ตำนานเทพกู้จักรวาล 775 มหาจักรพรรดิมรรคาบู๊

Now you are reading ตำนานเทพกู้จักรวาล Chapter 775 มหาจักรพรรดิมรรคาบู๊ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฉิน​มู่และ​ชาวนา​เฒ่าเดิน​เข้าไป​ใน​หมู่บ้าน​ ขณะที่​กิเลน​มังกร​และ​กิเลน​วารี​เดินตาม​ไป​ข้างหลัง​ กิเลน​วารี​กวาดสายตา​มอง​กิเลน​มังกร​ขึ้นๆ ลงๆ​ จาก​ด้าน​ข้าง​ และ​เขา​ก็​พลัน​ยิ้ม​หยัน​ “เจ้านั้น​ก็​เป็น​เผ่าพันธุ์​กิเลน​ ครึ่ง​เทพ​ตน​หนึ่ง​ แต่ทว่า​เจ้าน่ะ​ไร้​กระดูกสันหลัง​จน​เกินไป​ เจ้าได้​โยน​หน้า​ของ​เผ่า​เท​วะ​กิเลน​ของ​พวกเรา​ทิ้ง​ไป​หมด​แล้ว​! ถึงกับ​พินอบพิเทา​ไป​เป็น​สัตว์​ขี่​ของ​ผู้อื่น​ ถึงกับ​ไป​ไถนา​ แล้ว​ยัง​ร้องไห้​หงิง​ๆ เหมือนกับ​ทารก​!”

กิเลน​มังกร​ปรายตา​มอง​เขา​และ​กล่าว​ด้วย​เสียง​อู้อี้​ “อะไร​อยู่​บน​หลัง​เจ้า”

วิญญูชน​สวรรค์​อวี้​นั่ง​อยู่​บน​หลัง​กิเลน​วารี​ และ​มอง​ไป​รอบ​ๆ ด้วย​ความสงสัย​ใคร่รู้​

กิเลน​วารี​แทบจะ​สำลัก​น้ำลาย​ และ​แค่น​เสียง​ “ข้า​แตกต่าง​จาก​เจ้า ข้า​ถูก​นาย​ของ​เจ้าคร่า​กุม​ตัว​มา และ​หากว่า​ข้า​ไม่ยอมแพ้​ ก็​จะต้อง​ตาย​ ดังนั้น​ข้า​จึงประนีประนอม​และ​กลาย​มาเป็น​สัตว์​ขี่​ของ​นาย​ท่าน​ห​ลัน​ เจ้าสิไม่เหมือนกัน​ เจ้านั้น​ถึงกัน​คราง​หงิง​ๆ และ​ร้องไห้​ เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​เผ่า​เทพ​กิเลน​ของ​พวกเรา​แข็งแกร่ง​มาก​ขนาด​ไหน​ใน​อดีต​ เผ่า​มังกร​ เผ่า​หงส์​เพลิง​ พวกเขา​ล้วนแต่​ต้อง​ยอมรับ​ว่า​ต่ำ​อาวุโส​กว่า​เมื่อ​พบ​กับ​พวกเรา​…”

กิเลน​มังกร​กล่าว​อย่าง​ใจเย็น​ “เจ้าเคย​กิน​ยา​วิญญาณ​มาก่อน​หรือเปล่า​”

กิเลน​วารี​ดุด่า​ไป​ด้วย​ความโกรธ​ “กิน​ยา​วิญญาณ​อะไร​ กิน​คน​ กิน​ครึ่ง​เทพ​ กิน​สัตว์ประหลาด​ กิน​มังกร​ กิน​หงส์​เพลิง​สิ ตราบเท่าที่​เป็น​สิ่งมีชีวิต​ พวกเรา​ก็​กิน​ได้​ทั้งนั้น​! พวกเรา​จะต้องการ​ยา​วิญญาณ​ไป​เพื่อ​อะไร​”

กิเลน​มังกร​มอง​ไป​รอบ​ๆ และ​พบ​ว่า​ไม่มีใคร​เฝ้ามอง​เขา​ ตอนนั้น​เขา​ถึงนำ​ถุงผ้า​หนึ่ง​ออกมา​ เขา​บีบ​ยา​วิญญาณ​ออกมา​หนึ่ง​เม็ด​อย่าง​ระมัดระวัง​และ​กล่าว​ “นี่​คือ​ยา​วิญญาณ​แห่ง​ธาตุ​สายฟ้า​และ​ไฟ จ้าว​ลัทธิ​ได้​หลอม​ปรุง​มัน​ขึ้น​มาเพื่อ​ข้า​โดยเฉพาะ​ ดังนั้น​มัน​น่าจะ​ไม่เหมาะกับ​เจ้าเท่าไร​ ข้า​ไม่มีเก็บ​ไว้​มากมาย​ ดังนั้น​หนึ่ง​เม็ด​นี้​จึงให้​เจ้าชิม”

กิเลน​วารี​ชิมไป​หนึ่ง​เม็ด​ และ​เขา​ก็​ตกตะลึง​ทันที​

“เจ้าพูดจา​เหลวไหล​แล้ว​ นาย​ของ​เจ้าให้อาหาร​เจ้าเต็ม​อ่าง​จน​แทบจะ​ล้น​อยู่​ชัด​ๆ มัน​ถึงกับ​ก่ายกอง​เป็น​ภูเขา​!”

กิเลน​วารี​ยิ้มแฉ่ง​และ​กล่าว​ซ้ำๆ “ให้​ข้า​อีก​สอง​เม็ด​ เพียงแค่​สอง​เม็ด​เท่านั้น​!”

กิเลน​มังกร​ส่าย​หัว​ไปมา​ “นี่​คือ​ยา​วิญญาณ​ธาตุ​ไฟและ​สายฟ้า​ เจ้าเป็น​กิเลน​วารี​และ​ไม่ใช่กิเลน​มังกร​ เจ้ากิน​นี่​ไม่ได้​หรอก​ หากว่า​เจ้ากิน​มากเกินไป​ มัน​จะเป็นอันตราย​ต่อ​ร่างกาย​ เจ้าเอง​ก็​มีเจ้านาย​ ให้​นาย​ของ​เจ้าหลอม​ปรุง​ให้​เจ้าสิ”

กิเลน​วารี​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ และ​หัวใจ​ของ​เขา​ก็​ติด​เป็น​เงื่อนปม​ “เกียรติศักดิ์​ของ​เผ่า​กิเลน​ของ​ข้า​…”

กิเลน​มังกร​เมิน​เขา​และ​ติดตาม​ฉิน​มู่ไป​

ฉิน​มู่เริ่มต้น​พูดคุย​ถึงเจตนา​ของ​เขา​ที่มา​ และ​กล่าว​ “แดน​โบราณ​วินาศ​ใน​ขณะนี้​ กว้างใหญ่​ไพศาล​อย่าง​ไร้​เปรียบ​ปาน​ มีอันตราย​อยู่​ทั่ว​ทุกหน​แห่ง​ ศิษย์​หลาน​หวัง​ว่า​จะหยิบยืม​พลัง​อำนาจ​ของ​โลก​สู้วัว​เพื่อ​ปกป้อง​ผู้คน​แห่ง​แดน​โบราณ​วินาศ​”

ใบหน้า​อัน​เหมือน​เปลือกไม้​ของ​ชาวนา​เฒ่ายิ่ง​มีรอย​ยับ​ย่น​มาขึ้น​อีก​ เมื่อ​เขา​หน้านิ่วคิ้วขมวด​ “ทุกๆ​ หมู่บ้าน​มีรูป​สลัก​หิน​ปกป้อง​คุ้มกัน​อยู่แล้ว​ และ​แม้แต่​เมือง​ทั้งหลาย​เหล่านั้น​ก็​มีรูป​สลัก​หิน​ด้วย​เช่นกัน​ ท้าว​ยมราช​แห่ง​ยมโลก​ได้​ถ่ายทอด​คำสั่ง​มาอนุญาต​ให้​รูป​สลัก​หิน​ใน​แดน​โบราณ​วินาศ​ฟื้นคืนชีพ​ขึ้น​มาได้​ทุกเมื่อ​ ท้าว​ยมราช​ยัง​ได้​ส่งเทพ​ปักษา​ฉือ​ซิ่ว​มาถามข้า​ว่า​ข้า​ต้องการ​เทพเจ้า​แห่ง​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​เข้ามา​ปกป้อง​โลก​สู้วัว​มากกว่า​นี้​หรือไม่​ แต่​ข้า​ปฏิเสธ​ความหวังดี​ของ​เขา​ไป​ แดน​ก่อกำเนิด​ผุด​ขึ้น​มาใน​คราวนี้​เป็น​เพียงแค่​น้ำ​หยด​หนึ่ง​ใน​มหาสมุทร​เท่านั้น​ อันตราย​ที่​แท้จริง​ยัง​ไม่เผยโฉม​ออกมา​”

ฉิน​มู่หัวใจ​หวั่นไหว​และ​เอ่ย​ถาม “ถ้าเช่นนั้น​ อาจารย์​ลุง​คิด​ว่า​อันตราย​จะมาจาก​ที่ไหน​หรือ​”

“อันตราย​ที่​แท้จริง​มิได้​อยู่​ใน​แดน​โบราณ​วินาศ​ มัน​อยู่​ใน​สันติ​นิรันดร์​”

ชาย​นา​เฒ่าได้ยิน​คำ​เรียก​หาว่า​อาจารย์​ลุง​ ก็​รู้สึก​สบาย​เนื้อ​สบาย​ตัวอย่าง​สุด​ๆ เขา​ไม่มอง​อีก​ฝ่าย​ด้วย​สายตา​เย็นเยียบ​อีกต่อไป​ และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “เมื่อ​เทียบ​กับ​พวก​ครึ่ง​เทพ​แล้ว​ สันติ​นิรันดร์​ยังคง​อ่อนแอ​เกินไป​ เจ้าเคย​ได้ยิน​แผน​พิชัย​ยุทธ​ ขับไล่​พยัคฆ์​ให้​ไป​กลืน​กิน​หมาป่า​หรือไม่​”

ฉิน​มู่อึ้ง​ไป​ และ​เขา​ก็​ถามหยั่งลึก​กว่า​เดิม​ “อาจารย์​ลุง​หมายถึง​อะไร​”

“แดน​โบราณ​วินาศ​คือ​แดน​ก่อกำเนิด​ที่​ถูก​ปิดผนึก​เอาไว้​ การ​ที่​แดน​ก่อกำเนิด​ทลาย​ฝ่าเวท​ปิดผนึก​มาใน​คราวนี้​ และ​เผยโฉม​ปรากฏ​แก่​โลก​หล้า​ นั้น​เป็น​สิ่งที่​ไม่มีใคร​คาดฝัน​เอาไว้​ แม้แต่​นักบุญ​คน​ตัดไม้​ก็​ไม่ทัน​ได้​ตั้งตัว​”

ชาวนา​เฒ่ากล่าว​อย่าง​เยือกเย็น​ “ยังคง​มีข้าราชบริพาร​แห่ง​จักรพรรดิ​ก่อ​ตั้งอยู่​ใน​แดน​โบราณ​วินาศ​ และ​มีผู้คน​ทั่วไป​อยู่​ไม่มาก​นัก​ใน​แดน​โบราณ​วินาศ​ จำนวน​ประชา​การ​อย่าง​มาก​ก็​หลัก​สิบ​ล้าน​คน​ ตราบเท่าที่​พวกเรา​รวบรวม​ผู้คน​ทั้งหมด​แห่ง​แดน​โบราณ​วินาศ​เข้ามา​ไว้​ด้วยกัน​ และ​สร้าง​เมือง​เทพยดา​สัก​หลาย​ๆ แห่ง​ ด้วย​การปกป้อง​พิทักษ์​ของ​ข้าราชบริพาร​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ที่​เหลืออยู่​ พวกเรา​ก็​จะสามารถ​รับประกัน​ความปลอดภัย​ของ​ผู้คน​เหล่านั้น​ แต่​สันติ​นิรันดร์​? มีประชา​การ​สอง​สามพัน​ล้าน​คน​ ใช่ไหม​ ผู้คน​เหล่านั้น​กระจาย​ตัว​กัน​ไป​ตาม​เมือง​ต่างๆ​ และ​บัดนี้​ระยะห่าง​ระหว่าง​เมือง​แต่ละ​เมือง​ก็​ไกล​กว่า​เดิม​ถึงหนึ่งร้อย​เท่า​”

หัวใจ​ของ​ฉิน​มู่เริ่ม​ตก​วูบ​

ชาวนา​เฒ่ากล่าว​ต่อไป​ “การคมนาคม​ระหว่าง​เมือง​แต่ละ​เมือง​ถูก​ตัดขาด​ ป่า​ดึกดำบรรพ์​และ​แดน​ก่อกำเนิด​ผุด​ขึ้น​มาห้อง​ล้อม​เมือง​ทั้งหลาย​เอาไว้​ ทั้ง​ยังมี​การ​ปรากฏตัว​ของ​ครึ่ง​เทพ​ เช่นเดียวกับ​ซาก​โบราณ​และ​สมรภูมิ​รบ​อัน​เปี่ยม​อันตราย​ทั้งหลาย​ สิทธิ​ราชย์​ของ​จักรพรรดิ​สันติ​นิรันดร์​ที่​ปก​ครองแผ่นดิน​ทั่วทุกหัวระแหง​ได้​ตกลง​ไป​ใกล้​จุดเยือกแข็ง​ และ​แต่ละ​สถานที่​ก็​เริ่ม​จะปกครอง​ตนเอง​ ไม่นาน​หลังจากนี้​ การปฏิรูป​แห่ง​จักรวรรดิ​สันติ​นิรันดร์​ก็​จะถูก​ทำลาย​ลง​ไป​โดยสิ้นเชิง​ โดย​ปราศจาก​พสกนิกร​ ก็​จะไม่มีการปฏิรูป​ จักรวรรดิ​จะล่มสลาย​! ต่อให้​จักรพรรดิ​มีแรง​ทะยานใจ​อัน​ยิ่งใหญ่​ และ​อพยพ​ผู้คน​ทั้งหมด​มายัง​บริเวณ​ใกล้เคียง​กับ​เมืองหลวง​เพื่อ​ก่อสร้าง​จักรวรรดิ​ขึ้น​มาใหม่​ นั่น​ก็​จะต้อง​อาศัย​เวลา​หลาย​ร้อย​ปี​!…

…แต่ทว่า​ ภายใน​ไม่กี่​เดือน​ สถานที่​มากมาย​ก็​จะประกาศ​ตน​เป็น​อิสรภาพ​จาก​สันติ​นิรันดร์​ พวกเขา​จะเป็น​จักรพรรดิ​ของ​ตนเอง​! กองกำลัง​กบฏ​จะมีมากมาย​จน​นับไม่ถ้วน​ แต่​สถานที่​ที่​สันติ​นิรันดร์​จะรักษา​เอาไว้​ได้​ ก็​มีแค่​บริเวณ​โดยรอบ​เมืองหลวง​เท่านั้น​!”

เขา​ยิ้ม​หยัน​และ​กล่าว​ “และ​เพื่อ​ต่อสู้​โต้กลับ​กองกำลัง​ใหม่​ที่​ผุด​ขึ้น​มา อย่า​เพิ่ง​ไป​คิด​ว่า​สันติ​นิรันดร์​จะมีความสามารถ​สู้ได้​หรือไม่​ เพียงแค่​การ​เดินทาง​ยกทัพ​ไป​ก็​ใช้เวลา​เป็น​ร้อย​ปี​แล้ว​! ยิ่งไปกว่านั้น​ สันติ​นิรันดร์​ยัง​ไม่มีความสามารถ​สู้รบ​ปรบมือ​กับ​พวก​ครึ่ง​เทพ​ได้​!”

ชาวนา​เฒ่าระบาย​ลมหายใจ​สะท้าน​และ​กล่าว​ “เมื่อ​ข้า​พูดถึง​การขับ​พยัคฆ์​ให้​ไป​กลืน​กิน​หมาป่า​นั้น​ สันติ​นิรันดร์​คือ​หมาป่า​ และ​พยัคฆ์​ก็​คือ​ครึ่ง​เทพ​ทั้งหลาย​ใน​แดน​ก่อกำเนิด​ นอกจาก​พวก​ครึ่ง​เทพ​ และ​มีเสือ​โหย​ตัว​อื่นๆ​ อีกด้วย​ เงย​ศีรษะ​ของ​เจ้าขึ้นไป​และ​มองดู​”

ฉิน​มู่เงย​ศีรษะ​ขึ้น​มอง​ไป​ยัง​ท้องฟ้า​ บน​ท้องฟ้า​ โลก​มิติ​มากมาย​สาด​แสงส่อง​ด้วย​สีสัน​ทุกชนิด​ เมฆและ​หมอก​คลี่​คลุม​แผ่น​ปฐพี​เหล่านั้น​เอาไว้​ ขณะที่​ดวงดาว​มากมาย​ก็​โคจร​ไป​ใน​นภา​กา​ศ โลก​เหล่านั้น​ทั้ง​แจ่มจรัส​และ​เจิดจ้า​

“โลก​มิติ​เหล่านั้น​มีสิ่งมีชีวิต​อาศัย​อยู่​”

ชาวนา​เฒ่ากล่าว​ “เมื่อ​ถึงเวลา​กลางคืน​ใน​แดน​โบราณ​วินาศ​ มาร​เท​วะ​มากมาย​ก็​มักจะ​ปรากฏตัว​ออกมา​ และ​มาร​เท​วะ​เหล่านั้น​ก็​มาจาก​โลก​มิติ​พวก​นี้​ เมื่อ​แดน​ก่อกำเนิด​ถูก​ปิดผนึก​ พวกเขา​ก็​จะต้อง​ใช้ความพยายาม​ไม่น้อย​เพื่อที่จะ​ล่วงล้ำ​เข้ามา​ พวกเขา​จะต้อง​คิด​หา​วิธีการ​อย่างเช่น​บูชายัญ​โลหิต​ แต่ทว่า​ ตอน​พวกเขา​เข้ามา​ได้​ง่าย​มากกว่า​เดิม​ยิ่งนัก​ สันติ​นิรันดร์​จะต้อง​เผชิญ​กับ​ครึ่ง​เทพ​ใน​เวลากลางวัน​และ​เทพเจ้า​จาก​โลก​อื่น​ใน​เวลา​กลางคืน​ พวกเขา​จะรอดชีวิต​อยู่​ได้​อย่างไร​ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนั้น​”

ฉิน​มู่รู้สึก​ประหวั่นพรั่นพรึง​

เขา​เคย​ได้​พบ​กับ​มาร​เท​วะ​ต่าง​โลก​ใน​แดน​โบราณ​วินาศ​หลายครั้ง​ อย่างเช่น​ตอนที่​เขา​กับ​ผู้ใหญ่บ้าน​ออก​ไป​เสาะหา​หมู่บ้าน​ไร้กังวล​ใน​เวลา​กลางคืน​ พวกเขา​เผชิญ​กับ​มาร​เท​วะ​นารี​ และ​ฝูงมาร​ฟ้า

ครั้งแรก​ที่​พวกเขา​ไป​ยัง​บ่อ​ตะวัน​เพื่อ​เยี่ยมเยียน​เอี๋ยน​จิงจิง เขา​ก็ได้​ปะทะ​กับ​เผ่า​ขนนก​สวรรค์​ที่​ถูก​มาร​เท​วะ​ตน​หนึ่ง​ควบคุม​บงการ​ให้​พวกเขา​มาโจมตี​บ่อ​ตะวัน​

และ​ที่​บ่อ​จันทรา​ เขา​เห็น​มาร​เท​วะ​มากมาย​โจมตี​บ่อ​จันทรา​และ​ทำลายล้าง​เผ่า​นัก​ต้อน​จันทรา​จน​เหี้ยน​เตียน​

ใน​อดีต​ แดน​โบราณ​วินาศ​มีม่าน​คุ้มกัน​ตาม​ธรรมชาติ​นี้​ และ​สันติ​นิรันดร์​ก็​ปลอดภัย​เป็น​อย่างยิ่ง​ บัดนี้​เมื่อ​โลก​ทั้งโลก​หลุด​ออก​มาจาก​เวท​ปิดผนึก​ สันติ​นิรันดร์​จะยังคง​ปลอดภัย​อยู่​หรือไม่​หลังจากที่​แดน​โบราณ​วินาศ​ได้​แปร​เปลี่ยนไป​เป็นแดน​ก่อกำเนิด​

“การ​ล่มสลาย​ของ​จักรวรรดิ​สันติ​นิรันดร์​เป็นเรื่อง​ที่​แน่นอน​ อันดับ​แรก​สันติ​นิรันดร์​จะพังทลาย​ไป​ทีละ​ชิ้นๆ​ ใน​เมื่อ​ภูมิภาค​ต่างๆ​ ก็​จะแยกตัว​ออก​ไป​จาก​สันติ​นิรันดร์​เพื่อ​ก่อตั้ง​จักรพรรดิ​ของ​พวกเขา​ขึ้น​มา ซาก​ทัพ​แห่ง​แสงฉาน​ก็​จะไม่เจียมตัว​อีกต่อไป​ ทั้ง​ยังมี​ฟู่ยื่อลัว​ ชายแดน​เหนือ​ ทุ่งหญ้า​ แผ่นดิน​ตะวันตก​ ทุกๆ​ ภูมิภาค​จะแยก​ออก​จากกัน​”

ชาวนา​เฒ่ามอง​ไป​ที่​เขา​และ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​อัน​หนักอึ้ง​ “อาณาเขต​และ​ผู้คน​ที่​สันติ​นิรันดร์​จะปกครอง​ได้​ จะมีไม่ถึงหนึ่ง​ใน​สิบ​ส่วน​ ครึ่ง​เทพ​ทั้งหลาย​ก็​จะลงมือ​ต่อ​จักรวรรดิ​สันติ​นิรันดร์​ คิดถึง​พสกนิกร​แห่ง​แดน​โบราณ​วินาศ​จะดีกว่า​ ข้า​จะไป​แจ้งแก่​ท้าว​ยมราช​ให้​ฟื้นคืนชีพ​รูป​สลัก​หิน​และ​ให้​พวกเขา​พา​ผู้คน​แห่ง​แดน​โบราณ​วินาศ​มาที่นี่​ โดย​มีสถานที่​แห่ง​นี้​เป็น​จุดศูนย์กลาง​ พวกเรา​ก็​จะก่อสร้าง​ประเทศ​ เจ้าเป็น​เชื้อสาย​ของ​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ เจ้าก็​จงเป็น​จักรพรรดิ​ของ​ประเทศ​แห่ง​นี้​ สันติ​นิรันดร์​นั้น​เกิน​เยียวยา​แล้ว​”

ฉิน​มู่ตั้งสติ​ตนเอง​

ครูบา​สวรรค์​วิชา​บู๊​มีความคิด​อัน​ยาว​ไกล​ และ​เขา​ก็​แม่นยำ​เป็น​อย่างยิ่ง​

บัดนี้​เมื่อ​แดน​ก่อกำเนิด​ถูก​คลาย​ผนึก​ สันติ​นิรันดร์​ก็​จะต้อง​เผชิญ​กัน​อันตราย​อัน​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​ มัน​ถึงกับ​อันตราย​เสีย​ยิ่งกว่า​ภัยพิบัติ​หิมะ​เมื่อ​ครั้งกระโน้น​

การปฏิรูป​สันติ​นิรันดร์​ก็​จะขาดสะบั้น​ไป​ และ​แม้กระทั่ง​ถด​ถอยกลับ​ไป​สู่สถานการณ์​ที่​ประเทศ​ต่างๆ​ ปกครอง​ตนเอง​และ​มีค่าย​สำนัก​ก่อ​เกิดขึ้น​ทุกหน​แห่ง​!

จักรพรรดิ​เอี้ย​นเฝิง​ ราชครู​สันติ​นิรันดร์​ และ​แม้แต่​นักบุญ​คน​ตัดไม้​ก็​คงจะ​กังวล​จน​แทบ​ป่วยไข้​ และ​คง​จับต้นชนปลาย​ไม่ออก​อยู่​ใน​ขณะนี้​

“อาจารย์​ลุง​ ข้า​ไม่มีปณิธาน​เช่นเดียวกับ​จักรพรรดิ​เอี้ย​นเฝิง​ และ​ไม่มีทั้ง​ความสามารถ​ที่จะ​ผลักดัน​และ​ขับเคลื่อน​การปฏิรูป​เหมือน​ราชครู​สันติ​นิรันดร์​ หากว่า​ข้า​ขึ้น​เป็น​จักรพรรดิ​แห่ง​แดน​โบราณ​วินาศ​ ข้า​ก็​จะถูก​รุมเร้า​ด้วย​กิจการ​โลก​วิสัย​ใน​แต่ละวัน​ และ​ก็​จะเครียด​จน​เกิน​กว่า​ที่จะ​ผลักดัน​การปฏิรูป​ใดๆ​ เมื่อ​เทียบ​กับ​จักรพรรดิ​เอี้ย​นเฝิง​แล้ว​ ข้า​ไม่คิด​ว่า​ข้า​จะสามารถ​ทำได้​”

ฉิน​มู่กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “มีผู้คน​ไม่มาก​นัก​ที่​มีปณิธาน​ทะยาน​ฟ้าเช่นเดียวกับ​จักรพรรดิ​เอี้ย​นเฝิง​ และ​มีผู้คน​เพียง​ไม่กี่​คน​ที่​มีความสามารถ​ใน​การ​ขับเคลื่อน​เรื่องราว​ได้​เท่ากับ​ราชครู​สันติ​นิรันดร์​ ข้า​ถึงกับ​รู้สึก​ว่า​จักรพรรดิ​เอี้ย​นเฝิง​และ​ราชครู​สันติ​นิรันดร์​ทำ​ได้ดี​เสีย​ยิ่งกว่า​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​และ​นักบุญ​คน​ตัดไม้​ ยิ่งไปกว่านั้น​ นี่​ก็​ยัง​เป็น​บท​ทดสอบ​แก่​จักรพรรดิ​เอี้ย​นเฝิง​ เพื่อ​ดู​ว่า​จักรวรรดิ​สันติ​นิรันดร์​จะสามารถ​บุกบั่น​ต่อไป​ได้​หรือไม่​ หากว่า​พวกเขา​กัดฟัน​บุก​ฝ่าต่อไป​ ทุกสิ่งทุกอย่าง​ก็​จะเป็นไปได้​ทั้งนั้น​”

ชาวนา​เฒ่าจ้อง​ไป​ที่​เขา​และ​ยิ้ม​หยัน​ “สันติ​นิรันดร์​จะหา​อะไร​มาต่อกร​กับ​ครึ่ง​เทพ​พวก​นั้น​ได้​ พวกเขา​จะต่อสู้​กับ​โลก​มิติ​เหล่านั้น​ได้​อย่างไร​ การ​ล่มสลาย​ของ​จักรวรรดิ​สันติ​นิรันดร์​เป็นเรื่อง​ของ​เวลา​เพียง​ไม่กี่​เดือน​เท่านั้น​!”

ฉิน​มู่กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ปัญหา​ย่อม​มีหน​ทางแก้ไข​เสมอ​ อาจารย์​ลุง​ ใน​บัดนี้​เมื่อ​แดน​ก่อกำเนิด​ถูก​คลาย​ผนึก​ออกมา​อย่าง​กะทันหัน​ และ​ครึ่ง​เทพ​ทั้งหลาย​ก็​มุ่งหน้า​ไป​น้อม​สักการะ​พระ​แม่ธรณี​ ท่าน​มองเห็น​อะไร​จาก​เรื่อง​นี้​”

ชาวนา​เฒ่ากล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​เย็นเยียบ​ “ข้า​จะเห็น​อะไร​ ข้า​จะนอนคว่ำ​มองดู​ ข้า​จะนอนหงาย​มองดู​! ข้า​จะมองดู​พวก​เจ้าทุกคน​ส่งตัวเอง​ไป​ตาย​ทีละ​คน​สอง​คน​!”

ฉิน​มู่หัวเราะ​อย่าง​ขี้เล่น​ “อาจารย์​ลุง​ ท่าน​โมโห​โยเย​อีกแล้ว​ พวกเรา​กำลัง​พูด​เรื่องสำคัญ​กัน​อยู่​นะ​”

ชาวนา​เฒ่าถลึงตา​จ้อง​เขา​และ​หุบปาก​สนิท​

รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​ฉิน​มู่ไม่หดหาย​ไป​ และ​เขา​กล่าว​ “ข้า​ได้​คิดถึง​วิธีการ​ที่​สามารถ​แก้ปัญหา​เรื่อง​ที่​ผู้คน​แห่ง​โลก​สู้วัว​ไม่มีสะพาน​เท​วะ​ได้​อย่าง​หมดจด​สิ้นเชิง​ ข้า​วางแผน​ที่จะ​ทำลาย​สะพาน​เท​วะ​ของ​ข้า​หลังจากที่​ปลุก​เปิด​สมบัติ​เท​วะ​เป็น​ตาย​ขึ้น​มา เพื่อ​บุกเบิก​สมบัติ​เท​วะ​สะพาน​เท​วะ​ขึ้น​ใหม่​อีกครั้ง​ หลังจากที่​ข้า​สำเร็จ​เชี่ยวชาญ​วิธีการ​นี้​แล้ว​ ไม่เพียงแต่​ผู้คน​แห่ง​โลก​สู้วัว​ แต่​กระทั่ง​ผู้คน​ที่​ถูก​ตัด​สะพาน​เท​วะ​ให้​หัก​ใน​แดน​โบราณ​วินาศ​และ​สันติ​นิรันดร์​ พวกเขา​ก็​จะมีความหวัง​ที่จะ​บุกเบิก​สมบัติ​เท​วะ​สะพาน​เท​วะ​ขึ้น​มาใหม่​ได้​ และ​สามารถ​ฝึกปรือ​จน​บรรลุ​เป็น​เทพเจ้า​! อาจารย์​ลุง​ โปรด​ช่วย​สนับสนุน​ข้า​ด้วย​การ​ออกหน้า​ไป​ยัง​สันติ​นิรันดร์​ เพื่อ​ช่วยเหลือ​จักรพรรดิ​เอี้ย​นเฝิง​และ​ราชครู​สันติ​นิรันดร์​ใน​การ​บุกบั่น​ฝ่าอุปสรรค​นี้​!”

สายตา​ของ​ชาวนา​เฒ่าดุร้าย​ และ​เขา​ก็​ยิ้ม​หยัน​ “เจ้ารู้​ว่า​ผู้คน​เหล่านี้​คือ​ลูกหลาน​ของ​ทหารหาญ​แห่ง​วัง​สู้วัว​ของ​ข้า​ที่​ตก​ตาย​ไป​ใน​สนามรบ​ ดังนั้น​เจ้าจึงใช้ข้อตกลง​นี้​มาล่อลวง​ข้า​ แต่​ถ้าหากว่า​เจ้าไม่สามารถ​บุกเบิก​สมบัติ​เท​วะ​สะพาน​เท​วะ​ได้​ล่ะ​?”

ฉิน​มู่ยิ้ม​อย่าง​มั่นใจ​และ​กล่าว​ “ข้า​คือ​กา​ยา​จ้าว​แดนดิน​ ไม่มีผู้ใด​ที่​เหมือนกับ​ข้า​ไม่ว่า​อดีต​หรือ​ปัจจุบัน​”

ชาวนา​เฒ่าสูด​ลมหายใจ​ลึก​

ข้อตกลง​ของ​ฉิน​มู่ให้​เขา​หวั่นไหว​ใจจริงๆ​

ผู้​คนใน​โลก​สู้วัว​เป็น​บ่วง​พันธนาการ​เขา​เอาไว้​ตลอดทั้ง​ชีวิต​ หลังจาก​ยุคสมัย​จักรพรรดิ​ก่อตั้ง​ถูก​ทำลายล้าง​ เขา​ก็​กลบ​ฝังทหาร​เหล่านั้น​ที่​ได้​ตาย​ไป​ใน​การต่อสู้​เพื่อ​มาตุภูมิ​ และ​ใน​ฐานะ​ผู้นำ​และ​ผู้บัญชาการ​แห่ง​วีรบุรุษ​เหล่านี้​ เขา​ก็​มีความรู้สึกผิด​ต่อ​คน​เหล่านั้น​ ดังนั้น​เขา​จึงได้​ปกป้อง​พิทักษ์​ทายาท​ของ​เหล่า​ทหาร​ผู้​พลีชีพ​มาเป็นเวลา​สอง​หมื่น​ปี​

เมื่อ​เขา​เห็น​ทายาท​ทหาร​เหล่านั้น​ตาย​ไป​จาก​ความ​ชรา​ และ​เขา​ก็ได้​เห็น​ผู้​ที่​ถือกำเนิด​ขึ้น​มาใหม่​ ก็​ตาย​ไป​จาก​ความ​ชรา​ด้วย​เช่นกัน​ ก็​ไม่มีสิ่งใด​ที่​เขา​สามารถ​กระ​ทำได้​

ไม่มีใคร​ที่จะ​เหมือน​เช่น​เขา​ อาศัย​มรรคา​บู๊​เพื่อ​เหาะ​เหิน​ไป​ยัง​ปราสาท​สวรรค์​ภายใน​สถานการณ์​อัน​ปราศจาก​สมบัติ​เท​วะ​สะพาน​เท​วะ​

แม้แต่​ฉิน​มู่และ​หู​ปู้​กุย​ก็​พบ​ว่า​เป็นเรื่อง​ยากลำบาก​ที่จะ​บรรลุ​ถึงขั้น​นั้น​ เมื่อ​พวกเขา​ย่างกราย​เข้าสู่​มรรคา​บู๊​

เขา​นั้น​เป็น​ปรมาจารย์​เพียง​หนึ่งเดียว​แห่ง​มรรคา​บู๊​นับแต่​อดีต​จวบจน​ปัจจุบัน​และ​ไป​ถึงอนาคต​ เขา​คือ​มหา​จักรพรรดิ​มรรคา​บู๊​!

หากว่า​ฉิน​มู่สามารถ​แก้ไขปัญหา​นี้​ได้​จริงๆ​ เขา​ก็​จะต้อง​ลง​จาก​ภูเขา​เพื่อ​ไป​ช่วยเหลือ​ฉิน​มู่ให้จงได้​ เพื่อ​ช่วย​สนับสนุน​จักรพรรดิ​เอี้ย​นเฝิง​ และ​ราชครู​สันติ​นิรันดร์​!

ฉิน​มู่มอง​ไป​ที่​เขา​ด้วย​สายตา​อัน​เร่าร้อน​ และ​รอ​คำตอบ​ของ​เขา​อย่าง​เงียบกริบ​

ชาวนา​เฒ่าสงบใจ​ลง​ และ​ใบ​หน้าที่​เหมือนกับ​ดิน​อัน​แห้งผาก​ของ​เขา​ก็​เผย​รอยยิ้ม​ออกมา​ เขา​ต่อย​ลง​ไป​ยัง​ตำแหน่ง​เหนือ​ใจกลาง​หว่าง​คิ้ว​ของ​ฉิน​มู่ขึ้นไป​เล็กน้อย​

ฉิน​มู่คราง​เสียง​หนัก​ และ​เขา​กระอัก​เลือด​ออกมา​กำ​ใหญ่​ เขา​ทั้ง​สับสน​และ​ตื่นตระหนก​

แม้ว่า​หมัด​ของ​ชาวนา​เฒ่าจะดู​กร้าว​แกร่ง​เขื่อง​โข​ แต่​มัน​ก็​ประหลาด​เป็น​อย่างยิ่ง​ แม้ว่า​มัน​จะกระแทก​เข้าไป​เหนือ​ใจกลาง​หว่าง​คิ้ว​ของ​เขา​ แต่​ก็​ไม่ส่งผลกระทบ​ต่อ​กาย​เนื้อ​ของ​เขา​

พลานุภาพ​ของ​กำปั้น​นี้​ไร้​ประมาณ​ และ​สามารถ​ทำลาย​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่​ขวางทาง​ เมื่อ​มัน​ไหล​เข้าไป​ใน​ร่างกาย​ของ​เขา​เขา​ก็​รู้สึก​ราวกับว่า​มีบางอย่าง​ได้​แตก​ทำลาย​ข้างใน​ร่าง​!

“ข้า​ได้​ทำลาย​สมบัติ​เท​วะ​สะพาน​เท​วะ​ของ​เจ้าที่​ยัง​ไม่ทัน​ปลุก​เปิด​ขึ้น​มาไป​แล้ว​”

ชาวนา​เฒ่ารั้ง​กำปั้น​อัน​หนา​ใหญ่​ของ​เขา​กลับ​ ก่อนที่จะ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “สมบัติ​เท​วะ​อื่นๆ​ ของ​เจ้ายัง​อยู่ดี​ ดังนั้น​ไม่ต้อง​กังวล​อะไร​ แต่ทว่า​สมบัติ​เท​วะ​สะพาน​เท​วะ​ถูก​ข้า​ทำลาย​ลง​ไป​ ไม่มีอะไร​หลงเหลือ​! บาดแผล​ของ​เจ้าจะหาย​ดี​ในไม่ช้า​ และ​จะไม่มีอาการ​บาดเจ็บ​แฝงเร้น​หลง​เหลืออยู่​ แต่ทว่า​ แม้เจ้าจะปลุก​เปิด​สมบัติ​เท​วะ​เป็น​ตาย​ขึ้น​มา อายุขัย​ของ​เจ้าก็​จะเหลือ​เพียงแค่​หกร้อย​ปี​ เจ้าควรจะ​ภาวนา​ให้​เจ้าสามารถ​ค้นหา​วิธี​การบุกเบิก​สมบัติ​เท​วะ​สะพาน​เท​วะ​ได้​จะดีกว่า​ ไม่เช่นนั้น​ ก็​อยู่​รอ​วัน​ตาย​ไป​ซะ!”

ฉิน​มู่ปาด​เลือด​ที่​มุมปาก​ของ​เขา​และ​กล่าว​อย่าง​เคร่งขรึม​ “อาจารย์​ลุง​ ข้า​จะต้อง​ทำสำเร็จ​อย่าง​แน่นอน​!”

ชาวนา​เฒ่าไป​ยัง​ใจกลาง​หมู่บ้าน​และ​ตะโกน​ออก​ไป​ “ทหาร​ทุกคน​จงฟัง ข้า​จะไป​ยัง​สันติ​นิรันดร์​ ส่วน​พวก​เจ้าจงอยู่​ที่นี่​เพื่อ​ปกป้อง​คุ้มกัน​โลก​สู้วัว​! นำ​เกราะ​รบ​มาให้​ข้า​!”

ชาวบ้าน​ใน​หมู่บ้าน​ล้วนแต่​ประหลาดใจ​แกม​ยินดี​ พวกเขา​รีบ​ไป​นำ​เกราะ​ครบชุด​มาให้​ และ​ชาวนา​เฒ่าก็​ดู​ยิ่งใหญ่​เกรียงไกร​ใน​ตอนที่​สวมใส่​มัน​ เขา​มอง​ไป​ยัง​กิเลน​มังกร​ และ​กิเลน​มังกร​ก็​ตัวสั่น​ระริก​

ชาวนา​เฒ่าส่าย​ศีรษะ​ “ร่างกาย​ของ​ข้า​หนัก​เกินไป​ เจ้าแบก​ข้า​ไม่ไหว​หรอก​ ข้า​ไป​ตามหา​ซาน​ตัว​ก่อน​”

กิเลน​มังกร​รู้สึก​ราวกับ​ยกภูเขาออกจากอก​

ทุกคน​โค้ง​คารวะ​ และ​รัศมี​ของ​พวกเขา​ก็​พวยพุ่ง​ขึ้นไป​สู่ฟากฟ้า​ พลาง​ร้อง​ออก​ไป​เป็น​เสียง​เดียว​ “ขอ​ท่าน​จงรักษาตัว​ ครูบา​สวรรค์​วิชา​บู๊​!”

ฉิน​มู่โค้ง​คารวะ​และ​กล่าว​ “ขอ​ท่าน​จงรักษาตัว​ มหา​จักรพรรดิ​มรรคา​บู๊​!”

“มหา​จักรพรรดิ​มรรคา​บู๊​?”

ชาวนา​เฒ่าตะลึง​ไป​เล็กน้อย​ เขา​หัวร่อ​ฮาๆ และ​แสงสว่าง​ก็​สาดส่อง​จาก​ร่างกาย​ของ​เขา​อย่าง​เจิดจ้า​ท่ามกลาง​เสียงหัวเราะ​นั้น​ เขา​โจน​ทะยาน​ขึ้นไป​ เหยียบ​อากาศ​และ​หายวับ​โดย​ไร้​ร่องรอย​

ฉิน​มู่ยืดตัว​ขึ้น​ยืน​ตรง​ และ​ไป​ยัง​ข้าง​ท้องร่อง​น้ำครำ​ เขา​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “พุทธเจ้า​ ท่าน​ขึ้น​มาได้​แล้ว​”

พุทธเจ้า​ท้าว​สักกะ​เหลือก​ตา​ใส่เขา​และ​กล่าว​ “ชาวนา​นั่น​ไป​แล้ว​จริงๆ​ หรือ​ เจ้ากำลังจะ​โกหก​ข้า​อีกแล้ว​หรือเปล่า​”

ฉิน​มู่ไป​ยัง​ท้องร่อง​เหม็น​ๆ และ​ช่วย​พยุง​เขา​ขึ้น​มา เขา​กล่าว​อย่าง​มั่นเหมาะ​ “เพื่อที่จะ​ช่วยเหลือ​พุทธเจ้า​ ข้า​รับ​หมัด​จาก​ครูบา​สวรรค์​วิชา​บู๊​ และ​เขา​ก็ได้​ทำลาย​สมบัติ​เท​วะ​สะพาน​เท​วะ​ของ​ข้า​”

“ข้า​เกือบจะ​เชื่อ​เจ้าอยู่แล้ว​เชียว​”

พุทธเจ้า​ท้าว​สักกะ​ยิ้ม​หยัน​และ​กล่าว​ “เจ้าคิด​จะหลอก​ข้า​อีกแล้ว​ใช่ไหม​ ช้าก่อน​ มัน​แตก​ทำลาย​ไป​แล้ว​จริงๆ​ ด้วย​! เจ้า…ทำไม​เจ้าถึงต้อง​ทำ​ขนาด​นี้​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด