ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]บทที่ 455: ข่าวจากแดนมนุษย์

Now you are reading ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] Chapter บทที่ 455: ข่าวจากแดนมนุษย์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 455: ข่าว​จาก​แดน​มนุษย์​

 

การ​ปลดล็อก​สถานะ​ของ​ ‘วิญญาณ​มาก​ตัณหา​’ ได้​สำเร็จ​ส่งผล​ให้​ไอคิว​(IQ)ของ​อาร์​ทิส​เพิ่ม​สูงขึ้น​อย่าง​มาก​ แม้แต่​ความสามารถ​ของ​นาง​เอง​ก็​ดูเหมือนว่า​จะพุ่ง​สูงขึ้นไป​สู่ระดับ​ใหม่​ ก่อนที่​ฉิน​เย่​จะสามารถ​เอ่ย​ตอบ​อะไร​ออก​ไป​ นาง​ก็​เปลี่ยน​ร่าง​เป็น​สายลม​และ​พุ่ง​ออก​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ทันที​

 

งี่เง่า!

 

ฉิน​เย่​คิด​อย่าง​ดูถูก​ – เจ้าคิด​ว่า​เจ้าตัวเอง​กำลัง​มีโอกาส​ใน​การ​เป็น​วีรสตรี​ของ​บุรุษ​ผู้​ตกทุกข์ได้ยาก​หรือ​อย่างไร​กัน​? นั่น​ไม่มีทาง​เป็นไปได้​ เชื่อ​ข้า​เถิด​ เจ้าคิด​ว่า​คน​อย่าง​จูล่ง​จะสนใจ​หรือ​อย่างไร​ว่า​พวก​แฟน​ๆของ​เขา​จะคิด​อย่างไร​? ทั้งหมด​เป็น​เพียง​ฉาก​หน้า​เท่านั้น​! บุคลิก​ภายนอก​ที่​พวกเขา​สร้าง​ขึ้น​และ​รักษา​เอาไว้​!

 

“แต่​…มัน​มีอะไร​มากกว่า​ที่​ตา​เห็น​…” ฉิน​เย่​ครุ่นคิด​ถึงลำดับ​เหตุการณ์​ทั้งหมด​อย่าง​ละเอียด​อีกครั้ง​ ก่อน​จะมอง​ไป​รอบ​ๆถ้ำที่ว่างเปล่า​อย่าง​ครุ่นคิด​ “ลำดับ​แรก​ สิ่งที่​เรา​สามารถ​แน่ใจ​ได้​ก็​คือ​จูล่ง​จะต้อง​ได้รับ​พระราชกฤษฎีกา​ลับ​ หรือไม่​ก็​ประสบ​กับ​เรื่อง​ร้าย​บางอย่าง​ จ้าว​นรก​องค์​ที่สอง​ของ​ยมโลก​จะต้อง​รู้เรื่อง​นี้​ แต่​ไม่สามารถ​รู้​ถึงสิ่งที่​ตระกูล​ขง​พยายาม​จะทำ​ลับหลัง​ตน​”

 

“จ้าว​นรก​องค์​ที่สอง​คง​ไม่รับรู้​ถึงความ​น่ากลัว​ถึงสิ่งที่​เรียก​ว่า​ปราชญ์​ของ​ราชวงศ์​ซ่งและ​ราชวงศ์​หมิง​ เขา​จะต้อง​ประเมิน​ตระกูล​ขง​ต่ำ​เกินไป​ ก่อน​จะมาได้สติ​ใน​ภายหลัง​เมื่อ​เขา​ค้นพบ​ถึงการ​หาย​ไป​ของ​ราช​สาร​ลับ​ และ​บังเอิญ​ว่า​เหตุการณ์​ดังกล่าว​ก็​เกิดขึ้น​ใน​ช่วง​เดียวกัน​กับ​การ​ขึ้น​สวรรค์​ของ​พระ​กษิ​ติ​ครรภ์​โพธิสัตว์​ และ​เมื่อ​ตระหนัก​ได้​ถึงสถานการณ์​ที่​แท้จริง​ที่​กำลัง​เกิดขึ้น​กับ​ยมโลก​ จ้าว​นรก​องค์​ที่สอง​จึงตัดสินใจ​และ​มองดู​การ​ล่มสลาย​ของ​ยมโลก​แห่ง​เก่า​โดย​ไม่ลงมือ​อะไร​ทั้งสิ้น​”

 

หลังจาก​ครุ่นคิด​ต่อ​อีก​พัก​หนึ่ง​ ฉิน​เย่​ก็​พยักหน้า​ “มัน​ฟังดู​สมเหตุสมผล​ แต่​น่าเสียดาย​…ที่​มัน​ยัง​เป็น​เพียง​การ​ตั้ง​ข้อสันนิษฐาน​เท่านั้น​ หลักฐาน​เดียว​ที่​เรา​มีใน​ตอนนี้​ก็​คือ​ทุกอย่าง​ดูเหมือน​จะตรง​กับ​ช่วงเวลา​ของ​เหตุการณ์​ทั้งหมด​ แต่​…”

 

ฉิน​เย่​ถอนหายใจ​ออกมา​ “เรา​ไม่มีหลักฐาน​ที่​เป็น​รูปธรรม​ แต่​…ทำไม​เรา​ถึงต้อง​พิสูจน์​ข้อสันนิษฐาน​ของ​ตัวเอง​ด้วย​? มัน​มีแต่​จะตอบสนอง​ต่อ​ความอยากรู้​ของ​เรา​เท่านั้น​ นอกจากนี้​…ทุกอย่าง​ก็​เป็นอดีต​ไป​แล้ว​”

 

“สิ่งที่​เรา​ควร​ทำ​ก็​คือ​สนใจ​กับ​คำถาม​ที่ว่า​ตระกูล​ขง​ตั้งใจ​จะทำ​อะไร​ที่นี่​กัน​แน่​?”

 

“ประการ​แรก​ เรา​รู้​ว่า​พวกเขา​ส่งขง​โม่มา อีก​ฝ่าย​คือ​ตัวเลือก​ที่​เหมาะสม​ที่สุด​ที่จะ​ถูก​ส่งมายัง​ลิ​มโบ​โดย​อ้างว่า​ถูก​เนรเทศ​ ดังนั้น​ เขา​จึงเป็น​ผู้​ที่​ถูก​ ‘ขับไล่​’ มาสู่ลิ​มโบ​ ใน​ฐานะ​ของ​ผู้​ที่​กระ​ทำบาป​อย่าง​มหันต์​ใน​ช่วงชีวิต​ของ​ตน​ เขา​ได้​รับมอบ​พระราชวัง​แห่ง​การ​สะท้อน​เงา… ฮ่าๆๆๆๆๆ… ไม่มีอะไร​ไป​มากกว่า​นี้​ เรา​จำเป็น​จะต้องหา​เบาะแส​ต่อ​ บางที​ เรา​อาจจะ​ได้​รู้สึก​จุดประสงค์​ที่​แท้จริง​ของ​พวกเขา​จาก​การ​เปิด​ราช​สาร​ลับ​ก็​เป็นได้​”

 

เขา​พยักหน้า​และ​หมุนตัว​เพื่อ​เตรียม​จะเดิน​จากไป​ ในขณะนั้น​เอง​ ประกาย​แสงสีทอง​อ่อน​ๆก็​สว่าง​ขึ้น​ที่​หว่าง​คิ้ว​

 

เด็กหนุ่ม​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​และ​พยายาม​เพ่ง​ความสนใจ​ไป​ที่​แสงสีทอง​ดังกล่าว​ ทันใดนั้น​ ร่าง​ที่​ดู​เป็นกังวล​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ข้างๆ​เขา​

 

มัน​คือ​ร่าง​ของ​อู๋​เห​วิน​ชิ่ง รองอธิบดี​ของ​หน่วย​สอบสวน​พิเศษ​สาขา​เมือง​หวู่​หยาง​ นี่​คือ​ตรา​ผนึก​ที่​ฉิน​เย่​ทิ้ง​ไว้​บน​ประตู​บ้าน​ของ​เขา​ใน​แดน​มนุษย์​ หาก​มีผู้ใด​มาเคาะ​ประตู​ เขา​ก็​จะสามารถ​มองเห็น​และ​ได้ยิน​ถึงสิ่งที่​เกิดขึ้น​ ไม่ว่า​เขา​จะอยู่​ที่ใด​ก็ตาม​ จนถึง​ตอนนี้​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เมือง​หวู่​หยาง​ส่งคน​มาเรียก​เขา​

 

แต่​มัน​ก็​สมเหตุสมผล​ที่​พวกเขา​จะเป็น​เช่นนั้น​ ตอนนี้​เขา​ได้​หาย​จาก​การ​ปฏิบัติหน้าที่​ไป​เป็นเวลา​กว่า​ห้า​เดือน​แล้ว​ มัน​นา​นก​ว่าที่​เขา​ได้​ให้สัญญา​ไว้​ก่อนหน้านี้​เสีย​อีก​

 

“คุณ​ฉิน​ครับ​!” เสียง​เรียก​ที่​เต็มไปด้วย​ความร้อนรน​ของ​อู๋​เห​วิน​ชิ่งดัง​ขึ้น​ภายใน​หัว​ของ​เขา​ “ตอนนี้​พวกเรา​กำลัง​เผชิญหน้า​กับ​สถานการณ์​ที่​ค่อนข้าง​วิกฤต​ภายใน​เมือง​หวู่​หยาง​ พวกเรา​ขอให้​คุณ​ออกจาก​การ​แยก​ฝึก​ตน​ทันที​หาก​เป็นไปได้​! พวกเรา​ยัง​ไม่ได้​เรียก​ขอ​กำลัง​เสริม​จาก​ภายนอก​ คุณ​ฉิน​ ได้​โปรด​ตอบกลับ​ภายใน​เร็ว​วัน​! ทาง​เรา​จะส่งคน​มาเรียก​คุณ​อีก​ใน​วันพรุ่งนี้​นะ​ครับ​!”

 

ดวงตา​ของ​ฉิน​เย่​หรี่​เล็ก​ลง​

 

สถานการณ์​วิกฤต​… เมือง​หวู่​หยาง​ นั้น​เป็น​เมือง​ชายฝั่ง​ที่อยู่​ทาง​ตอน​บน​ของ​มณฑล​ซาน​ตง​…

 

ราชา​ผี​!

 

นี่​เขา​เริ่ม​ลงมือ​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​? เขา​รับ​รู้สึก​สถานการณ์​ของ​ขง​โม่แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​? นี่​เขา​พยายาม​จะสร้าง​ข้อได้เปรียบ​ใน​สถานการณ์​นี้​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​? ไม่ใช่ว่า​นี่​หมายความว่า​ก่อนหน้านี้​เขา​หวาดกลัว​ขง​โม่หรือ​อย่างไร​? ไม่…ราชา​ผี​เอง​ก็​กองกำลัง​ที่​ยิ่งใหญ่​ของ​ตัวเอง​เช่นกัน​ และ​ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​ ความเป็นไปได้​อีก​อย่าง​เดียว​ก็​คือ​เขา​กลัว​วัตถุ​หยิน​ที่อยู่​ใน​ความ​ครอบครอง​ของ​ขง​โม่มากกว่า​ เขา​หวาดกลัว​ใน​ความ​ล้ำลึก​ของ​คลังแสง​ที่​ตระกูล​ขง​มีอยู่ในครอบครอง​

 

หรือ​ก็​คือ​…ขง​โม่จะต้อง​มีวัตถุ​หยิน​ที่​สามารถ​เป็น​ภัย​คุกคาม​ได้​แม้แต่​กระทั่ง​กับ​ขั้น​ฝู่จวิน​! มัน​จะต้อง​เป็น​สิ่งที่​น่าสะพรึงกลัว​ยิ่งกว่า​ตะเกียง​เถาฮวา​อย่าง​แน่นอน​! ครั้งนี้​…ตระกูล​ขง​ทุ่ม​สุดตัว​จริงๆ​…

 

ด้วย​การ​มีนคร​เผิง​ชิวอ​ยู่​ภายใน​การควบคุม​ มัน​ไม่มีทาง​ที่​ขง​โม่จะกลับมา​ทวง​คืน​ เพราะ​ไม่ว่า​อย่างไร​แล้ว​ การป้องกัน​ของ​นคร​เผิง​ชิว​ก็​ไม่ใช่สิ่งที่จะ​สามารถ​มองข้าม​ได้​ หาก​ไม่ใช่เพราะ​ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​พวกเขา​สามารถ​ปรากฏตัว​ขึ้น​ ณ ใจกลาง​ของ​นคร​เผิง​ชิว​ผ่าน​ทางโลก​ใต้พิภพ​ได้​ มัน​ก็​ไม่มีทาง​เลย​ที่​พวกเขา​จะสามารถ​ยึดครอง​นคร​เผิง​ชิว​มาได้​เช่นนี้​ แต่​สิ่งที่​เกิดขึ้น​คงจะ​ทำให้​ขง​โม่สับสน​ และ​…ราชา​ผี​เอง​ก็​คงจะ​สังเกตเห็น​ถึงสิ่งนี้​

 

มหาอำนาจ​ทั้ง​สามกำลัง​ต่อสู้​กัน​เพื่อ​แย่งชิง​ความ​เป็นใหญ่​ภายใน​มณฑล​ซาน​ตง​ ขง​โม่นั้น​ได้​ออก​ตัวนำ​ไป​แล้ว​ และ​อีก​ฝ่าย​ก็​แค่​พยายาม​รักษา​ระยะห่าง​ที่​ตน​ทำ​มาตลอด​ หาก​เดินหน้า​ต่อไป​ เขา​จะต้อง​เหยียบย่ำ​ขง​โม่และ​ปะทะ​กับ​ราชา​ผี​

 

“แต่​ก่อนหน้า​นั้น​ มัน​ยังมี​สิ่งที่​เรา​จะต้อง​จัดการ​เสีย​ก่อน​” เขา​ยิ้ม​ออกมา​และ​ถูมือ​ สัมผัส​ถึงความรู้สึก​ที่​หลง​เหลืออยู่​ของ​หอก​เงิน​แห่ง​ความกล้า​ของ​มังกร​ใน​เมือ​ “ขง​โม่กำลัง​อยู่​บน​เส้นทาง​แห่ง​ความตาย​ เรา​มั่นใจ​ว่า​ราชา​ผี​จะต้อง​เต็มใจ​ที่จะ​ร่วม​กองกำลัง​กับ​เรา​เพื่อ​กำจัด​เจ้าแมลง​ตัว​นั้น​เป็นแน่​…”

 

“แม่ทัพ​หยาง​”

 

“กระหม่อม​อยู่​นี่​พ่ะย่ะค่ะ​”

 

“เจ้าคิด​อย่างไร​เกี่ยวกับ​การ​เข้าร่วม​กองกำลัง​กับ​ราชา​ผี​?”

 

หยาง​เหยียด​เจาอ้า​ปาก​ทันที​ แต่​เขา​ก็​เงียบ​ไป​ หลังจาก​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ เขา​ก็​เลือก​คำพูด​และ​เอ่ย​ออกมา​อย่าง​ระมัดระวัง​ “ราชา​ผี​ทั้ง​หก​ล้วน​เป็น​คน​บาป​ที่​ได้​ก่อ​อาชญากรรม​ที่​ชั่วร้าย​และ​ไม่น่า​ให้อภัย​ใน​ยุคสมัย​ของ​ตัวเอง​ หาก​พูด​กัน​ตาม​ความจริง​ กระหม่อม​เอง​คง​ไม่มีทาง​เห็นด้วย​กับ​การกระทำ​เช่นนั้น​ แต่​ด้วย​สถานการณ์​อัน​จำกัด​ที่​ยมโลก​กำลัง​เผชิญ​ในเวลานี้​ กระหม่อม​คงจะ​ไม่มีข้อ​โต๊​แย้ง​ใดๆ​ตราบใดที่​มัน​สามารถ​ฟื้นฟู​ให้​ยมโลก​กลับมา​รุ่งเรือง​ดังเดิม​ได้​ภายใน​อีก​ร้อย​ปี​พ่ะย่ะค่ะ​”

 

ฉิน​เย่​พยักหน้า​ “หาก​พูด​กัน​ตาม​ความจริง​ ข้า​ได้​ส่งข้อความ​ไปหา​ราชา​ผี​แห่ง​พิภพ​อสูร​ทันทีที่​การประชุม​ราชสำนัก​ครั้งสุดท้าย​จบ​ลง​ อย่างไรก็ตาม​ เขา​ไม่ได้​สนใจ​ข้า​เลย​แม้แต่น้อย​ เขา​ไม่ได้​สังหาร​ห​ลี่​จีสี่ ผู้ส่งสาร​ที่​ข้า​ได้​ส่งไป​ แต่​เขา​ก็​ไม่ได้​ไว้หน้า​ข้า​เช่นกัน​ เขา​ไม่แม้แต่​จะปล่อย​ให้​ห​ลี่​จีสี่เข้าไป​ใน​อาณาเขต​ของ​ตน​ด้วยซ้ำ​”

 

“มัน​เป็นเรื่อง​ดี​ที่​เจ้ามีความคิด​เช่นนี้​ เจ้าเอง​ก็ได้​ติดตาม​หยาง​จีเย่​มานาน​ ดังนั้น​เจ้าคงจะ​ได้​รับรู้​เกี่ยวกับ​สถานการณ์​ใน​แดน​มนุษย์​มาบ้าง​ ข้า​มั่นใจ​ว่า​เจ้าคงจะ​สังเกตเห็น​ว่า​สถานการณ์​ใน​แดน​มนุษย์​ไม่ได้​ขับเคลื่อน​ไป​ใน​ทางเดียว​ แต่ละ​ประเทศ​จะโยกย้าย​ฝ่าย​อยู่​ตลอดเวลา​ พันธมิตร​ไม่เคย​แน่นอน​ สิ่งเดียว​ที่​คงอยู่​ตลอดไป​ก็​ผลประโยชน์​ของ​ชาติ​”

 

หยาง​เหยียน​เจาพยักหน้า​อย่าง​หนักแน่น​

 

“แต่​ก่อนที่​เรา​จะไป​ถึงจุด​นั้น​ มัน​ยังมี​สิ่งอื่น​ที่​เรา​จะต้อง​ทำ​อีก​” ฉิน​เย่​ทำท่า​คว้า​อะไร​บางอย่าง​ และ​ดอก​ลบ​ความทรงจำ​ช่อ​หนึ่ง​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​มือ​ของ​เขา​

 

“พระองค์​…จะทรง​เสด็จ​พบ​พวกเขา​หรือ​พ่ะย่ะค่ะ​?” หยาง​เหยียน​เจาเอ่ย​ด้วย​เสียงแหบ​พร่า​

 

ฉิน​เย่​พยักหน้า​เบา​ๆ “ข้า​เคิด​ว่า​…พวกเขา​คง​ต้องการ​คำตอบ​”

 

“และ​ข้า​ก็​จะบอก​พวกเขา​ให้​วางใจ​ได้​ เพราะ​ทุกอย่าง​เรียบร้อย​ดี​ และ​มัน​จะดีขึ้น​เอง​ สิ่งที่​พวกเขา​ยอม​แลก​ด้วย​ชีวิต​จะถูก​รักษา​ไว้​อย่าง​ระมัดระวัง​และ​คงอยู่​ไป​อีก​ร้อย​ปี​พันปี​… มัน​จะยัง​คงอยู่​บน​ดินแดน​ผืน​นี้​ต่อไป​”

 

“และ​ข้า​เอง​ก็​คง​ไม่สามารถ​สบายใจ​ได้​จนกว่า​ข้า​จะได้​มอบ​คำตอบ​ให้​พวกเขา​ด้วยตัวเอง​”

เมื่อ​เอ่ย​จบ​ เขา​ก็​เปลี่ยน​ร่าง​เป็น​กระแสลม​และ​พุ่งตัว​ออกจาก​หลุม​ ก่อน​จะจากไป​ เขา​ได้​บอก​ให้​วิญญาณ​ทั้งหมด​ที่​รวมตัวกัน​อยู่​ที่​ปาก​หลุม​แยกย้าย​กัน​กลับ​ไป​ทำหน้าที่​ของ​ตน​ และ​พวกเขา​จะกลับมา​ประชุม​อีกครั้ง​ใน​อีก​หนึ่ง​อาทิตย์​เพื่อ​ติดตาม​ผล​

 

จากนั้น​เขา​ก็​บิน​ขึ้นไป​บน​อากาศ​และ​มุ่งหน้า​ไป​ทางทิศใต้​ของ​นคร​

 

ภายใน​ไม่กี่​วินาที​ ทั้ง​ฉิน​เย่​และ​หยาง​เหยียน​เจาได้​มาถึงที่หมาย​ปลายทาง​

 

“ถวายบังคม​พ่ะย่ะค่ะ​ฝ่าบาท​” ทัพ​เกราะ​ทมิฬ​”ได้​ประจำการ​อยู่​ที่นี่​ ทันทีที่​พวกเขา​สังเกตเห็น​การ​มีถึงของ​ฉิน​เย่​ ทั้งหมด​ก็​รีบ​คุกเข่า​ข้าง​หนึ่ง​ลง​กับ​พื้น​และ​เอ่ย​ทำความเคารพ​ทันที​

 

“ลุกขึ้น​” ฉิน​เย่​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ทุ้ม​กว่า​เดิม​ สายตา​ของ​เขา​มองผ่าน​กองกำลัง​ทั้งหมด​และ​หยุด​ลง​ที่​ด้านหลัง​ของ​พวกเขา​

 

มัน​มีอนุสาวรีย์​หิน​ขนาดใหญ่​ตั้งอยู่​บน​พื้น​ที่โล่ง​ด้านหลัง​

 

อนุสาวรีย์​ดังกล่าว​มีความ​กว้าง​สิบ​เมตร​และ​สูงห้า​เมตร​ มัน​ดู​คล้าย​กับ​ก้อนอิฐ​ทรง​สี่เหลี่ยมผืนผ้า​ที่​ถูก​สลัก​ตัวอักษร​มากมาย​เอาไว้​

 

นอกจากนี้​ เบื้องหน้า​ของ​อนุสาวรีย์​หิน​ขนาดใหญ่​ยังมี​สุสาน​ซึ่งเต็มไปด้วย​หลุมฝังศพ​จำนวนนับ​ร้อย​

 

ทั้ง​สุสาน​ถูก​ปกคลุม​ด้วย​ความ​เงียบ​ มัน​มีอะไร​อีก​หลายอย่าง​ที่จะ​ต้อง​ลงมือทำ​ใน​นคร​เผิง​ชิว​ ซึ่งเป็น​เหตุผล​ว่า​ทำไม​เขา​ถึงสั่งการ​ให้​ทหาร​วิญญาณ​เพียง​ร้อย​นาย​ประจำการ​อยู่​ที่​ส่วน​นี้​ และ​สร้าง​อนุสาวรีย์​ รวมถึง​หลุมศพ​นับ​ร้อย​เพื่อ​เป็นที่​ระลึกถึง​ทุกคน​ที่​ต้อง​เสียชีวิต​ไป​ มัน​ไม่มีแม้กระทั่ง​ดอกไม้สด​เพื่อ​มอบให้​กับ​ผู้​ที่​เสียชีวิต​ด้วยซ้ำ​

 

ฉิน​เย่​และ​หยาง​เหยียน​เจาค่อยๆ​เดิน​เข้าไป​ใน​สุสาน​ หลุมฝังศพ​จำนวนมาก​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ใน​ลักษณะ​ของ​จีน​โบราณ​ ตกแต่ง​ด้วย​การแกะสลัก​ที่​ประณีต​และ​ซับซ้อน​ ฉิน​เย่​ยังคง​เดิน​ต่อไป​และ​ไล่​มือ​ไป​ตาม​หลุมฝังศพ​เบา​ๆ “เจ้าจะกลับ​ไป​ที่​ฟิลิปิ​นัส​เมื่อใด​?”

 

“อีก​หนึ่ง​สัปดาห์​พ่ะย่ะค่ะ​” หยาง​เหยียน​เจาเอ่ย​ตอบ​ หัวใจ​ของ​เขา​รู้สึก​หนัก​อึก​อย่าง​ไม่สามารถ​เปรียบ​ได้​กับ​ภาพ​ของ​อนุสรณ์​สำหรับ​ทหาร​ที่​เสียชีวิต​

 

เมื่อ​หลาย​เดือนก่อน​ พวกเขา​ยังคง​ยืน​เคียงบ่าเคียงไหล่​ ใน​ฐานะ​ของ​สหาร​ร่วม​รบ​ เอ่ย​คำสาบาน​ว่า​จะต่อสู้​เพื่อ​ความรุ่งโรจน์​ของ​ยมโลก​ แต่​วันนี้​…พวกเขา​กลับ​ต้อง​ยืน​อยู่​ใน​โลก​ที่​แตก​ต่างกัน​

 

“ข้า​ขอ​ฝาก​คำขอบคุณ​ไป​ถึงแม่ทัพ​หยาง​ด้วย​ บอก​เขา​ว่า​ข้า​จะไม่มีทาง​ลืม​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่​ตระกูล​หยาง​ได้​เสียสละ​เพื่อ​ยมโลก​” ฉิน​เย่​ส่าย​ศีรษะ​ “พวก​เจ้าอาจจะ​บอ​กว่า​ทั้งหมด​นี้​ล้วน​เกิด​จาก​ภาระหน้าที่​ที่​มีมาแต่กำเนิด​ แต่​ภาระหน้าที่​นั้น​ไม่สามารถ​สกัดกั้น​อารมณ์​ความรู้สึก​ได้​”

“เจ้าได้​มอบ​ความช่วยเหลือ​ให้​แก่​ยมโลก​ใน​ช่วงเวลา​ที่​วิกฤต​ที่สุด​ ความมีน้ำใจ​เช่นนี้​จะถูก​จดจำ​ตลอดไป​”

 

เขา​หยุด​ลง​ที่​หน้า​หลุมฝังศพ​ที่​มีคำ​ว่า​มู่กุ้ย​อิง​สลัก​อยู่​ รวมถึง​วันเกิด​ วัน​ตาย​ และ​…วันที่​ดวงวิญญาณ​ของ​นาง​สลาย​ไป​ นอกจากนี้​ มัน​ยัง​แสดงถึง​ความสำเร็จ​ต่างๆ​มากมาย​ที่​นาง​ได้รับ​มาจนถึง​ปัจจุบัน​อีกด้วย​

 

“จิว​ยี่​คิด​ว่าการ​มอบ​หน้าไม้​ศักดิ​สิทธิ์​เปลวไฟ​แห่ง​กรรม​และ​ลูกดอก​หน้าไม้​ของ​เขา​จะสร้าง​ความประทับใจ​ที่​ไม่มีทาง​ลืมเลือน​ให้​กับ​ยมโลก​” ฉิน​เย่​ปัก​ดอก​ลบ​ความ​ทรง​จะดอก​หนึ่ง​ลง​บน​พื้น​ กลีบ​ของ​มัน​พริ้ว​ไหว​อย่าง​งดงาม​เมื่อ​ปะทะ​เข้ากับ​สายลม​ที่​แผ่วเบา​

 

จากนั้น​ เขา​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​และ​ถอนหายใจ​ออกมา​ ก่อน​จะหยิบ​ดอกไม้​อีก​ดอก​หนึ่ง​และ​เดิน​ไป​ที่​หลุมฝังศพ​ของ​หยาง​เหยียนเต๋อ​และ​ปัก​มัน​ลง​ไป​บน​พื้น​อีกครั้ง​ “เขา​คิดผิด​ อย่าง​มาก​ที่สุด​ ข้า​ก็​อาจจะ​ยอม​อ่อน​ลง​เล็กน้อย​ใน​ตอนที่​ข้า​คิดบัญชี​กับ​พวกเขา​ในอนาคต​”

 

“ใน​โลก​ใต้พิภพ​สามารถ​มีเสียง​ได้​เพียง​เสียง​เดียว​ และ​มัน​ก็​คือ​เสียง​แห่ง​อำนาจ​ที่​มาจาก​ยมโลก​” เขา​ลุกขึ้น​ยืน​ ก้าว​ไป​อยู่​ระหว่าง​หลุมฝังศพ​ทั้งสอง​ และ​โค้ง​คำนับ​ “ข้า​ขอโทษ​”

 

“พวก​เจ้าทำงานหนัก​มาก​”

 

“พักผ่อน​ให้​สบาย​ ไม่จำเป็น​จะต้อง​เสีย​เลือด​อีกแล้ว​” เขา​โค้ง​คำนับ​อยู่​เช่นนั้น​เป็นเวลา​นาน​ “มัน​เป็น​เพราะ​ความ​ไร้ความสามารถ​ของ​ข้า​เอง​ที่​ทำให้​พวก​เจ้าต้อง​พัก​อยู่​ใน​หลุมฝังศพ​พวก​นี้​ไป​ชั่วนิรันดร์​ แต่​…ข้า​ขอ​สัญญาว่า​ตราบใดที่​ยมโลก​ยังอยู่​ พวก​เจ้าทั้งหมด​จะมีชีวิต​อยู่​ใน​หัวใจ​ของ​เหล่า​ประชากร​วิญญาณ​ของ​ยมโลก​ตลอดไป​”

 

มัน​เป็น​การแสดง​ความเสียใจ​สั้น​ๆ

 

และ​คำสัญญา​ที่จะ​คงอยู่​ชั่วนิรันดร์​

 

เขา​กลับมา​ยืน​ตัวตรง​ใน​ท้ายที่สุด​ ขณะที่​เดิน​กลับ​ ฉิน​เย่​ก็​เอ่ย​ออกมา​ “มัน​ไม่ใช่ว่า​ข้า​ไม่ต้องการ​ที่จะ​ฝังพวกเขา​ตาม​ธรรมเนียม​จีน​โบราณ​ แต่ว่า​จำนวน​ของ​ผู้​ที่​ยอม​สละ​ชีวิต​มีแต่​จะเพิ่มขึ้น​ใน​การ​เดินทาง​อัน​ยาวนาน​และ​แสน​อันตราย​ของ​เรา​ ยมโลก​ยัง​ไม่สามารถ​หา​ที่ว่าง​พอ​เพื่อ​ฝังศพ​ของ​พวกเขา​ใน​พื้นที่​ของ​ตัวเอง​ได้​ นั่น​คือ​เหตุผล​ว่า​ทำไม​ถึงมีเพียง​ทหาร​วิญญาณ​ที่​เป็น​ผู้บัญชาการ​กองร้อย​และ​สูงกว่า​นั้น​ที่​ได้รับ​เกียรติ​ใน​การ​มีหลุมฝังศพ​ส่วนตัว​ ส่วน​คนอื่นๆ​…”

 

เขา​หันไป​มอง​ยัง​จุด​ที่​ฮวงซุ้ย​โบราณ​ขนาดใหญ่​ซึ่งมีโคมไฟ​ระย้า​หลาย​หมื่น​ดวง​จุด​อยู่​ด้านนอก​ แต่ละ​ดวง​ล้วน​สื่อ​ถึงทหาร​วิญญาณ​ที่​ตาย​ไป​ใน​สนามรบ​

 

“ส่วน​คนอื่นๆ​ สามารถ​ถูก​ฝังได้​แค่​ที่นี่​เท่านั้น​”

 

“ข้า​กำลัง​ยืน​อยู่​บน​ไหล่​ของ​ยักษ์​ และ​ข้า​ก็​จำเป็น​จะต้อง​วางแผน​สำหรับ​อนาคต​ หวัง​ว่า​เจ้าจะเข้าใจ​”

 

“กระหม่อม​เข้าใจ​พ่ะย่ะค่ะ​”

 

ฉิน​เย่​พยักหน้า​ จากนั้น​จึงหันไป​มอง​ทาง​อื่น​

 

มัน​มีโคมลอย​ที่สูง​ประมาณ​สามเมตร​ตั้งอยู่​ห่าง​ออก​ไป​

 

วิญญาณ​นับ​ร้อย​กำลัง​คร่ำครวญ​และ​กรีดร้อง​อยู่​ด้านใน​ ถูก​กำหนดให้​ต้อง​ทุกข์ทรมาน​ไป​ชั่วนิรันดร์​

 

“ข้า​รับใช้​ระดับสูง​ของ​ขง​โม่ทั้ง​ 340 ต่าง​กำลัง​ชดใช้​ความผิด​ของ​พวกเขา​อยู่​ที่นี่​” เสียง​ที่​เอ่ย​ออกมา​ของ​เด็กหนุ่ม​นิ่ง​เรียบ​ ปราศจาก​อารมณ์​ใดๆ​ “ข้า​หวัง​ว่าความ​ทรมาน​ของ​ดวงวิญญาณ​พวก​นี้​จะทำให้​เหล่า​ผู้​พลีชีพ​ของ​เรา​ได้​รู้สึก​สบายใจ​ขึ้น​บ้าง​ เจ้าคิด​ว่า​ข้า​โหดร้าย​เกินไป​หรือไม่​?”

 

หยาง​เหยียด​เจาส่ายหน้า​ “ไม่เลย​พ่ะย่ะค่ะ​ มัน​อาจจะ​เป็นการ​ลงโทษ​ที่​ผิด​จุดประสงค์​ไป​บ้าง​ แต่​มัน​ก็​ยัง​ดีกว่า​การ​ปล่อย​ให้​พวกเขา​หลุดมือ​ไป​ได้​! ใน​เวลา​เช่นนี้​ พวกเรา​จะทำ​พลาด​ไม่ได้​เด็ดขาด​พ่ะย่ะค่ะ​”

 

ฉิน​เย่​พยักหน้า​และ​เอ่ย​ต่อ​ “ตอนนี้​มีวิญญาณ​ของ​เจ้าหน้าที่​ควบคุม​ระดับ​เมือง​ทั้งสิ้น​ 17 ตน​ที่​ข้า​ได้​ไว้ชีวิต​เอาไว้​”

 

หยาง​เหยียน​เจามองหน้า​ฉิน​เย่อ​ย่าง​ประหลาดใจ​ อีก​ฝ่าย​แย้มยิ้ม​ออกมา​และ​ตวัด​มือ​ ทันใดนั้น​ ดวงวิญญาณ​ 17 ดวง​ก็​ลอย​ออกมา​จากมาและ​เปลี่ยนเป็น​ภาพ​ของ​วิญญาณ​ทั้งหมด​

 

อย่างไรก็ตาม​ พวกเขา​ไม่ได้​ดู​ราวกับว่า​กำลัง​อยู่​ใน​ชีวิต​หลัง​ความตาย​เลย​สักนิด​

 

กลับกัน​ พวกเขา​ดู​มีสภาพ​เหมือนกับ​ตอนที่​เสียชีวิต​ลง​ใน​แดน​มนุษย์​ไม่มีผิด​

 

บางคน​ดูเหมือน​จะไร้​ศีรษะ​ บางคน​ดูเหมือนว่า​กำลัง​วิ่ง​ และ​บางคน​ก็​ดูเหมือนว่า​จะมีลิ้นห้อย​ออก​มาจาก​ปาก​พร้อมกับ​ร่าง​ที่​ขึ้น​อืด​

 

“เคล็ด​วิชา​พันธะ​ห้า​ร้อย​วิญญาณ​ มัน​คือ​ศาสตร์​ที่​สามารถ​ใช้ได้​เฉพาะ​จ้าว​นรก​เท่านั้น​” ฉิน​เย่​เหลือบมอง​ที่​นิ้วมือ​ของ​ตนเอง​ และ​เขา​ก็​เห็น​เส้นด้าย​ 17 เส้น​ผูก​ติด​อยู่​กับ​วิญญาณ​ทั้ง​ 17 ตน​ เด็กหนุ่ม​ขยับ​นิ้ว​เล็กน้อย​ หนึ่ง​ใน​วิญญาณ​ก็​ร้อง​ออกมา​ด้วย​ความทุกข์ทรมาน​และ​ทรุดตัว​ลง​กับ​พื้น​ “ท่าน​ฉิน​…โปรด​เมตตา​! โปรด​เมตตา​ด้วย​!!”

 

“นี่​คือ​เหล่า​วิญญาณ​ที่​พยายาม​จะยึดครอง​พระราชวัง​แห่ง​การ​สะท้อน​เงากลับ​ไป​เป็น​ของ​ตน​ใน​ตอน​สุดท้าย​ของ​สงคราม​ แต่​มัน​มีวิญญาณ​พิเศษ​สามตน​อยู่​ใน​หมู่​พวกเขา​ และ​ข้า​ก็​รู้สึก​เสียดาย​เกิน​กว่า​ที่จะ​กำจัด​พวกเขา​ไป​ ดังนั้น​ สำหรับ​ตอนนี้​ข้า​จึงตัดสินใจ​ที่จะ​เก็บ​พวกเขา​ไว้​ข้าง​กาย​เพื่อให้​ปฏิบัติ​ตามคำสั่ง​ แต่​หาก​เจ้าปรารถนา​ เจ้าสามารถ​มาขอ​ชีวิต​ของ​วิญญาณ​เหล่านี้​จาก​ข้า​ได้​ทุกเมื่อ​”

 

นี่​คือ​ความเมตตา​ของ​ฝ่าบาท​… หยาง​เหยียด​เจาเม้มปาก​ ภายในใจ​ของ​เขา​ร้อน​รุ้ม​ การกระทำ​ของ​ฉิน​เย่​ใน​สุสาน​ รวมถึง​การ​มอบ​ดอกไม้​ให้​กับ​มู่กุ้ย​อิง​และ​หยาง​เหยียนเต๋อ​ รวมถึง​คำพูด​ของ​เด็กหนุ่ม​ในเวลานี้​บอก​หยาง​เหยียน​เจาว่า​อีก​ฝ่าย​มักจะ​ปฏิบัติ​กับ​ตระกูล​หยาง​ใน​ฐานะ​ของ​ส่วนสำคัญ​ของ​ยมโลก​ และ​จะไม่มีทาง​ทอดทิ้ง​พวกเขา​ใน​ยาม​ที่​พวกเขา​หมด​ประโยชน์​!

 

สำหรับ​ใน​ราชวงศ์​สมัยโบราณ​แล้ว​ พระมหากรุณาธิคุณ​ที่​ได้​รับมอบ​จาก​พระมหากษัตริย์​นั้น​สูงส่งกว่า​การ​แต่งตั้ง​ตำแหน่ง​เสีย​อีก​!

 

หยาง​เหยียน​เจาสูด​หายใจเข้า​ช้าๆ ประสาน​ฝ่ามือ​และ​กำปั้น​ เอ่ย​ตอบรับ​ด้วย​เสีย​จริงใจ​ “ขอบ​พระทัย​เป็น​อย่างยิ่ง​พ่ะย่ะค่ะ​”

 

“เช่นนั้น​…ก็​ขอให้​เดินทาง​กลับ​อย่าง​ปลอดภัย​” ฉิน​เย่​จับมือ​หยาง​เหยียน​เจาแน่น​ “น่าเสียดาย​ ข้า​จะต้อง​กลับ​ไป​ยัง​แดน​มนุษย์​ ดังนั้น​ข้า​คง​ไม่ได้​ไป​ส่งเจ้า”

 

“นั่น​ไม่จำเป็น​เลย​พ่ะย่ะค่ะ​” หยาง​เหยียน​เจาเอ่ย​กลับ​ด้วย​ความ​ซาบซึ้ง​ “โปรด​เรียก​ข้า​รับใช้​ผู้​ซื่อสัตย์​ของ​พระองค์​ใน​ทุกเมื่อ​ที่​พระองค์​ต้องการ​ความช่วยเหลือ​ ไม่ว่า​จะยากลำบาก​สัก​เพียงใด​ พวกเรา​จะตอบรับ​อย่าง​แน่นอน​พ่ะย่ะค่ะ​!”

 

เขา​เงยหน้า​ขึ้น​สบตา​กับ​ฉิน​เย่​ด้วย​เปลวไฟ​นรก​ที่​ลุกโชน​ใน​ดวงตา​ “ฝ่าบาท​… พวกเรา​ตระกูล​หยาง​ต่าง​เฝ้ารอ​วินาที​ที่จะ​ได้​สวม​ชุด​เกราะ​และ​ทำ​การต่อสู้​เพื่อ​ยมโลก​อีกครั้ง​!”

 

“ใน​โลก​ใต้พิภพ​สามารถ​มีเสียง​ได้​เพียง​เสียง​เดียว​เท่านั้น​ และ​นั่น​ก็​คือ​เสียง​ของ​ยมโลก​ นาย​เหนือ​หัว​ที่​แท้จริง​เพียงผู้เดียว​ของ​โลก​ใต้พิภพ​!”

 

“ทุกสิ่งทุกอย่าง​ที่​เป็น​ของ​ยมโลก​ วันหนึ่ง​…พวก​มัน​จะต้อง​กลับมา​อยู่​ใน​มือ​ของ​เจ้าของ​ที่​แท้จริง​อีกครั้ง​!”

 

“ตระกูล​หยาง​อาจจะ​พลาด​การบุกเบิก​ของ​ท่าน​จ้าว​นรก​องค์​แรก​ของ​ยมโลก​ แต่​ครั้งนี้​…พวกเรา​จะจารึก​ชื่อ​ของ​ตัวเอง​ไว้​ใน​ประวัติศาสตร์​!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด