ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลกบทที่ 497 เหตุใดถึงช่วยข้า

Now you are reading ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก Chapter บทที่ 497 เหตุใดถึงช่วยข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 497 เหตุใดถึงช่วยข้า

บทที่ 497 เหตุใดถึงช่วยข้า

“ทราบแล้วเจ้าค่ะ” ลั่วเยวี่ยตอบรับก่อนจะไปเตรียมยาให้อู๋ฝาน

“รีบไปรีบมาล่ะ” อู๋ฝานบอก “จำเอาไว้ว่าเรื่องที่เห็นนี้ต้องไม่บอกผู้ใด เข้าใจหรือไม่?”

“ทราบเจ้าค่ะ” ลั่วเยวี่ยพยักหน้ารับ

อันที่จริงต่อให้อู๋ฝานไม่กำชับ ลั่วเยวี่ยก็ไม่มีทางไปพูดเรื่องมือสังหารอยู่แล้ว แต่เขาก็จำเป็นต้องระมัดระวังเอาไว้ก่อน เพราะยิ่งมีคนทราบน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดี และอย่างไรเด็กสาวก็ไม่มีทางคิดร้ายกับตนเอง

หลังลั่วเยวี่ยออกไปแล้ว ชายหนุ่มก็ไม่ได้ออกไปรอด้านนอกเพราะเกรงว่าองค์หญิงสามแห่งหนานปิงจะตื่นอย่างกะทันหันและหลบหนีไป ยิ่งไปกว่านั้น เขายังต้องอยู่ที่เมืองหลวงเพื่อเข้าเฝ้าจักรพรรดิอีกครั้ง อย่างน้อยก็ต้องรอคอยจนกว่าอีกฝ่ายจะฟื้นและหายดีจากเหตุการณ์เมื่อวานจึงค่อยว่ากล่าวต่อได้

เพราะไม่มีอะไรทำ อู๋ฝานที่อยู่ในห้องจึงฝึกฝนวิชาปรุงยาด้วยตัวเอง ในบรรดาความสามารถทั้งหมดที่มีในครอบครอง วิชาปรุงยาถือได้ว่ามีระดับสูงสุด เขาเป็นมาสเตอร์ที่แท้จริง อีกทั้งพบว่าวิชาปรุงยาที่สำเร็จถึงระดับมาสเตอร์ด้วยตนเอง ยังช่วยทำให้ความเข้าใจต่อศาสตร์แห่งยาของตนก้าวหน้ามากขึ้น การปรุงยาจึงมีโอกาสสำเร็จและได้ของดีกว่าก่อนหน้า ในขณะเดียวกันความสามารถในการสั่งยาก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

“ถึงจี้หยกกระเรียนขาวจะช่วยทำให้วิชามากมายกลายเป็นระดับมาสเตอร์ได้ แต่มาสเตอร์ที่แท้จริงก็ยังมีความแตกต่างออกไปอยู่พอสมควรเลย” อู๋ฝานพึมพำกับตัวเอง

เพราะหลังได้เป็นมาสเตอร์แท้จริงด้วยตัวเอง วิชาปรุงยาก็ก้าวหน้าขึ้นมาก ทำให้ชายหนุ่มคิดอยากทุ่มเทเรี่ยวแรงเพิ่มระดับวิชาปรุงยาสู่การเป็นปรมาจารย์ แต่ยากจะทราบได้ว่าโอกาสเช่นนั้นจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใด

“อย่าขยับ!”

ขณะอู๋ฝานกำลังใช้สมาธิศึกษาการปรุงยา สัมผัสเย็นยะเยือกอันคุ้นเคยก็พาดผ่านที่ลำคอ อาศัยจากความรู้สึกก็พอจะคาดเดาได้ว่าที่จ่อคออยู่ตอนนี้คือมีดเล่มหนึ่ง

และคนที่เอ่ยเมื่อครู่ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นอูหย่าที่ควรจะนอนหมดสติอยู่บนเตียงนอน

เขาถึงกับถูกอูหย่าใช้มีดข่มขู่เป็นครั้งที่สอง

หลังเผชิญสถานการณ์เดียวกันโดยคนคนเดียวกันถึงสองครั้ง อู๋ฝานก็ถึงกับลอบสบถที่ตัวเองขาดความระมัดระวังเกินไป

“ข้าไม่ขยับ อย่าทำอะไรผลีผลาม“ อู๋ฝานไม่มีเวลาให้บ่นความใจลอยของตนเอง ตอนนี้เขารีบพูดขึ้นมา “ข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร ไม่เช่นนั้นคงไม่ช่วยรักษาให้เจ้าหรอก”

“เจ้าช่วยรักษาบาดแผลบนร่างกายข้า?” เสียงจากด้านหลังเอ่ยถาม น้ำเสียงอ่อนลงไปมาก แต่มีดที่พาดบนลำคอยังเย็นเยือกเหมือนเช่นเคย

“ไม่ใช่ เป็นคนอื่นช่วยจัดการให้ต่างหาก” อู๋ฝานตอบ “เป็นสตรี”

หลังเอ่ยจบ ชายหนุ่มก็รู้สึกได้ว่าอุณหภูมิภายในห้องคล้ายจะอุ่นขึ้นมาบ้าง เรื่องนี้จึงทำเขาให้โล่งใจที่ตัดสินใจให้ลั่วเยวี่ยช่วยจัดการ ไม่ใช่ทำด้วยตัวเอง

“พาข้าออกไปจากที่นี่” อูหย่าพูดต่อ

“ข้าก็อยากทำแบบนั้น” อู๋ฝานตอบกลับ เพราะภารกิจของเขาคือการส่งตัวอูหย่ากลับบ้านเกิด ดังนั้นจึงคิดอยากนำพานางไปจากที่นี่โดยเร็ว “แต่ภายนอกมีทหารมากมายออกตามหาตัวเจ้า หากคิดออกจากเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย คิดเสียว่าตอนนี้เป็นคนป่วยพักรักษาตัวและรอสักหลายวัน เมื่อไหร่ภายนอกผ่อนปรนกว่านี้ข้าจะพาเจ้าออกไป”

“ไม่ ข้ารอไม่ได้! ข้าไม่มีเวลามากขนาดนั้น!” อูหย่าตอบเสียงแข็ง

“ข้าก็ไม่รู้จะช่วยยังไงแล้ว” อู๋ฝานส่ายหน้า “ออกไปดูด้วยตัวเองเจ้าอาจเข้าใจ”

“เชื่อหรือไม่ว่าข้าฆ่าเจ้าได้!” อูหย่ากดมีดลงกับคอของอู๋ฝานแน่นมากขึ้น ถึงขนาดทำให้เขารู้สึกราวกับพร้อมจะมีเลือดไหลออกมาได้ทุกเวลา

“ฆ่าข้าไปก็เท่านั้น ข้าเป็นแค่คนตัวจ้อย เมืองหลวงในตอนนี้กำลังวุ่นวายเพราะเจ้า ไม่ว่าจะด้วยอะไรข้าก็ไม่มีทางพาออกไป” อู๋ฝานตอบ

“เจ้าเป็นคนตัวจ้อย แต่เมื่อวานกลับเข้าร่วมงานเลี้ยงได้เนี่ยนะ?” เห็นได้ชัดว่าอูหย่าไม่คิดเชื่อคำพูดของอู๋ฝาน

“ข้าไม่ได้โกหกแม้แต่น้อย” อู๋ฝานตอบ “ดังเช่นที่เห็น เดิมข้านั่งอยู่ตรงชายขอบแถวประตู เกือบจะต้องออกไปนั่งทานที่นอกโถงแล้วด้วยซ้ำ คนที่อยู่ตรงนั้นเช่นข้าจะมีตำแหน่งสูงไปได้อย่างไร?”

“เมื่อวานเจ้าช่วยชีวิตจักรพรรดิเฒ่า มันไม่ตอบแทนเจ้าหรือ?” อูหย่าเอ่ยถาม

“ยังไม่ทราบ ใครบ้างจะล่วงรู้ประสงค์ของราชวงศ์กันเล่า” อู๋ฝานตอบกลับ “อีกทั้งต่อให้ข้าได้รับรางวัล ก็ไม่ได้หมายความว่าจะออกไปจากเมืองหลวงพร้อมคนที่ก่อการลอบสังหารได้ เรื่องนี้เจ้าก็น่าจะเข้าใจไม่ใช่หรือ?”

อูหย่าเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่ทราบว่านางกำลังพิจารณาคำพูดของอู๋ฝาน หรือกำลังคิดหาทางอื่นหนีออกไปกันแน่

“องค์หญิงอูหย่า เหตุใดไม่วางมีดลงก่อนแล้วพูดคุยกันดี ๆ” อู๋ฝานเอ่ยถาม

“เจ้าและข้าไม่มีเรื่องใดต้องพูดคุยกัน” นางตอบกลับมาด้วยเสียงเย็นเยียบ

“อย่างไรข้าก็ช่วยเจ้าเอาไว้ ไฉนมีท่าทีเลวร้ายตอบรับเช่นนี้กัน” อู๋ฝานบ่น

“หากไม่ใช่เพราะเจ้า เมื่อวานข้าก็ฆ่าไอ้แก่นั่นได้แล้ว!” อูหย่าตอบกลับเสียงเย็นเยือก

อู๋ฝานพูดไม่ออกชั่วขณะ เป็นความจริง หากเมื่อวานเขาไม่ลงมือจักรพรรดิก็คงถูกองค์หญิงอูหย่าฆ่าตายไปเรียบร้อยแล้ว

“เมื่อวานก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ความจริงที่ข้าช่วยเจ้าเอาไว้ก็ไม่ได้หายไปไหน” อู๋ฝานตอบกลับ “ต่อให้ฆ่าข้าเสียที่นี่ตอนนี้เจ้าก็ไม่ได้อะไร อีกทั้งแต่ไหนแต่ไรข้าก็ไม่ใช่เป้าหมาย หากฆ่าข้าจนถูกเปิดเผยว่าเจ้าอยู่ที่นี่จะเป็นอย่างไรต่อ?”

หลังอูหย่าลังเลไปพักหนึ่งจึงถอนมีดกลับคืน และนั่งลงข้างอู๋ฝานพลางถาม “เหตุใดถึงช่วยข้า”

“แล้วทำไมถึงมาที่นี่?” อู๋ฝานถามกลับ

“ข้าถามเจ้าก่อนนะ!” อูหย่าหันมองตาเขม็ง

“ก็ได้” อู๋ฝานยักไหล่ตอบ “เพราะข้าเป็นคนดียังไงล่ะ”

“คนดี?”

“ใช่ ข้าไม่อาจทนเห็นผู้หญิงสวยเช่นเจ้าตายไปทั้งแบบนี้ได้” อู๋ฝานตอบกลับ

“เมื่อวานตอนเจ้าอยู่ที่พระราชวังไม่คล้ายจะมีท่าทีสนใจสตรีเช่นนั้น” อูหย่าตอบกลับอย่างเหยียดหยัน เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อคำอธิบายของอู๋ฝาน

“ดังที่บอกไปแล้ว เมื่อวานก็เรื่องของเมื่อวาน วันนี้ก็เรื่องของวันนี้” อู๋ฝานตอบ “เมื่อวานเพราะข้าเห็นมือสังหารคิดลงมือลอบสังหารจักรพรรดิของอาณาจักรจึงต้องลงมือ แต่ข้ากับเจ้าก็ไม่ได้มีเรื่องราวใด ๆ ต่อกัน หลังออกมานอกวังแล้วข้าก็ไม่ได้ไล่ตามล้างผลาญเจ้าเสียหน่อย”

“เมื่อวานไม่ใช่ว่าเจ้าลงมือเพราะต้องการปกป้องจักรพรรดิเพื่อหวังความดีความชอบหรือ? หากสังหารข้าและส่งตัวให้ทางการ เจ้าก็จะยิ่งได้ประโยชน์มากขึ้น” อูหย่าตอบกลับ

“เช่นนั้นเอาเป็นตอนนี้ข้าลงมือสังหารเจ้าแล้วส่งตัวให้สิ้นเรื่องราวเลยดีหรือไม่?” อู๋ฝานตอบกลับ เพราะพบว่านางค่อนข้างฉลาดจนยากจะหาทางหลอกให้หลงกลได้

“ก็ลองสิ” อูหย่าเผยมีดในมือพร้อมจ้องอู๋ฝานตาไม่กะพริบ

“เจ้าบาดเจ็บหนักและยังไม่ได้รับการรักษาจนหายดี คิดจริงหรือว่าจะต่อกรข้าได้?” อู๋ฝานหัวเราะตอบ

“กล้าก็ลอง!” อูหย่าขึ้นเสียง ดวงตาเปลี่ยนกลายเป็นเย็นเยือก

“อย่ากังวลไปเลย ข้าไม่สังหารเจ้าหรอก ไม่เช่นนั้นข้าจะช่วยเอาไว้ทำไม ระแวงข้าจนเกินไปแล้ว” อู๋ฝานตอบกลับ “ส่วนว่าเพราะเหตุใดจึงช่วย เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลไป มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าทั้งนั้น”

อู๋ฝานทิ้งคำพูดไว้เช่นนี้มีแต่จะยิ่งทำให้อูหย่าสับสนและสงสัย หญิงสาวทราบดีว่าตนเองและอีกฝ่ายไม่ได้มีมิตรภาพอันใดต่อกัน เมื่อวานยังห้ำหั่นแลกเป็นตายกันเสียด้วยซ้ำ การที่อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลงท่าทีอย่างกะทันหันเช่นนี้ นางจะสงสัยก็ไม่แปลก ขณะเดียวกันก็เพราะคำพูดของชายหนุ่มจึงทำให้นางพอจะผ่อนปรนความระมัดระวังลงได้มาก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด