เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]บทที่ 2037 ข้าไม่เป็ นไร

Now you are reading เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] Chapter บทที่ 2037 ข้าไม่เป็ นไร at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลินเป่ ยเฉินก าลังจะเข้าไปห้าม แต่หลิงเฉินเพียงส่ายศีรษะและ ไม่พูดค าใด

 

นางมีความมุ่งมั่นแรงกล้า

 

หลินเป่ยเฉินรู ้จักหลิงเฉินดี เมื่อนางตัดสินใจจะทาอะไรแล้ว นาง ก็จะไม่มีทางเปลี่ยนใจเด็ดขาด ไม่ว่าจะพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างไรก็ ตาม

 

ครืน!

 

หลังจากประตูยักษ์บานที่สามถูกเปิด โลหิตก็ไหลซึมออกมาจาก ขมับและหว่างคิ้วของหลิงเฉิน

 

ผมสีด าขลับของนางถูกย้อมจนกลายเป็ นสีแดงฉาน ทั้งศีรษะ เปียกชุ่มไปด้วยโลหิต

เห็นได้ชัดว่าการเปิดประตูเหล่านี้ยากลาบากเกินความคาดคิด มาก

 

แต่สิ่งที่รอคอยอยู่หลังประตูบานที่สามก็คือประตูบานที่สี่ที่มี ขนาดใหญ่โตมากขึ้น

 

หลิงเฉินยังคงพยายามเปิดประตูต่อไปโดยไม่พูดไม่จา

 

เมื่อประตูเริ่มเกิดการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยในครั้งนี้ หลิงเฉิน ก็ต้องปลดปล่อยพลังมากกว่าเดิม รองเท้าของนางฉีกขาดจนเผยให้ เห็นสองเท้าเปลือยเปล่าและโลหิตก็ไหลซึมออกมาจากร่างกายของ นางหยดลงสู่พื้นวิหารเป็ นกองใหญ่…

 

“ข้าจะช่วยเจ้าเอง”

 

หลินเป่ยเฉินทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

“ไม่ต้อง”

 

หลิงเฉินพูดกับหลินเป่ยเฉินด้วยความแน่วแน่

 

ในที่สุดประตูบานที่สี่ก็ถูกเปิดออก

 

เป็ นไปตามคาด ยังคงมีประตูบานที่ห้ารออยู่

 

หลินเป่ ยเฉินเฝ้ ามองคนรักที่มีเลือดท่วมตัวด้วยความเศร ้าโศก และโกรธแค้น

 

นี่เขามัวทาอะไรอยู่นะ?

 

เขาจะมัวแต่ยืนดูอยู่เฉย ๆ ปล่อยให้หลิงเฉินเลือดท่วมตัวอย่างนี้ ต่อไปเรื่อย ๆ อย่างนั้นหรือ?

 

หลังจากนี้ หลิงเฉินต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่ ๆ

หลินเป่ยเฉินคิดด้วยความเป็ นกังวล

 

“ท่านพ่อตา พวกเราพอแค่นี้เถอะพ่ะย่ะค่ะ”

 

เขาช่วยประคององค์จักรพรรดิหลิงจิว

 

ชายชราอ่อนล้าจนแทบจะยืนไม่ไหว แต่ดวงตาของเขาเป็ น ประกายระยิบระยับด้วยความบ้าคลั่งขณะหอบหายใจตอบว่า “โอกาส … นี่เป็ นเพียงโอกาสเดียวเท่านั้น…”

 

บ้าไปแล้ว!

 

หลินเป่ยเฉินถึงกับพูดไม่ออกแล้วจริง ๆ

 

รู ้อย่างนี้ไม่น่าให้ยาบารุงกาลังไปก็ดีหรอก

 

กร๊อบ! กร๊อบ! กร๊อบ

ได้ยินเสียงกระดูกแตกดังออกมาจากแขนของหลิงเฉินทั้งสอง ข้าง

 

ในที่สุด นางก็สามารถเปิดประตูบานที่ห้าได้สาเร็จ

 

แต่ยังมีประตูบานที่หกรอคอยอยู่

 

หลิงเฉินนั่งขัดสมาธิบนพื้นหิน เริ่มต้นโคจรพลังรักษาอาการ บาดเจ็บของตนเอง

 

เมื่อฟื้นตัวขึ้นมาเพียงเล็กน้อย นางก็เริ่มผลักประตูบานที่หก ต่อไป

 

ครั้งนี้ หลิงเฉินต้องใช ้เวลาถึงชั่วชงน้าชาหนึ่งถ้วยกว่าจะ สามารถผลักประตูบานที่หกเปิดออกได้สาเร็จ แต่นางก็ต้องแลกมา กับการที่กระดูกแขนและขาหักร ้าว และมีโลหิตไหลออกมาจาก ร่างกายอย่างต่อเนื่อง

ปรากฏว่า…

 

ยังมีประตูบานที่เจ็ด

 

ให้ตายเถอะ!

 

หลินเป่ยเฉินอยากตะโกนค าหยาบออกมาจริง ๆ

 

นี่มันอะไรกันเนี่ย?

 

“นี่เป็ นประตูบานสุดท้ายแล้วเจ้าค่ะ”

 

หลิงเฉินกล่าวด้วยสีหน้าหนักแน่นมั่นคง ดวงตาที่งดงามของนาง เป็ นประกายระยิบระยับด้วยความแน่วแน่

 

หลินเป่ ยเฉินหยุดชะงักและดูเหมือนเขาจะนึกอะไรบางอย่าง ขึ้นมาได้

ตามตานานเล่าขานที่เขาพอจะจาได้นั้น บรรพบุรุษผู้แปรธาตุ เป็ นผู้ติดตามคนที่เจ็ดขององค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เพราะฉะนั้นวิหาร หลังนี้จึงมีประตูเจ็ดบานสินะ?

 

เชี่ย! หากบรรพบุรุษแห่งผู้แปรธาตุเป็ นผู้ติดตามคนที่ยี่สิบสี่ วิหารหลังนี้ไม่ต้องมีประตูยี่สิบสี่บานเลยเหรอ?

 

ท่าทางบรรพบุรุษผู้แปรธาตุน่าจะมีอาการสมองเลอะเลือนแล้ว จริง ๆ

 

หลินเป่ยเฉินรีบส่งยาบ ารุงก าลังให้หลิงเฉินดื่มอย่างรวดเร็ว

 

นางรับไปดื่มโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย หลิงเฉินดื่มจนหมดขวด แม้แต่ฝาขวดก็ยังเลียไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว

 

หลังจากนั้น นางก็นั่งปรับพลังปราณในร่างกายอีกประมาณหนึ่ง ก้านธูป ก่อนจะลุกขึ้นยืนและพยายามเปิดประตูต่อไป

ประตูบานที่เจ็ด ประตูบานสุดท้าย

 

หลิงเฉินต้องใช ้เวลาถึงหนึ่งก้านธูปกว่าจะสามารถเปิดประตูบาน นี้ได้สาเร็จ

 

กระดูกทั่วร่างของนางแตกหักลง จนกระทั่งสุดท้ายหลิงเฉินก็ต้อง ล้มลงนอนจมกองเลือดบนพื้นหิน

 

ประตูบานสุดท้ายเปิดออกเป็ นช่องว่างที่พอจะให้ผู้คนแทรกตัว ผ่านเข้าไปได้เท่านั้น

 

องค์จักรพรรดิหลิงจิวรีบก้าวเดินโดยการช่วยเหลือของแขนกลที่ เป็ นไม้ค้ายันแทรกผ่านช่องว่างระหว่างประตูเข้าไป

 

ส่วนหลินเป่ยเฉินรีบวิ่งเข้าไปดูอาการคนรักของตนเองก่อนเป็น อันดับแรก

“ข้าไม่เป็ นไร

หลิงเฉินกล่าวด้วยน้าเสียงหนักแน่น “ท่านพี่ช่วยอุ้มข้าที”

 

หลินเป่ ยเฉินโอบกอดหลิงเฉินและอุ้มนางเดินผ่านช่องว่างของ ประตูบานที่เจ็ดเข้าไปภายในห้องโถงใหญ่ที่อยู่ทางด้านหลัง

 

ภายในห้องโถงใหญ่แห่งนั้นมีคบไฟสว่างไสวด้วยเปลวเพลิง วิเศษ

 

บนผนังทั้งสี่ด้านเต็มไปด้วยชั้นวางเครื่องมือหลากหลายชนิด

 

เครื่องมือแต่ละอย่างล้วนเป็ นอุปกรณ์เล่นแร่แปรธาตุครบวงจร ไม่ว่าจะเป็ นหลอดแก้วส าหรับการทดสอบสายพันธุ์ ค้อนเหล็ก ถ้วย ตวง ตะแกรงสาหรับร่อนสมุนไพร ไม้บรรทัด อุปกรณ์ชั่งน้าหนัก เข็ม ทิศ จอภาพจาลองและอื่น ๆ อีกมากมาย…

 

และสิ่งที่ตั้งอยู่กลางห้องโถงนั้นก็คือหม้อปรุงยาทองคาที่มีขนาด ใหญ่

เปลวไฟที่เคยถูกจุดอยู่ใต้หม้อทองคาใบนี้ได้มอดดับลงไปนาน แล้ว

 

แต่ภายในห้องโถงใหญ่กลับปกคลุมด้วยความมืดมิด แสงจาก คบไฟส่องไปไม่ถึง หลินเป่ยเฉินจึงมองไม่เห็นว่าภายในนั้นมีอะไรอยู่ อีกบ้าง

 

แต่เอาแค่อุปกรณ์ที่เขาเห็นอยู่ภายในห้องโถงขณะนี้ มันก็ทาให้ ชายหนุ่มนึกถึงบรรยากาศในนิยายแนววิทยาศาสตร ์ขึ้นมาชอบกล หลินเป่ ยเฉินรู ้สึกเหมือนตนเองก าลังอยู่ในห้องบังคับการของยาน อวกาศสักล า

 

ส่วนอารยธรรมผู้แปรธาตุ นี่คือการผสมผสานระหว่างเวทมนตร ์ กับวิทยาศาสตร ์ได้อย่างใกล้เคียงที่สุดแล้ว

 

องค์จักรพรรดิหลิงจิวเดินไปหยุดยืนอยู่ใต้คบไฟที่อยู่ตรงกลาง ห้อง

แขนกลที่เป็ นไม้ค้ายันหลุดออกจากร่างกาย

 

แสงสว่างจากคบไฟต้องร่างของพระองค์ เงาด าทอดยาวไปบน พื้นหิน เปลวไฟบนคบเพลิงยิ่งลุกโชนสว่างไสว

 

“ฮ่า ๆๆๆ…”

 

องค์จักรพรรดิหัวเราะในล าคอ

 

ร่างกายสั่นเทาด้วยความตื่นเต้น “สาเร็จแล้ว ในที่สุด ข้าก็ได้เข้า มาที่นี่แล้ว… วิหารแห่งผู้แปรธาตุ ในที่สุด ข้าก็ได้เข้ามาแล้ว… ข้าท า สาเร็จแล้ว ในที่สุด ข้าก็ทาสาเร็จแล้ว… ฮ่า ๆๆๆ”

 

เสียงหัวเราะขององค์จักรพรรดิหลิงจิวยิ่งดังกังวานมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

สุดท้าย เสียงหัวเราะขององค์จักรพรรดิก็ดังกึกก้องไปทั่ววิหาร แห่งผู้แปรธาตุ

“ท่านพ่อตาพ่ะย่ะค่ะ ได้โปรดใจเย็น ๆ ก่อนเถอะ หัวเราะมาก เกินไป อาจหัวใจวายตายได้นะพ่ะย่ะค่ะ”

 

หลินเป่ยเฉินรีบร ้องเตือน

 

“หืม?”

 

องค์จักรพรรดิหันมาส่งยิ้มให้แก่เขาอย่างแช่มช ้า “หัวใจวายคือ อะไรหรือ?”

 

หลินเป่ยเฉินไม่รู ้จะอธิบายอย่างไรดี

 

แต่ทันใดนั้น ชายหนุ่มก็พบว่าใบหน้าขององค์จักรพรรดิที่หันมา มองเขานั้นเป็ นใบหน้าที่มีเลือดสูบฉีด ความเหนื่อยล้าอ่อนแรงก่อน หน้านี้ไม่มีให้เห็นอีกแล้ว ร่างกายที่ผอมแห้งเหลือแต่โครงกระดูกก็ดู จะแข็งแรงและกระฉับกระเฉง เส้นผมที่เคยเป็ นสีขาวก็กลายเป็ นสีดา ดกหนา พลังชีวิตแรงกล้า เสมือนไม่เคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด