เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]บทที่ 1963 วิหารนวภพ

Now you are reading เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] Chapter บทที่ 1963 วิหารนวภพ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​ 1,963 วิหาร​นว​ภพ​

พรวด​!

หลิน​เป่ยเฉิน​เกือบจะ​สำลัก​ไวน์​ที่​กำลัง​ดื่ม​

โชคดี​ที่​เขา​มีปฏิกิริยา​รวดเร็ว​พอ​ จึงสามารถ​ดูด​ไวน์​ทั้งหมด​กลับ​เข้า​ปาก​ได้​อีกครั้ง​

ถึงอย่างไร​นี่​ก็​เป็น​ไวน์​ราคาแพง​

จะปล่อย​ให้​เสียเปล่า​แม้แต่​หยด​เดียว​ไม่ได้​

ห้า​ร้อย​ปี​อย่างนั้น​หรือ​?

นี่​ศิษย์​พี่​ฮัน​เป็น​หงอ​คง​กลับชาติมาเกิด​หรือไง​?

“เรื่อง​ของ​ข้า​มัน​ค่อนข้าง​ยาว​พอสมควร​…”

“ใน​วัน​ที่เกิด​การต่อสู้​วันนั้น​ เพื่อ​ปกป้อง​ให้​ทุกคน​ได้​มีเวลา​ล่าถอย​ไป​ ข้า​จึงต่อสู้​อย่าง​เต็มกำลัง​และ​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ แต่​ข้า​ไม่อยาก​ถูก​พวก​กองทัพ​จี้กวง​จับตัว​ไป​ทรมาน​ ข้า​จึงตัดสินใจ​กระโดด​หน้าผา​ดาวตก​ หลังจากนั้น​ข้า​ก็​หมดสติ​ไป​ และ​เมื่อ​ฟื้น​ขึ้น​มาอีกที​ นอกจาก​พบ​ว่า​ตนเอง​ไม่เสียชีวิต​แล้ว​ ข้า​ยัง​ได้มา​อยู่​ใน​วิหาร​โบราณ​หลัง​หนึ่ง​อีกด้วย​…”

ฮันปู้​ฟู่เล่า​เรื่องราว​อย่าง​ช้า ๆ

วิหาร​?

โบราณ​?

นี่​คือ​การผจญภัย​

ดวงตา​ของ​หลิน​เป่ยเฉิน​เป็นประกาย​ระยิบระยับ​

“ข้า​ไม่ทราบ​เลย​ว่า​วิหาร​หลัง​นั้น​มีอายุ​เท่าไหร่​ มัน​ทั้ง​ใหญ่โต​และ​ลึกล้ำ​ เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​มอง​เห็นภาพ​รวมทั้งหมด​ ตัว​ข้า​ที่อยู่​ใน​นั้น​เปรียบ​ดั่ง​เม็ดทราย​เม็ด​หนึ่ง​ที่อยู่​กลาง​ทะเลทราย​เท่านั้น​…”

“ตอนแรก​ ข้า​ติด​อยู่​ใน​นั้น​ด้วย​สภาพ​บาดเจ็บสาหัส​และ​เสีย​เลือด​มาก​ ข้า​พยายาม​ตะเกียกตะกาย​หา​ทางรอด​ และ​ข้า​ก็​คลาน​มาถึงหน้า​แท่นบูชา​แท่น​หนึ่ง​โดย​ไม่ได้​ตั้งใจ​ ข้า​ปีน​ขึ้นไป​บน​แท่นบูชา​นั้น​ หวัง​จะใช้เป็นที่​ใน​การรักษา​บาดแผล​…”

“และ​เมื่อ​เลือด​ของ​ข้า​ได้​ไหล​ลง​ไป​บน​แท่นบูชา​ วิหาร​ทั้ง​หลัง​ก็​เปลี่ยนไป​”

“กลไก​บางอย่าง​เริ่ม​การทำงาน​”

“ใน​ร่างกาย​ของ​ข้า​เอง​ก็​เกิด​ความเปลี่ยนแปลง​ ปรากฏ​ว่า​ข้า​สามารถ​เลื่อนขั้น​พลัง​ได้​โดย​ไม่ได้​ตั้งใจ​”

ฮันปู้​ฟู่ยังคง​เล่า​เรื่องราว​ต่อไป​

“เลื่อนขั้น​พลัง​หรือ​ขอรับ​?”

ความประหลาดใจ​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบหน้า​ของ​หลิน​เป่ยเฉิน​

เขา​พอ​จะคาดเดา​สิ่งต่าง ๆ​ ได้​แล้ว​

ฮันปู้​ฟู่ผงกศีรษะ​ และ​ตอบรับ​ว่า​ “ใช่ ข้า​สามารถ​เลื่อนขั้น​พลัง​ได้​สำเร็จ​”

“หลังจากนั้น​ก็​มีเสียง​หนึ่ง​ก้องกังวาน​บอก​ข้า​ว่า​ หาก​ข้า​อยาก​จะมีชีวิต​อยู่รอด​ ข้า​ก็​ต้อง​ทำ​ภารกิจ​ต่าง ๆ​ ให้​สำเร็จ​ ใน​วิหาร​โบราณ​แห่ง​นั้น​มีประตู​มิติ​อยู่​มากมาย​ ข้า​ต้อง​ทำ​ภารกิจ​ที่​ได้​รับมอบหมาย​ให้​สำเร็จ​ก่อนที่จะ​หมดเวลา​ และ​ข้า​ก็​จะได้รับ​อาหาร​ โอสถ​และ​น้ำดื่ม​สำหรับ​ใช้ยังชีพ​ แต่​หาก​ทำ​ภารกิจ​ล้มเหลว​ ข้า​ก็​จะต้อง​ถูก​ความ​มืดมิด​กลืน​กิน​ตลอดไป​…”

“หลังจากนั้น​ แท่นบูชา​ก็​รักษา​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​ข้า​จน​หาย​ดี​ มิหนำซ้ำ​ ยัง​ปรากฏ​อาหาร​และ​น้ำดื่ม​รวมถึง​คัมภีร์​เล่ม​หนึ่ง​ขึ้น​เบื้องหน้า​ข้า​อีกด้วย​”

“และ​เสียง​ปริศนา​นั้น​ก็​บอก​ข้า​ว่า​อีก​สามวันข้างหน้า​ ข้า​สมควร​ใช้พลัง​ปราณ​แท้จริง​ของ​ตนเอง​เปิด​ประตู​มิติ​บน​แท่นบูชา​ให้​สำเร็จ​ เพื่อ​นำ​ข้า​ไป​ยัง​จุด​เอาชีวิต​รอด​จุด​ต่อไป​…”

“ข้า​เริ่ม​ฝึกฝน​”

“วิชา​ที่อยู่​ใน​คัมภีร์​เล่ม​นั้น​เป็น​วิชา​ที่​ข้า​ไม่เคย​พบเห็น​มาก่อน​ มัน​แตกต่าง​จาก​วิชาการ​ฝึก​ยุทธ์​ใน​แผ่นดิน​ตง​เต้า​อย่าง​สิ้นเชิง​”

“หลังจากนั้น​ สัตว์​อสูร​จำนวนมาก​ก็​เริ่ม​มาปรากฏตัว​ขึ้น​รอบ​แท่นบูชา​ พวก​มัน​แต่ละ​ตัว​ล้วน​มีความ​แข็งแกร่ง​และ​มีความดุร้าย​ทรงพลัง​ ข้า​สามารถ​รู้สึก​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ แต่​ดูเหมือน​พวก​มัน​จะหวาดกลัว​พลัง​ของ​แท่นบูชา​ที่​ข้า​นั่ง​อยู่​ พวก​มัน​จึงไม่กล้า​เข้ามา​ใกล้​ และ​มีบาง​ตัว​ที่​พยายาม​วิ่ง​เข้ามา​ใกล้​จน​อยู่​ใน​รัศมี​แสงสว่าง​ของ​แท่นบูชา​ แล้ว​สัตว์​อสูร​ตัว​นั้น​ก็​ต้อง​ร่าง​ระเบิด​กระจาย​ไป​ทันที​”

“แต่​ยิ่ง​เวลา​ผ่าน​ไป​นาน​เข้า​ แสงสว่าง​ของ​แท่นบูชา​ก็​ยิ่ง​ลดน้อยลง​ พวก​สัตว์​อสูร​เริ่ม​เข้าใกล้​แท่นบูชา​มากขึ้น​เรื่อย ๆ​…”

“และ​ถ้ารัศมี​ของ​แท่นบูชา​ดับ​ลง​เมื่อไหร่​ สัตว์​อสูร​เหล่านั้น​ก็​ไม่ต้อง​หวาดกลัว​สิ่งใด​อีกแล้ว​”

“ในที่สุด​ ก็​มีระ​ยาง​ของ​พวก​สัตว์​อสูร​เกือบจะ​เอื้อม​ขึ้น​มาสัมผัส​ใบหน้า​ของ​ข้า​ได้​สำเร็จ​…”

“โชคดี​ที่​ใน​ตอนนั้น​ ข้า​สามารถ​ฝึกฝน​ตาม​วิชา​ใน​คัมภีร์​ลึกลับ​และ​เปิด​การใช้งาน​พลัง​ปราณ​แท้จริง​ของ​ตนเอง​ได้​สำเร็จ​ หลังจากนั้น​ ข้า​ก็​เปิด​ประตู​มิติ​บน​แท่นบูชา​ นำพา​ตนเอง​ไป​ยัง​สถานที่​แห่ง​ใหม่​”

“ข้า​พบ​ว่า​ตนเอง​มายืน​อยู่​บน​สะพาน​แห่ง​หนึ่ง​”

“มัน​เป็น​สะพาน​หิน​โบราณ​ บน​สะพาน​มีอาหาร​และ​น้ำดื่ม​วาง​เอาไว้​เช่นเดียวกับ​คัมภีร์​ปริศนา​เล่ม​ใหม่​ รวมไปถึง​โอสถ​และ​สมุนไพร​และ​หิน​แร่​สำหรับ​การ​ดูดซับ​พลัง​ ใต้​สะพาน​เป็น​หุบเหว​ลึก​ไร้​ก้นบึ้ง​ สอง​ฝั่งของ​สะพาน​มีแต่​พวก​สัตว์​อสูร​เกาะ​อยู่​เต็มไปหมด​ แต่​เนื่องจาก​ราว​กั้น​สะพาน​มีการ​สร้าง​รูปปั้น​ที่​ปลดปล่อย​รัศมี​แสงสว่าง​อยู่​ตลอดเวลา​ สัตว์​อสูร​เหล่านั้น​จึงไม่กล้า​ปีน​ข้าม​เข้ามา​”

“ภารกิจ​ของ​ข้า​ใน​ครั้งนี้​คือ​การฝึกฝน​วิชา​ใน​คัมภีร์​ปริศนา​ให้​สำเร็จ​ภายใน​หนึ่ง​เดือน​ เพื่อ​เปิด​ประตู​มิติ​ไป​สู่จุด​เอาชีวิต​รอด​จุด​ใหม่​”

“และ​ข้า​ก็​สามารถ​ทำ​ภารกิจ​ได้​สำเร็จ​ใน​ช่วง​จังหวะ​สุดท้าย​เช่นกัน​”

“ด้วยเหตุนี้​ ข้า​จึงต้อง​เปิด​ประตู​มิติ​เพื่อ​ทำ​ภารกิจ​ไป​เรื่อย ๆ​ เพื่อให้​ตนเอง​ได้​มีชีวิต​อยู่รอด​ต่อไป​…”

“ข้า​ไม่ทราบ​เลย​ว่า​ตนเอง​ต้อง​ทำ​ภารกิจ​เช่นนั้น​อยู่​นาน​เพียงใด​”

“ระยะเวลา​ใน​การ​ทำ​ภารกิจ​เริ่ม​ยาวนาน​มากขึ้น​เรื่อย ๆ​ บาง​ภารกิจ​ใช้เวลา​หนึ่ง​ปี​ บาง​ภารกิจ​ใช้เวลา​ถึงสิบ​ปี​…”

“และ​ภารกิจ​ที่​ข้า​ต้อง​ใช้เวลา​ทำ​ยาวนาน​มาก​ที่สุด​ ก็​คือ​การ​ฝึก​วิชา​บน​เรือ​เหาะ​สามสิบ​ปี​”

“ข้า​สามารถ​เลื่อนขั้น​พลัง​ได้​อย่าง​ต่อเนื่อง​และ​สามารถ​เปิด​ประตู​มิติ​ได้​โดย​ไม่เคย​ล้มเหลว​แม้แต่​ครั้ง​เดียว​ ตอนนั้น​ ข้า​เอง​ก็​ไม่ทราบ​หรอ​กว่า​ข้า​มีความ​แข็งแกร่ง​อยู่​ใน​ระดับ​ใด​ แต่​ข้า​มั่นใจ​ว่า​หาก​ตนเอง​ได้​กลับ​สู่แผ่นดิน​ตง​เต้า​อีกครั้ง​ ข้า​ก็​สามารถ​ต่อสู้​กับ​เทพเจ้า​ได้​ด้วยซ้ำ​”

ฮันปู้​ฟู่เล่า​เรื่องราว​ทั้งหมด​ด้วย​สีหน้า​อัน​ขมขื่น​

แม้ว่า​เขา​จะมีอาหาร​และ​น้ำดื่ม​รวมถึง​สุดยอด​คัมภีร์​ให้​ฝึกฝน​ตลอดเวลา​ แต่​เขา​ก็​ต้อง​อยู่​เพียงลำพัง​

ใน​วิหาร​แห่ง​ความโดดเดี่ยว​ที่​เป็น​เสมือน​โลก​แห่ง​ความตาย​และ​การผจญภัย​ไม่มีที่​สิ้นสุด​

ไม่มีผู้คน​ให้​พูดคุย​ด้วย​ ไม่มีผู้คน​ให้​ปรึกษา​

ไม่ต่าง​จาก​นักโทษ​ใน​เรือนจำ​

แต่​แม้จะต้อง​เผชิญหน้า​กับ​ความตาย​และ​ความโดดเดี่ยว​ ฮันปู้​ฟู่ก็​ยัง​ไม่ยอมแพ้​ง่าย ๆ​

“จนกระทั่ง​ในที่สุด​ ข้า​ก็​สามารถ​ทำ​ภารกิจ​สุดท้าย​ได้​สำเร็จ​และ​บรรลุ​ขอบเขต​จอม​เทพ​อนันต์​”

ฮันปู้​ฟู่เริ่มต้น​กล่าว​ต่อไป​ “เมื่อ​บรรลุ​ขอบเขต​จอม​เทพ​อนันต์​ได้​สำเร็จ​ ข้า​จึงสามารถ​เดิน​ออก​ไป​จาก​วิหาร​ได้​ในที่สุด​ ตลอด​ระยะ​ทางเดิน​นั้น​ ข้า​จะได้ยิน​เสียง​ผู้คน​สวดมนต์​ดัง​กระหึ่ม​ และ​เมื่อ​เดิน​ออกมา​ยืน​อยู่​นอก​วิหาร​ ข้า​ถึงได้​รู้​ชื่อ​ของ​วิหาร​แห่ง​นั้น​”

“วิหาร​นว​ภพ​”

ฮันปู้​ฟู่กล่าว​

หลิน​เป่ยเฉิน​หยุดชะงัก​

ชื่อ​นี้​… แปล​ว่า​อะไร​เนี่ย​?

ฮันปู้​ฟู่กล่าวว่า​ “มัน​มีอีก​ชื่อ​หนึ่ง​คือ​… วิหาร​แห่ง​กาลเวลา​”

วิหาร​แห่ง​กาลเวลา​?

หลิน​เป่ยเฉิน​ยก​มือขึ้น​ทำท่า​ดัน​แว่น​ตาม​ความเคยชิน​ แล้ว​ใน​ทันใดนั้น​เอง​ เขา​ก็​นึก​อะไร​บางอย่าง​ขึ้น​มาได้​

“วิหาร​นว​ภพ​ วิหาร​แห่ง​กาลเวลา​… หรือ​นี่​จะเกี่ยวข้อง​กับ​สายเลือด​ผู้​ท่อง​กาลเวลา​ขอรับ​?”

หลิน​เป่ยเฉิน​ถามด้วย​ความ​ตกตะลึง​

ฮันปู้​ฟู่พยักหน้า​ตอบรับ​ว่า​ “ใช่แล้ว​ นั่น​คือ​วิหาร​ของ​บรรพบุรุษ​ผู้ก่อตั้ง​สายเลือด​ผู้​ท่อง​กาลเวลา​ และ​วิชา​ต่าง ๆ​ ที่​ข้า​ฝึกฝน​นั้น​ต่าง​ก็​เป็น​วิชา​ที่​ถ่ายทอด​จาก​ท่าน​บรรพบุรุษ​โดยตรง​… ข้า​เพิ่ง​มารู้เรื่อง​นี้​เอา​ก็​ตอนที่​อยู่ในเส้นทาง​ดาราจักร​แล้ว​นั่นเอง​”

สายเลือด​ผู้​ท่อง​กาลเวลา​!

หลิน​เป่ยเฉิน​ตระหนัก​รู้​ขึ้น​มาโดยทันที​

ที่แท้​การผจญภัย​ของ​ศิษย์​พี่​ฮัน​ก็​คือ​การ​ฝึก​วิชา​ไป​ใน​ตัว​

ฮันปู้​ฟู่กล่าว​ต่อไป​ว่า​ “ข้า​ต้อง​ฝึก​วิชา​อยู่​ใน​วิหาร​แห่ง​กาลเวลา​นาน​นับ​ร้อย​ปี​กว่า​จะออกมา​ได้​ และ​หลังจากนั้น​ ข้า​ก็​กลายเป็น​ผู้สืบทอด​สายเลือด​แห่ง​ผู้​ท่อง​กาลเวลา​ และ​วิหาร​แห่ง​นั้น​ก็​กลายเป็น​สมบัติส่วนตัว​ของ​ข้า​ ตอนแรก​ ข้า​นึกว่า​ตนเอง​ได้​กลับ​ออกมา​สู่แผ่นดิน​ตง​เต้า​ แต่​ที่ไหนได้​ ข้า​มารู้​เอา​ใน​ภายหลัง​ว่า​ดินแดน​ที่​ข้า​อยู่​ใน​ตอนนี้​เรียกกันว่า​เส้นทาง​ดาราจักร​”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด