[นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง 103 ไฟล์ 11 : เสียงกระซิบเรียกร้องให้รับผิดชอบตัวเอง [9.2]

Now you are reading [นิยายแปล] ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง Chapter 103 ไฟล์ 11 : เสียงกระซิบเรียกร้องให้รับผิดชอบตัวเอง [9.2] at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“โทริโกะ!!”

 

ฉันประคองตัวของโทริโกะได้ก่อนที่เธอจะหงายหลังล้มลงมา เห็นสีหน้ายิ้มเยาะของรูนะที่อีกด้านนึงของตัวโทริโกะได้เลย ต่อจากนั้น ฉันก็ยกมาคารอฟขึ้นมาจ่อที่หน้าเธอ

 

“ท่านลูน่า!”

 

ป้าขอบคุณตะโกนเสียงหลง แต่รูนะก็ยังยิ้มนิดๆ อยู่เหมือนเดิม

 

“จะทำอะไรล่ะ? ยิงปืนเหรอ?”
“คิดว่านี่เป็นการขู่โง่ๆ หรือไง?”
“จริงเหรอ? ป่านนี้เนี่ยนะ? เค้าว่าเธอจะใจอ่อนเกินไปแล้วล่ะ ก็ ถ้าเธอคิดจะฆ่าเค้าจริงๆ ล่ะก็ เธอคงจะยิงเค้าไปแล้วล่ะ คุณนิชินะเองก็ทิ้งปืนเพื่อเข้ามาต่อยด้วย พวกเธอทั้ง 2 คนนี่ใจดีจังเลยนะ”

 

รูนะจับกระบอกปืนที่ชี้ไปที่เธอ และพยายามเบี่ยงมันออกไปด้านข้างๆ ฉันยังฝืนต้านอยู่ รูนะก็เลยส่งเสียงรำคาญใจออกมา

 

“ชิ นี่หยุดมาขวางทางเค้าซักทีจะได้มั้ย? เธอไม่มีอะไรเกี่ยวกับท่านซัทสึกิเลยไม่ใช่รึไง? ก็ได้ ตอนนี้เค้าคืนตัวคุณนิชินะกับคุณโคซากุระให้ก็ได้ เค้าแค่อยากจะเจอท่านซัทสึกิเร็วๆ เท่านั้นเอง”
“ไม่! โซราโอะ! ไม่ได้นะ! อย่าให้ยัยนั่นเอาสมุดของซัทสึกิไปนะ!”

 

โทริโกะที่ยังยืนอยู่ในอ้อมแขนของฉันตะโกนขึ้นมา โดยที่ยังพยายามฟืนตัวจากผลของเสียงอยู่เลย

เพราะอะไรไม่รู้ ความสิ้นหวังของโทริโกะมันทำให้ฉันหงิดหงุดยิ่งกว่าทีท่าอวดดีของรูนะซะอีก จนฉันเผลอตะโกนออกมาเลย

 

“พวกเธอทุกคนเอาแต่พูดซัทสึกิ ซัทสึกิ ซัทสึกิอยู่ได้… พอซักทีจะได้มั้ย! จะมัวไปยึดติดอะไรกับผู้หญิงที่หายไปแล้วอีกนานแค่ไหนน่ะฮะ!? ยัยนั่นไม่ใช่มนุษย์แล้วด้วยซ้ำ! นั่นมันสัตว์ประหลาด! คนที่เธอรู้จักน่ะ ไม่มีทางกลับมาอีกแล้วนะ! โทริโกะ!”

 

ต้องไม่มีใครคิดว่าฉันจะระเบิดอารมณ์ออกมาแบบนี้แน่ เพราะทั้งโทริโกะทั้งรูนะเงียบกริบกันไปทั้งคู่เลย

.

.

.

เป็นตอนนั้นแหละ ที่ฉันได้ยินเสียงกระซิบอีกเสียงนึงดังลอยมา

 

“…ซัทสึกิ”

 

เสียงของคุณโคซากุระนี่

 

“ซัทสึ… กิ…”

 

คุณโคซากุระที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวนั้น กำลังถืออะไรซักอย่างที่ส่องแสงออกมาได้ ในมือที่วางไว้บนตักของเธอเองอยู่ด้วย

นึกออกแล้ว ลูกบาศก์กระจกขนาดด้านละ 5 เซนติเมตร

หินกระจกที่พวกเราเจอหลังจากล้มคุเนะคุเนะได้นี่นา

 

“คุณโคซากุระ… นั่นมัน…?”

 

คุณโคซากุระเงยหน้าขึ้นมามองฉันจากบนเก้าอี้ที่เธอนั่งอยู่ด้วยสีหน้าเหม่อลอย พร้อมกับกางนิ้วของเธอออก หินกระจกที่วางอยู่บนมือของเธอที่เหยียดออกดึงสายตาของฉันเข้าไปได้เลย ภาพที่ผิวกระจกมันสะท้อนออกมาไม่มีพวกเราที่อยู่ในห้องเลยซักคน

 

ไม่สิ…

ไม่ใช่ ในนั้น มีใครบางคนอยู่ด้วย

ร่างๆ นึง ยืนอยู่ในความมืด

 

“โซราโอะ?”

 

เพราะผลของ [เสียง] เริ่มจะจางหายไปบ้าง โทริโกะก็เลยพอจะยืนด้วยเท้าของตัวเองได้แล้ว แต่ฉันก็แทบไม่ทันได้สังเกตเลย เพราะยังจ้องอยู่ที่หินกระจกก้อนนั้นอยู่

 

“โซราโอะ มีอะไรน่ะ?”
“เอ๊ะ?”
“มีบางคน—สะท้อนออกมา”

 

บางคน นอกจากพวกเรา สะท้อนอยู่ในหินกระจกงั้นเหรอ…?

ระหว่างที่ฉันยังจ้องอยู่แบบไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ จู่ๆ ฉันก็นึกออกแล้วว่านั่นคือใครกันแน่

แทบจะกรี๊ดออกมาลั่นเลย

คนที่สะท้อนออกมาในผิวของหินกระจกนั่น…

 

อุรุมะ ซัทสึกิ

 

ฉันรีบหันหน้าหนีมา แต่เธอคนนั้นก็มาอยู่ตรงนั้นแล้ว—อยู่ข้างหลังฉันเลย

 

“ซัทสึกิ… อยู่นี่”

 

คุณโคซากุระกระซิบขึ้นมาแบบนั้นอีกครั้งนึง

 

“โซราโอะ…?”

 

โทริโกะมองตามสายตาของฉันไป มองไปรอบโกดังมืดๆ นี่ ก่อนจะหันกลับมามองหน้าฉัน

 

“…ซัทสึกิเหรอ? เธออยู่ที่นี่?”
“เปล่า! ไม่ใช่!”

 

ฉันปฏิเสธเรื่องนั้นเร็วเกินไป แล้วก็ดูลนลานเกินไปด้วย

 

“…เธอมองเห็น ฉันเข้าใจถูกสินะ?”

 

โทริโกะพูดกลับมาด้วยการกระซิบ

ฉันทำให้สีหน้าตัวเองใจเย็นไม่ได้เลย สัมผัสที่เย็นยะเยือกเหมือนทุกอย่างจะพังทลายมันวิ่งลามขึ้นมาที่คอของฉัน จนฉันพูดอะไรไม่ออกซักคำ ทำได้แต่ส่ายหน้าไปมา

จะทำยังไงดี?

จะทำยังไงดี? จะทำยังไงดี? จะทำยังไงดี?

เธอรู้แล้ว

รู้อยู่แล้วล่ะว่าวันนึงเธอก็คงจะรู้ตัว แต่ฉันแน่ใจว่าจะไม่เป็นไร ฉันคิดว่าจะตบตาเธอได้

 

แล้ว คำพูดที่ฉันกลัวก็ออกมาจากปากของโทริโกะจนได้

 

“เดี๋ยวนะ โซราโอะ—นี่เธอมองเห็นซัทสึกิมาตลอดเลยงั้นเหรอ?”

 

ไม่ใช่นะ ไม่ใช่นะ

คำโกหกที่ฉันอยากจะพูด มันไม่ยอมหลุดมาจากริมฝีปากของตัวเองเลย

รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังจมอยู่ใต้น้ำ แค่หายใจให้อากาศพอจะเข้ามาถึงหลอดลมยังยากเลย

โทริโกะพูดต่อด้วยเสียงกดต่ำ แต่มั่นใจ

 

“ว่าแล้วเชียว เป็นแบบนี้เองสินะ?”

 

เธอรู้แล้ว?

 

“ฉันก็สงสัยมาพักใหญ่ๆ แล้ว โซราโอะ เธอจะมีสีหน้าที่ดูอันตรายแบบนั้นอยู่เป็นระยะๆ เลย แถมหันไปจ้องที่อะไรซักอย่างที่ฉันมองไม่เห็นด้วย”

 

ไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะสงสัย

 

“เธอคิดว่าฉันจะไม่ทันสังเกตงั้นเหรอ?”
“อะ เออ”
“ใช่จริงๆ สินะ?”

 

เสียงที่เธอพูดกับฉันมันสงบนิ่ง มันยิ่งทำให้ฉันกลัวยิ่งกว่าเดิมอีก

ฉันไม่เห็นหน้าของโทริโกะเลย

หน้าของโทริโกะที่อยู่ข้างๆ ฉันอยู่ตลอด

หน้าของโทริโกะที่สวยมากจนรู้สึกเหมือนกับว่าจะสามารถมองดูได้ตลอดไป

 

“ท่านซัทสึกิ… อยู่ที่นี่?”

 

เสียงของรูนะถามขึ้นมาจากข้างหลัง

 

“นี่! ท่านอยู่ที่นั่นเหรอ? ท่านซัทสึกิน่—”

 

ฉันถูกต้อนเข้าจนมุมจนคิดอะไรไม่ออกเลยว่าฉันอยากจะทำอะไรกันแน่:

หุบปากเถอะน้า ตอนนี้ฉันมีเรื่องสำคัญกว่าต้องทำ ไสหัวไปซักที

สถานการณ์ตอนนี้มันเกินกว่าที่ฉันจะรับไหวแล้ว คิดอะไรไม่ออกซักอย่างเลย

 

“ไม่ได้อยู่ที่นี่! เธอคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่! ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้อยู่ที่นี่น่ะ!”

 

ฉันตะโกนไม่หยุดเหมือนเด็กที่กำลังร้องไห้โวยวาย

ในตอนที่ฉันยังก้มหน้าอยู่ ก็เท้าคู่นึงในรองเท้าบู้ทก็เข้ามาในลานสายตา เห็นแบบนั้น ฉันก็เงยหน้าขึ้นมามองทั้งที่ยังหายใจแทบไม่เข้าปอด

 

อุรุมะ ซัทสึกิ กำลังมองตรงมาที่ฉันด้วยตาสีน้ำเงินคู่นั่นอย่างชัดเจนเลย รู้ตัวอีกที ฉันก็ล้มหงายหลังแล้ว ฉันพยายามจะถอยหนีทั้งๆ ที่ขามันยังอ่อนเปลี้ยไปหมด จนหลังไปชนกับโต๊ะเขียนหนังสือ

จนถึงตอนนี้ ฉันเจอกับอุรุมะ ซัทสึกิ—หรือไม่ก็ตัวตนที่ใช้ร่างของเธอ—มา 2-3 ครั้งแล้ว แต่ล่ะครั้ง ฉันต้องเผชิญหน้ากับความกลัวของตัวเอง ต้องเค้นสมองอย่างเต็มที่ ครั้งนึงฉันใช้ปืน อีกครั้งฉันใช้ตาขวา แล้วอีกครั้งฉันก็เมินเธอไปซะเลย…

แต่ตอนนี้ ฉันทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง คิดอะไรไม่ออกเลย

ตอนที่โทริโกะเปิดโปงการโกหกของฉัน ทุกอย่างที่คอยค้ำจุนฉันเอาไว้มันก็พังทลายไม่มีชิ้นดีเลย

อุรุมะ ซัทสึกิขยับตัวอย่างช้าๆ ด้วยการเคลื่อนไหวอย่างเยื้องย่างที่ชวนทำให้นึกถึงปลาตัวใหญ่ใต้ทะเลลึก เลื่อนสายตาจากฉันไปมองที่คุณโคซากุระ แขนยาวๆ ในแขนเสื้อลูกไม้ยื่นออกไป ใช้นิ้วแตะที่หินกระจกในฝ่ามือของคุณโคซากุระ

 

“อ่า…”

 

คุณโคซากุระส่งเสียงถอนหายใจออกมาอย่างเหงาๆ ในตอนที่อุรุมะ ซัทสึกิหยิบก้อนกระจกขึ้นมา

นอกจากฉันแล้วก็ไม่มีใครมองเห็นเธอคนนั้นเลย ที่ทุกคนมองเห็นก็มีแต่หินกระจกลอยอยู่ในอากาศเองก็เท่านั้น

พอหินกระจกก้อนนั้นถูกยกขึ้นมาจนถึงระดับสายตาของอุรุมะ ซัทสึกิ มันก็ค่อยๆ หมุนด้วยมุมๆ นึงเหมือนกับเป็นลูกข่าง ตาสีน้ำเงินเป็นประกายของเธอสะท้อนบนผิวหน้าของหินนั่น ก่อนที่มันจะหมุนเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเปล่งแสงสีน้ำเงินสว่างออกมาจนสว่างไปทั่วทั้งห้อง

 

“ซัทสึกิ”

 

คุณโคซากุระกระซิบออกมา ก่อนที่ทันทีหลังจากนั้น แสงก็สว่างวาบขึ้น

เสียงดังสนั่นเหมือนฟ้าร้อง พร้อมกับแสงเหนือฟ้าที่เข้ากลืนทุกอย่าง

พอฉันเริ่มฟื้นตัวจากแรงกระแทกแล้วลืมตาขึ้นมา ฉันก็อยู่ในทุ่งหญ้าแล้ว หญ้าสูงโบกไสวไปตามลมภายใต้ท้องฟ้าที่มืดมิด

โลกเบื้องหลังนี่

ถ้าเวลาที่นี่เหมือนกับที่โลกเบื้องหน้าล่ะก็ ตอนนี้ก็เพิ่งจะผ่านตี 4 มาเอง ที่เส้นขอบฟ้ามีสีม่วงมัวๆ อยู่นั่นเพราะดวงอาทิตย์กำลังจะขึ้นงั้นเหรอ?

 

 

อุรุมะ ซัทสึกิ กำลังยืนอยู่ในทุ่งหญ้าโล่งนี่

 

โทริโกะ รูนะ หรือแม้แต่คุณโคซากุระเองก็กลืนน้ำลายดังอึก ป้าขอบคุณคนนั้นกรี๊ดออกมาอย่างหวาดกลัวก่อนจะลงไปนอนหมอบราบกับพื้น ผู้ติดต่อประเภท 4 ทั้ง 2 คนก็ร้องครวญครางออกมาอย่างไม่เป็นศัพท์ ก่อนจะก้มต่ำหมอบไปกับพื้นเหมือนกัน

 

ไม่ใช่แค่ฉันแล้ว ทุกคนสามารถมองเห็นเธอคนนั้นได้อย่างชัดเจนเลย

 

“ซัทสึกิ!”

 

โทริโกะเป็นคนแรกที่ตะโกนขึ้นมา

 

“ในที่สุด… ในที่สุด ก็มองเห็นเธอแล้ว…!”

 

TN: โอ้โห… จะเลวร้ายไปได้ถึงไหนเนี่ย…

ขอแปะ Discord สำหรับแจ้งเตือนนิยาย กับมุมพูดคุยกันไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ใครสนใจก็แวะมาได้นะ ^^
https://discord.gg/Fm9NsqeH2r

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด