน​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​อีก​เลย​ ​จึง​ไม่​แปลกที่​มู่​หรง​ถิง​จะ​รู้สึก​แปลกใจ

เยี​่ย​หลี​นิ่ง​คิด​ก่อน​พูดว่า​ ​“​เชิญ​พวกเขา​เข้ามา​เถิด​”

ชิง​ซวง​รับคำ​สั่ง​ออก​ไป​ ​สวีฮู​หยิน​ใหญ่​ถาม​ว่า​ ​“​ฉาง​ซิ่ง​อ๋อง​กับ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​มาคุ​ยธุ​ระ​กับ​เจ้า​ ​เช่นนั้น​พวกเรา​หลบ​ไป​ก่อน​ก็แล้วกัน​”​ ​เยี​่ย​หลี​ส่ายหน้า​ ​“​ต่อไป​พวกเขา​จะ​มา​อาศัย​ที่​เมือง​หลี​อีก​นาน​พอดู​ ​จะ​ไม่​พบ​หน้า​กัน​เลย​คง​มิได้​กระมัง​ ​พวกเขา​น่าจะ​มาด​้วย​เรื่อง​ของ​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​”

“​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​!​”​ ​สตรีทุ​กค​นพา​กัน​อึ้ง​ไป​ ​สำหรับ​พวก​นาง​ ​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​คือ​คนที​่​ตาย​ไป​นาน​แล้ว

เยี​่ย​หลี​พยักหน้า​ ​นิ่งเงียบ​ไป​ครู่​แล้ว​ถึง​ได้​เอ่ย​ว่า​ ​“​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ยัง​ไม่​ตาย​ ​และ​ยาม​นี้​นาง​ก็​อยู่​ใน​เมือง​หลี​นี้​เอง​ ​ฉาง​ซิ่ง​อ๋อง​กับ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​น่าจะ​ได้​ทราบ​ข่าว​ ​เลย​มา​ขอ​คำ​ยืน​ขัน​จาก​ข้า​”​ ​ไม่นาน​ ​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋​นกั​บองค​์​หญิง​เจิน​หนิง​ก็​มี​คน​เดิน​นำเข้า​มา​ ​สีหน้า​ทั้งสอง​ถือว่า​ไม่เลว​นัก​ ​ดูท่า​แล้ว​การ​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​เมือง​หลี​คง​ถือว่า​สบายใจ​อยู่​บ้าง​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​รอยแผล​ฉกรรจ์​บน​ใบหน้า​ที่​ก้มลง​ครึ่งหนึ่ง​ของ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​ ​กลับ​ทำให้​ทุกคน​พากัน​ถอนใจ​ออกมา​อย่าง​อด​ไม่อยู่

“​คารวะ​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​”​ ​ทั้งสอง​มิได้​มี​ความหยิ่ง​ผยอง​อย่าง​องค์​ชาย​องค์​หญิง​ของ​ต้า​ฉู่​ ​เมื่อ​เห็น​เยี​่ย​หลีก​็​เอ่ย​ทักทาย​ทำความ​เคา​ระ​อย่างนอบน้อม​ ​เยี​่ย​หลี​อมยิ้ม​ ​“​ฉาง​ซิ่ง​อ๋อง​และ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​ไม่ต้อง​มาก​พิธี​ ​เชิญ​เข้ามา​นั่ง​เถิด​ ​ช่วง​ที่ผ่านมา​พอคุ​้น​เคย​กับ​การ​อยู่​ใน​เมือง​หลี​บ้าง​หรือไม่​”​ ​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋​นพ​ยัก​หน้า​ขรึมๆ​ ​“​ขอบคุณ​พระ​ชายา​ที่​เป็นห่วง​ ​ข้า​กับ​พี่สาว​สบายดี​ทุกอย่าง​”​ ​คำตอบ​นี้​ถึงแม้​จะ​เป็น​คำตอบ​ตามมารยาท​แต่​ก็​มาจาก​ใจ​จึง​ ​ถึงแม้​เมื่อ​อยู่​ใน​เมือง​หลี​พวกเขา​จะ​เป็น​ท่าน​อ๋อง​และ​องค์​หญิง​ที่​ไร้​ซึ่ง​อิทธิพล​อำนาจ​ ​แต่​หลังจาก​ผ่าน​ความทุกข์ยาก​และ​ความเจ็บปวด​ต่างๆ​ ​นานา​ใน​ช่วง​สอง​ปี​ที่ผ่านมา​แล้ว​ ​ชีวิต​เช่นนี้​ก็​ไม่​ถือว่า​ยากเย็น​อัน​ใด​นัก​ ​อีกทั้ง​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ก็​ไม่ได้​ดูแล​พวกเขา​สอง​พี่น้อง​ไม่ดี​เลย​สักนิด​ ​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋น​ถึงแม้​จะ​อายุ​ยัง​ไม่​มาก​ ​แต่กลับ​มองเห็น​อย่าง​ทะลุปรุโปร่ง​ ​ใน​ใต้​หล้า​นี้​ ​นอกจาก​เมือง​หลี​ ​นอกจาก​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​แล้ว​ ​ก็​ไม่มี​ที่ไหน​ให้​พวกเขา​สอง​คน​พี่น้อง​ยืน​อีก​ ​ด้วย​อายุ​และ​ความสามารถ​อย่าง​เขา​ ​ยัง​ห่างไกล​อีก​มาก​ที่จะ​ปกป้อง​ตนเอง​และ​ต้านทาน​พลัง​อำนาจ​จาก​ทุก​สารทิศ​ของ​ใต้​หล้า​ได้

เยี​่ย​หลี​พยักหน้า​ ​พอใจ​กับ​การตื่น​รู้​และ​รู้​หน้าที่​ของ​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋น

ทั้งสอง​ขอบคุณ​เยี​่ย​หลีก​่อน​ไป​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ด้าน​ข้าง​ที่​ยัง​ว่าง​อยู่​ ​ถึง​ได้​เห็น​คน​จำนวนมาก​ที่นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ ​แล้วก็​อด​ตกใจ​ขึ้น​ไม่ได้​ ​“​เสด็จ​แม่​…​เสด็จ​พี่​…​”​ ​ถึงแม้​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​จะ​ไม่ลงรอย​กับฮ​ว่า​ฮองเฮา​มา​แต่ไหนแต่ไร​ ​แต่​ม่อ​เสี้ยว​อิซ​่​นกั​บองค​์​หญิง​เจิน​หนิง​กลับ​ไม่มี​ใจมา​ดร​้าย​ต่อฮ​ว่า​ฮอง​เฮส​ ​อย่างมาก​ก็​มี​เพียง​เมื่อก่อน​ที่​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​นึก​อิจฉา​ม่อ​อู๋​โยว​เท่านั้น​ ​แต่กระนั้น​ความอิจฉา​นั้น​มาถึง​ทุกวันนี้​ก็​ยิ่ง​ไม่มี​ความหมาย​อีกต่อไป​แล้ว​ ​ส่วน​ม่อ​อู๋​โยว​ ​เดิมที​ด้วย​เพราะ​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ ​จึง​ไม่​ชอบใจ​คู่​สอง​พี่น้อง​นี้​อย่างมาก​ ​แต่​ก็​ด้วย​รู้​ว่า​ช่วง​สอง​ปีนี​้​ที่​พวกเขา​อยู่​ใน​เมือง​หลีก​็​ไม่ได้​ดี​ไป​กว่า​เคราะห์กรรม​ใน​ครั้งนั้น​ของ​ตน​เท่าไร​นัก​ ​ยิ่ง​เมื่อ​เห็น​บาดแผล​บน​ใบหน้า​ของ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​กับ​สีหน้าท่าทาง​เมื่อ​ครั้ง​ฉู่​จิง​ถูก​ล้อม​ของ​พวกเขา​สอง​คน​พี่น้อง​แล้ว​ ​ม่อ​อู๋​โย​วก​็​อดใจ​อ่อน​ไม่ได้​ ​เพราะ​ถึงอย่างไร​พวก​นาง​ก็​เป็น​พี่น้อง​แท้ๆ​ ​กัน​ ​จึง​พยักหน้า​พูดว่า​ ​“​พวก​เจ้า​สบายดี​หรือไม่​”

ดวงตา​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​แดง​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​กัด​ริมฝีปาก​พยักหน้า​ ​ก่อน​จะ​ก้มหน้า​ลง​ด้วย​ความรู้สึกผิด​ ​ครานั้น​ตอนที่​นาง​รู้​ว่า​ม่อู​๋​โย​วจะ​ถูก​ส่งตัว​ไป​ให้​หนาน​จ้าว​อ๋อง​ ​นาง​ยัง​เคย​นึก​ยินดี​อยู่​ใน​ใจ​ด้วยซ้ำ​ ​ยาม​นี้​เมื่อ​ได้​เห็น​ม่อ​อู๋​โย​วที​่​ไม่​นึก​เยาะ​หยัน​แม้​รูปโฉม​ตน​จะ​เสียหาย​ ​และ​ถึงขั้น​เห็นใจ​และ​ไม่รังเกียจ​ตน​ ​ใน​ใจ​จึง​บังเกิด​ความรู้สึกผิด​เพิ่มมากขึ้น

“​เสด็จ​พี่​…​”

ม่อ​อู๋​โยว​เอ่ย​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เรียก​ข้าว​่า​อู๋​โย​วก​็​พอ​ ​ทุกวันนี้​ข้า​ไม่ใช่​องค์​หญิง​อีกแล้ว​”

ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋​นพ​ยัก​หน้า​ด้วย​ความเข้าใจ​ ​ก่อน​พูด​กับฮ​ว่า​ฮองเฮา​และ​ม่อ​อู๋​โย​วว​่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​พี่​อู๋​โยว​”​ ​การ​เรียกขานฮ​ว่า​ฮองเฮา​ว่า​ท่าน​แม่นั​้​นอ​อก​จะ​ฟัง​ดู​แปลกหู​อยู่​บ้าง​ ​แต่กลับ​ไม่​ถือว่า​ผิด​ ​เพราะ​เดิมทีฮ​ว่า​ฮองเฮา​ก็​เป็น​ภรรยา​เอก​ของ​ม่อ​จิ​่ง​ฉี​ ​องค์​ชาย​องค์​หญิง​ทุกคน​ต่าง​ต้อง​เรียกขาน​นาง​ว่า​เสด็จ​แม่​ ​นาง​ก็​คือ​แม่​ใหญ่​ของ​บรรดา​องค์​ชาย​องค์​หญิง​อย่าง​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋น​ ฮ​ว่า​ฮองเฮา​พยักหน้า​ ​มอง​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋น​แล้ว​เอ่ย​เรียบๆ​ ​ว่า​ ​“​สอง​ปีนี​้​ลำบาก​พวก​เจ้า​แล้ว​ ​ในเมื่อ​ทน​มา​ได้​ถึง​ทุกวันนี้​ ​เรื่อง​ใน​อดีต​ก็​ลืม​มัน​ไป​เสียเถิด​ ​ใช้ชีวิต​กับ​พี่สาว​เจ้า​ให้​ดี​ก็แล้วกัน​”

ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋​นพ​ยัก​หน้า​ ​“​ขอบคุณ​ท่าน​…ฮู​หยิน​ที่​ชี้แนะ​”

“​ที่​ฉาง​ซิ่ง​อ๋อง​กับ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​มาที​่​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​นี้​ ​ด้วย​เพราะ​มีธุระ​อัน​ใด​หรือ​”​ ​เยี​่ย​หลี​เอ่ย​ถาม​ ​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋น​เหลือบมอง​บรรดา​สตรีที​่​อยู่​ตรงหน้า​ที​หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​พยักหน้า​เอ่ย​อย่าง​ไม่​ปิดบัง​ว่า​ ​“​เรียน​พระ​ชายา​ ​ข้า​กับ​พี่สาว​ได้ยิน​มา​ว่า​ ​ข้าง​กาย​องค์​ชาย​เจ็ด​แห่ง​เป่ย​หร​งมี​สตรี​นาง​หนึ่ง​ ​รูปลักษณ์​ของ​นาง​มีส่วน​คล้าย​…​เสด็จ​แม่พระ​สนม​อยู่​มาก​ ​ไม่ทราบ​ว่า​เป็นเรื่อง​จริง​หรือไม่​”​ ​เยี​่ย​หลี​มอง​ทั้งสอง​ที่​มอง​ตน​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​นิ่ง​ ​ก่อน​ถอนใจ​เบา​ๆ​ ​พยักหน้า​เอ่ย​ว่า​ ​“​ถูกต้อง​แล้ว​ ​สตรี​ข้าง​กาย​เยีย​หลี​่ว​์​เหยี​่​ยมี​ชื่อว่า​ชิง​อีน​่า​ ​เห็น​ว่า​เป็น​คู่หมั้นคู่หมาย​ของ​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​ถึงแม้​ข้า​จะ​ไม่เคย​เห็น​ใบหน้า​ที่แท้​จริง​ของ​นาง​ ​แต่​ตามที่​องค์​หญิง​หรง​หวา​เอ่ย​ ​นาง​มี​รูปลักษณ์​ที่​คล้ายคลึง​กับ​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​จริงๆ​ ​หาก​ใน​ใจ​พวก​เจ้า​มี​ข้อสงสัย​ประการ​ใด​ ​ไป​สอบถาม​จาก​นาง​ที่​โรงพัก​ม้า​ก็แล้วกัน​”

ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋น​ใบหน้า​ขรึม​ลง​ไป​เล็กน้อย​ ​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ว่า​ ​“​ข้า​กับ​พี่สาว​เคย​ไป​ขอ​พบ​ที่​โรงพัก​ม้ามา​แล้ว​สองครั​้ง​ ​แต่​ถูก​ปฏิเสธ​กลับมา​ทุกครั้ง​ ​ดังนั้น​ถึง​ได้​…​มา​ขอ​พบพระ​ชายา​ ​เพราะ​อยาก​ให้พระ​ชายา​ช่วย​ยืนยัน​…​”​ ​เยี​่ย​หลี​ใคร่ครวญ​ครู่หนึ่ง​ ​แล้วจึง​เอ่ย​ว่า​ ​“​ชิง​อีน​่า​เป็น​คนที​่​องค์​ชาย​เยีย​หลี​่ว​์​พามา​ด้วย​ ​จึง​ถือว่า​เป็น​แขก​ ​ข้า​เลย​ไม่​สะดวก​ที่จะ​ส่ง​คน​ไป​สอบถาม​จาก​นาง​ตรงๆ​ ​เพียงแต่​พวก​เจ้า​สามารถ​ไป​สอบถาม​จาก​องค์​หญิง​หรง​หวาดู​ได้​ ​เมื่อ​ครั้ง​องค์​หญิง​หรง​หวา​อายุ​ยังน้อย​ก็​เคย​เข้าออก​วัง​หลวง​อยู่​บ่อยครั้ง​ ​น่าจะ​คุ้นเคย​กับ​คน​ผู้​นั้น​มากกว่า​ข้า​”

อันที่จริง​ได้ยิน​เยี​่ย​หลี​พูด​เช่นนี้​ ​ทั้งสอง​ก็​พอ​จะ​ทราบ​ถึง​ฐานะ​ของ​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​แล้ว​ ​ใบหน้า​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋น​เคร่งขรึม​ยัง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ ​มือ​ของ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​ยิ่ง​กำ​ผ้าเช็ดหน้า​จน​มือ​เริ่ม​ขาว​ ​และ​เริ่ม​มี​อาการ​สั่น​ให้​เห็น​เล็กน้อย

เยี​่ย​หลี​มอง​ทั้งสอง​ ​พูด​อย่าง​มี​ความนัย​ลึกซึ้ง​ว่า​ ​“​ไม่ว่า​คน​ผู้​นั้น​จะ​ใช่​หรือไม่​ ​แต่​พวก​เจ้า​จะ​ต้อง​ใคร่ครวญ​ให้​ดี​ก่อน​จะ​ลงมือทำ​สิ่งใด​ ​อย่า​ได้​กระทำการ​ผลีผลาม​เป็นอันขาด​ ​หาก​มีต​รง​ใด​ที่​ลำบากใจ​ ​ก็​มา​พูดคุย​กับ​ข้า​และ​ท่าน​อ๋อง​ที่​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​ได้​ ​ถึงแม้​ที่นี่​จะ​เป็น​เมือง​หลี​ ​แต่​ถึงอย่างไร​เยี​หลี​่ว​์​เหยี​่​ยก​็​เป็น​องค์​ชาย​ที่​มี​กำลัง​ทหาร​ของ​เป่ย​หร​งอยู​่​ใน​มือง​ ​อำนาจ​และ​อิทธิพล​ของ​เขา​ไม่ใช่​น้อย​ๆ​ ​พวก​เจ้า​จะ​กระทำการ​ใด​ที่​บุ่มบ่าม​ไม่ได้​”

ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋​นนิ​่ง​เงียบ​ไป​เล็กน้อย​ ​แล้วจึง​พยักหน้า​ ​“​ขอบคุณ​พระ​ชายา​ที่​ชี้แนะ​ ​พวกเรา​เข้าใจ​แล้ว​ ​เช่นนั้น​ก็​ไม่​รบกวน​พระ​ชายา​แล้ว​ ​ข้า​กับ​พี่สาว​ขอตัว​ก่อน​”​ ​เยี​่ย​หลี​พยักหน้า​น้อย​ๆ​ ​มอง​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​พลาง​เอ่ย​เสียงอ่อน​ว่า​ ​“​อย่า​เอาแต่หม​พตั​วอ​ยู่​ใน​ห้อง​ทั้งวัน​ ​การ​ออกมา​เดินเล่น​ข้างนอก​บ้าง​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ย่ำแย่​อะไร​”​ ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​กัด​ริมฝีปาก​ ​พยักหน้า​ก่อน​ซอยเท้า​เดินตาม​ม่อ​เสี้ยว​อวิ​๋​นอ​อก​ไป

ทุกคน​มองตาม​สอง​พี่น้อง​เดิน​จากไป​ ​ใน​ใจ​ทุกคน​บังเกิด​ความหดหู่​ ฮ​ว่า​เทียน​เซียง​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​ใบหน้า​ของ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​ ​ถูก​หลิ่ว​กุ้ย​เฟย​ทำร้าย​จริงๆ​ ​หรือ​”​ ​ใน​อดีต​นาง​เคย​เข้าออก​วัง​หลวง​อยู่​บ่อยครั้ง​ ​แต่กลับ​ไม่มี​ความทรงจำ​เกี่ยวกับ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​สัก​เท่าไร​ ​อันที่จริง​บุตร​ทั้งสอง​ของ​หลิ่ว​กุ้ย​เฟ​ยนั​้น​ ​ล้วน​ไม่​เหมือนกับ​นาง​ ​องค์​หญิง​เจิน​หนิง​เป็น​บุตรสาว​ ​ไม่ได้​รับ​ความใส่ใจ​จาก​ผู้​เป็นมา​รดา​นั้น​ก็​เรื่อง​หนึ่ง​ ​หนำซ้ำ​ม่อ​จิ​่ง​ฉี​ยัง​ค่อนข้าง​เอ็นดู​ม่อ​อู๋​โยว​ ​จึง​ทำให้​นาง​ไม่​ค่อย​มีตัว​ตน​นัก​ยาม​อยู่​ใน​วัง​หลวง​ ​ไม่​เหมือน​เป็น​บุตรสาว​ของ​พระสนม​ผู้ยิ่งใหญ่​คับ​วังหลัง​เอา​เสีย​เลย​ ​ยาม​นี้​เมื่อ​ได้มา​เห็น​ใบหน้า​เรียว​เล็ก​ที่​อ่อนหวาน​มี​รอยแผล​เป็น​ฉกรรจ์​ดู​น่า​ตกใจ​เช่นนั้น​ ฮ​ว่า​เทียน​เซียง​จึง​เกิด​ความเห็นใจ​นาง​ขึ้น​มา​หลาย​ส่วน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด