ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม 406 หนทางพารวยช่างง่ายดาย
สำหรับสำนักความร่วมมือบำเพ็ญเซียนแล้ว วันนี้เป็นวันพิเศษ
ข่าวหนึ่งแพร่สะพัดไปทั่วรั้วสำนัก ซาลาเปาต้าไป๋เมินของเซียนกระบี่อันหลิน ดาราอันดับหนึ่งของสำนักเริ่มขายอย่างเป็นทางการแล้ว!
หน้าประตูเขตบ้านพักชั้นปีที่สาม ซาลาเปาหนึ่งร้อยเข่งวางซ้อนกันสูง ดึงดูดสายตาปานเสาสูงเสียดฟ้า
ฟ้าเพิ่งเริ่มสาง ที่นี่ก็มีคนหลายร้อยคนเบียดเสียดยัดเยียดแล้ว ต่างก็พากันมามุงดู
ไม่พูดไม่ได้ว่า การโฆษณาจากซาลาเปาที่อันหลินแจกจ่ายเมื่อวานได้ผลดีทีเดียว เหล่านักเรียนต่างก็กระตือรือร้นกันมาก
ใต้กระทะก้นแบน เพลิงเทวะสุริยะกำลังลุกโชน ไอร้อนสีขาวผุดขึ้นจากกระทะปานมังกรแหวกว่าย ซาลาเปายังไม่สุก ฝูงชนก็เริ่มพูดคุยกันอื้ออึงแล้ว
โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเห็นราคาบนแผ่นไม้ด้านหน้าซาลาเปาร้อยเข่ง ต่างก็พากันหายใจเข้าดังเฮือก
‘ซาลาเปาต้าไป๋เมิน เข่งละหนึ่งพันหินวิญญาณ’
“คุณพระ อันหลินบ้าไปแล้วกระมัง ซาลาเปาเข่งละพันหินวิญญาณ!”
“หนึ่งพันหินวิญญาณซื้อยาวิเศษที่ไม่เลวได้เม็ดหนึ่งเลยนะ ซาลาเปานี่แพงขนาดนี้ คิดว่าพวกเราเป็นคนโง่เงินหนาหรือ”
“ข้าบอกแล้วว่าสหายอันหลินข้ามอสนีบาตถูกสายฟ้าสวรรค์ฟาดจนสมองกลับแล้ว เจ้าก็ไม่เชื่อ ตอนนี้เชื่อแล้วสินะ”
“ฮ่าๆ พวกเราก็แค่มุงดูที่นี่ ถือโอกาสดูสิว่าจะมีนักเรียนหน้าโง่เงินหนาคนไหนมาซื้อซาลาเปา”
…
ผู้คนวิจารณ์กันไม่ขาดสาย แต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคำพูดที่ไม่เข้าใจถึงขั้นว่าถากถาง
อันหลินกำลังตั้งใจบังคับไฟอยู่อีกมุม ทำหูทวนลมกับถ้อยคำวิจารณ์พวกนั้น
เพราะเรื่องที่เขาชื่นชอบที่สุดก็คือ…ใช้ซาลาเปาตบหน้าคนพวกนั้น!
เขามั่นใจกับสิ่งนี้มาก เชื่อว่าอีกหนึ่งชั่วยามข้างหน้า ชาวจีนมุงเหล่านี้จะยิ้มไม่ออกแน่นอน
คนมากันเยอะขึ้นเรื่อยๆ หน้าประตูมีคนออกันร่วมพันคนโดยไม่รู้ตัว บางส่วนขำกับวิธีการนึ่งซาลาเปาที่พิลึกกึกกือ บางส่วนกลับตกใจกับราคาหนึ่งพันหินวิญญาณ
“ศิษย์พี่อันหลิน ไม่ว่าซาลาเปาของท่านจะเป็นอย่างไร ข้าก็จะซื้อแน่!”
“เทพอัน ท่านเป็นความเชื่อของพวกเรา ซาลาเปาต้าไป๋เมิน ข้าซื้อแน่!”
“หนึ่งพันหินวิญญาณจะเท่าใดกันเชียว ข้ายอมกินยาบำรุงผิวน้อยลงเม็ดหนึ่ง!”
แฟนคลับตัวยงก็มากันพร้อมหน้า ตะโกนสนับสนุนเสียงดัง
คนมีสติบางส่วนพากันส่ายหน้าถอนใจ แม้จะเล่าลือกันว่าซาลาเปาต้าไป๋เมินอร่อยอย่างยิ่ง แต่คงไม่ถึงขั้นเข่งละหนึ่งพันหินวิญญาณหรอกกระมัง มันเกินราคาที่ซาลาเปาควรเป็นไปไกลแล้ว
ขณะที่เสียงวิจารณ์ของผู้คนร้อนแรงขึ้นทุกที อันหลินก็เริ่มกวาดตามองนักเรียนที่ล้อมมุงดู ชี้ตำแหน่งด้านหน้าตนพร้อมกับตะเบ็งเสียงว่า
“ซาลาเปาได้ที่แล้ว คนที่จะซื้อมาเข้าแถวตรงนี้!”
นักเรียนส่วนใหญ่ได้ยินก็อดขำไม่ได้ คิดว่านักเรียนที่หน้าโง่เงินหนามีเยอะปานนั้นเชียวหรือ ซาลาเปาราคาสูงลิ่วแบบนี้จะมีคนมาเข้าแถวซื้อหรือ
คงไม่ได้เสียสติไปแล้วหรอกนะ
แต่ในตอนนั้นเอง เงาดำทั้งหลายก็พุ่งพรวดมาประหนึ่งสายฟ้าฟาด ความเร็วหอบเอาลมพัดถึงขั้นทำให้นักเรียนกลุ่มหนึ่งถอยหลัง
“ข้ามาก่อน เจ้าห้ามแซงนะ!”
“พับผ่าสิ เจ้าหน้าไม่อายหรือไง ข้าถึงก่อนแท้ๆ!”
“เลิกเบียดได้แล้ว จะทับกันตายแล้ว!”
…
นักเรียนร่วมพันคนมีนับร้อยคนพากันเข้าแถวภายในหนึ่งวินาที
นักเรียนที่เหลืองงกันถ้วนหน้า อะไรกัน คนพวกนี้กำลังแย่งอะไรกัน
แม้แต่แฟนคลับตัวยงบางส่วนก็ไม่เข้าใจ พวกเขาแค่คิดว่าจะซื้อซาลาเปาเข่งเดียวอุดหนุนสักหน่อย แต่ผู้คนตรงหน้ากลับเข้าแถวภายในวินาทีเดียว นักเรียนที่ถึงขั้นว่ายื้อแย่งกันมันอย่างไรกันแน่
“เถ้าแก่ ข้าขอซาลาเปาหนึ่งร้อยเข่ง!”
คนแรกของแถวเป็นหญิงสาวผมสั้นสีชมพู ท่าทางงดงามอย่างยิ่ง โบกไม้โบกมือตะโกนเสียงดัง
คุณพระ! ครั้งละหนึ่งร้อยเข่งเลยหรือ
นักเรียนที่เหลือต่างก็หน้ามืด กะไม่เหลือให้คนอื่นเลยหรือ!
“คุณพระ เทพหลิวบ้าไปแล้ว มันหนึ่งแสนหินวิญญาณเชียวนะ!”
“เป็นไปไม่ได้ เทพหลิวน่าจะโฆษณาให้ศิษย์พี่อันหลิน”
“บ้านเจ้าโฆษณาด้วยการขายสินค้าของตัวเองให้คนคนเดียวทั้งหมดในครั้งเดียวหรือ ศิษย์พี่อันไม่ต้องหารายได้ ไม่ให้มวลชนคลุกคลีกับสินค้าของตัวเองหรือไง”
“…”
อันหลินจ้องหลิวเชียนฮ่วนที่เป็นคนแรกของแถวแล้วกลอกตา พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “จำกัดแค่คนละสองเข่ง!”
เมื่อสิ้นประโยคนี้ ฝูงชนก็ฮือฮาขึ้นมาทันที
หลิวเชียนฮ่วนถลึงตาใส่อันหลิน “งั้นข้าขอสองเข่ง!”
“ข้าก็ขอสองเข่งเหมือนกัน” ชายคนหนึ่งพูดต่อข้างหลัง
“ข้าก็สองเข่งเหมือนกัน!” มีคนตะโกนขึ้น
“เถ้าแก่ ข้าขอสามเข่ง ข้าให้สี่พันหินวิญญาณ!” หญิงคนหนึ่งพูดอย่างตื่นเต้น
อันหลินเบะปาก “ข้าเป็นคนซื่อสัตย์ที่ทำการค้าอย่างสุจริต ต่อให้เจ้าเสนอราคาเข่งละหนึ่งหมื่น ข้าก็จะขายให้แค่สองเข่ง!”
ทุกคน “…”
ด้วยเหตุนี้ ภาพประหลาดจึงบังเกิดขึ้น
หากเป็นนักเรียนที่เข้าแถว มากกว่าร้อยละแปดสิบต่างก็ซื้อสองเข่ง!
กระทั่งสองเข่งสุดท้าย อันหลินตั้งใจว่าจะเก็บไว้กินเองไม่ขาย!
ซาลาเปาต้าไป๋เมินขายหมดภายในสิบนาที นักเรียนหลายสิบคนที่เข้าแถวข้างหลังร้องไห้คร่ำครวญ เสียใจยิ่งนัก โทษตัวเองว่าทำไมไม่มาไวกว่านี้ ทำไมเชื่องช้าปานนี้
นักเรียนหลายร้อยคนที่มุงดูงงเป็นไก่ตาแตก
“พวกเขาเป็นหน้าม้าหรือไม่”
“เจ้าเคยหน้าม้าคนไหนไปเข้าแถวซื้อซาลาเปา พอไม่ได้แล้วเสนอราคาสองร้อยหินวิญญาณซื้อซาลาเปาลูกหนึ่งจากลูกค้าคนอื่นบ้าง”
“…”
ซาลาเปาเข่งหนึ่งมีสิบลูก ซาลาเปาลูกละสองร้อยหินวิญญาณ กลายเป็นซาลาเปาเข่งละสองพันหินวิญญาณ ราคาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว มันทำเอาตะลึงกันถ้วนหน้า
ชายหนุ่มที่ไม่เชื่อคนหนึ่งวิ่งเข้าไปหานักเรียนที่ซื้อซาลาเปาหนึ่งเข่งแล้วเอ่ยว่า “สหาย ข้าอยากซื้อซาลาเปาลูกหนึ่งกับเจ้าด้วยราคาสองร้อยหินวิญญาณ”
นักเรียนคนนั้นแสยะยิ้ม “ฝันไปเถอะ!”
ชายคนนั้นชะงัก จากนั้นก็กัดฟันพูดว่า “สามร้อยหินวิญญาณ!”
“ก็ได้ เห็นแก่ที่เจ้าน่าสงสารเพราะไม่เคยกิน ขายให้เจ้าลูกหนึ่งแล้วกัน” นักเรียนคนนั้นเหลือบมองชายหนุ่ม ในที่สุดก็ตกปากรับคำ
ด้วยเหตุนี้ ชายหนุ่มจึงซื้อซาลาเปาลูกหนึ่งมาในราคาสามร้อยหินวิญญาณ
เพื่อนของชายหนุ่มหัวเราะลั่นอยู่อีกมุม “ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะทำเรื่องที่โง่เง่าเช่นนี้ ติดกระแสความขาดสติมาหรือไง ฮ่าๆ ๆ…”
ชายหนุ่มลูบซาลาเปาสีขาวนุ่ม ฝืนพูดว่า “ข้าแค่อยากเปิดโปงกลโกงของการขายซาลาเปาครั้งนี้! ข้าเพียงแค่จ่ายเงินเพื่อความจริง เจ้าจะไปรู้อะไร!”
ชายหนุ่มพูดพลางกัดซาลาเปาไปคำหนึ่ง
ชั่ววินาทีนั้น เขาร้องไห้ “ฮือ…ในโลกนี้มีซาลาเปาที่โอชารสปานนี้อยู่ด้วยหรือ…ทำไมเมื่อครู่ข้าไม่เข้าแถว ข้าเสียใจ…”
ชายหนุ่มกินไปร้องไห้ไป ผองเพื่อนมองดูด้วยความตะลึงพรึงเพริด
เหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันเกิดขึ้นในกลุ่มคนอย่างต่อเนื่อง ชื่อเสียงของซาลาเปาต้าไป๋เมินเริ่มแพร่กระจาย โดยเฉพาะนักเรียนที่ไม่เชื่อถากถางเหน็บแนมในตอนแรก หลังได้กินซาลาเปาก็อาการแย่ ทั้งอับอาย รู้สึกผิด และอยากกินอีก
อันหลินเก็บกระทะก้นแบนเงียบๆ ออกจากกลุ่มคน ไม่เปิดเผยชื่อและวีรกรรม
ทำไมเขาขายไม่เยอะ แถมยังจำกัดจำนวนการซื้อด้วย ก็เพื่อกลยุทธ์กระตุ้นความอยาก มีแต่วิธีนี้ ธุรกิจซาลาเปาของเขาถึงจะดำเนินอย่างยาวนานได้!
วันต่อมา อันหลินก็มาตั้งแผงที่หน้าประตูเขตบ้านพักแต่เช้าตรู่
ครั้งนี้นักเรียนมารวมตัวกันร่วมพันคน!
อันหลินไม่พูดพร่ำทำเพลง วางป้ายราคาลงตรงหน้าซาลาเปาร้อยเข่ง
‘ซาลาเปาต้าไป๋เมิน เข่งละหนึ่งพันสองร้อยหินวิญญาณ จำกัดคนละสองเข่ง!’
ผู้คนแตกตื่นอีกครั้งทันที!
“พ่อค้าไร้จิตสำนึก เมื่อวานยังเข่งละหนึ่งพันหินวิญญาณอยู่เลย วันนี้ขายตั้งหนึ่งพันสองร้อยหินวิญญาณ ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป คงจะขึ้นราคาเป็นเข่งละหนึ่งหมื่นหินวิญญาณแล้ว”
“คว่ำบาตร วิธีแบบนี้จำต้องคว่ำบาตร!”
“ใช่ วันนี้พวกเราไม่ต้องซื้อ ข่มเหงกันเกินไปแล้ว คิดว่าพวกเราโง่หรือไง”
“เหอะๆ ข้าจะรอดูตรงนี้แหละว่าสหายอันหลินจะขายหน้าอย่างไร”
…
กับความไม่พอใจของเหล่านักเรียน อันหลินนึ่งซาลาเปาอย่างไม่ยี่หระ
“ซาลาเปาได้ที่แล้ว ทุกคนมาเข้าแถวตรงหน้าข้า!” อันหลินตะโกนทันใด
ครืน
ร่างทั้งหลายแหวกอากาศมาพร้อมกับลมพายุเป็นระลอกๆ
ภายในหนึ่งวินาที แถวยาวของคนสองร้อยกว่าชีวิตก็บังเกิด!
นักเรียนที่มุงดู “…”
ด้วยเหตุนี้ วันนี้ซาลาเปาของอันหลินจึงขายแค่เก้าสิบห้าเข่ง ใช้เวลาแปดนาที สร้างสถิติใหม่แล้ว
ส่วนอีกห้าเข่งที่เหลือ เขาจะเอากลับไปกินเองที่บ้าน
เวลาเพียงสองวัน ทำรายได้ไปสองแสนกว่าหินวิญญาณ
หาเงินง่ายดายแบบนี้นี่แหละ!
Comments