ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 1403 ที่แห่งนั้นดีมาก

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 1403 ที่แห่งนั้นดีมาก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1403 ที่แห่งนั้นดีมาก

“เมิ้งเย่? เจ้ามาที่นี่ได้อย่างใด?”

ในตอนนี้ผู้อาวุโสวั่นเจิงกำลังอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก ตอนที่เห็นผู้อาวุโสเมิ้งเย่ ใบหน้าของเขายังยิ้มแย้มแจ่มใส

“แน่นอนว่ามาส่งของให้เจ้าไง!”

ผู้อาวุโสเมิ้งเย่ตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ

ขณะที่พูดเขาก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าแล้ว ทันทีที่ปลายเท้าแตะพื้น เขาก็เห็นฉู่หลิวเยว่ที่ยืนอยู่ด้านข้างแล้ว

ในตอนนั้นเขารู้สึกตกใจขึ้นเป็นอย่างแรก ก่อนจะนึกอันใดบางอย่างขึ้นมาได้ รอยยิ้มก็ฉีกกว้างขึ้นกว่าเดิม

“โอ้! ฉู่เยว่! เจ้าก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ? เป็นอย่างใดบ้าง ร่างกายเจ้าดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่?”

ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจออกมา

เหมือนว่าทั้งสำนักจะรู้เรื่องที่นางสลบไปเป็นเวลานานแล้ว

“ขอบคุณผู้อาวุโสเมิ้งเย่ที่ใส่ใจขอรับ”

ฉู่หลิวเยว่โค้งคำนับ

“ข้าเพิ่งฟื้นวันนี้ ร่างกายแข็งแรงมากขึ้นแล้ว เพียงแค่อยากจะมาคารวะอาจารย์ คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญขนาดนี้ ไม่ทราบว่าช่วงนี้ผู้อาวุโสเมิ้งเย่เป็นอย่างใดบ้างขอรับ?”

ผู้อาวุโสเมิ้งเย่โบกพัดใบปาล์ม แล้วหัวเราะเสียงดัง

“ดี! ดีแน่นอน!”

เขาอยู่ในสำนัก ดูแลหุบเขาวาโยโอสถ ปลอดภัยมั่นคงเป็นอย่างยิ่ง จะไม่ดีได้อย่างใด?

คนที่ไม่ดีน่ะ เกรงว่าจะคนที่ไปบุพกาลชายแดนเหนือเหล่านั้นเสียมากกว่า!

“จริงสิ วั่นเจิงที่วันนี้ข้ามา เพราะต้องการจะมอบของบางอย่างให้เจ้า”

ผู้อาวุโสเมิ้งเย่หัวเราะเบาๆ

ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ในตอนนั้นนางมีความคิดที่อยากจะหลบฉากออกไป

“อาจารย์ ผู้อาวุโสเมิ้งเย่ พวกท่านทั้งสองคุยธุระกันไปเถอะ ข้าไม่รบกวนแล้ว”

ผู้อาวุโสวั่นเจิงรีบพูดขึ้นมาว่า

“โอ้ เจ้าเพิ่งมาก็จะจากไปแล้วหรือ? พวกเราศิษย์อาจารย์ยังไม่ได้คุยอันใดกันเลย!”

มุมปากของฉู่หลิวเยว่กระตุกขึ้น

หากถ้าอยู่ต่อไป เกรงว่าจะไม่สามารถพูดจาดีๆ กันได้แล้ว

ผู้อาวุโสเมิ้งเย่หัวเราะหึๆ

“เด็กอยากจะไป ก็ปล่อยให้เขาไปเถอะ! ร่างกายของเขาเพิ่งจะฟื้นตัว และมีเรื่องอีกไม่น้อยที่ต้องจัดการ! ฉู่เยว่เจ้าว่าใช่หรือไม่?”

ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าอย่างตั้งใจ

เหมือนว่าผู้อาวุโสเมิ้งเย่จะไม่ตั้งใจให้นางอยู่ในสถานที่ที่สิ้นหวังแบบนี้

“มีเรื่องอันใดก็ต้องไปต่อแถวทีหลัง!”

นี่คือศิษย์ที่ล้ำค่าของเขานะ!

ไม่ว่าใครก็ต้องหยุดอยู่ด้านหลังไม่ใช่หรือ?

“เมิ้งเย่ เมื่อครู่นี้เจ้าพูดว่าเจ้าจะมาส่งของให้ข้าไม่ใช่หรือ?”

ผู้อาวุโสเมิ้งเย่กำหมัดขึ้น แล้วไอเสียงแห้งๆ

“ความจริงแล้วไม่มีอันใดเลย…”

ผู้อาวุโสวั่นเจิงมีสีหน้าประหลาดใจ

เมิ้งเย่มักจะอยู่แต่ที่หุบเขาวาโยโอสถ น้อยครั้งมากที่จะออกมาด้านนอก

ปกติแล้วมีแต่เรื่องสำคัญเท่านั้น ถึงจะออกจากที่หุบเขานั้น

แล้ววันนี้เกิดเรื่องอันใดขึ้น?

ในตอนนั้นเอง ก็มีอีกคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา

“ฉู่เยว่”

ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าไปมอง ก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“ศิษย์พี่หรงซิว”

“หรงซิว เจ้ามาที่นี่ได้อย่างใด?”

ผู้อาวุโสวั่นเจิงกวาดสายตามองไปยังคนเหล่านั้น

วันนี้มันวันอันใดกันเนี่ย ปกติแล้วคนเหล่านี้ไม่ค่อยจะมาเยี่ยมเยียนที่นี่ แต่คาดไม่ถึงว่าตอนนี้กลับมาพร้อมกัน!

เหมือนว่าหรงซิวจะเดินอย่างเชื่องช้า แต่ความเร็วกับสูงมาก หลังจากนั้นไม่นานเขาก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผู้คนมากมายแล้ว

เขาคำนับให้กับผู้อาวุโสทั้งสอง ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างบางเบา

“ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนให้ข้ามาที่นี่ เพื่อพาฉู่เยว่ไปที่เขาเฝิงหมิน”

ในตอนนั้นเองผู้อาวุโสทั้งสองท่านต่างตกใจเป็นอย่างมาก

“เขาเฝิงหมิน?”

“ไปอีกแล้วหรือ?”

ทันใดนั้นเองทุกอย่างก็ปกคลุมด้วยความเงียบงัน

ฉู่หลิวเยว่ลูบหัวคิ้วของตนเอง

“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้! ฉู่เยว่เพิ่งจะฟื้นขึ้นมา ร่างกายของเขายังไม่หายดี! ห้ามไป!”

ผู้อาวุโสวั่นเจิงเป็นคนที่ให้ท้ายลูกศิษย์ของตนเองมาก ไม่ว่าพูดอันใดก็จะปฏิเสธ

สำหรับเขาแล้ว ลูกศิษย์ที่รักของเขาเพิ่งออกมาจากบ่อแห่งความทุกข์ทรมาน แล้วยังจะต้องเข้าไปในหลุมเพลิงอีกครั้ง!

“อาจารย์ นี่เป็นคำสั่งของผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยน ไม่สามารถฝ่าฝืนได้ ข้าคงต้อง…”

ฉู่หลิวเยว่เพิ่งพูดออกมาหนึ่งประโยค ก็ถูกผู้อาวุโสวั่นเจิงพูดตัดบท

“ไม่ต้องเป็นห่วง! ครั้งนี้ข้าจะไปหาเขาด้วยตนเองเพื่อขอคำอธิบาย! เขาค่อยชินกับการกลั่นแกล้งลูกศิษย์ของเราแล้วหรือไร?”

ฉู่หลิวเยว่รู้สึกปวดหัวมากขึ้นกว่าเดิม

“ผู้อาวุโสวั่นเจิง”

ดูเหมือนว่าหรงซิวจะไม่กังวล เขาพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม

“ที่ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนทำเช่นนี้ก็มีเหตุผล”

“เหตุผล? เหตุผลอะไร?”

ในใจของผู้อาวุโสวั่นเจิงไม่ยินยอมอย่างยิ่ง

ช่วงนี้ลูกศิษย์ที่รักของเขาได้รับความลำบากมาไม่น้อย แล้วตอนนี้จะให้ไปที่เขาเฝิงหมินอีกได้อย่างใด!

หรงซิวอธิบายอย่างไม่รีบไม่ร้อนว่า

“หลังจากเกิดเรื่องที่บุพกาลชายแดนเหนือ ทางสำนักก็ได้ค้นหาความจริงมาโดยตลอด ได้ยินมาว่าสองวันที่ผ่านมานี้ ตระกูลและสำนักอื่นๆ ต่างทยอยกันออกมาแล้ว อีกทั้งสถานการณ์ก็เริ่มวุ่นวาย… บางทีมันอาจจะมาที่นี่เร็วๆ นี้”

ผู้อาวุโสวั่นเจิงชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าเปลี่ยนเป็นสับสน

“ฉู่เยว่เป็นเพียงคนเดียวที่ถูกพวกเขาพาไป ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า ตอนที่นางอยู่ที่แห่งนั้นได้รับโอกาสบางอย่าง ทำให้เลื่อนขั้นสู่จอมยุทธ์ระดับเก้าได้ นางจะต้องกลายเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยอย่างแน่นอน หากนางเข้าไปในเขาเฝิงหมิน ทางหนึ่งสามารถบำเพ็ญเพียรอยู่ที่นั่นอย่างเงียบเชียบ แต่อีกทางหนึ่งก็สามารถหลบหลีกเรื่องวุ่นวายใจเหล่านี้ได้”

น้ำเสียงของหรงซิวราบเรียบอย่างมาก แต่กลับมีแรงจูงใจอย่างประหลาด ทำให้ผู้ฟังคล้อยตามโดยไม่รู้ตัว

ผู้อาวุโสวั่นเจิงเงียบไปอยู่สักพัก

ฉู่หลิวเยว่สาวเท้าก้าวขึ้นมาด้านหน้า

“อาจารย์ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้ากลับรู้สึกว่า… เขาเฝิงหมินแห่งนี้ เป็นสถานที่ที่ดีมาก”

คำพูดของนางจริงใจหนักแน่น แต่น่าเสียดายที่ผู้อาวุโสวั่นเจิงฟังแล้วกลับรู้สึกว่า ลูกศิษย์ที่รักของเขาพูดเพื่อไม่ให้เขาเป็นกังวล จึงตั้งใจพูดออกมาเช่นนี้

เขายิ่งรู้สึกปวดใจมากกว่าเดิม ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วส่ายหน้า

“ช่างเถอะ! ในเมื่อเป็นเช่นนี้… เจ้าก็ไปอยู่ที่นั่นสักพัก รอจนเรื่องทางนี้ผ่านพ้นไป เจ้าจะได้ออกมาโดยเร็วแน่นอน!”

ฉู่หลิวเยว่ยิ้มออกมา

“เช่นนั้น… อาจารย์ ให้ศิษย์ไปพร้อมกับศิษย์พี่หรงซิวเลยใช่หรือไม่?”

ผู้อาวุโสวั่นเจิงโบกมือ

ฉู่หลิวเยว่โค้งคำนับอีกครั้ง จากนั้นก็ติดตามออกมาพร้อมกับหรงซิว

หลังจากเงาร่างของคนทั้งสองหายไปจากครรลองสายตาแล้ว ผู้อาวุโสวั่นเจิงจึงต้องถอนสายตาออกมาอย่างไม่เต็มใจ

“เฮ้อ อย่าเศร้าใจยามวสันต์ หดหู่ยามสารทเลย”

ผู้อาวุโสเมิ้งเย่ที่อยู่ด้านข้างก็ใช้ข้อศอกกระทุ้งเขา แล้วยื่นบางอย่างมาให้

“นี่คืออันใดหรือ?” ผู้อาวุโสวั่นเจิงรับมาด้วยสีหน้างุนงง

ผู้อาวุโสเมิ้งเย่ยิ้มแยกเขี้ยว

“ความจริงแล้วก็ไม่มีอันใด แค่ช่วงเวลาก่อนหน้านี้… เป็นบัญชีที่ฉู่เยว่ไปเอายาจากหุบเขาวาโยโอสถ เจ้าดูสิ… ควรจะมาคิดบัญชีแล้วใช่หรือไม่?”

รอยยิ้มของผู้อาวุโสวั่นเจิงหายไป

“ข้าก็นึกว่ามันคืออันใด! มันก็แค่…”

คำพูดที่เหลือของเขาชะงักค้างไปในทันที

ผู้อาวุโสวั่นเจิงเบิกตากว้างอ้าปากค้างมองสิ่งที่อยู่ในมือ เขาเกือบคิดว่าตนเองจะตาลายไปแล้ว

“นี่… นี่… เจ้าเด็กคนนี้เลือกสมุนไพรในหุบเขาวาโยโอสถไปทั้งหมดเลยหรือ!”

ผู้อาวุโสวั่นเจิงรู้สึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

“เฮ้อ… มันไม่ได้ขนาดนั้นเสียหน่อย! เพียงแค่สามส่วนสี่เท่านั้น! แล้วอีกอย่าง เจ้าก็มีคะแนนสะสมมากมายไม่ใช่หรือ? ของเหล่านี้… สำหรับเจ้าแล้ว นับว่าไม่เท่าไรด้วยซ้ำ ใช่หรือไม่?”

ผู้อาวุโสวั่นเจิงหลับตาลง

ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงคำพูดที่ศิษย์ของตนเองเพิ่งพูดเมื่อครู่นี้ได้

เขาเฝิงหมินแห่งนั้นดีมาก… สามารถหลบเลี่ยงลมพายุ…

อีกฝ่ายกำลังรอเขาอยู่ที่นั่น!

“เจ้าเด็กหน้าเหม็น!”

ผู้อาวุโสวั่นเจิงยัดบัญชีนั้นกลับเข้าไปในอ้อมอกของผู้อาวุโสเมิ้งเย่อย่างแรง

“คิดเงิน!”

“วันข้างหน้าข้าจะต้องอบรมเขาให้เป็นเซียนหมอชั้นยอดได้อย่างแน่นอน!”

ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้ยินคำพูดที่อาจหาญชาญชัยของผู้อาวุโสวั่นเจิง

นางเดินทางไปพร้อมกับหรงซิว ถนนด้านหน้านับเป็นถนนที่คุ้นเคย หลังจากนั้นไม่นานก็มาถึงที่เขาเฝิงหมิน

หรงซิวเดินก้าวไปด้านหน้า

“เมิ้งเหล่า หรงซิวพาฉู่เยว่มาคารวะท่าน”

ไม่มีเสียงตอบกลับ ทุกอย่างเงียบสงบ

หรงซิวขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย

“เมิ้งเหล่า?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด