ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]บทที่ 454: สมบัติของราชันย์วิญญาณ

Now you are reading ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] Chapter บทที่ 454: สมบัติของราชันย์วิญญาณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 454: สมบัติ​ของ​ราชันย์​วิญญาณ​

 

มัน​มีบางอย่าง​…

 

มัน​มีบางอย่าง​อยู่​จริงๆ​!

 

ตุลาการ​นรก​ทั้งสอง​ต่าง​จ้องมอง​ภาพ​ตรงหน้า​ด้วย​ดวงตา​แดงก่ำ​ – ขั้น​พระ​ยม​…ในที่สุด​วัตถุ​หยิน​ขั้น​พระ​ยม​ก็​ปรากฏตัว​ขึ้น​นับตั้งแต่​การ​ล่มสลาย​ของ​ยมโลก​! นี่​มัน​…เหมือนกับ​การ​ติดตั้ง​รถแข่ง​ด้วย​ไน​ตรัส​เพื่อ​เร่งเครื่อง​แซงคนอื่น​เลย​นะ​!

 

“เดี๋ยวก่อน​!” ฉิน​เย่​เป็น​คน​แรก​ที่​ได้สติ​ เขา​ตี​ตัวเอง​อย่าง​แรก​และ​พยายาม​สงบใจ​ลง​ “มัน​มีบางอย่าง​ผิดปกติ​…พวกเรา​กำลัง​พูดถึง​การ​ปรากฏตัว​ของ​วัตถุ​หยิน​ขั้น​พระ​ยม​ แต่​เหตุใด​ข้า​ถึงไม่อาจ​สัมผัส​ถึงการ​มีอยู่​ของ​มัน​ได้​?”

 

และ​มัน​ก็​เป็น​ตอนนั้น​เอง​ที่​อาร์​ทิส​เอง​ก็​กลับมา​ได้สติ​เช่นกัน​ นาง​เพ่ง​พินิจ​วัตถุ​หยิน​ตรงหน้า​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะเอ่ย​ออกมา​ “ข้า​เอง​ก็​ไม่รู้​…แต่​หาก​จะให้​เดา​ก็​คง​อาจจะ​เกี่ยวข้อง​กับ​ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​เจ้าของ​ของ​มัน​ได้​ถูก​ปัดเป่า​ให้​ขึ้น​สวรรค์​โดย​พระ​กษิ​ติ​ครรภ์​โพธิสัตว์​ และ​ได้​สูญเสีย​พันธะ​เชื่อม​ต่อไป​เป็นที่​เรียบร้อย​แล้ว​ วัตถุ​หยิน​ผสาน​น่าจะ​สูญเสีย​การทำงาน​ของ​มัน​ไป​แล้ว​…”

 

“เจ้ากำลังจะ​บอ​กว่า​มัน​ยัง​สามารถ​ใช้งาน​ได้​อยู่​อย่างนั้น​หรือ​?”

 

อาร์​ทิส​ส่ายหน้า​ “ไม่ ถ้าเป็น​วัตถุ​หยิน​ผสาน​ หรือ​ที่​รู้จัก​กัน​ในนาม​วัตถุ​หยิน​ดั้งเดิม​ มัน​มักจะ​มีอยู่​และ​สลาย​ไป​พร้อมกับ​ผู้​เป็นเจ้าของ​ ผู้ใด​ก็​ตามที่​สัมผัส​วัตถุ​หยิน​เหล่านั้น​จะได้​เห็น​จุด​ที่​ผู้​เป็นเจ้าของ​อยู่​ใน​วินาที​สุดท้าย​ของ​ชีวิต​ แต่​หาก​ผู้​เป็นเจ้าของ​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ไม่ว่า​เขา​จะอยู่​ ณ จุด​ใด​ของ​โลก​ทั้ง​สาม วัตถุ​หยิน​จะไม่มีทาง​สูญเสีย​อำนาจ​ใน​การทำงาน​ของ​มัน​เป็นอันขาด​”

 

หมายความว่า​มัน​ไม่ใช่วัตถุ​หยิน​ดั้งเดิม​… ฉิน​เย่​ถอนหายใจ​ออกมา​ แต่​ทันใดนั้น​เขา​ก็​อยาก​จะตบหน้า​ตัวเอง​

 

ถ้าไม่ใช่แล้ว​อย่างไร​?

 

ไม่ว่า​อย่างไร​ วัตถุ​หยิน​ขั้น​พระ​ยม​ก็​วาง​อยู่​ตรงหน้า​ของ​เขา​แล้ว​! สิ่งเหล่านี้​คือ​สิ่งที่​เขา​ทำได้​แค่​ฝัน​ถึงเท่านั้น​! หาก​พูด​กัน​ตามตรง​ ใน​อดีต​ เขา​คงจะ​เสียสติ​ไป​แล้ว​ใน​ตอนที่​เห็น​วัตถุ​หยิน​ขั้น​ตุลาการ​นรก​ ดังนั้น​มัน​มีสิทธิ์​อะไร​ที่​เขา​จะรู้สึก​ไม่พอใจ​กับ​วัตถุ​หยิน​ขั้น​พระ​ยม​ตรงหน้า​?

 

ฉิน​เย่​สูด​หายใจเข้า​ช้าๆ เปลี่ยน​ร่าง​เป็น​สายลม​ที่​พุ่ง​ไป​ข้างหน้า​ จากนั้น​ ด้วย​แขน​ที่​สั่นเทา​ เขา​จับ​เข้าที่​ปลาย​หอก​และ​ดึง​มัน​ขึ้น​มาสุด​แรง​

 

ค​รื่น​น​นน.​..แท่น​หกเหลี่ยม​พังทลาย​ในทันที​ เผย​ให้​เห็น​ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​มัน​ไม่มีสิ่งใด​ไป​มากกว่า​ส่วน​ปลาย​ของ​หอก​ อาร์​ทิส​ที่​เห็น​เช่นนั้น​ก็​ถอนหายใจ​ “ดูเหมือนว่า​นี่​จะเป็น​วัตถุ​หยิน​ที่​ไม่สมบูรณ์​​ ไม่น่าแปลกใจ​เลย​ที่​เรา​ไม่สามารถ​สัมผัส​ถึงการ​มีอยู่​ของ​มัน​ได้​—…”

อาร์​ทิส​กรีดร้อง​ออกมา​กลาง​ประโยค​และ​รีบ​วิ่ง​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​ใน​ถ้ำก่อน​จะชะโงก​หน้า​ออกมา​ดู​ฉิน​เย่​ด้วย​ร่าง​ที่​สั่นเทา​ของ​นาง​

 

เมื่อครู่นี้​ นาง​ได้ยิน​เสียง​กรีดร้อง​ที่​โหยหวน​ดัง​มาจาก​ด้านล่าง​ มัน​เงียบสนิท​ แต่​นาง​กลับ​รู้สึก​ว่า​มัน​ดังก้อง​อยู่​ใน​หู​ของ​ตัวเอง​

 

เสียงร้อง​นั้น​แผ่วเบา​และ​ช่างฟังดู​ห่างไกล​ แต่​มัน​กลับ​มีอำนาจ​จน​ดูเหมือนว่า​จะสามารถ​ทำให้​วิญญาณ​ที่​ได้ยิน​เสียง​นี้​ทั้งหมด​ยอมจำนน​ได้​

 

มัน​กระตุ้น​ความกลัว​จาก​ส่วน​ที่​ลึก​ที่สุด​ของ​หัวใจ​ ครอบงำ​ทุก​สรรพสิ่ง​ด้วย​อำนาจ​แห่ง​สายเลือด​

 

“นะ​ นี่​… นี่​มัน​…” ร่าง​ทั้ง​ร่าง​ของ​นาง​สั่น​ระริก​ขณะที่​นาง​จ้องมอง​ไป​ยัง​ฉิน​เย่​ เพราะ​ตอนนี้​ร่าง​ของ​เด็กหนุ่ม​กำลัง​ถูก​ห่อหุ้ม​ด้วย​พลัง​หยิน​สีขาว​ ก่อตัว​เป็น​ชุด​เกราะ​เก่าๆ​และ​ได้รับ​ความเสียหาย​จาก​สมัย​ราชวงศ์​ฮั่น​ และ​มัน​ยัง​ทำให้​สายตา​ของ​ฉิน​เย่​ล้ำลึก​ สงบนิ่ง​ และ​ดู​สง่างามมากกว่า​เดิม​

 

นี่​จะต้อง​ไม่ใช่โก่​ว​ต้าน​ที่​นาง​รู้จัก​อย่าง​แน่นอน​!

 

เส้น​ผม​มากมาย​ของ​นาง​พุ่ง​ออก​ไป​ยัง​ทางเข้า​ของ​ห้อง​ที่​นาง​อยู่​และ​ปิด​มัน​จน​มิดชิด​ ร่าง​ของ​อาร์​ทิส​สั่น​ไหว​อย่าง​รุนแรง​ขณะที่​นาง​เอนหลัง​พิง​กับ​ผนัง​ของ​ห้อง​อย่าง​แรง​ “ราชันย์​วิญญาณ​ทั้ง​หก​… ราชันย์​วิญญาณ​ทั้ง​หก​ไม่ผิด​แน่​!!!”

 

“และ​เขา​ก็​คือ​คน​เดียวกัน​กับ​ที่​ผนึก​ข้า​ไว้​ใน​ส่วนลึก​ของ​ยมโลก​ใน​อดีต​! เขา​คือ​ผู้​ที่​ทำโทษ​ข้า​!”

 

น่าเสียดาย​ที่​ฉิน​เย่​ไม่สามารถ​ได้ยิน​เสียง​กรีดร้อง​ของ​นาง​อีกต่อไป​

 

ตอนนี้​เขา​กำลัง​ตก​อยู่​ภายใน​ภวังค์​ แทบจะ​เหมือนกับ​ว่า​โลก​โดยรอบ​มืด​ไป​ชั่วขณะ​ จากนั้น​ เมื่อ​เขา​ลืมตา​ขึ้น​อีกครั้ง​ เขา​ก็​พบ​ว่า​ตัวเอง​…กำลัง​อยู่​ใน​สนามรบ​

 

และ​มัน​ก็​เป็น​สนามรบ​ที่​มีทหาร​อย่าง​น้อย​ 100,000 นาย​

 

ทหาร​บาง​นาย​สวม​เพียง​ชุด​เกราะ​หนัง​ธรรมดา​ แต่​ที่​มากกว่า​ก็​คือ​จำนวน​ของ​ผู้​ที่​ไม่ได้​สวม​เกราะ​ คน​ทั้งหมด​ต่าง​กวัดแกว่ง​หอก​หรือ​กระบี่​ของ​ตัวเอง​ ตะโกน​ออกมา​อย่าง​กล้าหาญ​ขณะที่​ฉีก​กระชาก​คอ​ของ​ศัตรู​ ความหายนะ​ปกคลุม​ไป​ทั่ว​ทั้ง​สนา​มารบ​ พื้นดิน​เกลื่อน​ไป​ด้วย​ซากศพ​และ​กะโหลก​เปื้อน​เลือด​

 

ผืน​แผ่นดิน​ถูก​ย้อม​เป็น​สีแดงเข้ม​จาก​เลือด​ที่​ไหลริน​

 

ฉิน​เย่​มอง​ไป​รอบ​ๆสนามรบ​ที่​น่าสะพรึงกลัว​จาก​มุมสูง และ​ทันใดนั้น​ เขา​ก็​จ้อง​ชะงัก​ไป​ ก่อน​จะมอง​ไป​ยัง​ผืน​ธงที่​ปลิว​ไสว​ไป​ใน​อากาศ​อีกครั้ง​

 

หาก​พูด​กัน​ตาม​ทฤษฎี​แล้ว​ การต่อสู้​ระดับ​นี้​จะต้อง​เป็น​การต่อสู้​ระหว่าง​สอง​กองกำลัง​ใหญ่​

 

แต่​มัน​ไม่ใช่

 

กองกำลัง​ทั้งหมด​ดูเหมือน​จะกำลัง​ไล่ล่า​อะไร​บางอย่าง​ และ​มีเพียง​ส่วน​เล็ก​ๆของ​มัน​เท่านั้น​ที่​ดูเหมือนว่า​กำลัง​เคลื่อนไหว​อย่าง​รุนแรง​ ราวกับ​ต้องการ​จะล้อมรอบ​เป้าหมาย​ ในขณะที่​ส่วนที่เหลือ​เพียง​เดินทัพ​ตาม​ไป​ติดๆ​ ผืน​ธงทั้งหมด​ล้วน​เป็น​สีดำ​ และ​มีคำ​ว่า​ ‘เฉา’ ปัก​อยู่​อย่าง​ชัดเจน​

 

ที่นี่​มัน​ที่ไหน​กัน​?

 

สายตา​ของ​เขา​ไล่ตาม​เหล่า​ทหาร​และ​หยุด​ลง​ร่าง​ของ​ผู้​ที่​กำลัง​ถูก​ไล่ล่า​ และ​เขา​ก็​ต้อง​ตกตะลึง​เมื่อ​เห็น​ร่าง​สีแดง​ขาว​กำลัง​พยายาม​สลัด​การ​ไล่ตาม​ของ​คู่ต่อสู้​

 

เขา​กำลัง​ขี่ม้า​สีขาว​ และ​ร่าง​ทั้ง​ร่าง​เป็น​สีแดง​ – ไม่ใช่เพราะ​มัน​คือ​สีดั้งเดิม​ของ​ชุด​เกราะ​ของ​เขา​ แต่​มัน​เป็น​เพราะ​ชุด​เกราะ​ที่​สวม​อยู่​ได้​ถูก​ย้อม​ด้วย​สีเลือด​ ผ้าคลุม​ของ​เขา​ฉีกขาด​ ดาบ​ยาว​ถูก​ห้อย​อยู่​ที่​ข้าง​เอว​ ในขณะที่​หอก​ใน​มือ​ถูก​เหวี่ยง​ไปมา​อย่าง​เชี่ยวชาญ​จน​ดู​ราวกับ​การร่ายรำ​ของ​มังกร​ใน​ทุกครั้งที่​เขา​แทง​ศัตรู​ มัน​ดูเหมือนว่า​เขา​จะสามารถ​สลัด​จาก​กองกำลัง​ของ​ฝ่ายตรงข้าม​ได้​ ไม่ว่า​กองกำลัง​ของ​ตระกูล​เฉาจะทำ​อย่างไร​ พวกเขา​ก็​ไม่สามารถ​ขัดขวาง​ชาย​ผู้​นี้​ได้​เลย​สักนิด​!

 

กองกำลัง​ตระกูล​เฉาพยายาม​จะสร้าง​กองกำลัง​โล่​ข้ึนเพื่อ​ขัดขวาง​อีก​ฝ่าย​เป็นครั้งคราว​ แต่​ชาย​ผู้​นี้​ก็​มักจะ​ปลดปล่อย​เพลง​หอก​ที่​ดูเหมือน​จะพุ่ง​ผ่าน​ช่องว่าง​ที่​เล็ก​ที่สุด​ไป​ได้​ราวกับ​อสรพิษ​ ก่อน​จะทิ่มแทง​อุปสรรค​ทั้งหมด​และ​สร้าง​เส้นทาง​สีแดงฉาน​เส้น​ใหม่​ให้​กับ​ตัวเอง​ในที่สุด​

 

“เชี่ย…”​ ฉิน​เย่​จ้องมอง​ไป​ยัง​ร่าง​ดังกล่าว​ราวกับ​เห็น​ผี​ กวี​ของ​ห​ลี่​ ไป๋​แว่บ​เข้ามา​ใน​หัว​ – ‘อานม้า​สีเงิน​ พุ่ง​ทะยาน​ดั่ง​ดาวตก​ คร่า​หนึ่ง​ชีวิต​ใน​ทุกๆ​สิบ​ย่างก้าว​ เดินหน้า​ไป​หลาย​พัน​ไมล์​’ เขา​เคย​คิด​ว่า​บทกวี​ของ​ห​ลี่​ไป๋​นั้น​เป็น​เพียง​จิต​นา​การ​ของ​เจ้าตัว​ แต่​…มัน​เป็น​เรื่องจริง​หรือ​นี่​?!

 

ยิ่งกว่านั้น​ นี่​มัน​ไม่ใช่ ‘คร่า​หนึ่ง​ชีวิต​ใน​ทุกๆ​สิบ​ย่างก้าว​’ ด้วยซ้ำ​… แต่​มัน​คือ​คร่า​สิบ​ชีวิต​ทุกๆ​หนึ่ง​ก้าว​ต่างหาก​! ดู​จาก​พื้นดิน​แดงฉาน​ที่​ถูก​ทิ้ง​ไว้​เบื้องหลัง​สิ! เผลอ​ๆอีก​ฝ่าย​อาจจะ​สังหาร​ไป​มากกว่า​ร้อย​คน​แล้ว​ก็ได้​!

 

ทันใดนั้น​เอง​ ชาย​คน​ดังกล่าว​ก็​หันหลัง​กลับมา​

 

“พระเจ้า​…” หัวใจ​ของ​ฉิน​เย่​หยุด​เต้น​ไป​ชั่วขณะ​ – ไม่น่าเชื่อ​…

 

คิ้ว​คมเข้ม​และ​แววตา​อัน​สุขุม​ ร่างกาย​สูงใหญ่​กำยำ​ เขา​นี่​มัน​คือ​ยากระตุ้น​อารมณ์​เดิน​ได้​ชัด​ๆ… แล้ว​แบบนี้​ผู้อื่น​จะสามารถ​หุบ​ขา​ของ​ตน​ได้​อย่างไร​เมื่อ​เห็นภาพ​นี้​?!

 

เขา​เกลียด​คน​ที่​หน้าตา​หล่อเหลา​แบบนี้​ที่สุด​!!!

 

ยกตัวอย่างเช่น​คน​อย่าง​หวัง​เฉิงห่า​ว​และ​หลิน​ฮั่น​

ทันใดนั้น​ ขณะที่​เขา​กำลังจะ​สบถ​ออกมา​ บางสิ่งบางอย่าง​ก็​เข้ามา​ใน​สายตา​และ​ทำให้​เขา​ต้อง​มอง​ไป​ยัง​กล้ามเนื้อ​บริเวณ​หน้าอก​ของ​ชาย​ผู้​นั้น​–… ไม่ใช่ เขา​หมายถึง​ สิ่งที่อยู่​บน​เกราะ​บริเวณ​อก​

 

มัน​คือ​ร่าง​ของ​เด็กทารก​ที่​ถูก​ห่อ​ด้วย​ผ้า​

 

เด็กทารก​ที่​ยัง​มีชีวิต​!

 

สายลม​ที่​รุนแรง​และ​การนองเลือด​รอบตัว​ของ​ทารก​ทำให้​เด็กน้อย​ต้อง​ร้อง​ออกมา​เสียง​ดังลั่น​ ร่าง​ทั้ง​ร่าง​ของ​ชาย​บน​หลัง​ม้าเต็มไปด้วย​บาดแผล​ แต่​จุด​เดียว​ที่​ยังคง​ไม่ได้รับ​ความเสียหาย​ใดๆ​ก็​คือ​พื้นที่​บริเวณ​อก​ของ​เขา​

 

“นี่​มัน​…” เขา​จ้อง​ไป​ยัง​นักรบ​ผู้​กล้า​ตรงหน้า​เขม็ง​ “เตียว​หยุ​น?!​ จูล่ง​?! หนึ่ง​ใน​ราชันย์​วิญญาณ​ทั้ง​หก​?!! นี่​คือ​วัตถุ​หยิน​ของ​เขา​อย่างนั้น​หรือ​?!”

 

“นี่​คือ​อา​เต๊า​ บุตรชาย​ของ​เล่า​ปี่​?!” [1]

 

“ให้​ตาย​เถอะ​…” เขา​จ้องมอง​ภาพ​ตรงหน้า​และ​พึมพำ​ออกมา​ด้วย​ความ​เหลือเชื่อ​ “นี่​คือ​…ศึก​สะพาน​เตียง​ปัน​เกี้ยว​?” [2]

 

ตู้​ม!!

 

ทันทีที่​เขา​พูดถึง​ศึก​สะพาน​เตียง​ปัน​เกี้ยว​ ภาพ​ตรงหน้า​ของ​เขา​ก็​พังทลาย​ และ​ทั้งหมด​ก็​สลาย​หาย​ไป​ราวกับ​กลุ่ม​ควัน​

 

ไม่กี่​วินาที​ต่อมา​ เขา​ก็​พบ​ว่า​ตัวเอง​ยังคง​ลอยตัว​อยู่​กลางอากาศ​ ถือ​ปลาย​หอก​ไว้​ใน​มือ​ เขา​ยัง​สามารถ​ได้กลิ่น​จางๆของ​สนิม​มาจาก​มัน​อีกด้วย​

 

หลังจาก​ผ่าน​ไป​สัก​พักใหญ่​ เขา​ก็​มอง​ไป​ที่​ปลาย​หอก​ใน​มือ​ด้วย​แววตา​เหม่อลอย​และ​เอ่ย​พึมพำ​ออกมา​เบา​ๆ “นี่​มัน​อะไร​กัน​?”

 

“นี่​คือ​…วัตถุ​หยิน​ดั้งเดิม​ของ​ราชันย์​วิญญาณ​ทั้ง​หก​…” เสียงแหบ​พร่า​เอ่ย​ตอบ​จาก​ด้านใน​ถ้ำ ฉิน​เย่​มอง​ไป​ก่อน​จะพบ​ว่า​ตอนนี้​มีรอยแตก​ปรากฏ​ขึ้น​บน​กำแพง​เส้น​ผม​ที่​ได้​ปิดผนึก​ทางเข้า​เอาไว้​ อาร์​ทิ​สมอง​ดู​ปลาย​หอก​ด้วย​ความหวาดกลัว​ใน​แววตา​ “หาก​ข้า​เดา​ไม่ผิด​ นั่น​จะต้อง​เป็น​วัตถุ​หยิน​ดั้งเดิม​ของ​ท่าน​จูล่ง​ หนึ่ง​ใน​ราชันย์​วิญญาณ​ทั้ง​หก​ หอก​เงิน​แห่ง​ความกล้า​ของ​มังกร​ ไม่ผิด​แน่​…”

 

ฉิน​เย่​พยักหน้า​ จากนั้น​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​อีกครั้ง​ด้วย​สีหน้า​ตกตะลึง​ “วัตถุ​หยิน​ดั้งเดิม​? เจ้าหมายความว่า​นี่​คือ​วัตถุ​หยิน​ผสาน​ของ​จูล่ง​?”

 

อาร์​ทิส​พยักหน้า​ เส้น​ผม​ของ​นาง​เป็น​สีขาว​มาโดยตลอด​ และ​ตอนนี้​มัน​ก็​เริ่ม​กลับมา​เป็น​สีดำ​เข้ม​ดังเดิม​ นาง​เอ่ย​ออกมา​เสียง​เบา​ “นอกจากนี้​…ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​วัตถุ​หยิน​ดั้งเดิม​ชิ้น​นี้​ยังอยู่​บอก​เรา​ว่า​…ท่าน​จูล่ง​ยัง​คงอยู่​ใน​ที่​แห่ง​หนึ่ง​ใน​โลก​ทั้ง​สาม!”

เงียบ​

 

ไมมีใคร​เอ่ย​อะไร​ออกมา​แม้แต่​คนเดียว​

 

ทั้ง​อาร์​ทิส​และ​ฉิน​เย่​ต่าง​ตกตะลึง​โดย​ความหมาย​ที่ซ่อน​อยู่​ใน​ข้อสันนิษฐาน​ดังกล่าว​

 

หนึ่ง​ใน​ราชันย์​วิญญาณ​ทั้ง​หก​ ตัวตน​ขั้น​พระ​ยม​ ยังคง​มีชีวิต​?

 

ที่ผ่านมา​…มัน​ยังมี​ดวงตา​อีก​คู่​หนึ่ง​ที่​คอย​เฝ้าดู​การพัฒนา​ของ​แดน​มนุษย์​และ​โลก​ใต้พิภพ​มาโดยตลอด​?

 

หลังจาก​ผ่าน​ไป​ประมาณ​หนึ่ง​นาที​ ฉิน​เย่​ก็​ตะโกน​ออกมา​ “เป็นไปไม่ได้​! หาก​จูล่ง​ยังอยู่​ เขา​ไม่มีไม่รู้​ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​ยมโลก​แห่ง​ใหม่​ได้​ถูก​ก่อ​ตั้งขึ้น​แล้ว​เป็นแน่​! และ​หาก​มัน​เป็น​เช่นนั้น​ เหตุใด​เขา​ถึงไม่แม้แต่​จะแวะ​มาเลย​เล่า​? เว้น​ก็​แต่​…เขา​คิด​ที่จะ​ก่อ​กบฏ​?”

 

“ไม่!!” ดวงตา​ของ​อาร์​ทิส​ลุกโชน​ด้วย​ความโกรธ​และ​นาง​ก็​เอ่ย​แทรก​ฉิน​เย่​ทันที​ “ท่าน​วีรบุรุษ​ที่รัก​ของ​ข้า​ไม่มีทาง​ทำ​อะไร​แบบ​นั้น​แน่​!! ท่าน​ช่วย​ให้เกียรติ​เขา​บ้าง​ได้​หรือไม่​ก่อนที่จะ​พูด​อะไร​?!!”

 

เกิด​ความ​เงียบ​ขึ้น​อย่าง​กระทันหัน​

 

ความ​เงียบ​ที่​น่าอึดอัด​

 

“วีรบุรุษ​ที่รัก​?” ความคิด​ของ​ฉิน​เย่​ยังคง​ติด​อยู่​ที่​คำพูด​ก่อนหน้า​ของ​อีก​ฝ่าย​ “เจ้าช่วย​พูด​มัน​อีกที​ได้​หรือไม่​?”

 

“มีอะไร​กัน​?!! เหตุใด​ข้า​ต้อง​พูด​อี​กรอบ​ด้วย​?!” แก้ม​ของ​อาร์​ทิส​แดงก่ำ​ หาก​พูด​กัน​ตาม​ความจริง​ นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​ฉิน​เย่​เห็น​นาง​เป็น​แบบนี้​ ใบหน้า​ของ​นาง​ดู​ไม่ต่าง​อะไร​กับ​สีที่​ถูกระบาย​ลง​บน​หน้า​ของ​ตุ๊กตา​ยาง​เลย​สักนิด​

 

นาง​พยายาม​ควบคุม​น้ำเสียง​ที่​สั่นเทา​ของ​ตัวเอง​และ​ตะโกน​ออกมา​จน​แทบจะ​เหมือนกับ​ประกาศ​กร้าว​ “ท่าน​จูล่ง​คือ​วีรบุรุษ​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ยมโลก​!! ท่าน​รู้​หรือไม่​ว่า​มีวิญญาณ​สาว​ตั้ง​กี่​คน​ที่​ต้อง​คอย​ตาม​ข่าว​ทุก​เรื่อง​เกี่ยวกับ​เขา​? แม้แต่​หญิงสาว​แห่ง​ตระกูล​ขง​ ตระกูล​ห​ลี่​แห่ง​ราชวงศ์​ถัง ตระกูล​จ้าว​แห่ง​ราชวงศ์​ซ่ง ล้วน​ติดตาม​ท่าน​จูล่ง​ทั้งสิ้น​! ทำไม​? ท่าน​คิด​ว่า​ข้า​ไม่เคย​อยู่​ใน​วัยสาว​หรือ​อย่างไร​?! หญิง​แก่​ไม่ได้รับอนุญาต​ให้​มีวีรบุรุษ​ต้นแบบ​ใน​ใจหรือ​อย่างไร​กัน​?!”

 

ฉิน​เย่​พยักหน้า​ เขา​เข้าใจ​แล้ว​

 

ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​เจ้าทำ​แม้กระทั่ง​เปิดเผย​ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​เจ้าเป็น​หญิง​แก่​บ่งบอกถึง​ความจริง​ของ​ประโยค​เหล่านี้​เป็น​อย่าง​ดี​ จะว่า​ไป​ อาร์​ทิส​ เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​ตัวเอง​ค่อนข้าง​นอกรีต​? ที่ผ่านมา​กว่า​ 400 ตอน​ เจ้าทำตัว​เหมือนเดิม​มาโดยตลอด​ กดขี่​ ดูถูก​ข้า​ด้วย​ความ​พูด​อัน​โหดร้าย​ ผู้ใด​จะไป​คิด​ว่า​เจ้าจะมาเปิดเผย​ด้าน​นี้​ของ​เจ้าใน​วันนี้​?

 

เจ้า จาก​คน​ทั้งหมด​!

ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​ฉิน​เย่​เพิ่ง​ค้นพบ​เสี้ยว​ของ​ความลับ​ที่​สำคัญ​เช่นนี้​ย่อม​หมายความว่า​เขา​สามารถ​เจาะลึก​เข้าไป​ใน​ใจของ​อาร์​ทิส​ได้​ มัน​คงจะ​ไม่ใช่นิสัย​ของ​เขา​หาก​จะปล่อย​ให้​สิ่งเหล่านั้น​ผ่าน​ไป​ ด้วยเหตุนี้​ เขา​จึงกระแอม​ออกมา​เบา​ๆ และ​เอ่ย​ออกมา​ “อย่า​พูด​ราวกับว่า​เขา​เคย​เห็น​เจ้าอยู่​ใน​สายตา​… ดู​เอว​และ​ขา​ที่​ใหญ่โต​ของ​เจ้าด้วย​… แม้แต่​ข้า​เอง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รีบ​หุบ​ขา​อย่าง​รวดเร็ว​…”

 

“ท่าน​! มัน​! สารเลว​!!!!” อาร์​ทิส​พุ่ง​เข้าใส่​อีก​ฝ่าย​ด้วย​สายตา​ที่​ลุกโชน​อย่าง​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน​ “ท่าน​คิด​ว่า​ตัวเอง​เป็น​ใคร​กัน​?! กล้า​ดี​อย่างไร​ถึงเอา​ตัวเอง​ไป​เทียบ​กับ​ท่าน​จูล่ง​และ​เอ่ย​ออกมา​เช่นนี้​?! พวกเรา​กำลัง​พูดถึง​ยากระตุ้น​อารมณ์​เดิน​ได้​! ศูนย์รวม​ของ​มัด​กล้าม​! คน​ที่​อ่อนแอ​อย่าง​ท่าน​จะสามารถ​เทียบ​ชั้น​กับ​ท่าน​พี่​จูล่ง​ที่รัก​ได้​อย่างไร​?!!!”

 

อุ๊บส์…​ ท่าน​พี่​จูล่ง​… ดี​มาก.​.. ฉิน​เย่​แทบจะ​หัวเราะ​ออกมา​ทันทีที่​ได้ยิน​ประโยค​นั้น​

 

“เจ้าเคย​คิด​บ้าง​หรือไม่​ว่า​จะอธิบาย​ทุกสิ่งทุกอย่าง​กับ​ว่าที่​สามีของ​ตัวเอง​ในอนาคต​อย่างไร​เมื่อ​เขา​ได้ยิน​คำพูด​แบบนี้​ของ​เจ้า?”

 

อาร์​ทิส​ที่​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​หันหน้า​หนี​อย่าง​อาย​ๆก่อน​จะกระซิบ​ตอบ​เสียง​เบา​ “ท่าน​หมายความว่า​อย่างไร​? เหตุใด​ว่าที่​สามีในอนาคต​ของ​ข้า​…จะเป็น​เขา​ผู้​นั้น​ไม่ได้​?”

 

WTF?!

 

ฉิน​เย่​เผลอ​ขดตัว​พร้อม​ทำ​สีหน้า​ขยะแขยง​ทันที​

 

“บางที​สาเหตุ​ที่​ท่าน​พี่​จูล่ง​ยังคง​ต่อ​เพื่อที่จะ​ให้ได้​อยู่​ใน​โลก​ใต้พิภพ​ต่อไป​อาจ​เป็น​เพราะว่า​เขา​รู้​ว่า​ข้า​ยังอยู่​ก็ได้​…”

 

น่าขยะแขยง​!

 

คลื่นไส้​!

 

เขา​ขนลุก​ไป​หมด​แล้ว​!!

 

ฉิน​เย่​แค่น​หัวเราะ​ “แต่​พอ​มาลอง​คิดดู​ เจ้าก็​มีเพียง​ศีรษะ​เท่านั้น​ นั่น​จะไม่เป็นการ​สร้าง​ความลำบาก​ให้​ท่าน​พี่​จูล่ง​ของ​เจ้าหรือ​อย่างไร​? เขา​คง​ไม่สามารถ​ที่จะ​–… ข้า​หมายถึง​ เขา​จะเริ่ม​จาก​ตรงไหน​กัน​? เจ้าคิด​ว่า​เขา​ต้องการ​แค่​คน​ที่​เก่ง​เฉพาะ​…ตวัดลิ้นไปมา​อย่างนั้น​หรือ​?”

 

“ออก​! ไป​! เดี๋ยว​! นี้​!!!!” อาร์​ทิส​คำราม​ออกมา​ด้วย​ความโกรธ​ และ​ฉิน​เย่​เอง​ก็​สามารถ​บอก​ได้​ว่า​ตนเอง​เพิ่ง​ไป​สะกิด​จุด​ที่​อ่อนไหว​ที่สุด​ของ​นาง​โดย​ไม่ได้​ตั้งใจ​…

 

หึหึ​… เขา​ทน​ดู​ไม่ไหว​อีกต่อไป​แล้ว​…

สามนาที​ต่อมา​ ในที่สุด​อาร์​ทิส​ก็​สามารถ​สงบสติอารมณ์​ลง​ได้​อีกครั้ง​ “ท่าน​น่ะ​ รู้​ถึงความ​ถามที่​แฝงอยู่​ใน​สิ่งเหล่านี้​หรือไม่​?”

 

แน่นอน​ว่า​เขา​รู้​!

 

ฉิน​เย่​หยุด​เรื่อง​คำ​พูดถากถาง​ทั้งหมด​และ​ลูบ​คาม​ของ​ตน​ขณะที่​เริ่ม​จมอยู่​ใน​ภวังค์​ความคิด​ของ​ตนเอง​

 

เหตุใด​ปลาย​หอก​ของ​หอก​เงิน​แห่ง​ความกล้า​ของ​มังกร​ถึงมาอยู่​ใน​การครอบครอง​ของ​ขง​โม่?

 

ที่​ตระกูล​ขง​ส่งขง​โม่ออกมา​ ก็​เพราะ​เรื่อง​จูล่ง​อย่างนั้น​หรือ​?

 

นอกจากนี้​ ทำไม​วัตถุ​หยิน​ดั้งเดิม​ถึงแยกจาก​ผู้​เป็นเจ้าของ​? นี่​มัน​มีเรื่อง​บ้า​อะไร​เกิดขึ้น​?

 

“มัน​มีคำตอบ​ที่​เป็นไปได้​เพียง​อย่าง​เดียว​” ฉิน​เย่​จ้องมอง​กลับ​ไป​ยัง​ส่วนลึก​ของ​ถ้ำอีกครั้ง​ ด้วย​ความตื่นเต้น​ก่อนหน้านี้​ พวกเขา​ได้​ทิ้ง​บางสิ่งบางอย่าง​ที่​มีความสำคัญ​มาก​เอาไว้​ที่นี่​ “คำตอบ​ของ​เรื่องลึกลับ​ทั้งหมด​จะต้อง​ถูก​ซ่อน​อยู่​ไว้​ใน​ราช​สาร​ลับ​นั้น​เป็นแน่​”

 

เพราะ​อย่างไร​แล้ว​… ราช​สาร​ลับ​ฉบับ​นี้​คือ​หนึ่ง​ใน​จุดประสงค์​หลัง​ของ​การ​เนรเทศ​ขง​โม่ออกจาก​ยมโลก​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​!

 

ตระกูล​ขง​เอง​ก็​ยอม​ทำ​แม้กระทั่ง​มอบ​พระราชวัง​แห่ง​การ​สะท้อน​เงา และ​วัตถุ​หยิน​กว่า​ 30 ชิ้น​มาเพื่อ​ใช้สำหรับ​ภารกิจ​ใน​ครั้งนี้​!

 

“ข้า​เริ่ม​มีความรู้สึก​ว่า​มัน​มีความลับ​ที่​ยิ่งใหญ่​บางอย่าง​ถูก​ซ่อน​ไว้​ภายใน​ราช​สาร​ลับ​ฉบับ​นี้​! อาร์​ทิส…”​ เขา​สูด​หายใจเข้า​ช้าๆและ​เหลือบมอง​อาร์​ทิส​ “รีบ​นำ​ดอก​สามชาติ​สามภพ​นี้​ไป​ให้​ตี้ทิง​ ข้า​ต้องการ​การตอบรับ​ภายใน​อีก​สามเดือน​”

 

“วางใจ​ได้​!” อาร์​ทิส​เอ่ย​ “เพราะ​อย่างไร​แล้ว​ ท่าน​สามารถ​มั่นใจ​ได้​เลย​ว่า​ข้า​นั้น​อยาก​หา​เบาะแส​เกี่ยวกับ​ที่อยู่​ของ​ท่าน​จูล่ง​เป็น​ที่สุด​!”

 

[1] ชื่อ​ที่​แท้จริง​ของ​เด็กทารก​คือ​หลิว​ซาน​/เล่า​เสี้ยน​

 

[2] โจโฉได้​นำ​กองกำลัง​ทหาร​ 5,000 นาย​ปะทะ​กับ​เล่า​ปี​และ​ไล่ล่า​กองกำลัง​ของ​เขา​ ในขณะที่​เล่า​ปี่​ได้​อพยพ​ไป​ก่อน​แล้ว​ จู่ลง​นำพา​บุตรชาย​ของ​เล่า​ปี่​ หลิว​ซาน​ และ​ภร​ร​ของ​เล่า​ปี่​ไป​ยัง​ที่​ปลอดภัย​

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด