ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 1405 ไล่ล่าและสกัดกั้น
ตอนที่ 1405 ไล่ล่าและสกัดกั้น
ทันทีที่ความคิดนี้ปรากฏขึ้น ทันใดนั้นความรู้สึกอันละเอียดก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าของนาง
นางหลับตาลง ก่อนจะลืมตาขึ้นมองอีกครั้ง ก็พบว่ามันเป็นความว่างเปล่า
ทุกอย่างตรงหน้ายังคงว่างเปล่า
นางขยับปลายนิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งนางก็ต้องตกใจที่ได้ค้นพบว่า มวลอากาศที่อยู่รอบข้างเหมือนจะหนาแน่นขึ้น
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มันเปลี่ยนไปแค่เล็กน้อย หากไม่ได้มองดูดีๆ อาจจะมองไม่เห็นเลย
ภายในใจของนางมีความสงสัยปรากฏขึ้น
ที่แห่งนี้… เหตุใดถึงแปลกประหลาดอย่างนี้ล่ะ?
เดิมทีนางอยากจะถามเมิ้งเหล่า แต่หลังจากที่คิดไปคิดมาแล้ว นางก็คิดว่าทุกอย่างน่าจะอยู่ในการควบคุมของเมิ้งเหล่า ในเมื่อเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ฉะนั้นมันก็คงจะไม่เป็นไร
นางหลับตาลง ก่อนจะเข้าสู่ห้วงของการบำเพ็ญเพียรอีกครั้ง
…
ฉู่หลิวเยว่นั่งเช่นนี้ในเขาเฝิงหมินต่อไป
ส่วนด้านนอกก็มีลมพายุปรากฏขึ้นแล้ว
เหลี่ยงเส่าคัง คุณชายสามแห่งตระกูลเหลี่ยง เสียชีวิตในบุพกาลชายแดนเหนืออย่างไม่ทราบสาเหตุ แม้กระทั่งฆาตกรคือใครยังไม่ทราบ
เหลี่ยงเซียวเซียวเดินทางกลับมายังตระกูลเหลี่ยงโดยไม่หยุดพัก
รอจนกระทั่งนางกลับมาถึงตระกูล ทุกคนที่ตระกูลเหลี่ยงก็รับทราบข่าวนี้ทั้งหมดแล้ว
ทั้งตระกูลเหลี่ยง ตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก บรรยากาศเคร่งเครียดอย่างมาก
ห้องหนังสือ
เหลี่ยงอีเยี่ยประมุขตระกูลเหลี่ยง คิ้วขมวดมุ่น
ใต้ตาดำคล้ำ เส้นเลือดแดงกระจายทั่วดวงตาขาว ทำให้คนที่มีอำนาจเหนือธรรมดาซีดเซียวและอายุเพิ่มมากขึ้น
แม้ว่าเขาจะมีลูกชายหลายคน แต่เหลี่ยงเส่าคังเป็นลูกที่เขารักมากที่สุด
ตอนนี้เขาได้สูญเสียลูกชายสุดที่รักไป แล้วเขาจะไม่เสียใจได้อย่างใด?
ตอนที่เหลี่ยงเซียวเซียวมาถึง ก็พบว่าที่แห่งนี้เหมือนถูกแช่แข็งไป
“ท่านพ่อ!”
เพียงแค่นางอ้าปากขึ้น น้ำตาของนางก็ไหลพราก
เหลี่ยงเซียวเซียวรีบเดินขึ้นมา
“เซียวเซียว! ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว!”
เขาจ้องเหลี่ยงเซียวเซียวตาเขม็ง
“ก่อนหน้านี้เจ้าได้ไปบุพกาลชายแดนเหนือกับสำนัก เจ้ารู้หรือไม่ว่าทางด้านพี่ของเจ้านั้น… เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”
เหลี่ยงเซียวเซียวเช็ดน้ำตาตนเอง นางพยายามกลั้นน้ำตาตนเองแล้วถามออกมาว่า
“ท่านพ่อ ก่อนหน้านี้ ท่านไม่ได้พูดว่าในตระกูลมีเรื่องต้องทำจึงไม่เข้าไปที่บุพกาลชายแดนเหนือไม่ใช่หรือ? แล้วพี่สามไปอยู่ที่นั่นได้อย่างใด?”
เหลี่ยงอีเยี่ยสีหน้าแข็งค้าง หลบสายตาไป
“เขา… เขาแอบพ่อไป…”
“ท่านพ่อ คำพูดของท่านนี้ ตัวท่านเองเชื่อหรือไม่? พี่สามไม่ได้ขี่ม้าบุกลุยเดี่ยวไปคนเดียว แต่เขายังพาผู้อาวุโสหลายคนไปด้วย! หากไม่ได้รับคำยอมรับจากท่าน พี่สามจะเชิญผู้อาวุโสเหล่านั้นไปได้อย่างใด?”
เดิมทีเหลี่ยงเซียวเซียวก็ไม่รู้ แต่ว่าเรื่องนี้แพร่กระจายไปทั่วตระกูลเหลี่ยงแล้ว ต่อให้นางจะเชื่องช้ามากแค่ไหน นางก็ควรจะรู้เรื่องนี้
เหลี่ยงอีเยี่ยปล่อยมือที่จับมือนาง ก่อนจะหมุนตัวหันกลับมาแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาหลับตาลง หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็พูดขึ้นว่า
“… เจ้าก็รู้ พี่สามของเจ้านั้นไม่ได้โดดเด่นในทุกด้าน เป็นเรื่องที่ยากนักหากจะน้าวโน้มใจทุกคนให้ยอมรับเขาเป็นทายาทผู้สืบทอดคนต่อไป… หากเขาสามารถสร้างความดีความชอบในบุพกาลชายแดนเหนือได้… เช่นนั้น…”
“ท่านพ่อ! ท่านเลอะเลือนไปแล้ว!”
เหลี่ยงเซียวเซียวพูดขัดจังหวะเขาอย่างอดไม่ได้ เหมือนว่าในอกมีไฟสุมทรวง
“พี่สามมีความสามารถเพียงใด ท่านก็เป็นคนที่รู้ดีที่สุดไม่ใช่หรือ? บุพกาลชายแดนเหนืออันตรายขนาดนั้น คาดไม่ถึงว่าท่านจะปล่อยเขาไปเช่นนี้!”
อีกทั้งยังปิดบังนางอีกด้วย!
ไม่ เรื่องนี้ต้องพูดว่าเขาตั้งใจปิดบังตระกูลเหลี่ยงทั้งหมด!
จุดประสงค์ก็เพื่อ… ทำให้เหลี่ยงเส่าคังกลายเป็นคนเก่งที่เผยความสามารถออกมาในครั้งเดียว! ใช้โอกาสนี้ให้เขาเลื่อนขั้นขึ้นไป!
เหลี่ยงอีเยี่ยตะโกนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“ข้าส่งพวกผู้อาวุโสมากมายติดตามเขา ใครจะคิดเล่าว่า…”
คำพูดของเขาหยุดชะงักอย่างกะทันหัน เส้นเลือดสีเขียวปูดโปนที่หน้าผาก พร้อมกระแทกหมัดหนึ่งลงที่โต๊ะข้างลำตัว
โครม!
โต๊ะไม้แกะสลักเนื้อดีสีดำถูกทุบจนแหลกเป็นชิ้นๆ
ร่างกายของเหลี่ยงเซียวเซียวสั่นสะท้าน ความเจ็บปวดพวยพุ่งเข้ามาในหัวใจ
ใช่แล้ว!
ท่านพ่อทำเพื่อพี่สาม แต่ผลลัพธ์ที่ได้ในตอนนี้ เขาน่าจะเป็นคนที่เสียใจกว่าใครไม่ใช่หรือ?
นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดขึ้นอย่างเชื่องช้า
“ท่านพ่อ แม้ตอนนี้ข้าจะไม่รู้ว่าใครเป็นฆาตกร แต่ข้ารู้ว่าควรจะสืบเรื่องนี้จากที่ใด”
เหลี่ยงอีเยี่ยหันขวับกลับมาในทันที
เหลี่ยงเซียวเซียวกำหมัดกรอด ความเคียดแค้นส่องประกายจากในแววตาส่วนลึก
“เจียงจื่อหยวน! อยากจะสืบค้นหาความจริง ก็ตามหานางให้พบก็พอแล้ว!”
“เจียงจื่อหยวน? ตระกูลเจียงแห่งเซียนสุ่ยหลิง? เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับนางอย่างใด?”
เหลี่ยงอีเยี่ยรู้สึกสับสนมึนงงเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาก็มองไปที่สีหน้าของเหลี่ยงเซียวเซียว แล้วถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“อีกทั้งก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ของพวกเจ้าทั้งสองคนก็ดีมากไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึง…”
“ดี? เหอะ! ท่านพ่อ ท่านไม่รู้หรือไงว่านังบ้าคนนั้นไปทำอันใดไว้บ้าง!”
หลังจากนั้น เหลี่ยงเซียวเซียวก็เล่าเรื่องที่นางรู้ออกมาให้เหลี่ยงอีเยี่ยอย่างครบถ้วนกระบวนความ
สีหน้าของเหลี่ยงอีเยี่ยเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว จนสุดท้ายเหลือเพียงม่านน้ำแข็งปกคลุมไว้หนึ่งชั้น
“… สำนักยังคงรักษาท่าทีเป็นกลางอยู่เสมอมา หากต้องการข่าวสารจากทางสำนักนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย แต่ว่า… เจียงจื่อหยวนไม่เหมือนกัน! อีกทั้งตอนนั้นพี่สามยังเคยขอร้องให้นางช่วยเหลือ แต่นางกลับนิ่งเฉยไม่สนใจ! มันน่ารังเกียจเสียจริงๆ!”
เหลี่ยงเซียวเซียวแทบอยากจะไปแหกอกเจียงจื่อหยวนเสียในตอนนี้!
“ข้าเข้าใจแล้ว…”
เหลี่ยงอีเยี่ยระงับความโกรธที่อยู่ในใจ แล้วหัวเราะออกมาเสียงเย็น
“แค่คนหนึ่งจากตระกูลเจียงแห่งเซียนสุ่ยหลิงเจียง คาดไม่ถึงว่าจะใจกล้าขนาดนี้เชียว! ข้าจะขอดูหน่อยซิว่าครั้งนี้เจ้าจะให้คำอธิบายกับตระกูลเหลี่ยงอย่างใด!”
ขณะที่พูดเขาก็สาวเท้าก้าวไปด้านหน้า
“ท่านพ่อ! ท่านจะไปไหน?”
เหลี่ยงเซียวเซียวตกใจอย่างมาก แล้วรีบติดตามไปในทันที
เหลี่ยงอีเยี่ยก็ไม่หันหน้ากลับมามอง
“ข้าจะไปตระกูลเจียงแห่งเซียนสุ่ยหลิงด้วยตนเอง สืบค้นความจริง แก้แค้นให้กับเส่าคัง!”
เหลี่ยงเซียวเซียวเม้มริมฝีปาก
“ข้าจะไปกับท่านด้วย!”
…
คนจากตระกูลเหลี่ยงเดินทางมาที่ตระกูลเจียงแห่งเซียนสุ่ยหลิงด้วยท่าทางดุร้าย แต่เขาก็ต้องคว้าน้ำเหลว
…เดิมทีเจียงจื่อหยวนไม่ได้กลับมาที่ตระกูลเจียงแห่งเซียนสุ่ยหลิงเลย! นางตรงไปที่พระราชวังเมฆาสวรรค์!
“นังบ้า! นางเจ้าเล่ห์มากจริงๆ!”
เหลี่ยงเซียวเซียวเคียดแค้นอย่างมาก
หากเจียงจื่อหยวนหนีไปที่พระราชวังเมฆาสวรรค์ ถ้าเช่นนั้นหากพวกเขาต้องการจะบีบบังคับให้นางออกมา ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว
ท้ายที่สุดแล้ว พระราชวังเมฆาสวรรค์ก็เป็นตระกูลอันดับหนึ่ง อีกทั้งยังมีฐานะสูงส่งกว่าพวกเขา
พวกเขากล้ามาหาเรื่องตระกูลเจียงแห่งเซียนสุ่ยหลิงโดยตรง แต่พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปเคาะประตูพระราชวังเมฆาสวรรค์ด้วยซ้ำ!
แต่เหลี่ยงอีเยี่ยมีท่าทางต่างออกไป
“ทางด้านพระราชวังเมฆาสวรรค์ไม่อาจปกป้องนางได้… เซียวเซียว ก่อนหน้านี้เจ้าพูดไม่ใช่หรือว่า ตอนนั้นเจียงจื่อหยวนไปขอความช่วยเหลือจากหรงซิว แต่ว่าหรงซิวนั้นไม่สนใจ?”
เหลี่ยงเซียวเซียวหัวเราะขึ้นมาอย่างประชดประชัน
“ใช่แล้ว! นางยังคิดว่าตนเองเป็นว่าที่พระชายาพระราชวังเมฆาสวรรค์ คิดว่าหรงซิวปฏิบัติกับตนเองไม่เหมือนกับคนอื่น… ความจริงแล้ว ข้าเห็นว่าหรงซิวไม่อยากจะเหลือบสายตามองนางด้วยซ้ำ!”
ในวันนั้นถือว่าหรงซิวตบหน้านางอย่างแรงต่อหน้าที่สาธารณะ!
“นั่นสินะ”
เหลี่ยงอีเยี่ยถอนหายใจออกมา
“ตอนนี้หรงซิวเป็นประมุขของพระราชวังเมฆาสวรรค์ เขามีท่าทีต่อเจียงจื่อหยวนเช่นนี้ ดังนั้นจึงสามารถเห็นท่าทีที่พระราชวังเมฆาสวรรค์จะปฏิบัติต่อนางได้แล้ว”
คนที่ก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ เขาไม่เชื่อว่าพระราชวังเมฆาสวรรค์จะยินยอมสกปรกไปด้วย!
ดวงตาของเหลี่ยงเซียวเซียวเปล่งประกาย
“ท่านพ่อพูดได้มีเหตุผลมาก! ตอนนี้เจียงจื่อหยวนถูกตัดชื่อออกจากสำนักหลิงเซียวแล้ว สามารถกล่าวได้ว่าชื่อเสียงของนางในอาณาจักรเสิ่นซวี่ย่อยยับหมดสิ้น! ต่อให้ตระกูลเจียงแห่งเซียนสุ่ยหลิงจะเป็นหนึ่งในยี่สิบแปดเผ่าของพระราชวังเมฆาสวรรค์ แต่พวกเขาอาจจะไม่เต็มใจปกป้องคนผู้นี้!”
เหลี่ยงอีเยี่ยพยักหน้า
“ถ้าเช่นนั้น… ก็ไปที่พระราชวังเมฆาสวรรค์ หากเจียงจื่อหยวนปฏิเสธที่จะออกมา ดังนั้นพวกเราก็ลงมือได้เลย!”
…
พระราชวังเมฆาสวรรค์
เจียงเห่อเทียนและเจียงจื่อหยวนยืนอยู่ด้านนอกม่านพลัง พวกเขารอมาสามวันสามคืนแล้ว
Comments