ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน 377-2 สะพานฟ้าดินถูกบีบจนเบี้ยวแล้ว (2)

Now you are reading ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน Chapter 377-2 สะพานฟ้าดินถูกบีบจนเบี้ยวแล้ว (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 377 สะพานฟ้าดินถูกบีบจนเบี้ยวแล้ว (2)

กลางป่ารกร้าง

ฟางผิงไม่ได้รีบทะลวงด่าน เลือกฟื้นฟูบาดแผลก่อน

เขาบาดเจ็บไม่น้อย ดูเหมือนกระโดดโลดเต้นได้ แต่หากเป็นคนอื่นเกรงว่าคงตายไปนานแล้ว

ก่อนหน้านี้เขาพึ่งปราณในการบ่มเพาะอวัยวะภายในมาโดยตลอด ภายหลังดูดกลืนน้ำแร่พลังงานไปจำนวนมาก น้ำแร่พวกนี้ด้านหนึ่งทำลายอวัยวะภายใน อีกด้านกำลังซ่อมแซมอาการบาดเจ็บของอวัยวะภายในไปด้วย

คล้อยหลังจากการรักษาของฟางผิง พืชพรรณที่อยู่ด้านล่างเริ่มเจริญเติบโตขึ้นมาเช่นกัน

พลังงานจากน้ำแร่จำนวนมากเริ่มพรั่งพรูออกมาทำให้พลังงานรอบๆ เข้มข้นขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน

ตาเฒ่าหลี่ไม่มีแรงกดดันจากพลังจิตใจ ความเกรงขามกลับไม่ได้อ่อนด้อย รอบรัศมีร้อยเมตรแทบไม่มีสัตว์ประหลาดกล้าข้ามเข้ามาสักตัว

ระวังสัตว์ประหลาดพวกนี้แล้ว ตาเฒ่าหลี่ก็กวาดสายตามองฟางผิงอยู่ครู่หนึ่ง

เจ้าเด็กนี้ดวงแข็งจริงๆ

แม้จะเป็นตอนนี้ ตาเฒ่าหลี่ยังคงนึกหวาดกลัวอยู่บ้าง

เขาแทบจะตายอยู่ตรงนั้นแล้ว ฟางผิงโรมรันกับคนในเมืองพวกนั้นอยู่ค่อนวัน นึกไม่ถึงว่าจะมีชีวิตรอด ยังชิงน้ำแร่พลังงานที่อยู่ในความดูแลของขั้นเก้ามาได้อีก นอกจากดวงแข็งแล้ว โชคยังดีอย่างถึงที่สุดด้วย

ลองตั้งคำถามกับตัวเอง หากเป็นเขาตอนนี้จะทำได้หรือเปล่า?

อาจไม่เสมอไป!

แม้เขาจะชิงน้ำแร่พลังงานมาได้ แต่คงหนีไม่รอด เขาไม่ได้มีไพ่ตายเยอะเหมือนฟางผิง

อย่างอื่นไม่พูดถึง น้ำแร่พลังงานจำนวนมากพรั่งพรูพลังงานออกมา เขาเปล่งแสงนิดเดียว ยอดฝีมือขั้นเจ็ดขั้นแปดพวกนั้นคงจะไล่ตามไม่เลิกราแน่ ถึงเขาจะใช้ความเร็วอย่างถึงที่สุดก็ตาม

รอขั้นเก้าย้อนกลับมา ค้นหาตามต้นกำเนิดพลังงานคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย

อย่าพูดถึงเขาเลย อู๋ชวนจะทำได้หรือเปล่าเถอะ?

อู๋ชวนเพิ่งจะเข้าเมือง เกรงว่าคงจะถูกต้นหลิวปีศาจค้นพบแล้ว หากเข้ามาในเมืองก็จะถูกสกัดตัวไว้ เรียกขั้นเก้าพวกนั้นเข้ามาย่อมมีจุดจบถูกล้อมฆ่าตายเหมือนกัน

คนที่สามารถทำได้อย่างแท้จริง คงจะเป็นพวกผู้บัญชาการหลี่ สามารถใช้พลังที่แข็งแกร่งสยบทั้งหมดได้

ไม่มีพลังนี้ เกรงว่าน่าจะมีแค่ฟางผิงเท่านั้นที่ทำได้

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ครั้งนี้หากฟางผิงไม่ช่วยเขา เขาคงตายจนหากระดูกไม่เจอไปนานแล้ว

ตาเฒ่าหลี่คิดซับซ้อนในใจ ติดหนี้ชีวิตเจ้าเด็กนี้หลายครั้งแล้ว ตรงปากทางเดินถือว่าช่วยเขาไว้ครั้งหนึ่ง ฟื้นฟูความสามารถพร้อมทั้งรักษาอาการป่วยเขาจนหายดีนับเป็นอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ ความสามารถที่หยุดชะงัก ไม่สามารถพัฒนาต่อได้ นั่นเหมือนตายทั้งเป็น

เขาสามารถฝืนทนได้เป็นสิบปี ครั้งนี้เสี่ยงตายฟันออกไป นั่นเพราะคิดไว้ว่าจะต้องตาย

ตอนนี้ตัวเองมีชีวิตรอด ความสามารถเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น ทั้งยังบ่มเพาะพลังจิตใจได้แล้ว จิตใจของตาเฒ่าหลี่จึงรู้สึกสับสนอย่างถึงที่สุด

ตอนที่เขาเจอเจ้าเด็กนี้ที่ฝ่ายบริการเป็นครั้งแรก ไม่เคยนึกว่าจะมีฉากอย่างวันนี้มาก่อน

เวลานั้นเขาแค่โอบกอดความคิดจะบ่มเพาะอัจฉริยะให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้คนหนึ่งจึงช่วยดูแลฟางผิงบ้างเท่านั้น

ฟางผิงมีพรสวรรค์จนน่าตกใจ หลอมกระดูกสามครั้ง ทั้งยังมีภูมิหลังธรรมดา ดังนั้นให้สิทธิพิเศษหน่อย ตาเฒ่าหลี่จึงไม่ได้สนใจเท่าไหร่

ยังไงเขาก็ไม่ได้ใช้อยู่แล้ว หลายปีมานี้หลังจากเขาฝึกวิชาถึงขั้นหกสูงสุดก็แทบไม่เคยใช้ทรัพยากรของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เลย ทรัพยากรพวกนั้นอันที่จริงเขานำไปจุนเจือให้พวกนักศึกษา แต่นักศึกษาส่วนมากไม่รู้เท่านั้น

นึกไม่ถึงว่าสุดท้ายเขาจะได้รับผลประโยชน์เพราะเรื่องนี้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่การจุนเจือเล็กๆ น้อยๆ จะเทียบได้

น้ำแร่พลังงานมากมายขนาดนั้น ยอดฝีมือขั้นเก้ายังข่มกลั้นจิตใจไม่ไหวด้วยซ้ำ

อันที่จริงเทียบกับผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำแล้ว ผู้ฝึกยุทธ์มนุษย์ถือว่าจนกว่า ขั้นเก้าทั่วไปไม่ได้มีอิสระเหมือนยอดฝีมือขั้นสูงสุดพวกนั้น ทั้งไม่ได้รับผลตอบแทนมากเท่าพวกเขาเลย

เวลานั้นหากฟางผิงไม่กลับโรงเตี๊ยม สามารถหนีไปพร้อมน้ำแร่พลังงานพวกนั้นได้ด้วยซ้ำ?

จากไหวพริบของเจ้าเด็กนี้ มีโอกาสสูงที่จะหนีรอดอยู่แล้ว

มีน้ำแร่พลังงานมากขนาดนั้น เขาสามารถฝึกวิชาถึงขั้นห้าขั้นหกได้อย่างรวดเร็ว ขั้นปรมาจารย์แทบไม่เป็นอุปสรรคสำหรับเขา ขั้นเจ็ดขั้นแปดก็ไม่ใช่เรื่องยาก

บางทีขั้นเก้าอาจจะมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยก็คงอยู่ขั้นแปดสูงสุด

ทั้งบางทีอาจจะใช้เวลาเพียงสองสามปีเท่านั้น

ละทิ้งโอกาสที่กลายเป็นยอดฝีมือขั้นแปดสูงสุด กลับทำให้เขาสมปรารถนาแทน เจ้าเด็กนี้คงจะปวดใจมากสินะ?

ตาเฒ่าหลี่หัวเราะ ถอนหายใจเบาๆ ไม่คิดมากอีก

บางเรื่องไม่มีความจำเป็นต้องพูดออกมา

เหมือนกับฟางผิงที่ไม่เคยพูดมาก่อนว่าคุณช่วยเหลือผม ผมซาบซึ้งในตัวคุณ ไม่ช้าก็เร็วจะตอบแทนคุณ เขาแทบไม่เคยพูดเรื่องพวกนี้เลย

ระหว่างที่ตาเฒ่าหลี่นึกถึงเรื่องพวกนี้ ฟางผิงก็กระอักเลือดเสียออกมา เลือดซึมลงสู่พื้น ทำให้ต้นหญ้าพวกนั้นงอกเงยอย่างบ้าคลั่งขึ้นมาอีกครั้ง

“สิ้นเปลืองเกินไปแล้ว!”

ฟางผิงยังมีใจเจียดเวลามาพูดอีก ตอนนี้เขาตดออกมายังแฝงด้วยพลังงานเลย สิ้นเปลืองเกินไปแล้ว

ตาเฒ่าหลี่หมดคำจะพูดอยู่บ้าง เอ่ยว่า “เป็นยังไง?”

“อวัยวะภายในมีการเปลี่ยนแปลงใหม่แล้ว!” ฟางผิงเอ่ยต่อว่า “พลังงานพวกนี้ดูแปลกๆ!”

“อืม”

ตาเฒ่าหลี่ไม่แปลกใจเช่นกัน พยักหน้าว่า “พลังงานพวกนี้นอกจากเป็นพลังงานฟ้าดินแล้ว ยังปะปนด้วย…จะว่ายังไงดีล่ะ พลังชีวิต?”

“ต้นหลิวยักษ์!”

ฟางผิงเคยเห็นวิธีรวบรวมพลังงานของต้นหลิวมาก่อน พลังงานที่รวมตัวในอากาศ หลังจากต้นหลิวยักษ์ดูดกลืนจะเปลี่ยนไปกักเก็บไว้อีกที นี่ไม่ใช่การเก็บรวบรวมที่ง่ายๆ แต่ถูกเปลี่ยนแปลงมาแล้วหนึ่งครั้ง

“ไม่แปลกใจที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บให้ระดับสูงได้!” ฟางผิงเอ่ยด้วยแววตาวับวาว “ผู้เฒ่าหลี่ ต้นหลิวยักษ์ต้นนี้เป็นของดีอย่างแท้จริง! เรื่องปรับเปลี่ยนพลังงานไม่พูดถึง รากของมันยังทนทานอีกด้วย! ลำต้นน่าจะสามารถสร้างเป็นอาวุธวิเศษได้! เปลือกของมันก็ถือเป็นของดี ไม่รู้ว่าเป็นต้นหลิวหรือเปล่า หากออกผลได้คงสุดยอดไปเลย ผลวิเศษ! นี่เจ๋งยิ่งกว่ามีแร่ในบ้านอีก ยังไงแร่พลังงานก็เป็นของสิ้นเปลือง แต่ต้นหลิวมีชีวิตอยู่ได้! อีกอย่างต่อให้มีแร่พลังงานในเมืองราชา นั่นก็มีต้นกำเนิดมาจากมันเช่นกัน หากเอากลับไปเป็นๆ ไว้ที่มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้คงเป็นสวรรค์ของผู้ฝึกยุทธ์แล้ว…พวกผู้บัญชาการหลี่เคยจับมันมาก่อนหรือเปล่า?”

“ไม่รู้ แต่ขนาดใหญ่แบบนี้ จับได้ก็คงเอากลับไปไม่ได้”

ตาเฒ่าหลี่ฟังจนตาลุกวาวขึ้นมาอยู่บ้าง แต่ไม่นานก็ฟื้นฟูท่าทีเป็นปกติ “เธอไม่คิดเรื่องทะลวงด่าน มาคิดเรื่องอะไรเนี่ย!”

“ไม่รีบ”

ฟางผิงไม่สะทกสะท้าน เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “ต้นหลิวสามารถเพาะชำได้ คุณว่า…”

“บ้านเธอจำเป็นต้องมีแร่!”

ตาเฒ่าหลี่พูดโจมตีอย่างหนัก ไม่ใช่ว่ามนุษย์ไม่เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อน พวกเขาไม่เคยคิดวางแผนกับปีศาจต้นไม้ผู้พิทักษ์ แต่ปีศาจต้นไม้บางส่วนที่สามารถรวบรวมพลังงานได้ บางต้นไม่ได้แข็งแกร่งมาก พวกเขาเคยมีความคิดนี้เช่นกัน

ประเด็นอยู่ที่ต้นไม้ปีศาจพวกนี้ไม่มีพลังงานเลี้ยงดู อยู่บนโลกไม่นานก็จะเหี่ยวตายแล้ว

ไม่เหมือนกับถ้ำใต้ดินที่มีพลังงานอุดมสมบูรณ์ ไม่พูดถึงแร่พลังงาน ข้างบนยังมีพลังงานดวงอาทิตย์ อันที่จริงยังปลดปล่อยพลังงานออกมาบ่อยๆ เช่นกัน

แหล่งพลังงานของถ้ำใต้ดิน หลักๆ มาจากดวงอาทิตย์ดวงนี้

เว้นเสียแต่ว่าจะย้ายดวงอาทิตย์ไปไว้ที่โลกได้

ตาเฒ่าหลี่เพิ่งจะเกิดความคิดนี้ ฟางผิงเหมือนจะตระหนักถึงจุดนี้ได้เช่นกัน อดเงยหน้ามองไม่ได้ ตอนนี้ท้องฟ้าสว่างแล้ว

ดวงอาทิตย์ที่ก่อนหน้านี้รู้สึกน่าเกลียดพิกล เวลานี้กลับดูน่ารักเป็นพิเศษขึ้นมา

“ไม่ช้าก็เร็วต้องมีวันหนึ่ง…”

ฟางผิงไม่ได้พูดต่อ ตาเฒ่าหลี่กลับเผยสีหน้าหมดคำพูด

ไม่ช้าก็เร็วเธอจะทำไม?

จะไปเด็ดดวงอาทิตย์?

ตกลงดวงอาทิตย์นี้อยู่ที่ไหน ตอนนี้ยังพูดยากเลย เคยมีขั้นเก้าทะยานขึ้นฟ้าไปนับหมื่นเมตร ผลปรากฏว่าดวงอาทิตย์ยังคงเป็นดวงอาทิตย์ ขนาดเท่าเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ฟางผิงไม่ได้พูดอีก สูดลมหายใจเข้าลึก ข้างนอกปรากฏสะพานฟ้าดินที่โปร่งแสงขึ้นมาห้าสาย

บนหัวนั้นประตูสามบานล่องลอยอยู่กลางอากาศ

เวลานี้กลางสะพานฟ้าดินมีพลังงานจำนวนมากปรากฏอยู่ ไม่จำเป็นต้องทำเหมือนพวกเหยาเฉิงจวินที่พึ่งปรมาจารย์รวบรวมพลังงานให้พวกเขาแล้ว

“สะพานฟ้าดินรวมเป็นหนึ่ง! ฉันก็จะขั้นห้าแล้ว!”

ตอนนี้ปลายเดือนธันวาคมปี 2009 ยังไม่ถึง 2010

เดือนเมษายนปี 2008 เพิ่งสัมผัสกับเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ ใช้เวลายี่สิบเดือนฟางผิงก็เข้าสู่ขั้นห้าได้แล้ว บนโลกนี้ยังจะมีใครทำแบบนี้ได้อีก?

“ปีสองเทอมหน้าบางทีฉันอาจจะทะลวงขั้นหกแล้ว!”

“ปีสามเป็นปรมาจารย์!”

“ฉันจะกลายเป็นตำนานของมนุษยชาติ!”

“ตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้ยังมีใครทะลวงด่านเร็วกว่าฉันอีก?”

ฟางผิงพึมพำกับตัวเอง ตาเฒ่าหลี่เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “คัมภีร์โบราณเคยบันทึกไว้ว่ามีคนหนึ่งกลายเป็นอมตะได้ในวันเดียว สามารถมองเป็นปรมาจารย์ภายในวันเดียวได้เหมือนกัน”

“คัมภีร์โบราณไร้สาระน่ะสิ!”

ฟางผิงด่าออกไป คัมภีร์โบราณคุณก็เชื่อ ทำไมไม่เชื่อตำนานพวกนั้นบ้างล่ะ ผานกู่[1]สร้างโลกขึ้นมาจริงๆ หรือไง!

ไม่สนใจตาเฒ่าหลี่อีก ฟางผิงคำรามเบาๆ ก่อนสะพานฟ้าดินทั้งห้าจะเริ่มหลอมรวมในชั่วพริบตา!

คนอื่นหลอมรวมสะพานฟ้าดินล้วนเป็นลักษณะวงกลม

ฟางผิงหลอมรวม…ตาเฒ่าหลี่มองอยู่พักหนึ่งก็อดตะโกนไม่ได้ “อย่าทำอะไรมั่วซั่ว วิธีการของผู้ฝึกยุทธ์จะเปลี่ยนแปลงตามใจชอบไม่ได้!”

เวลานี้ฟางผิงยังมีแรงเหลือเอ่ยปาก มอง…แผ่นแป้งขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้า เอ่ยด้วยใบหน้าลำบากใจ “ไม่ได้เปลี่ยน พลังงานมากเกินไป สะพานฟ้าดินถูกบีบจนเบี้ยว!”

ตาเฒ่าหลี่ทำหน้าตกตะลึง!

ยังมีเรื่องแบบนี้ด้วย?

สะพานฟ้าดินถูกบีบจนเบี้ยวเป็นแผ่นแป้ง เกิดเรื่องแบบนี้ได้ด้วย?

คัมภีร์ไม่เคยมีบันทึกไว้!

คนสมัยปัจจุบันก็ฝึกวิชาตามขั้นตอนไป แม้มีคนใช้หินพลังงานฝึกวิชาก็ไม่ถึงขั้นที่บีบสะพานฟ้าดินจนเบี้ยวแบบนี้

อย่าลืมว่าร่างกายมนุษย์ดูดกลืนได้อย่างจำกัดทั้งนั้น

ฟางผิง…เป็นเรื่องอะไรกัน?

“ผู้เฒ่าหลี่ อย่าดูเฉยๆ ช่วยผมควบคุมหน่อย ผมเริ่มควบคุมไม่ไหว จะระเบิดอยู่แล้ว!”

“บีบจนกลายเป็นแผ่นแป้ง?”

ตาเฒ่าหลี่กลืนน้ำลาย ฉันใช้ชีวิตมานานขนาดนี้ยังไม่เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อนจริงๆ!

————————–

[1]ผานกู่ ตามตำนานจีนเป็นสิ่งมีชีวิตที่สร้างโลกขึ้นมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด