หมอผีแม่ลูกติดบทที่ 286 เมืองผู้เลี้ยงวิปลาส

Now you are reading หมอผีแม่ลูกติด Chapter บทที่ 286 เมืองผู้เลี้ยงวิปลาส at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 286

เมือง​ผู้​เลี้ยง​วิปลาส​

เมื่อ​เห็น​ว่า​เจ้างูหลาม​กระโดด​กำลัง​เข้าใกล้​และ​คิด​ที่จะ​ฉก​นั้น​ ลู่​หลี​ที่​กำลัง​กลัว​ก็ได้​รีบ​พ่น​เอา​เจ้าตัวเล็ก​สีทอง​ออก​มาจาก​ปาก​ของ​นาง​

ก่อนที่​หลิน​ซีเหยียน​จะทัน​มอง​ได้​ชัด​ว่า​เจ้าตัวเล็ก​นั้น​คือ​อะไร​ มัน​ก็ได้​หาย​เข้าไป​ใน​ปาก​ของ​เจ้างูตัว​นั้น​แล้ว​

จากนั้น​ก็ได้​มีบางอย่าง​น่าทึ่ง​เกิดขึ้น​ เมื่อ​เจ้างูหลาม​กระโดด​ก็ได้​หยุด​ลง​และ​บิด​ตัว​ไปมา​ด้วย​ความเจ็บปวด​ ร่างกาย​ที่​ใหญ่​ของ​มัน​ก็ได้​กระแทก​เข้ากับ​ต้นไม้​จน​หัก​

ซึ่งแสดงให้เห็น​ถึงความ​น่ากลัว​ของ​พลัง​เจ้างูตัว​นี้​ แต่​ในเวลานี้​พวก​นาง​ก็ได้​หยุดพัก​หายใจ​แล้ว​

“กิน​นี่​เข้าไป​”

แล้ว​ทุกคน​ก็​ได้รับ​ยา​บรรเทา​พิษ​เข้าไป​ ซึ่งนาง​ก็​ไม่รู้​ว่า​ยา​นี้​มัน​จะใช้ได้ผล​หรือไม่​ มีแต่​จะต้อง​ลองดู​เท่านั้น​

หลังจากที่​ทาน​ยา​นี้​เข้าไป​ หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​รู้สึก​โล่ง​ขึ้น​มา “รีบ​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​กัน​เถอะ​!”

“ไม่ได้​ เจ้าหน่อ​ทอง​ของ​ข้า​ยัง​ไม่กลับมา​เลย​”

ลู่​หลี​ที่​เริ่ม​ขยับตัว​ได้​ ก็ได้​เกาะ​ต้น​ไป​และ​ไม่ยอม​ไป​ไหน​ นาง​นั้น​ไม่พูด​อะไร​ออกมา​แล้ว​จ้อง​ไป​ที่​หลิน​ซีเหยียน​กับ​พรรคพวก​ก่อนที่จะ​กล่าว​ “เจ้าหน่อ​ทอง​นั้น​เป็น​แมลง​วิปลาส​ของ​ข้า​ ถ้าหาก​มัน​ตาย​ข้า​ก็​จะตาย​ด้วย​”

“เจ้าหน่อ​ทอง​คือ​อะไร​นะ​?” หลิน​ซีเหยียน​ที่​เหมือน​จะนึก​อะไร​บางอย่าง​ออก​ ก็ได้​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เย็นชา​

เมื่อ​ได้ยิน​ที่​หลิน​ซีเหยียน​ถามถึงเจ้าหน่อ​ทอง​ ลู่​หลี​ก็​ไม่สนใจ​น้ำเสียง​ของ​อีก​ฝ่าย​มาแล้ว​กล่าว​อย่าง​ภูมิใจ “เจ้าหน่อ​ทอง​ก็​คือ​ราชันย์​วิปลาส​ที่​ข้า​เลี้ยง​มัน​ มัน​แข็งแกร่ง​สุด​ๆไป​เลย​ใช่ไหม​ล่ะ​?”

รอยยิ้ม​ของ​เด็กสาว​ที่อยู่​ตรงหน้า​นาง​นั้น​ใสซื่อ​และ​บริสุทธิ์​มาก​ แต่​หัวใจ​ของ​หลิน​ซีเหยียน​กลับ​หนักอึ้ง​ขึ้น​มา

แม้แต่​ลู่​หลี​ที่​ยัง​เด็ก​ก็​ยัง​เลี้ยง​ราชันย์​วิปลาส​เลย​ ไม่ใช่ว่า​ทุก​คนใน​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​นั้น​จะเลี้ยง​ราชันย์​วิปลาส​กัน​หมด​หรอก​นะ​? ไม่อย่างนั้น​คง​ยาก​ที่​นาง​จะเอาชนะ​แน่​

ในขณะที่​หลิน​ซีเหยียน​กำลัง​ใช้สมาธิอยู่​นั้น​ ด้วย​เสียงดัง​“ตูม​”เจ้างูตัว​ใหญ่​ก็ได้​ลง​ไป​กอง​กับ​พื้น​ ราวกับว่า​มัน​กำลัง​หายใจ​อย่าง​รวย​ระ​ริน​

แล้ว​ลู่​หลี​ก็ได้​เดิน​ไปหา​เจ้างูหลาม​ตัว​นั้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ยินดี​และ​เตะ​ไป​ที่​มัน​อย่าง​ภูมิใจ “สาสมกับ​ที่​เจ้าทำให้​ข้า​กลัว​แล้ว​”

จากนั้น​ลู่​หลี​ก็ได้​หยิบ​เอา​ขลุ่ย​ไม้ไผ่​เล็ก​ๆออก​มาจาก​แขน​เสื้อ​ของ​นาง​แล้ว​เป่า​มัน​ 2-3 ตัวโน้ต​ จากนั้น​ที่​ผิว​ของ​เจ้างูหลาม​ตน​นั้น​ก็ได้​ปูด​ขึ้น​มาจาก​ใน​ท้อง​ของ​มัน​ ซึ่งดูเหมือน​จะมีอะไร​บางอย่าง​ขยับเขยื้อน​อยู่​

ซึ่งดู​แล้ว​น่ากลัว​มาก​

“ข้า​ขอยืม​กระบี่​ของ​ท่าน​หน่อย​ได้​ไหม​?” ลู่​หลี​ที่​กำลัง​มีสีหน้า​ยินดี​อยู่​นั้น​ก็ได้​หันไป​มอง​ที่​หลิน​ซีเหยียน​แล้ว​ถาม

หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​มอง​ไป​ที่​กระบี่​สวรรค์​ที่อยู่​ข้าง​เอว​นาง​ ก่อน​จะหันไป​ยักคิ้ว​ให้​จี๋เฟิง จี๋เฟิงจึงได้​เดิน​ออกมา​แล้ว​ส่งมีด​ให้​กับ​ลู่​หลี​ “แม่หนู​ เจ้าใช้มีด​เล่ม​นี้​จะดีกว่า​”

จึงได้​ทำให้​ลู่​หลี​นั้น​คิด​ว่า​หลิน​ซีเหยียน​นั้น​ขี้เหนียว​มาก​ขึ้นไป​อีก​ แต่​นาง​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออกมา​แต่​ก็​หยิบ​มีด​เล่ม​นั้น​มาแล้ว​ผ่า​เข้าไป​ที่​ท้อง​ของ​งูเหลือม​

จากนั้น​ก็ได้​มีแมลง​ตัว​สีทอง​บิน​ออกมา​ ซึ่งดู​แล้ว​น่าจะเป็น​ผึ้ง​พิษ​ แต่​หาก​ดู​จาก​ขนาด​ของ​มัน​แล้ว​น่าจะ​เล็ก​กว่า​ผึ้ง​พิษ​ทั่วๆ​ไป​

“เจ้าหน่อ​ทอง​”

ด้วย​เสียง​เรียก​นั้น​ เจ้าแมลง​น้อย​ก็ได้​บิน​เข้าไป​ที่​มือ​ของ​ลู่​หลี​

เมื่อ​เห็น​เช่นนี้​แล้ว​หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​กล่าว​ “เอาล่ะ​ พวกเรา​ก็​รีบ​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​กัน​เถอะ​!” ไม่อย่างนั้น​อาจจะ​มีอะไร​อย่าง​อื่น​มาทำให้​ตกใจ​อีก​

มีสายลม​ที่​พาด​ผ่าน​เข้ามา​ กิ่งไม้​ที่​สั่น​ไหว​และ​ถูกัน​ เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​พวก​นี้​แล้ว​ จี๋เฟิงกับ​ชิงอ​วี่​ที่​เดิน​อยู่​ข้างหลัง​ก็ได้​ระมัดระวัง​มาก​ขึ้นไป​อีก​และ​เตรียมพร้อม​ที่จะ​ลงมือ​ตลอดเวลา​

ดูเหมือน​จะมีผู้คน​ที่​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ความมืด​และ​ไม่คิด​ที่จะ​ออกมา​ทักทาย​พวก​นาง​ พวก​นาง​จึงรู้​ว่า​พวก​นาง​นั้น​ได้​มาถึงสถานที่​ที่​ผู้คน​ใน​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​อาศัย​อยู่แล้ว​ และ​พวกเขา​ก็​ไม่คิด​จะโผล่​หน้า​ออกมา​ด้วย​

ราวกับว่า​ไม่มีใคร​อยู่​

แต่​ถึงอย่างนั้น​ พวก​นาง​ก็​จะประมาท​ไม่ได้​เด็ดขาด​

แล้ว​ลู่​หลี​ก็ได้​พา​ทั้ง​สามคน​ไป​ยัง​สถานที่​ที่​ยุ่ง​สุด​ๆอยู่​ และ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​กับ​หญิง​ชรา​ที่​มีผม​สีขาว​แล้ว​กล่าว​ “ท่าน​ยาย​ ดูเหมือน​พวกเขา​จะมาเพราะ​เข้า​ร่วมงาน​น่ะ​”

แล้ว​คุณยาย​ใน​ชุด​ที่​ดู​หยาบ​ๆก็ได้​ผงกหัว​ แล้ว​ไม้เท้า​ของ​นาง​ก็ได้​ชี้ไป​ที่​กระโจม​ที่อยู่​อีก​ด้าน​ “2 กระโจม​ 2 ใบทอง​”

“ท่าน​ยาย​ ราคา​มัน​จะไม่แพง​ไป​หน่อย​เหรอ​?”

ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​ทาส​เงิน​แล้ว​ หลิน​ซีเหยียน​ก็​ไม่ยอมให้​ขูดรีด​เช่นนี้​ง่ายๆ​แน่​ นาง​จึงได้​เตรียม​ที่จะ​งัด​วิชา​แม่บ้าน​ของ​นาง​ออกมา​ต่อรองราคา​

แต่ทว่า​ท่าน​ยาย​คน​นั้น​กลับ​ไม่เอา​ด้วย​และ​พูด​อย่าง​ตรงๆ​ “ถ้าเจ้าจะเอา​ก็​จ่าย​มา แต่​ถ้าไม่ไม่เอา​ก็​ออก​ไป​”

ช่างพูด​ได้​ห้วน​ดี​จริงๆ​ แต่​เมื่อ​นาง​คิดถึง​เรื่อง​ที่จะ​ต้อง​อยู่​ใน​ป่า​นี้​แล้ว​ ก็​เกรง​ว่า​นาง​คง​ได้​ถูก​แมลง​ที่นี่​กินใน​ตอน​กลางดึก​แน่ๆ​ นาง​จึงทำได้​แค่​กล่าว​อย่าง​ไม่เต็มใจ​ “เอา​ก็ได้​เจ้าค่ะ​”

หลิน​ซีเหยียน​กับ​ชิงอ​วี่​ก็ได้​อยู่​กระโจม​เดียวกัน​ ส่วน​จี๋เฟิงอยู่​อีก​กระโจม​ เมื่อ​อยู่​ต่าง​สถานที่​เช่นนี้​จะประมาท​ไม่ได้​ จี๋เฟิงกับ​ชิงอ​วี่​จึงได้​ตัดสินใจ​ที่จะ​ผลัดกัน​เฝ้าเวร​ยาม​

ในเวลานี้​ที่​พระราชวัง​หลวง​ใน​รัฐ​หลี​ หลี​เจี้ยนเฉิน​ที่นอน​อยู่​บน​เตียง​ขยับ​ไป​ไหน​ไม่ได้​ก็ได้​นอน​มองดู​ท้องฟ้า​ยามค่ำคืน​ที่​นอก​หน้าต่าง​ แล้ว​คิ้ว​ของ​เขา​ก็​ขมวด​จน​ขนาด​จะจับ​แมลงวัน​ได้​แล้ว​

“ข้า​จะต้องหา​ทางออก​ไป​ตามหา​ท่าน​หมอ​หลิน​ให้ได้​

แม้ว่า​เขา​ตัว​เขา​นั้น​จะตัดสินใจ​เช่นนั้น​ แต่​ยา​ที่​ท่าน​หมอ​หลิน​ให้​มานั้น​ยัง​ส่งผล​ตลอด​ทั้งวัน​โดย​ไม่มีวี่แวว​ว่า​จะคลาย​ลง​เลย​แม้แต่น้อย​ ถ้าหาก​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​เขา​จะลุกขึ้น​จาก​เตียง​ได้​เมื่อไร​ก็​ยัง​ไม่รู้​เลย​

“มัน​เป็น​ความผิด​ของ​มหา​นักบวช​ ทำไม​ท่าน​ถึงได้​ห้าม​ข้า​ด้วย​!”

หลี​เจี้ยนเฉิน​ที่​กำลัง​เบื่อ​ก็ได้​พูด​ขึ้น​มา

“ข้า​ยัง​พักผ่อน​ไม่พอ​อีก​เหรอ​?”

แล้ว​มหา​นักบวช​ก็ได้​เข้ามา​พร้อมกับ​นำ​ชามยา​สีดำ​ชวน​แหยะ​เข้ามา​ด้วย​ เมื่อ​เห็น​เช่นนั้น​หลี​เจี้ยนเฉิน​ก็ได้​จ้อง​ด้วย​สายตา​ที่​เบิก​กว้าง​และ​มีทีท่า​กระวนกระวาย​มาก​ ทำให้​มหา​นักบวช​นั้น​ถึงกับ​ยิ้ม​ออกมา​แล้ว​กล่าว​ “เอาล่ะ​, ดื่ม​ยา​นี่​เสีย​ดี​ๆจะดีกว่า​นะ​ฝ่าบาท​”

ฮ่องเต้​หลี​ก็ได้​หลับตา​ปี๋​ พยายาม​ที่จะ​ไม่กิน​ยาต้ม​นี้​

“ฝ่าบาท​ นี่​คือ​ยาต้ม​ที่​ข้า​อุตส่าห์​ศึกษา​มา มัน​น่าจะ​ช่วย​ขจัด​ฤทธิ์​ของ​ยา​ที่​ท่าน​หมอ​หลิน​ให้​ท่าน​ทาน​ได้​ ท่าน​มั่นใจ​นะ​ว่า​จะไม่ดื่ม​น่ะ​?”

มหา​นักบวช​นั้น​ไม่ได้​ฝืน​บังคับ​เขา​ และ​พูด​อย่าง​ช้าๆ

ฮ่องเต้​หลี​ก็ได้​ค่อยๆ​ลืมตา​ขึ้น​มาแล้ว​จ้อง​ไป​ที่​มหา​นักบวช​ราวกับ​จะบอ​กว่า​ “ทำไม​ท่าน​ถึงได้​จู่ๆใจดีขึ้น​มา? ข้า​คิด​ว่า​ท่าน​คิด​ที่จะ​หลอก​ให้​ข้า​กิน​ยา​นั่น​มากกว่า​”

หลังจากนั้น​ไม่ว่า​มหา​นักบวช​จะพูด​เช่นไร​ ฮ่องเต้​หลี​ก็​ไม่ยอม​เปิด​ตา​หรือ​ตอบสนอง​อะไร​อีก​เลย​

“ฝ่าบาท​ ยา​นี้​มีเพียง​ชามเดียว​เท่านั้น​ ถ้าท่าน​ไม่ดื่ม​ยา​ชามนี้​ มัน​ก็​จะไม่มีอีกแล้ว​ แล้ว​ท่าน​จะหาว่า​ผู้น้อย​คน​นี้​ไม่ช่วย​ท่าน​ไม่ได้​นะ​”

หลังจากที่​พูด​จบ​ มหา​นักบวช​ก็ได้​หยิบ​ยา​ชามนั้น​ขึ้น​มาแล้ว​เตรียม​ที่จะ​ออก​ไป​

หลี​เจี้ยนเฉิน​ก็ได้​ครุ่นคิด​ ถ้าหาก​ว่าที่​ท่าน​มหา​นักบวช​พูด​มาเป็น​ความจริง​ เขา​ก็​จะอด​ออก​ไป​ตาม​ท่าน​หมอ​หลิน​น่ะ​สิ

จากนั้น​เขา​ก็ได้​ลืมตา​ขึ้น​มาแล้ว​กะพริบตา​ ราวกับ​จะบอก​มหา​นักบวช​ว่า​เขา​ต้องการ​ที่จะ​ดื่ม​ยา​นั้น​

ไม่นาน​นัก​ยาต้ม​ชามนั้น​ก็ได้​ถูก​ดื่ม​จน​หมด​ แต่​มัน​ก็​ไม่แสดงอาการ​อะไร​ออกมา​นอกจาก​รู้สึก​อบอุ่น​ขึ้น​มาเท่านั้น​ ซึ่งทำให้​ฮ่องเต้​หลี​นั้น​โมโห​อย่าง​มาก​

แล้ว​มหา​นักบวช​ก็ได้​แกล้ง​ตี​สีหน้า​จริงจัง​แล้ว​กล่าว​ “อย่า​ได้​โทษ​ข้า​เลย​ฝ่าบาท​ แผล​ของ​ท่าน​นั้น​สาหัส​มาก​จริงๆ​ ท่าน​ไม่ดื่ม​ยา​นี่​ไม่ได้​หรอก​”

เมื่อ​รู้​ว่า​มีขุนนาง​ที่​เจ้าเล่ห์​เช่นนี้​อยู่​ใน​อาณัติ​ของ​เขา​แล้ว​ ทำให้​หลี​เจี้ยนเฉิน​นั้น​ดีดดิ้น​และ​โมโห​ขึ้น​มาจริงๆ​แล้ว​!

“ดูเหมือนว่า​ฝ่าบาท​คงจะ​ง่วง​แล้ว​ ผู้น้อย​ขอตัว​ก่อน​”

แล้ว​มหา​นักบวช​ก็ได้​สะบัด​แขน​เสื้อ​ของ​เขา​อย่าง​ไม่สนใจ​ แล้ว​จากไป​อย่าง​ง่ายๆ​และ​เรียบร้อย​ ส่วน​หลี​เจี้ยนเฉิน​ที่​จ้อง​ไป​ที่​แผ่น​หลัง​ของ​เขา​ก็ได้​รู้สึก​หนัก​หนังตา​ขึ้น​มา

“ยา​นี่​ผสม​ยานอนหลับ​ลง​ไป​ด้วย​”

กว่า​หลี​เจี้ยนเฉิน​จะรู้ตัว​ เขา​ก็​ไม่มีเวลา​แม้แต่​จะด่า​ออก​ไป​แล้ว​ แล้ว​เขา​ก็ได้​หลับ​ลง​อย่าง​ช้าๆ “เมื่อใด​ที่​ข้า​ตื่นขึ้น​มา ข้า​จะจัดการ​เจ้าแน่​”

ด้วยเหตุนี้​ฮ่องเต้​หลี​ผู้​น่าสงสาร​ก็ได้​หลับ​จนถึง​เช้า แล้ว​จากนั้น​มหา​นักบวช​ก็ได้​มาหา​อีก​ แล้วก็​พูด​เช่นเดียวกัน​กับ​เมื่อคืนนี้​

ด้วย​ความหวัง​อันน้อย​นิด​ ฮ่องเต้​หลี​ก็ได้​ดื่ม​ยา​สุด​ขม​นั้น​หมด​ชามอีก​หน​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด