ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น 994 ต่างคนต่างคิดร้าย + 995 ลองหยั่งเชิง

Now you are reading ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น Chapter 994 ต่างคนต่างคิดร้าย + 995 ลองหยั่งเชิง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 994 ต่างคนต่างคิดร้าย

ตั้งแต่โอหยางซานซานรู้ถึงความสัมพันธ์ของอู่เยวี่ยและเหมยเหมยเธอก็ตั้งใจที่จะเข้าหาอู่เยวี่ย อีกคนก็ทำเพื่อจะสืบหาข่าว อีกคนก็ทำเพื่ออยากจะยืมชื่อเสียง สามปีที่ผ่านมานี้ทั้งสองคนถือว่าค่อนข้างใกล้ชิดกันมาก

แต่ก็แค่เพียงการสนิทแบบเงียบ ๆเท่านั้น โอหยางซานซานไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าเธอเป็นเพื่อนสนิทของอู่เยวี่ย ไม่คุ้มที่จะทำให้ชื่อเสียงของเธอต้องแปดเปื้อนไปด้วย

“อู่เยวี่ย เธออยู่ตรงนี้รอใครเหรอ?” โอหยางซานซานทักทายอย่างเป็นกันเอง

อู่เยวี่ยรีบฝืนยิ้มออกมาส่ายหัวอย่างสุภาพอ่อนโยน “ไม่ใช่ อากาศร้อนเกินไปเลยพักในที่ร่ม ๆให้เย็นสบายก่อน ซานซานเธอไม่ต้องดูแลนักเรียนใหม่เหรอ?”

ตอนที่พูดคำพูดพวกนี้ออกมา ในใจของอู่เยวี่ยก็มีความอิจฉาพุ่งแล่นขึ้นมา หลังจากที่รู้จักโอหยางซานซานเธอก็เริมมีความคิดไม่อยากเรียนหนังสือขึ้นมาพอดี

ผลการเรียนของโอหยางซานซานดีกว่าเธอในตอนนี้ แต่ก็เพียงแค่ดีกว่านิดหน่อยเท่านั้น

แต่ในสายตาของอาจารย์นั้นเธอกับโอหยางซานซานต่างกันราวฟ้ากับเหว

เพียงเพราะโอหยางซานซานมีพ่อแม่ดี อาจารย์ถึงได้ให้ความสำคัญกับเธอ เพื่อนนักเรียนก็ประจบประแจงเธอ โดยเฉพาะเพื่อนนักเรียนชายพวกนั้น พวกเขาทุกคนแทบจะหมอบลงพื้นและให้โอหยางซานซานขี่หลังอยู่แล้ว

อีกทั้งโอหยางซานซานยังได้ทำงานอยู่ในสภานักเรียน โรงเรียนมีกิจกรรมอะไรก็จะให้เธอเข้าร่วมจนโดดเด่นเป็นที่สนใจ!

มองย้อนกลับมาที่เธอ เห็นได้ชัดว่าเมื่อก่อนผลการเรียนของเธอดีกว่าโอหยางซานซานอีกแต่เป็นเพราะว่าเธอไม่มีภูมิหลังครอบครัวที่ดีอาจารย์ก็เลยไม่สนใจเธอ เพื่อนร่วมชั้นก็ยิ่งพูดจาเย็นชาแตกต่างกันกับโอหยางซานซานมาก

ถึงแม้ในใจจะเกลียดโอหยางซานซานมากอย่างไม่มีอะไรเทียบได้ แต่บนใบหน้าของอู่เยวี่ยก็ไม่ปรากฏให้เห็น แสร้งพูดคุยและหัวเราะกับโอหยางซานซาน แถมยังกอดแขนอีกฝ่ายด้วยความสนิทสนมอีกด้วย ดูแล้วเหมือนกับพี่น้องที่สนิทกันคู่หนึ่งกำลังพูดคุยกัน

“ฉันไม่สบายนิดหน่อย เพื่อน ๆเป็นห่วงฉันก็เลยให้ฉันกลับบ้านไปพักผ่อนน่ะ” โอหยางซานซานดึงแขนตัวเองกลับมาอย่างระงับอารมณ์

ถ้าหากไม่ใช่คำพูดของแม่ที่บอกให้เธอเป็นเพื่อนกับอู่เยวี่ยอย่างลับ ๆเอาไว้ มีเหรอที่ลูกสาวคนขายปลาแบบนี้จะมีคุณสมบัติได้มาพูดคุยกับเธอ?

แต่ก็แค่พูดคุยเท่านั้น ความสนิทชิดเชื้ออื่น ๆอย่าได้แม้แต่จะคิด เธอลดเกียรติไม่ไหว!

ในตาของอู่เยวี่ยมีความไม่พอใจพาดผ่าน โน้มตัวไปข้างหน้านิดหน่อยประคองโอหยางซานซานเอาไว้อย่างแนบแน่น พูดเกินจริงไปว่า “ซานซานเธอจะเป็นไข้แดดหรือเปล่า? เฮ้ย สีหน้าดูไม่ดีเลย เอาอย่างนี้ไหมให้ฉันไปส่งเธอกลับบ้านดีกว่า?”

โอหยางซานซานยังไม่ทันได้พูดคำปฏิเสธออกมาอู่เยวี่ยก็แย่งจักรยานไปจับไว้เองอย่างรวดเร็ว แถมยังหันไปพูดกับเพื่อนนักเรียนที่รู้จักที่เดินผ่านมาอย่างดังว่า “ซานซานเหมือนจะเป็นลมแดด ฉันต้องพาเธอไปส่งที่บ้าน พวกเธอช่วยฉันประคองเธอขึ้นไปนั่งหน่อยสิ!”

เพื่อนนักเรียนถามอย่างเป็นห่วงอยู่หลายประโยค ประคองโอหยางซานซานนั่งเบาะหลังของจักรยานอย่างกระตือรือร้น แถมยังถามอีกว่าต้องการความช่วยเหลือไหม อู่เยวี่ยรีบส่ายหัว “ไม่ต้องแล้ว ฉันคนเดียวก็พอละ พวกเธอรีบกลับบ้านเถอะ!”

ล้อเล่นหรืออย่างไรกัน ไม่ง่ายเลยที่เธอจะพยายามหาโอกาสไปเป็นแขกที่บ้านของโอหยางซานซานได้ ไหนเลยจะให้คนอื่นได้ประโยชน์!

เมื่อก่อนเธอพูดอยู่หลายครั้งเรื่องที่อยากไปเป็นแขกที่บ้านของโอหยางซานซาน แต่ผู้หญิงคนนี้มักจะหาเหตุผลมาปฏิเสธ เชอะ คิดว่าเธอเป็นคนโง่หรือยังไงกัน?

ครั้งนี้ดูสิว่าเธอยังมีเหตุผลอะไรมาปฏิเสธ!

โอหยางซานซานไม่มีเหตุผลมารองรับอีกต่อไปแล้ว ต่อหน้าเพื่อนนักเรียน ต่อหน้านักเรียนคนอื่น ๆ เธอจำเป็นต้องเป็นเจ้าหญิงโอหยางผู้อ่อนโยนใจดีอบอุ่น ไม่สามารถให้คนอื่นมองเห็นถึงความดูถูกเหยียดหยามภายในใจที่มีต่ออู่เยวี่ยได้

“เยวี่ยเยวี่ยเธอแค่เป็นห่วงฉันน่ะ อันที่จริงฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นหรอก ขอบคุณพวกเธอมากนะ!”

โอหยางซานซานเก็บความโกรธเคืองเอาไว้แล้วหันไปขอบคุณเพื่อนนักเรียน คงต้องจำยอมให้อู่เยวี่ยส่งเธอกลับบ้านแล้วล่ะ

บ้านของโอหยางซานซานอยู่ในตึกที่มีแต่ครอบครัวของคนในสถานีโทรทัศน์และวิทยุอาศัยอยู่เท่านั้น สามห้องนอนสองห้องรับแขก ตกแต่งได้ไม่เลว หวงอวี้เหลียนอยู่บ้าน เธอไม่ได้ไปทำงาน ควรจะพูดว่าหลายปีมานี้เธอไม่เคยไปทำงาน แต่ก็ยังได้รับเงินเดือน

องค์กรของเธอก็อยู่ในสถานีโทรทัศน์ โอหยางเซี่ยงหมิงรับผิดชอบเรื่องนี้ ดังนั้นไม่ว่าหวงอวี้เหลียนจะไปทำงานหรือไม่ก็ตามก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร ไม่มีใครกล้าหักเงินเดือนของเธอ ในทางตรงกันข้ามโบนัสและสวัสดิการก็เช่นกันห้ามลดลงเด็ดขาด

“แม่คะ นี่คือเพื่อนนักเรียนที่หนูเล่าให้แม่ฟังอยู่บ่อย ๆไงคะ ชื่ออู่เยวี่ย”

ตอนที่พูดถึงอู่เยวี่ย โอหยางซานซานก็ตั้งใจเน้นเสียงเข้าไปอีก หวงอวี้เหลียนตาเป็นประกายวับ

………………………………………….

ตอนที่ 995 ลองหยั่งเชิง

ถึงแม้ว่าหวงอวี้เหลียนจะรักษาตำแหน่งคุณนายโอหยางไว้ได้ แต่ตลอดสามปีที่ผ่านมานี้เธอและโอหยางเซี่ยงหมิงก็เป็นสามีภรรยาเพียงแค่ในนามเท่านั้น ต่อหน้าคนอื่นทั้งสองคนแสดงละครได้ดีมาก

เป็นคู่สามีภรรยาที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันรักใคร่กันอย่างลึกซึ้ง เป็นบทบาทที่พวกเขาจำเป็นต้องแสดง

แต่ตอนที่ไม่มีคนนอกอยู่ด้วย พวกเขาทั้งสองแม้กระทั่งพูดยังไม่พูดกันเลยด้วยซ้ำ โอหยางเซี่ยงหมิงถึงขั้นกลับมาอยู่บ้านน้อยมาก ๆ หวงอวี้เหลียนเองก็รู้ว่าเขายังมีบ้านอีกหลังอยู่ข้างนอกแต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ

ถึงอย่างไรสิ่งที่เธออยากได้ก็คือชื่อเสียงในฐานะคุณนายโอหยาง ของที่ต้องการโอหยางเซี่ยงหมิงก็ให้ไม่ได้!

ในช่วงสามปีที่ผ่านมาหวงอวี้เหลียนก็ยังรู้สึกอึดอัดเหมือนเดิม เว้นเสียว่าโอหยางปินจะมาที่เมืองจินบ้างถึงจะได้รับความกระชุ่มกระชวยสักหน่อย นอกนั้นก็ไม่ได้มีชายอื่นได้แต่ก้มหน้าก้มตาเป็นแม่บ้านที่ดีมาสามปี ไม่กล้าออกนอกลู่นอกทางแม้แต่นิดเดียว เพราะเธอกลัวข้อมูลในมือของจ้าวเหมย

แต่สามปีที่ผ่านมามันถึงขีดจำกัดของเธอแล้วจริง ๆผู้หญิงอายุสามสิบปีก็เหมือนหมาป่าที่กระหาย พอวัยสี่สิบต้น ๆยิ่งหิวกระหายมากขึ้น โอหยางปินนั้นไม่ได้อยู่ในเกมของเธอแล้ว เธอจึงต้องการหาเป้าหมายใหม่ ๆ

แต่ก่อนที่จะถึงวันนั้นเธอต้องกำจัดจ้าวเหมยที่เป็นหนามทิ่มแทงใจเธอเสียก่อน มิเช่นนั้นใจของเธอจะสงบสุขได้อย่างไร!

“รีบเข้ามาข้างในห้องกินแตงโมเร็ว ไม่ต้องเกรงใจ คิดเสียว่านี้เป็นบ้านของตัวเองก็แล้วกัน  ซานซานของเรามาอยู่ที่นี่ยังไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไรยังดีที่มีเยวี่ยเยวี่ยคอยดูแลเธอ  น้าต้องขอบคุณเธอมาก ๆเลยนะ!”

หวงอวี้เหลียนหยิบแตงโมแดงฉ่ำมีเมล็ดสีดำออกมาจากตู้เย็น ทักทายอู่เยวี่ยอย่างกระตือรือร้นเป็นกันเอง

อู่เยวี่ยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอคิดว่าหวงอวี้เหลียนจะคบค้าสมาคมยากเหมือนกับโอหยางซานซานเสียอีก!

หวงอวี้เหลียนหันไปส่งสายตาให้กับโอหยางซานซานที่ยังงุนงงอยู่ โอหยางซานซานรีบเปลี่ยนท่าที แม่ลูกคู่นี้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ทำเอาอู่เยวี่ยค่อย ๆคลายใจที่ระแวดระวังลง

“วันนี้เป็นวันดีจริง ๆ น้าเลี้ยงข้าวเอง พวกเราไปกินอาหารที่ภัตตาคารจุ้ยเซียนกันเถอะ”

หวงอวี้เหลียนอารมณ์ดีไม่น้อย ถ้าครั้งนี้โชคเข้าข้างเธอ ไม่แน่เธออาจจะได้สั่งสอนนังสารเลวจ้าวเหมยให้ได้เลือดบ้างก็เป็นได้!

ก่อนอื่นจะต้องทำให้อู่เยวี่ยลดท่าทีระแวงลงก่อน ทำไมเธอถึงไม่คิดวิธีดี ๆแบบนี้ให้ได้เร็วกว่านี้กันนะ!

เวลาสามปีที่ผ่านไปช่างเสียเวลาเปล่า น่าเสียดายจริง ๆ !

พวกเหมยเหมยทั้งสามคนก็ขี่จักรยานมาถึงที่ภัตตาคารจุ้ยเซียน ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาทานอาหารคนในภัตตาคารจึงไม่เยอะ พวกเหมยเหมยพากันเลือกโต๊ะที่ติดริมหน้าต่าง ในภัตตาคารเปิดแอร์เย็นฉ่ำ พอนั่งลงไม่นานความร้อนก็มลายหายไป

อู่เชาหยิบเมนูมาและสั่งอาหารที่ขึ้นชื่อที่สุดในร้านไปหลายอย่าง แถมยังสั่งให้นำไอศกรีมมากินเป็นของหวานเล่น ๆก่อน!

กินไปได้ครึ่งหนึ่งแล้ว ลูกค้าถึงได้ทยอยมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พวกหวงอวี้เหลียนทั้งสามคนก็มาถึงแล้ว เหมยเหมยมองไม่เห็นทั้งสามคนนั้น แต่แค่แวบแรกที่เดินเข้ามาหวงอวี้เหลียนก็เห็นพวกเธอแล้ว

“แม่ เราเปลี่ยนที่กินข้าวกันเถอะ” โอหยางซานซานแค่เห็นเหมยเหมยก็โมโหแล้ว ไหนเลยจะมีอารมณ์อยากอาหารได้?

หวงอวี้เหลียนตบบ่าลูกสาวเบา ๆเพื่อปลอบใจ ยิ้มบาง ๆพูดว่า “พวกเรากินก็กินแค่ในส่วนของพวกเรา ไม่ต้องไปใส่ใจคนอื่น”

เธอคิดแล้วคิดอีก จึงเรียกผู้จัดการร้านให้ช่วยจัดห้องส่วนตัวให้ อันที่จริงเธอมองไปที่จ้าวเหมยก็หวาดกลัวแล้ว เลยถือโอกาสทำเป็นมองไม่เห็นเสียเลย

ขณะที่ทั้งสามคนกำลังขึ้นไปด้านบน เหมยเหมยก็เงยหน้าขึ้นเห็นสามคนนั้นอย่างไม่ได้ตั้งใจพลันอดขมวดคิ้วไม่ได้

ทำไมแม่ลูกหวงอวี้เหลียนจึงสนิทกับอูเยวี่ยขนาดนี้กันล่ะ?

ทั้งสามคนกำลังวางแผนชั่วร้ายอะไรกันอีกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะออกมาชั่วร้ายขนาดไหน เหมยเหมยยิ้มเยาะในใจเธอจะรอแล้วกัน!

ขณะขึ้นข้างบน หวงอวี้เหลียนแสร้งทำเป็นพูดกับตัวเองว่า “เฮ้อ จ้าวเหมยสาวน้อยคนนี้เธอช่างเป็นผู้หญิงที่โชคดีไม่เลวเลยจริง ๆ แค่พริบตาเดียวจากนกกระจอกบินไปจับกิ่งไม้ก็กลายเป็นนกฟีนิกซ์ที่สูงส่งไปเสียแล้ว!”

อู่เยวี่ยตัวแข็งทื่อ ความเคียดแค้นพุ่งทะลักขึ้นมา

เมื่อก่อนเธอนี่แหละที่เป็นนกฟีนิกซ์!

จ้าวเหมยเทียบกับรองเท้าแตะของเธอยังไม่คู่ควรเลย!

หวงอวี้เหลียนเพียงแค่ลองหยั่งเชิงเธอดูเล็กน้อยก็สามารถทดสอบความในใจที่แท้จริงของอู่เยวี่ยออกมาได้ เธอยิ่งมั่นใจกับแผนของตัวเองมากยิ่งขึ้นไปอีก!

…………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด