หมอผีแม่ลูกติดบทที่ 299 องค์หญิงรัตติกาล

Now you are reading หมอผีแม่ลูกติด Chapter บทที่ 299 องค์หญิงรัตติกาล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 299

องค์​หญิง​รัตติกาล​

ขั้น​ตอนนี้​เป็นไป​อย่าง​ยาวนาน​มาก​ ใบหน้า​ของ​ หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​เต็มไปด้วย​เหงื่อ​ นาง​จ้อง​ไป​ที่​ใบหน้า​ของ​ หลี​เจี้ยนเฉิน​ราวกับ​กลัว​ว่า​จะพลาด​อาการ​ตอบสนอง​แม้เพียง​เล็กน้อย​ไป​

ในเวลานี้​ใกล้​จะถึงขีดจำกัด​ของ​การฝังเข็ม​ด้วย​เต่า​จำศีล​แล้ว​ เขา​จะต้อง​ตื่น​มาก่อนที่จะ​เช้า!

ซึ่งไม่รู้​ว่า​หลิน​ซีเหยียน​นั้น​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​หรือ​กำลัง​ติดต่อ​กับ​สวรรค์​ จู่ๆหลี​เจี้ยนเฉิน​ก็ได้​อ้วก​เลือด​สีดำ​ออกมา​ ซึ่งดู​แล้ว​สาหัส​มาก​

แต่​หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​ยิ้ม​ขึ้น​มา พิษ​นั้น​ไม่ใช่ปัญหา​ใหญ่​ ปัญหา​ใหญ่​ในเวลานี้​คือ​ถ้าเขา​ไม่ตื่นขึ้น​มา เขา​ก็​จะไม่มีโอกาส​ได้​สู้ด้วยซ้ำ​

มหา​นักบวช​ที่​เฝ้าดู​อยู่​นั้น​ ก็ได้​มอง​ไป​ที่​หลิน​ซีเหยียน​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​ผงกหัว​ให้​เขา​ แล้ว​จากนั้น​เขา​ก็ได้​ออก​ไป​อย่าง​เร่งรีบ​

ด้วย​ผล​ของ​การอาบน้ำ​ยา​ หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​ทำการ​ปิดผนึก​พิษ​ไว้​ใน​มือขวา​ของ​เขา​ สีหน้า​ของ​หลี​เจี้ยนเฉิน​ก็ได้​ดูดี​มากขึ้น​

เขา​ได้​พยายาม​ลืมตา​ขึ้น​มาแล้ว​มอง​ไป​ที่​หลิน​ซีเหยียน​ จากนั้น​ก็ได้​ยิ้ม​อย่าง​อ่อนแรง​ “ข้า​ไม่ได้​ฝัน​ไป​ใช่ไหม​?”

“ท่าน​ไม่ได้​ฝัน​ไป​หรอก​ ท่าน​ยัง​มีชีวิต​อยู่​จริงๆ​” หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​กล่าว​อย่าง​มั่นใจ​ “และ​ไม่เพียงแต่​ท่าน​จะมีชีวิต​แค่​ใน​ตอนนี้​ แต่​ท่าน​จะมีชีวิต​หลัง​จากนี้ไป​ด้วย​”

“นั่น​มัน​ไม่สำคัญ​หรอก​” น้ำเสียง​ของ​หลี​เจี้ยนเฉิน​เต็มไปด้วย​ความ​อ่อนแรง​ แต่​ก็​เผย​ให้​เห็น​ความยินดี​ของ​เขา​ เขา​มอง​ไป​ที่​ใบหน้า​ของ​หลิน​ซีเหยียน​แล้ว​ดวงตา​ของ​เขา​ก็ได้​เริ่ม​เบลอ​อีกครั้ง​

“แล้ว​สิ่งใด​ที่​สำคัญ​?” ในที่สุด​ท่าน​หมอ​หลิน​ก็ได้​มีเงาของ​เขา​อยู่​ใน​ดวงตา​ของ​นาง​แล้ว​!

แต่​ก่อนที่​เขา​จะได้​พูด​จบ​ หลี​เจี้ยนเฉิน​ก็ได้​สลบ​ไป​ แล้ว​หง​เหยียน​ก็ได้​ตะโกน​ออกมา​อย่าง​กระวนกระวาย​ “ฝ่าบาท​!”

“ไม่ต้อง​กังวล​ไป​ ในเวลานี้​เขา​พ้นขีดอันตราย​ไป​ชั่วขณะหนึ่ง​แล้ว​ เขา​ก็​แค่​หมดสติ​ไป​เท่านั้น​” หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​ดึง​เอา​เข็ม​เงิน​ออกจาก​ตัว​ของ​หลี​เจี้ยนเฉิน​ แล้ว​เผย​รอยยิ้ม​เล็ก​ๆที่​มุมปาก​ของ​นาง​

มัน​เป็นเรื่อง​ดีแล้ว​ที่​ผล​ออกมา​เป็น​เช่น​นี่​ วิธีการ​นี้​นาง​คิดได้​ใน​ระหว่าง​การ​เดินทาง​ที่​ยาวนาน​เป็นเวลา​สามวัน​ ถึงแม้ว่า​มัน​จะทำให้​หลี​เจี้ยนเฉิน​นั้น​สูญเสีย​แขนขวา​ของ​เขา​ไป​ชั่วคราว​ แต่​มัน​ก็​ทำให้​นาง​มีเวลา​มากขึ้น​ใน​การถอนพิษ​

ส่วน​มหา​นักบวช​ที่​ออก​ไป​อย่าง​เร่งรีบ​นั้น​ เขา​ได้​ส่งคน​ให้​ไป​ประกาศ​ราชโองการ​เพื่อ​หา​สมุนไพร​ชนิด​หนึ่ง​มาเป็น​จำนวน​ 1,000 จิน​ให้ได้​ สมุนไพร​ชนิด​นี้​มีชื่อว่า​ดาว​แปด​กลีบ​ ดาว​แปด​กลีบ​นี้​จะโต​ใน​ที่​ที่​หนาว​ และ​ดอก​ของ​มัน​จะมีขนาดเล็ก​และ​จะมี 8 กลีบ​ ซึ่งเมือง​นี้​มีมัน​อยู่​

สมุนไพร​นี้​มีคุณสมบัติ​ที่​ทำ​ให้ยา​อ่อนตัว​ลง​ มัน​สามารถ​ใช้ทำให้​ตัว​ยา​อื่นๆ​อ่อนตัว​ลง​และ​ผสม​ยา​ทำ​ให้ได้​ยา​ที่​มีคุณภาพดี​มากขึ้น​ มัน​จึงเป็น​สมุนไพร​ที่​ล้ำค่า​มาก​ใน​การทำยา​

แต่​สภาพอากาศ​ที่​ใช้ใน​การ​เติบโต​ของ​ดาว​แปด​กลีบ​นี้​ทุรกันดาร​มาก​ และ​จำนวน​ที่​มีก็​น้อย​มาก​ แต่​มัน​จะต้อง​มีคน​กล้า​ที่​ต้อง​การเงิน​จำนวนมาก​อยู่​บ้าง​แหละ​ หลิน​ซีเหยียน​เชื่อ​ว่า​สมุนไพร​ชนิด​นี้​จะต้องหา​ได้​ด้วย​เวลา​ไม่นาน​แน่​

แต่​ก่อนหน้า​นั้น​นาง​จะต้องหา​วิธี​ป้องกัน​มือขวา​ของ​ หลี​เจี้ยนเฉิน​ไม่ให้​เกิด​การ​ปะทุ​ของ​พิษ​ที่​กักเก็บ​เอาไว้​ให้ได้​ก่อน​

จนกระทั่ง​หนึ่ง​วัน​ผ่าน​ไป​ เจียง​หวาย​เย่​กับ​คนอื่นๆ​ก็ได้​เดินทาง​มาถึงรัฐ​เจียง​ ในเวลานี้​ด้วย​การ​ช่วยเหลือ​ของ​เจียง​หวาย​เย่​ ตอนนี้​เหตุการณ์​กบฏ​ก็ได้​สงบ​ลง​ไป​แล้ว​ แต่​ที่​แย่​คือ​องค์​ชาย​สามนั้น​ได้​ขึ้น​เป็น​ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์​ไป​แล้ว​

เมื่อ​กลับ​มาถึงพระราชวัง​ ทุกคน​ก็ได้​มอง​ไป​ที่​เจียง​อี๋​อย่าง​แปลก​ๆ ซึ่งเจียง​อี๋​นั้น​มีท่าที​ที่​อวด​ดีมาก​และ​เชิด​คาง​อยู่​ตลอด​

จาก​ที่​นาง​คอย​แอบ​สังเกต​และ​ฟังอย่าง​ตั้งใจ​ใน​หลาย​วัน​มานี้​ พบ​ว่า​เจียง​หวาย​เย่​นั้น​เป็น​องค์​ชาย​ที่​ยัง​ไม่มีพระชายา​ และ​เขา​นั้น​ก็​มีฐานะ​ที่​สูงส่งมาก​และ​ยังมี​รูปโฉม​งดงาม​ เขา​นั้น​เป็นที่​นิยมชมชอบ​มาก​ใน​หมู่​ผู้คน​

คน​เช่น​นี้แหละ​เหมาะสม​ที่จะ​มาเป็น​สามีของ​เจียง​อี๋​ยิ่งนัก​

“พ่อบ้าน​ พา​ตัวนาง​ไป​” เจียง​หวาย​เย่​รู้สึก​ได้​ถึงสายตา​อัน​ร้อนแรง​ที่​จ้อง​มายัง​แผ่น​หลัง​ของ​เขา​ และ​กล่าว​ด้วย​นำ​เสียง​ที่​ไม่ดี​นัก​ แล้ว​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ต่อ​ “อบรม​นาง​เสีย​ให้​รู้​ถึงกฎ​ของ​วัง​รัตติกาล​นี้​”

พ่อบ้าน​นั้น​เข้า​ใจถึงสิ่งที่​องค์​ชาย​คิดมาก​ เพราะ​ทุก​อิริยาบถ​ของ​แม่นาง​คน​นี้​ล้วนแต่​ไม่น่าดู​ ซึ่งเทียบ​ไม่ได้​กับ​แม่นาง​หลิน​เลย​ เขา​คงจะ​ต้อง​อบรม​นาง​เสีย​ใหม่​ตั้ง​แต่ต้น​เลย​ทีเดียว​

ด้วยเหตุนี้​ แม้ว่า​เจียง​อี๋​จะรู้สึก​ไม่พอใจ​ใน​ใจของ​นาง​ แต่​นาง​ก็​ยัง​ยิ้ม​อย่าง​อ่อนโยน​บน​ใบหน้า​ของ​นาง​ “ขอบคุณ​สำหรับ​พ่อบ้าน​ที่​ช่วย​สอนสั่ง​”

“เอาล่ะ​ ตาม​ข้า​มา!” เพราะ​เขา​นั้น​ยัง​ไม่รู้​ถึงฐานะ​ของ​เจียง​อี๋​ พ่อบ้าน​จึงไม่อาจ​ให้​นาง​อยู่​ร่วมกับ​คน​ใช้ได้​ หลังจากที่​คิด​เช่นนี้​แล้ว​เขา​จึงได้​ตัดสินใจ​เอา​นาง​ไป​ไว้​ที่​ตำหนัก​ใน​อยู่​ร่วมกับ​เหล่า​นางสนม​

เจียง​อี๋​นั้น​ไม่พอใจ​มาก​กับ​เรื่อง​นี้​ นาง​คือ​ผู้​ที่จะ​ได้​เป็น​ องค์​หญิง​รัตติกาล​ในอนาคต​ จะให้​มาอยู่​ร่วมกับ​พวก​ที่​ไร้​บทบาท​อย่าง​พวก​นางสนม​ได้​อย่างไร​? นี่​มัน​จะดูถูก​นาง​เกินไป​แล้ว​นะ​

“ท่าน​พ่อบ้าน​ ไม่มีสถาน​ที่อื่น​ใน​วัง​นี้​แล้ว​อย่างนั้น​เหรอ​?” เจียง​อี๋​ก็ได้​ถามด้วย​น้ำเสียง​ที่​ดี​

”แล้ว​เจ้าจะอยาก​อยู่​ที่​ไหนล่ะ​?” พ่อบ้าน​นั้น​เป็น​คน​ที่​ฉลาด​ เขา​สามารถ​เข้าใจ​ความหมาย​จาก​คำถาม​ของ​เจียง​อี๋​ได้​ทันที​ เขา​จึงได้​ตอบกลับ​ไป​อย่าง​หมด​ความอดทน​ “วัง​รัตติกาล​นี้​มีตำหนัก​อยู่​ไม่มาก​ จึงมีตัวเลือก​ไม่มาก​นัก​หรอก​สำหรับ​ผู้หญิง​”

แล้ว​ดวงตา​ของ​เจียง​อี๋​ก็ได้​สว่าง​ขึ้น​มาเมื่อ​นาง​ได้ยิน​ที่​กล่าว​ “ถ้าเช่นนั้น​ก็​แสดงว่า​ยังมี​ตัวเลือก​อื่น​อยู่​”

แล้ว​พ่อบ้าน​ก็ได้​ผงกหัว​และ​ปรากฏ​แววตา​ประชดประชัน​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​ แล้ว​จากนั้น​ก็ได้​กล่าว​อย่าง​เบา​ๆ “ตัวเลือก​แรก​ใน​สามตัวเลือก​คือ​มีตำหนัก​ที่อยู่​ห่างไกล​จาก​ตำหนัก​ใหญ่​และ​จำเป็น​จะต้อง​จัดการ​เรื่อง​อาหาร​, เสื้อผ้า​, ทำความสะอาด​และ​ส่งของ​ด้วยตัวเอง​ ตัวเลือก​ที่สอง​คือ​อาศัย​อยู่​ร่วมกับ​พวก​สาวใช้​ใน​ตำหนัก​ใหญ่​ และ​สามคือ​อาศัย​อยู่​ร่วมกับ​เหล่า​นางสนม​ใน​ตำหนัก​ใน​”

เจียง​อี๋​ก็ได้​มีสีหน้า​ไม่ดีขึ้น​มา และ​ทั้ง​สามตัวเลือก​นี้​ต่าง​ก็​รับ​ไม่ได้​จริงๆ​

สุดท้าย​นาง​จึงต้อง​ยอม​ตกลง​อยู่​ร่วมกับ​พวก​นางสนม​ อย่างไร​เสีย​ก็​ยัง​เป็น​ตัวตน​อยู่​ใน​ระดับ​ผู้​เป็น​นาย​

พ่อบ้าน​ก็ได้​พ่นลม​ออก​ทาง​จมูก​ เขา​เอง​ก็​พา​จะเดา​บทสรุป​ข้อ​นี้​ได้​อยู่​นาน​แล้ว​ จึงได้​พา​เจียง​อี๋​ไป​ที่​ตำหนัก​ใน​ต่อ​ ระหว่างทาง​เขา​ก็ได้​บอก​เจียง​อี๋​ว่า​อย่า​ได้​ไป​เพ่นพ่าน​ใน​วัง​รัตติกาล​มาก​นัก​ อย่างไร​เสีย​นาง​นั้น​ก็​เป็น​แค่​แขก​และ​ถ้าไม่มีธุระ​ก็​อย่า​ได้​ไป​เฉียด​ตำหนัก​ของ​องค์​ชาย​

“ทำไม​ข้า​ถึงเข้าไป​ใกล้​ไม่ได้​ล่ะ​?” เจียง​อี๋​ก็ได้​ถามอย่าง​ไม่พอใจ​ นาง​นั้น​สามารถ​ยอมรับ​กฎ​มากมาย​หลายอย่าง​ได้​ แต่​นาง​ยอมรับ​ที่​ไม่ให้​เข้าใกล้​องค์​ชาย​ไม่ได้​ นาง​จึงได้​ถามอย่าง​หมด​ความอดกลั้น​

“เป็น​เพราะ​องค์​ชาย​นั้น​อ่อนแอ​นัก​ ท่าน​ชอบ​ที่จะ​อยู่​อย่าง​เงียบๆ​และ​ไม่ชอบ​ให้​ใคร​มารบกวน​ ถ้าแม่นาง​มีความคิด​อะไร​แอบแฝง​ก็​ขอให้​เลิก​คิด​เสีย​จะดีกว่า​ ไม่อย่างนั้น​องค์​ชาย​อาจจะ​ตะเพิด​เจ้าออกจาก​วัง​รัตติกาล​ได้​”

เดิมที​พ่อบ้าน​คิด​ว่า​พูด​เอาไว้​เช่นนี้​คงจะ​เพียง​พอที่จะ​ใช้ ขู่​เจียง​อี๋​ได้​ แต่​เจียง​อี๋​นั้น​ไม่กลัว​คำขู่​อย่าง​ถูก​ไล่​ออกจาก​วัง​อยู่แล้ว​ เพราะ​องค์​ชาย​นั้น​ไม่สามารถ​อยู่​ห่าง​จาก​นาง​ได้​ยังไง​ล่ะ​

ยิ่ง​นาง​คิด​เช่นนี้​แล้วก็​ยิ่ง​มีความสุข​มาก​ขึ้นไป​อีก​ แล้ว​เจียง​อี๋​ก็ได้​เข้ามา​ใน​ตำหนัก​ใน​และ​ทักทาย​กับ​เหล่า​นางสนม​ แล้ว​จากนั้น​ก็​เริ่ม​ทำความสะอาด​ห้องนอน​ของ​นาง​

แล้ว​หนึ่ง​ใน​เหล่า​นางสนม​ชื่อ​จวี๋​ไป​เป็น​คน​ที่​ใจดีมาก​และ​ได้​ส่งสาวใช้​ของ​นาง​ให้​มาช่วย​เจียง​อี๋​ทำความสะอาด​ห้อง​ด้วย​

เจียง​อี๋​ก็ได้​ก้มหัว​ให้​อย่าง​ช้าๆ ด้วย​ร่างกาย​ที่​อ่อนแอ​และ​บรรยากาศ​ที่​อ่อนโยน​ของ​นาง​สามารถ​ดึงดูด​ให้​ผู้คน​มาชอบ​นาง​ได้​

“เมื่อใด​กันที่​พ่อบ้าน​ถึงได้​ขี้เหนียว​เช่นนี้​นะ​? ให้​น้อง​อี๋​เข้ามา​อยู่​ที่นี่​แต่กลับ​ไม่ให้​สาวใช้​มาด้วย​สัก​คน​” จวี๋​ไป๋​กับ​เจียง​อี๋​ก็ได้​นั่งลง​ด้วยกัน​และ​พูดคุย​นินทา​กัน​

แล้ว​ก็ได้​คุย​กัน​ถึงว่า​ทำไม​เจียง​อี๋​ถึงได้มา​อยู่​ที่​วัง​รัตติกาล​นี้​ได้​

แล้ว​ใบหน้า​ของ​เจียง​อี๋​ก็ได้​แดง​ขึ้น​มา แล้วก็​มีอากัปกิริยา​ที่​เอียงอาย​ของ​หญิงสาว​แล้ว​กล่าว​ “ข้า​ได้​ช่วยชีวิต​องค์​ชาย​เอาไว้​ องค์​ชาย​จึงได้​พา​ข้า​กลับมา​ด้วย​น่ะ​ค่ะ​”

“ไม่น่าเชื่อ​เลย​ว่า​ เจ้าเอง​ก็​เป็น​ผู้​ช่วยชีวิต​ของ​องค์​ชาย​ด้วย​น่ะ​?” ทันทีที่​จวี๋​ไป๋​รู้สึก​ตื่นเต้น​ นาง​ก็ได้​หลุด​ประโยค​นี้​ออกมา​ จากนั้น​นาง​ก็ได้​รีบ​ปิดปาก​ของ​นาง​แล้ว​หยิบ​อย่าง​ขัดเขิน​ “ขอ​น้อง​อี๋​ยกโทษให้​พี่​ด้วย​นะ​ พอดี​พี่​เป็น​คน​ปาก​ไว​ไป​หน่อย​”

“นอกจาก​ข้า​แล้ว​ องค์​ชาย​ยังมี​ผู้​มีพระคุณ​คนอื่น​อีก​เหรอ​คะ​?” เจียง​อี๋​ก็ได้​ถามออก​ไป​ด้วย​สีหน้าที่​สงบนิ่ง​ แต่​คำพูด​นี้​ได้​ทำให้​มีพายุ​เกิดขึ้นในใจ​ของ​นาง​

ซึ่งกลายเป็น​ว่าไม่ได้​มีนาง​แค่​คนเดียว​ที่​เป็น​ผู้​มีพระคุณ​ของ​เจียง​หวาย​เย่​ แล้ว​อีก​คน​เป็น​ใคร​กัน​ล่ะ​?

แล้ว​ดวงตา​ของ​เจียง​อี๋​ก็ได้​ปรากฏ​แววตา​โหดเหี้ยม​ขึ้น​มา ไม่ว่า​นัง​คน​นั้น​จะเป็น​ใคร​ก็​ไม่อาจ​ขัดขวาง​ความสุข​ของ​นาง​ได้​!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด