[LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก 60 Volume 3 Chapter 2 ภารกิจใหม่ Part 3

Now you are reading [LN] เรื่องเล่าขานตำนานวีรบุรุษต่างโลก Chapter 60 Volume 3 Chapter 2 ภารกิจใหม่ Part 3 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Part 3

หลังจากขนย้ายสัมภาระ ฮิโระกับลิซก็ปล่อยให้โรซ่าคอยจัดการส่วนที่เหลือและมุ่งหน้าไปยังเขตตะวันออก เช่นเดียวกับการมาเยือนครั้งก่อน ถนนทางตะวันออกยังเต็มไปด้วยนักผจญภัยและทหารรับจ้าง

 

ระหว่างทางผ่านป้อมยามและโรงแรมและเดินไปตามตรอกซอกซอยที่ปกคลุมด้วยความมืด ขณะผ่านเส้นทางนั้นไปก็เจอกับแสงสีขาวของวิหารที่ส่องลงมา สว่างไสวไปด้วยแสงจากท้องฟ้า ในลานกว้างมีเด็กๆที่วิ่งเล่นกันอย่างมีความสุข

 

“งดงามจริงๆ! แถมยังมีธรรมชาติปกคลุมในที่แบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย!”

 

ลิซยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

 

“ไม่เคยมาที่นี่มาก่อนเหรอ?”

 

ฮิโระถามลิซ  

 

“ไม่เลย ฉันพยายามหนีออกจากพระราชวังหลวงอยู่หลายครั้ง แต่ท่านพี่โรซ่าจับตาดูฉันตลอดเวลาเลย ทำให้ฉันไม่สามารถมายังที่แบบนี้ได้ และสถานการณ์ตอนนั้นไม่ปลอดภัยด้วย.”

 

และตอนนั้นยังไม่มี “ลิเวียธาน” ลิซเสริมและนอนบนสนามหญ้า

 

“งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นผ่อนคลายให้เต็มที่เถอะ แน่ใจว่าพวกเด็กๆจะต้องต้อนรับเธอแน่ๆ”

 

จากนั้นฮิโระก็หันไปมองร่างทั้งสองที่ด้านหลัง

 

“ท่านฮิโระ ขอผมพักที่นี่ได้ไหมครับ พอดีเล่นเอาหมดแรงเลย…”

 

ชายคนหนึ่งที่แบกสัมภาระจำนวนมากพูดและนั่งลงบนพื้น

 

ชื่อของเขาคือมุนิน มีผิวสีน้ำตาลและใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น แม้จะรูปร่างหน้าตาดี แต่บุคลิกของเขากลับทำตัวเอื่อยเชื่อย แต่เมื่อได้เข้าร่วมกับกองทัพปลอแอค ก็ทำงานในฐานะมือขวาของกาด้าและความสามารถเองก็ไร้ที่ติ

 

“พูดอะไรน่าสมเพชแบบนั้นกัน อย่างแสดงท่าทางแบบนั้นต่อพี่ชายแสนฉลาดคนนั้นสิ!”

 

ฮุกิน น้องสาวของมุนิน เธอแสดงท่าทีโกรธเกรี๊ยวต่อพี่ชายของเธอ ในกองทัพปลดแอค เธอเป็นคนที่เฝ้าดูแลมิลล์และเป็นหัวหน้ากลุ่มทาส

 

เธอเชี่ยวชาญทักษะด้านธนูและสวมชุดเกราะเบาเพื่อเน้นความคล่องแคล่ว แต่เธอได้ทำการดัดแปลงอุปกรณ์เหล่านั้นเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้มากยิ่งขึ้น เธอนั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่กล้ามเนื้อที่เธอมีก็เด่นชัดที่ดูแลร่างกายอย่างดี แทนที่จะไปด้านดึงดูดเพศตรงข้าม

 

“ฉันเองก็เหนื่อยเหมือนกัน แม้ว่างานฉันจะเบากว่า แต่มันก็ยากกว่าที่คิดไว้มาก แต่ฉันพยายามทำงานโดยไม่บ่นสักคำเดียว แต่พี่ชายอะ ทำอะไรของพี่ ทำแค่นี้ยังบ่นอีก!”

 

“หยุดทำร้ายคนไม่มีพิษภัยได้แล้ว ผมไม่ได้เลี้ยงดูเธอมาให้เป็นผู้หญิงโหดเหี้ยมแบบนี้นะ”

 

“หุบปากเลยทั้งคู่!”

 

ฮิโระยิ้มเจื้อนๆกับการทะเลาะกันของพี่น้องตามปกติ

 

กระสอบผ้าใบที่พวกเขาแบกมานั้นมีขนมและของเล่น มีไว้เพื่อแจกจ่ายแก่เหล่าเด็กๆที่กลายเป็นเด็กกำพร้าจากสงครามและมอบให้กับทางวิหารภูติ ปริมาณอาหารสำหรับหลายสิบคนที่จำนวนไม่น้อย และค่อนข้างไกลจากพระราชวังหลวงจนมาถึงที่นี่ ไม่ว่าจะฝึกฝนอย่างดีแค่ไหน มันก็ยังยาก

 

ด้วยจำนวนน้ำหนักที่มากขนาดนั้น ฮิโระพยายามจะใช้รถม้าด้วยซ้ำ

 

“ฮิฮิ เป็นยังไงล่ะท่านฮิโระ นี่แหละงานที่เหมาะกับพวกเราเลยนะ ! ไม่จำเป็นต้องใช้รถม้าให้เปลืองเงินเลย!”

 

“ถ้าจำนวนแค่นี้ไม่มีปัญหาหรอกเพราะงั้นผมเองก็พอไหวอยู่น่า เพราะงั้นพาพวกเราไปด้วยเถอะ!”

 

ด้วยคำขอของสองพี่น้องและวิงวอนฮิโระ เป็นความคิดที่ดีที่จะพาพวกเขามาด้วยและคงรู้สึกแย่ที่จะปฏิเสธพวกเขา

 

เมื่อมองไปที่พวกเขาก็เห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้า

 

“อืม….ทั้งสองคนคงจะเหนื่อยมากเลยสินะ เดี๋ยวชั้นจะดูแลส่วนที่เหลือเอง ขอบคุณมากนะ”

 

หลังจากนั้นฮุกินก็วางสัมภาระลงบนพื้นและรีบวิ่งไปหาฮิโระด้วยความตื่นตระหนก

 

“พะพวกเราไม่ได้หมายความแบบนั้นนะคะ พวกเราไม่ได้เหนื่อยเลย! พวกเรายังมีพลังงานเหลืออีกเยอะมากถึงขนาดวิ่งรอบเมืองได้เลยนะคะ!”

 

ฮิโระไม่เข้าใจหรอกว่าหมายความว่าไง แต่ดูเหมือนเธอจะเป็นแบบนั้น

 

จากนั้นมุนินก็หัวเราะใส่น้องสาวของเขา

 

“ไม่อยากให้ท่านฮิโระที่รักฝืนใช่ไหมล่ะแม่น้องสาวเอ๋ย?”

 

“หะ หือ พะพะพะพะพูดบ้าอะไรนะตานี่? เขาเป็นพี่ชายสุดฉลาดที่เป็นคนสำคัญ แต่มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะ ไม่สิ แต่มันก็มีเรื่องแบบนั้นบ้าง เอ๋เดี๋ยวก่อนพี่ชายพยายามให้ฉันพูดบ้าอะไรเนี่ย?”

 

“ก็ผมบอกแล้วให้หยุดกระทืบได้แล้ว! เตะตูดผมจนจะถึงขีดจำกัดแล้วนะ”

 

เมื่อเห็นพวกเขากระฉับกระเฉงกว่าที่เขาคาดไว้ ฮิโระก็เลิกยุ่งกับทั้งสองและมองไปข้างหน้า

 

“ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่มีใครหนีได้หรอก!”

 

“ขาพี่สาวสวยจังเลยค่ะ!”

 

ภาพของลิซที่กำลังเล่นกับเด็กๆเข้ามาในสายตา

 

“…จะสนิทสนมกับพวกเด็กๆเร็วเกินไปแล้ว”

 

หลังจากฮิโระประทับใจความสามารถในการปรับตัวของลิซ เขาสังเกตเห็นว่ามีคนดึงเสื้อคลุมเขาอยู่

 

“นี่ นี่ พี่ชายคะ.”

 

มีเด็กสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ซึ่งดูคุ้นเคยเป็นอย่างมากแม้ใบหน้าจะเปื้อนเพราะเล่นหนักไปหน่อย แต่ว่าเป็นเด็กสาวที่ออร่าคนนั้นเอ็นดู

 

“หืมมม? มีอะไรให้รับใช้เหรอครับคุณหนู?”

 

“พี่สาวออร่าไปไหนเหรอคะ?”

 

“เอ๋พี่สาวออร่าเหรอ………วันนี้พี่สาวเค้ายุ่งมากเลยมาไม่ได้น่ะ.”

 

“อ่าาา แบบนี้ก็แย่เลยสิคะ”

 

เมื่อเห็นเด็กสาวคนนั้นหดหู่ ฮิโระก็รู้สึกเจ็บปวด และเขาก็ลูบหัวเธอ จากนั้นก็ยกมือขึ้นและชี้นิ้วไปทางด้านหลัง

 

“แต่ว่าวันนี้พี่ชายกับพี่สาวคนนี้เอาขนมและของเล่นมาฝากให้ด้วยนะ อย่าหดหู่ไปเลย.”

 

“จริงเหรอคะ?”

 

ใบหน้าของเธอเปล่งประกายด้วยความดีใจ และเธอกระโดดขึ้นลงด้วยความดีใจ

 

“อืม ไปหยิบได้เลยและ————-อ่า…ไปซะแล้ว.”

 

เด็กสาวคนนั้นวิ่งหนีไปโดยไม่ฟังคำพูดของฮิโระ

 

“พี่สาวนมใหญ่ ขอขนมหน่อยค่าาาาาาา!”

 

“ฮี้ เด็กสาวเปื้อนดินเข้าโจมตีฉันแล้วค่าาาาา!”

 

ฮุกินกรีดร้องเมื่อจู่ๆก็ถูกเด็กสาวเข้าไปกอด

 

“ขอขนมหวานหน่อยน้า พี่สาวนมใหญ่น้าาาาาาาาา!”

 

“จะจะจะจ้า เดี๋ยวพี่สาวคนนี้จะหยิบให้นะ ดังนั้นช่วยหยุดดึงเสื้อผ้าของพี่สาวได้ไหม ไปเรียนรู้เรื่องแบบนั้นมาจากไหนกันคะ?”

 

“โฮะโฮะ มุมนี้อย่างแหล่ม”

 

“อย่ามายิ้มพร้อมกับมองด้วยสายตาแบบนั้นนะ!”

 

“ฮี้?”

 

ฮุกินที่ปลดปล่อยธาตุแท้ของเธอเตะก้นมุนิน

 

ดังนั้นอาจเพราะได้ยินคำว่า “ขนมหวาน” เด็กสาวจำนวนมากจึงรีบวิ่งมาหาใกล้ๆฮุกิน

 

“เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย?”

 

“ฮี้ มาเยอะเกินไปแล้วแบบนี้ฉันรับมือไม่ไหวหรอกค่าาาาากับเด็กๆพวกนี้! อย่าเข้ามาน้าาาาาาา!”

 

แม้จะพูดแบบหยาบเล็กน้อย ในอดีตฮุกินและมุนินก็เคยอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกับเด็กพวกนี้

 

“ขอขนมหวานหน่อยค่าาาา!”

ด้วยเหตุผลบางอย่าง หญิงสาวผมสีแดงเพลิงกำลังเข้าไปกอดฮุกิน แต่มันคงเหมือนกับสรวงสวรรค์ของชายหนุ่มเกินไป ฮิโระจึงเบือนหน้าหนีทันที

ตรงกันข้ามกับภายนอกที่เงียบสงบ เมื่อเขาหายใจอากาศบริสุทธิ์ก็เข้าไปเต็มปอด ฮิโระมองไปรอบๆก็รู้สึกว่าจิตใจของเขาได้ถูกชำระล้าง

 

มีคนไม่มากสองสามคนในวิหารภูติที่ทับซ้อนกับแท่นของราชันภูติ ในมุมหนึ่งมีมิโกะที่คอยเฝ้าดู

 

มิโกะคนนั้นเหมือนจะสังเกตเห็นฮิโระและเข้าหาเขาอย่างเงียบๆ

 

“ฝ่าบาทฮิโระ ขอบคุณที่อุตสาห์ลำบากมาถึงที่นี่นะคะ.”

 

“ต้องขอโทษด้วยนะครับที่มาโดยไม่แจ้งล่วงหน้าแบบนี้ พอดีว่ามีของมาให้ครับ…”

 

ฮิโระยื่นมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและหยิบสิ่งหนึ่งขึ้นมา

 

“ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ดิฉันซาบซึ้งในน้ำใจของท่านจริงๆ.”

 

มิโกะห่อกระเป๋าไว้ในมือของเธออย่างระมัดระวัง กระเป๋ากระทบดังๆ มันเป็นเสียงของเหรียญทองและเงินที่อยู่ข้างในเสียดสีกัน

 

แหล่งรายได้หลักของวิหารภูติมาจากการบริจาคของเหล่าผู้นับถือ ส่วนที่เหลือเป็นเงินอุดหนุนจากจักรวรรดิแกรนท์และประเทศข้างเคียงอย่างบัลม์ แต่ว่าทั้งหมดก็มีไว้เพื่อบำรุงรักษาวิหารภูติ ไม่ได้รวมไปถึงค่าอาหารของเหล่าเด็กๆ ดังนั้นมิโกะในวิหารภูติส่วนใหญ่มักจะเฉือนเนื้อตัวเอง(เงินเดือน) มาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้กับเด็กๆ แต่ฮิโระก็ไม่อยากให้เธอทำแบบนั้นก็เลยบริจาคเงินเป็นประจำ

 

“ในฐานะมิโกะแล้ว ขอชื่มชมเลยค่ะว่าท่านมีจิตใจอันดีงามมาก”

 

มิโกะนั้นมีดวงตาชื้นๆอยู่บนใบหน้าของเธอและบีบมือของฮิโระราวกับจะบอกว่าประทับใจ

 

“ขอให้ราชันภูติอวยพรแก่ท่าน ฝ่าบาทฮิโระ――.”

 

ฮิโระยิ้มให้กับมิโกะที่เริ่มสวดอวยพรและบอกเธอว่าทำไมเขาถึงมาที่นี่

 

“เอิ่ม ได้รับจดหมายของมิโกะท่านอื่นไหมครับ?”

 

ฮิโระได้ส่งจดหมายไปหามิโกะก่อนออกจากป้อมปราการเบิร์ก และเขาน่าจะได้รับคำตอบที่นี่ ขณะที่สงสัย เงียบลง พยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ปรบมือเล็กน้อย

 

“อ่า นั่นสินะคะ แน่นอนค่ะ อัศวินภูติเพิ่งนำมาส่งเมื่อคืนนี้ค่ะ.”

 

มิโกะปล่อยมือฮิโระและหายเข้าไปที่ไหนสักแห่ง และกลับมาพร้อมกับซองจดหมายแวววาวในมือของเธอ

 

“นี่ค่ะ จดหมาย ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะคะ ดิฉันไม่ได้เปิดอ่านแม้แต่นิดเดียวค่ะ.”

 

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ในเนื้อหาไม่มีอะไรต้องกังวลเป็นพิเศษเลยครับ”

 

กาด้าปรากฏตัวในทวีปกลางได้ยังไง? หมู่เกาะทางตอนใต้ปิดกั้นด้วยคลื่นที่โหมกระหน่ำทำให้ไม่สามารถเข้าออกได้ ถ้าเขาเป็นคนธรรมดาคงตายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม กลับถูกซัดขึ้นฝั่งมายังราชอาณาจักรลิชไทน์ ดูเหมือนว่าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองเหมือนกัน ฮิโระเลยได้แต่ขอร้องกับมิโกะแห่งวิหารภูติเพื่อช่วยไขปริศนา

 

“หวังว่าสิ่งที่ผมคาดการณ์ไว้จะไม่ผิดนะ…”

 

หากเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่นอกกรอบข้อมูลที่เขามีก็คงไม่สามารถจดจำได้ และนั่นก็คงเหนือคำพยากรณ์ของมิโกะเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ฮิโระฉีกจดหมายและมองไปยังเนื้อหาด้านใน

 

น่าเสียดาย———–ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ จดหมายเขียนสั้นๆและตรงประเด็น

 

“อย่างที่คิดเลย แม้แต่เธอก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ ถ้าสามารถหลอกสายตาของมิโกะได้แบบนั้นก็ลำบากแล้วล่ะ.”

 

มิโกะแห่งวิหารภูติมีเนตรพิเศษอยู่กับตัวซึ่งเป็นหนึ่งในสามเนตรในตำนานของโลกนี้ และเป็นที่รู้จักกันว่า”เนตรหยั่งรู้”ซึ่งเป็นเนตรที่จะสืบทอดกันผ่านมิโกะแต่ละรุ่น

 

อย่างไรก็ตาม แม้แต่ฮิโระก็ไม่ทราบถึงพิธีกรรมเหล่านั้น เนื่องจากเป็นความลับต่อสาธารณชน

 

“คิดว่าเร็วๆนี้ต้องไปที่วิหารราชันภูติ”

 

จะดีกว่าถ้าพูดคุยกับมิโกะที่วิหารราชันภูติด้วยตัวเองและได้ตรวจสอบวิธีเพิ่มเติม

 

ฮิโระเก็บจดหมายใส่กระเป๋าเสื้อและโค้งคำนับให้กับมิโกะ

 

“ถ้าอย่างงั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ผมต้องรีบกลับไปที่พระราชวังเร็วๆนี้.”

 

“อาระ งั้นเหรอคะ? อย่างน้อยก็พักดื่มชาสักหน่อยไหมคะ?”

 

“ขอโทษด้วยนะครับ แต่พอดีกำลังมีคนรออยู่ด้านนอก”

 

“งั้นเหรอคะ………ถ้างั้นไว้โอกาสหน้าแล้วกันค่ะ โชคดีในการเดินทางนะคะ”

 

หลังจากบอกลากันแล้ว ฮิโระก็ออกไปข้างนอก

ณ ลานกว้าง เด็กๆที่กำลังเล่นของเล่น—–ห่างจากลิซและคนอื่นๆ กำลังนั่งลงราวกับว่าเล่นกันจนเหนื่อยเต็มที่แล้ว ฮิโระเดินไปหาพวกเขาและตะโกน

 

“นี่แจกของให้เหล่าเด็กๆครบรึยัง?”

 

“ค่าาาา แจกให้พวกเขาหมดแล้วดูเหมือนจะชอบใจกันมากด้วย”

 

“ถ้างั้นกลับพระราชวังกันเถอะ ฮุกิน มุกิน ไหวไหมเนี่ย?”

 

“หืออ…”

 

“ค่า ดิฉันเตรียมพร้อมที่จะวิ่งตลอดเวลา!”

 

“ไม่ ไม่จำเป็นต้องวิ่งหรอก! ยังมีเวลาเหลืออีกมากมาย.”

ฮิโระยิ้มให้กับฮุกินที่ยังคงร่าเริงซึ่งไม่เหมือนกับพี่ชายของเธอที่ตอบอย่างเอื่อยเฉื่อย

 

 

สนับสนุนผู้แปลได้ที่ QR Code ข้างล่าง หรือเลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ 

ลงให้อ่านแค่สองที่เท่านั้นคือ Goshujin.tk กับ Nekopost อ่านจากที่อื่นไม่มีภาพประกอบเพราะโดดดูดไปลงนั่นเอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด