เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน 333 นี่เป็นเพียงความฝันจริงหรือ ?

Now you are reading เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน Chapter 333 นี่เป็นเพียงความฝันจริงหรือ ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​ 333 นี่​เป็น​เพียง​ความฝัน​จริง​หรือ​ ?

 

ขณะเดียวกัน​ ระหว่าง​ที่​เหล่า​ชาวเมือง​เสี่ยว​ฉือ​ที่​จำอดีตชาติ​ได้​ กำลัง​ล่า​สิ่งมีชีวิต​โบราณ​ที่​ออก​มาจาก​แดน​ต้องห้าม​ของ​สิ่งมีชีวิต​อยู่​นั้น​

 

อีก​ด้าน​หนึ่ง​

 

นอกเมือง​ศิลา​สวรรค์​

 

หลังจาก​ได้​ว่า​ยิน​เย่​ฉางชิงคิด​ที่จะ​กำจัด​สิ่งมีชีวิต​โบราณ​ทั่ว​ทั้ง​จงหยวน​

 

จอม​มาร​เนตร​ทิพย์​ก็​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ทันที​ ท่าทาง​เต็มไปด้วย​ความ​เหลือเชื่อ​

 

แน่นอน​ว่า​เขา​มิได้​สงสัย​ว่า​บุรุษ​หนุ่ม​ลึกลับ​ตรงหน้า​ จะมีฝีมือ​เก่งกาจ​เช่นนั้น​จริง​หรือไม่​

 

เพราะ​ผู้​ที่​สามารถ​มากับ​ท่าน​จักรพรรดิ​ได้​นั้น​ ไหน​เลย​จะเป็น​เพียง​คนธรรมดา​ได้​ ?

 

อีก​อย่าง​บุรุษ​หนุ่ม​ผู้​นี้​ ลักษณะ​ท่าทาง​หา​ใช่คนธรรมดา​ไม่

 

แม้บน​ร่าง​จะมิสามารถ​สัมผัส​ถึงไอ​พลัง​ใด​ ๆ ได้​ ทว่า​เพียง​รังสี​ที่​แผ่ออก​มาจาก​ภายใน​ ก็​ทำให้​เขา​ดู​ราวกับ​เทพ​เซียน​แล้ว​

 

อีก​อย่าง​สิ่งที่​เขา​ได้​ประสบ​มาขณะ​อยู่​ที่​เมือง​ศิลา​สวรรค์​

 

ด้วย​พลัง​ระดับ​จอม​มาร​ของ​เขา​ ยัง​มิทัน​จะสัมผัส​ได้​ถึงคลื่น​พลัง​ใด​ ๆ ก็​ถูก​พลัง​อัน​น่าสะพรึงกลัว​ซัด​จน​กระเด็น​เสียแล้ว​…

 

หลังจาก​นิ่งเงียบ​อยู่​สักพัก​ ดวงตา​ที่สาม​ของ​จอม​มาร​เนตร​ทิพย์​พลัน​เบิกโพลง​ขึ้น​ ราวกับ​ในที่สุด​เขา​ก็​นึก​บางอย่าง​ขึ้น​มาได้​

 

‘ผู้​ที่​เหนือกว่า​จักรพรรดิ​ ! ’

 

‘ใช่แล้ว​ ! ’

 

‘คน​ผู้​นี้​จะต้อง​เป็น​มนุษย์​ที่​เหนือ​ว่า​จักรพรรดิ​ท่าน​นั้น​เป็นแน่​ ! ’

 

‘สมกับ​เป็น​ผู้​ที่​เหนือกว่า​จักรพรรดิ​จริง ๆ​ ! ’

 

‘บน​ร่าง​ไร้​ซึ่งการ​เคลื่อนที่​ของ​พลัง​ ทว่า​เพียงแค่​รังสี​ที่​แผ่​ออกมา​ ก็​ทำให้​คน​อด​มิได้​ที่จะ​รู้สึก​ศรัทธา​จน​ยอม​กราบกราน​แล้ว​’

 

ตอนนั้น​เอง​ เมื่อ​จอม​มาร​เนตร​ทิพย์​บังเอิญ​เหลือบ​ไป​ทาง​ตู๋​กู​ชิงเฟิง ใบหน้า​ชรา​ก็​อด​มิได้​ที่จะ​เผย​สีหน้า​สงสัย​ออกมา​

 

‘ก่อนหน้านี้​ท่าน​จักรพรรดิ​ตัดสินใจ​เด็ดขาด​ว่า​จะมิยื่นมือ​เข้ามา​ยุ่ง​เรื่อง​ของ​เผ่า​ศักดิ์สิทธิ์​อีก​มิใช่หรือ​ แล้ว​เหตุใด​นาง​ถึงมาปรากฏตัว​ที่​อีก​ ? ’

 

‘ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​กลับมา​พร้อมกับ​มนุษย์​ที่​เหนือ​ว่า​จักรพรรดิ​ท่าน​นี้​อีก​ ! ’

 

จอม​มาร​เนตร​ทิพย์​ครุ่นคิด​ซ้ำไปซ้ำมา​ จู่ ๆ ก็​เหมือน​จะคิด​บางอย่าง​ขึ้น​มาได้​

 

‘ใช่แล้ว​ ! ’

 

‘การ​ที่​มนุษย์​ผู้​เหนือ​ว่า​จักรพรรดิ​ท่าน​นี้​มาพร้อมกับ​ท่าน​จักรพรรดิ​ ก็​เพื่อ​ต้อง​การยุติ​ความแค้น​ระหว่าง​เผ่า​ศักดิ์สิทธิ์​และ​เผ่า​มนุษย์​เป็นแน่​’

 

‘อืม​ ! ’

 

‘คงจะ​เป็น​เช่นนั้น​’

 

ตอนนั้น​เอง​เย่​ฉางชิงก็ได้​หันไป​พูด​กับ​ตู๋​กู​ชิงเฟิงด้วย​น้ำเสียง​อ่อนโยน​อีกครั้ง​ว่า​

 

“ชิงเฟิง ก่อนที่จะ​แก้ไข​ข้อบกพร่อง​แต่กำเนิด​ให้​เผ่า​ของ​เจ้า มีบาง​เรื่อง​ที่​ข้า​จะต้อง​บอก​เจ้าก่อน​”

 

“ฉางชิง เจ้ามีอะไร​ก็​พูด​มาเถอะ​”

 

ตู๋​กู​ชิงเฟิงพยักหน้า​ให้​ ก่อน​จะเอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​จริงจัง​ว่า​ “เพื่อ​อนาคต​ของ​คนใน​เผ่า​ ข้า​พร้อม​จะแลก​ทุกสิ่ง​”

 

เย่​ฉางชิงมอง​ตู๋​กู​ชิงเฟิง ก่อน​จะส่าย​หน้ายิ้ม​ ๆ

 

‘ใน​ความฝัน​นี้​ข้า​เป็น​ผู้​ที่​ไร้​เทียมทาน​ เหตุใด​ยัง​จะต้อง​แลก​กับ​สิ่งใด​อีก​เล่า​ ? ’

 

‘มิเช่นนั้น​ข้า​คงจะ​กระจอก​เกินไป​แล้ว​’

 

‘ความเป็นจริง​ก็​มิเป็น​ดั่ง​หวัง​ ใน​ความฝัน​ก็​ยัง​กระจอกงอกง่อย​อีก​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ? ’

 

“ต่อให้​ข้า​ใช้รอยประทับ​จิตวิญญาณ​ดั้งเดิม​ แก้ไข​ข้อบกพร่อง​แต่กำเนิด​ให้​คนใน​เผ่า​ของ​เจ้าแล้ว​ แต่​ภายใน​ระยะเวลา​เพียง​สั้น​ ๆ เกรง​ว่า​ก็​ยังคง​มิสามารถ​เปลี่ยน​นิสัย​อารมณ์​รุนแรง​ของ​เผ่า​เจ้าได้​”

 

เย่​ฉางชิงมิได้​แสดง​สีหน้า​ใด​ ๆ ออกมา​มาก​นัก​ เพียงแค่​เอ่ย​ต่อ​ด้วย​เสียง​อ่อนโยน​ว่า​ “เช่นนั้น​ข้า​จึงต้องการ​จะบอก​เจ้าก่อน​ว่า​ หลังจาก​แก้ไข​ข้อบกพร่อง​แต่กำเนิด​ให้​คนใน​เผ่า​ของ​เจ้าแล้ว​ จำเป็น​จะต้อง​ผนึก​คนใน​เผ่า​ของ​เจ้าเอาไว้​ ยัง​สถาน​ที่ใด​ที่หนึ่ง​เป็นเวลา​หมื่น​ปี​”

 

“มิเพียง​เท่านั้น​ หลังจาก​แก้ไข​ข้อบกพร่อง​แต่กำเนิด​ให้​คนใน​เผ่า​ของ​เจ้าแล้ว​ คนใน​เผ่า​ของ​เจ้าจะสามารถ​รู้แจ้ง​วิถี​แห่ง​ฟ้าได้​ พลัง​จะก้าวหน้า​ขึ้น​อย่าง​รวดเร็ว​ เช่นนั้น​จึงจำเป็นต้อง​ผนึก​ตบะ​บารมี​ของ​ผู้​แข็งแกร่ง​ทั้งหมด​ใน​เผ่า​ของ​เจ้าเอาไว้​เสีย​ก่อน​”

 

ตู๋​กู​ชิงเฟิงได้ยิน​เช่นนั้น​จึงได้​ลอง​ชั่งน้ำหนัก​ดู​ ก่อน​จะเอ่ย​กับ​เย่​ฉางชิงว่า​

 

“ฉางชิง เงื่อนไข​ของ​เจ้าข้า​สามารถ​รับได้​ แต่​ข้า​หวัง​ให้​พวกเขา​กลับ​ไป​ที่​ดินแดน​บรรพบุรุษ​อีกครั้ง​”

 

เย่​ฉางชิงพยักหน้า​รับ​น้อย​ ๆ

 

วินาที​ต่อมา​ เย่​ฉางชิงก็​เหลือบมอง​ตู๋​กู​ชิงเฟิงเล็กน้อย​ ก่อน​จะชูนิ้วชี้​และ​นิ้วกลาง​ขึ้น​มา พร้อม​กด​ลง​ที่​หว่าง​คิ้ว​เบา​ ๆ

 

แม้เวลานี้​เย่​ฉางชิงจะไร้​เทียมทาน​ ทว่า​การ​ทำท่า​มุทรา​หรือ​การ​ใช้คาถา​ต่าง ๆ​ ใน​การ​สำแดง​เคล็ด​วิชา​นั้น​ เขา​ยัง​มิมีความรู้​ใน​เรื่องเล่า​นี้​แม้แต่น้อย​

 

ตอน​อยู่​ที่​หอ​เก็บ​ตำรา​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​

 

เนื่องด้วย​ตบะ​บารมี​ต่ำต้อย​ เขา​จึงแค่​เปิด​ดู​เคล็ด​วิชา​และ​เคล็ด​กระบี่​พื้นฐาน​ ที่เก็บ​อยู่​ที่​ชั้นหนึ่ง​บาง​เล่ม​เท่านั้น​

 

ส่วน​เคล็ด​วิชา​ชั้นสูง​ ที่เก็บ​เอาไว้​ยัง​ชั้นบน​อย่าง​ดี​นั้น​

 

ตอนนั้น​เขา​คิด​ว่า​ตัวเอง​นั้น​ยัง​มิแก่กล้า​พอที่จะ​ฝึก​ได้​ จึงทำให้​มิได้​ใส่ใจ

 

ทำให้​เวลานี้​เขา​กลับ​ไป​มิเป็น​ขึ้น​มาเสีย​ดื้อ​ ๆ

 

เวลา​จะสำแดง​อิทธิฤทธิ์​ เอะอะ​ก็​เพ่ง​สมาธิแล้ว​สะบัด​แขน​หนึ่ง​ครั้ง​ ก็​สามารถ​แสดง​อิทธิฤทธิ์​ได้​แล้ว​ แต่​จะให้​ทำ​เช่นนี้​ตลอด​ก็​คงจะ​มิได้​

 

ตอนนี้​ใน​ฝัน​เขา​เป็น​ถึงผู้​ที่​ไร้​เทียมทาน​แล้ว​ เกรง​ว่า​คงจะ​ดู​ธรรมดา​เกินไป​กระมัง​ ?

 

หลังจาก​ครุ่นคิด​อยู่​พักใหญ่​ สุดท้าย​เขา​ก็​ตัดสินใจ​เลือก​ที่จะ​ทำ​ท่าทาง​เช่นนี้​ออกมา​

 

แม้จะมิมีประโยชน์​ใด​ ๆ แต่​อย่าง​น้อย​ก็​คง​ช่วย​เสริม​เสน่ห์​ให้​เขา​ดู​น่าเกรงขาม​ขึ้น​กระมัง​

 

มินาน​ หลังจาก​เย่​ฉางชิงทำ​ท่าทาง​เช่นนั้น​แล้ว​ เขา​ก็​เพ่ง​สมาธิ

 

ทันใดนั้น​ บน​ร่าง​ของ​เขา​ก็​ระเบิด​ไอ​พลัง​ที่​สงบ​เยือกเย็น​กลุ่ม​หนึ่ง​ออกมา​

 

ต่อจากนั้น​ก็​มีภาพ​อัน​น่า​เหลือเชื่อ​เกิดขึ้น​

 

รอบกาย​ของ​เย่​ฉางชิงมีแสงเปล่งประกาย​ออกมา​ ไอ​หมอก​จาง ๆ ลอย​วน​ สัญลักษณ์​โบราณ​มากมาย​ปกคลุม​และ​ร่วง​ลงมา​ ราวกับ​ฝนดาวตก​ก็​มิปาน​

 

ผ่าน​ไป​ชั่ว​อึดใจ​

 

ขณะที่​รอบกาย​ของ​เขา​เกิด​พลัง​ปั่นป่วน​มหาศาล​พลุ่งพล่าน​ขึ้น​มา

 

จู่ ๆ ดอกบัว​สีทอง​ที่​แผ่​คลื่น​แสงอัน​งดงาม​ ที่​มีไอ​พลัง​มากมาย​ลอย​วน​อยู่​ ดู​แล้ว​ช่างอัศจรรย์​ยิ่งนัก​ ก็​ค่อย ๆ​ ปรากฏ​ขึ้น​จาก​บน​ศีรษะ​ของ​เขา​

 

แต่​สิ่งที่​น่า​เหลือเชื่อ​ที่สุด​ก็​คือ​

 

หลังจากที่​ดอกบัว​สีทอง​ประหลาด​ดอก​นี้​ค่อย ๆ​ ปรากฏ​ขึ้น​ ไอ​พลัง​ลึกลับ​จำนวน​มหาศาล​กลุ่ม​หนึ่ง​ก็​แผ่​กระจาย​ออก​ไป​

 

วินาที​ต่อมา​ มิว่า​จะเป็น​จอม​มาร​เนตร​ทิพย์​หรือว่า​กองทัพ​มาร​นับ​แสน​ตน​ ต่าง​ก็​มีท่าทาง​นิ่งงัน​

 

ทว่า​เพียง​พริบตา​ท่าทาง​พวกเขา​กลับ​เต็มไปด้วย​ความปิติยินดี​

 

เพราะ​หลังจาก​พวกเขา​สัมผัส​ได้​ถึงไอ​พลัง​ลึกลับ​แล้ว​

 

มิกี่​อึดใจ​ต่อมา​ ราวกับ​มีพลัง​ปริศนา​บางอย่าง​ ได้​เข้าไป​ฟื้นฟู​จิตวิญญาณ​ที่​อ่อนแอ​มาตั้ง​แต่กำเนิด​ของ​พวกเขา​

 

‘นี่​มัน​ ! ’

 

‘นี่​มัน​ ! ’

 

‘นี่​มัน​ ! ’

 

‘คิด​มิถึงว่า​เรื่อง​ที่​แม้แต่​ท่าน​จักรพรรดิ​ยัง​มิอาจ​ทำได้​ ทว่า​กลับ​มีคน​ที่​สามารถ​ทำได้​และ​เก่งกาจ​เพียงนี้​อยู่​จริง ๆ​ ! ’

 

‘นี่​ก็​หมายความว่า​ภายภาคหน้า​พวกเขา​ก็​สามารถ​รู้แจ้ง​วิถี​ฟ้า และ​สามารถ​พัฒนา​ระดับ​ใน​การ​บำเพ็ญ​เพียร​ขึ้น​ได้​อีก​น่ะ​สิ ! ’

 

‘น่า​เหลือเชื่อ​ ! ’

 

‘ช่างน่า​เหลือเชื่อ​ยิ่งนัก​ ! ’

 

จน​เวลา​ผ่าน​ไป​ประมาณ​หนึ่ง​ก้านธูป​

 

หลังจาก​ดอกบัว​สีทอง​ลึกลับ​ดอก​นั้น​ ค่อย ๆ​ จมลง​สู่ศีรษะ​ของ​เย่​ฉางชิงอีกครั้ง​

 

มิว่า​จะเป็น​จอม​มาร​เนตร​ทิพย์​ หรือว่า​กองทัพ​มาร​นับ​แสน​

 

ต่าง​ก็​รับรู้​ได้​ว่า​ความโหดเหี้ยม​ภายใน​จิตใจ​ของ​พวกเขา​ค่อย ๆ​ เบาบาง​ลง​ แววตา​แปรเปลี่ยน​ดู​สดใส​ขึ้น​กว่า​เดิม​หลายเท่า​

 

ขณะเดียวกัน​ เมื่อ​สัมผัส​ได้​ถึงการเปลี่ยนแปลง​ของ​จิตวิญญาณ​และ​ไอ​พลัง​ของ​คนใน​เผ่า​

 

ตู๋​กู​ชิงเฟิงก็​มอง​เย่​ฉางชิงอีกครั้ง​ ด้วย​สายตา​ที่​เต็มไปด้วย​ความ​ซาบซึ้งใจ​

 

“ฉางชิง ขอบใจ​เจ้ามาก​นะ​ ที่​เจ้ายอม​ยื่นมือ​เข้ามา​ช่วย​แก้ไข​ข้อบกพร่อง​แต่กำเนิด​ให้​เผ่า​ของ​ข้า​ และ​ยัง​เปลี่ยน​โชคชะตา​ของ​เผ่า​ศักดิ์สิทธิ์​เรา​อีกด้วย​”

 

ตู๋​กู​ชิงเฟิงเอ่ย​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​อ่อนโยน​

 

“ชิงเฟิง เจ้ากล่าว​เกินไป​แล้ว​”

 

เย่​ฉางชิงโบกมือ​ไปมา​เบา​ ๆ พลาง​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “สามารถ​แก้ไข​ข้อบกพร่อง​แต่กำเนิด​ของ​เผ่า​เจ้าได้​ มิเพียง​จะเปลี่ยนแปลง​อนาคต​ของ​เผ่า​เจ้า ขณะเดียวกัน​ก็​ถือ​เป็นเรื่อง​ดี​ต่อ​ทุก​สรรพสิ่ง​ใน​จงหยวน​ด้วย​เช่นกัน​”

 

ตู๋​กู​ชิงเฟิงยิ้ม​หวาน​ออกมา​

 

ใน​ตอนนั้น​เอง​ จอม​มาร​เนตร​ทิพย์​ก็​ได้สติ​ขึ้น​มา ก่อน​จะโค้ง​คำนับ​ให้​แก่​ผู้​ที่​เหนือกว่า​จักรพรรดิ​ที่​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​

 

“ขอบคุณ​ผู้อาวุโส​ที่​ช่วย​แก้ไข​จุดบกพร่อง​แต่กำเนิด​ให้​แก่​เผ่า​ของ​เรา​ นับแต่นี้ไป​เผ่า​ของ​เรา​จะจดจำ​พระคุณ​ใน​นี้​เอาไว้​ขอรับ​”

 

สิ้น​เสียง​ กองทัพ​มาร​จำนวนมาก​ที่​รายล้อม​อยู่​ต่าง​ก็​สบตา​กัน​ จากนั้น​ต่าง​ก็​รีบ​คุกเข่า​ลง​กับ​พื้น​ในทันที​

 

“ผู้น้อย​ขอ​คารวะ​ผู้อาวุโส​ ! ”

 

ทันใดนั้น​เสียง​ราวกับ​กัมปนาท​ ก็​ดัง​กึกก้อง​ไป​ทั่ว​ทั้ง​บริเวณ​

 

ทว่า​ระหว่าง​ที่​เย่​ฉางชิงกวาดตา​มอง​ผู้​แข็งแกร่ง​ฝ่าย​มาร​ รวมถึง​กองทัพ​ฝ่าย​มาร​นับ​แสน​ตน​ และ​เตรียม​จะเอ่ย​บางอย่าง​ออกมา​นั้น​

 

เสี้ยว​วินาที​

 

บน​ท้อง​นภา​

 

จู่ ๆ ก็​มีเสียง​ฟ้าร้อง​ดัง​ขึ้น​ แสงสีทอง​นับ​มิถ้วน​สาดส่อง​ลงมา​ ฉาบ​ให้​พื้นดิน​บริเวณ​นั้น​เหลือง​อร่าม​ไป​ทั่ว​

 

ทุกคน​ต่าง​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ ก็​พบ​ว่า​บัดนี้​ได้​มีก้อน​เมฆสีทอง​ลอย​ปกคลุม​อยู่​ เป็น​ปรากฏการณ์​ที่​ตระการตา​ยิ่งนัก​

 

ใช่แล้ว​ !

 

ใน​ตอนนั้น​เอง​ เมฆาวิสุทธิ์​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​อีกครั้ง​ !

 

เพียงแต่​ขณะที่​ทุก​คนมีสี​หน้า​ตื่นตกใจ​ เมื่อ​เห็น​เมฆาวิสุทธิ์​ใน​ตำนาน​อยู่​นั้น​

 

ภายในใจ​ของ​เย่​ฉางชิงกลับ​เต็มไปด้วย​ความสงสัย​

 

‘นี่​เป็น​เพียง​ความฝัน​จริง​หรือ​ ? ’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด