ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]บทที่ 466: ลีจองซุก (2)

Now you are reading ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] Chapter บทที่ 466: ลีจองซุก (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 466: ลี​จอง​ซุก​ (2)

 

“ครับ​…” คิม​แจฮวาน​สงบสติอารมณ์​ของ​ตัวเอง​ลง​ขณะที่​ค่อย ๆ​ ย้อน​ความทรงจำ​ของ​ตัวเอง​ “คุณ​ลี​พา​เธอ​กลับมา​ที่​แด​ฮัน​ เขา​โทษ​ตัวเอง​ คิด​ว่า​ตัวเอง​เป็นต้นเหตุ​ทำให้​เธอ​สูญเสีย​ความทรงจำ​ นอกจากนี้​…เขา​ยัง​รู้​ด้วยว่า​เด็กผู้หญิง​คน​นี้​ไม่ธรรมดา​ เขา​เห็น​การตาย​ของ​เธอ​ด้วย​ตา​ของ​ตัวเอง​ แต่​เธอ​กลับ​ฟื้นคืนชีพ​ขึ้น​มา เขา​นึก​ว่า​ตัวเอง​เห็นภาพ​หลอ​น.​..จนกระทั่ง​…”

 

“เขา​พบ​ว่า​ลักษณะ​ของ​เธอ​ยังคง​เหมือนเดิม​ แม้ว่า​ระยะเวลา​จะผ่าน​ไปเป็น​สิบ​ปีแล้ว​ก็ตาม​!”

 

“ยิ่งไปกว่านั้น​ ไม่มีใคร​รู้​ว่า​เธอ​ใช้วิธีการ​อะไร​ แต่​ใน​ระยะเวลา​สิบ​ปี เธอ​สามารถ​รักษา​ความมั่นคง​และ​สถานะ​ของ​ตัวเอง​ใน​กลุ่ม​แซมซังได้​ ทุก​นโยบาย​และ​สินค้า​ที่จะ​นำมาใช้​หรือ​วางขาย​ล้วน​ต้อง​ได้รับ​การอนุมัติ​จาก​เธอ​ทั้งสิ้น​! และ​การตัดสินใจ​ของ​เธอ​ก็​ไม่เคย​ผิดพลาด​เลย​สักครั้ง​เดียว​!”

 

แต่​นั่น​ก็​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​… หาก​นาง​คือ​เซี่ยจิ่นเส้อ​จริง ๆ​ นาง​ย่อม​เคย​ผ่าน​ยุคสมัย​ของ​ราชวงศ์​อัน​รุ่งโรจน์​ของ​ประวัติศาสตร์​จีน​มาแล้ว​ถึงสามราชวงศ์​! การ​มีปฏิสัมพันธ์​กับ​มนุษย์​มาตลอด​ระยะเวลา​กว่า​ 400 ปีย่อม​ทำให้​นาง​มีพัฒนาการ​ที่​เฉียบแหลม​ใน​เรื่อง​จิตใจ​ของ​มนุษย์​ ต่อให้​เป็น​คน​ที่​โง่ที่สุด​ก็​สามารถ​กลายเป็น​อัจฉริยะ​ได้​เช่นกัน​!

 

ความทรงจำ​อาจจะ​ถูก​หลงลืม​ไป แต่​ประสบการณ์​คือ​สิ่งที่​ไม่สามารถ​พราก​ไปจาก​นาง​ได้​ สิ่งนี้​จะต้อง​ถูก​ฝังลึก​ไว้​ภายใน​จิต​ใจ้สำนึก​และ​สัญชาตญาณ​ของ​นาง​อย่าง​แน่นอน​

 

คิว​แจฮวาน​เอ่ย​ต่อ​ “จน​มาถึงตอนนี้​ พวกเรา​ก็​อด​สงสัย​ไม่ได้​ว่า​เธอ​กำลัง​พยายาม​หว่าน​เมล็ดพันธุ์​ของ​ตัวเอง​ และ​คอย​หา​ผู้สนับสนุน​ให้​ตัวเอง​เพื่อ​ตั้งหลัก​ใน​กลุ่ม​แซมซังหรือไม่​! ตอนนี้​ผู้บริหาร​ส่วนใหญ่​ของ​แซมซังล้วน​เป็น​คน​ที่​ก้าว​ขึ้น​มาอยู่​ ณ จุดสูงสุด​จาก​การ​แนะนำ​ของ​เธอ​ทั้งสิ้น​! จาก​ทั้งหมด​สิบ​คน​ อย่าง​น้อย​เกิน​ครึ่ง​ของ​พวกเขา​รู้ดี​ว่า​เธอ​ไม่ใช่มนุษย์​ แต่​ถึงกระนั้น​…พวกเขา​ก็​ยังคง​ภักดี​ต่อ​เธอ​!”

 

เดี๋ยวก่อน​นะ​?!

 

เขา​คิด​ว่า​เขา​มีบางอย่าง​ที่​อยาก​จะพูด​…

 

ฉิน​เย่​เบ้​ปาก​เล็กน้อย​ ทั้งหมด​นี้​ล้วน​ต้อง​ขอบคุณ​ระบบ​การทำงาน​ของ​แด​ฮัน​ ที่​ซึ่งผู้ใต้บังคับบัญชา​นั้น​ย่อม​ภักดี​ต่อ​ผู้บังคับบัญชา​ของ​พวกเขา​ มัน​คือ​ห่วง​โซ่อาหาร​ของ​พวก​เลียแข้งเลียขา​! ใครก็ตาม​ที่​ได้​ใช้ชีวิต​และ​มีปฏิสัมพันธ์​กับ​สังคม​มาเป็น​ระยะเวลา​กว่า​ 400 ปีย่อม​มีไพ่ตาย​ซ่อน​อยู่​เสมอ​…คน​พวก​นี้​คิด​จริง ๆ​ น่ะ​หรือว่า​พวก​กรรม​การบริหาร​ของ​ตัวเอง​จะสามารถ​ต่อต้าน​การ​ล่อลวง​ของ​นาง​ได้​?

 

การ​มาบรรจบ​กัน​ของ​กลยุทธ์​ การเมือง​ และ​การ​เลื่อนตำแหน่ง​…หึหึ​หึ​…นาง​คงจะ​รวบรวม​สิ่งเหล่านี้​ไว้​ภายใน​องค์กร​สินะ​? นาง​คือ​คน​ที่​สามารถ​มอบ​ให้ได้​ทั้ง​ผลประโยชน์​และ​เติมเต็ม​ความทะเยอทะยาน​และ​ความฝัน​ มัน​คงจะ​แปลก​มาก​หาก​ผู้คน​จะไม่ติดตาม​และ​สนับสนุน​นาง​อย่าง​หน้ามืดตามัว​! และ​นาง​ยัง​เป็น​คน​ตระกูล​ลี​อีกด้วย​!

 

“สุดท้าย​แต่​ไม่ท้ายสุด​…คุณ​ลีบ​ยอน​ชอล​คนพูด​เอาไว้​ว่า​ ลี​จอง​ซุก​อาจจะ​ไม่ได้​เป็นหนึ่ง​ใน​ทายาท​สาย​ตรง​ของ​ตระกูล​ลี​ แต่​เรา​จะต้อง​ปฏิบัติ​ต่อ​เธอ​เหมือนกับ​หนึ่ง​ใน​นั้น​”

 

ฉิน​เย่​ถอนหายใจ​ออกมา​ เขา​คง​จนมุม​แล้ว​จริง ๆ​ เขา​มั่นใจ​เลย​ว่า​คุณ​ลีบ​ยอน​ชอล​คงจะ​รู้สึก​เสียใจ​กับ​การกระทำ​ของ​ตัวเอง​ใน​ตอนนั้น​ มัน​ไม่แปลก​เลย​ว่า​ทำไม​คน​พวก​นี้​ถึงว่า​อ้อนวอน​ขอความช่วยเหลือ​จาก​เทพเจ้า​จีน​ พวกเขา​คงจะ​เคย​สวด​อ้อนวอน​ถึงเทพ​ของ​แด​ฮัน​มาก่อน​ แต่​น่าเสียดาย​ที่​อีก​ฝ่าย​นั้น​ไร้​ซึ่งพลัง​อำนาจ​ใด​ ๆ ยกตัวอย่างเช่น​…พวกคุณ​คิด​หรือว่า​หลิว​อวี้​จะสนใจ​เรื่อง​อะไร​แบบ​นั้น​?

 

ส่วน​เขา​…แน่นอน​ เขา​สนใจ​เรื่อง​นี้​มาก​ๆ!

 

นอกเหนือจาก​ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​ ‘ปีศาจ’ ที่​คน​พวก​นี้​พูดถึง​อาจจะ​เป็น​เซี่ยจิ่นเส้อ​แล้ว​ ผล​การตอบแทน​บุญคุณ​ของ​กลุ่ม​แซมซังยัง​จะต้อง​ไม่ต่ำกว่า​พัน​ล้าน​หยวน​อย่าง​แน่นอน​!

 

“ตอนนี้​ ความกดดัน​ทั้งหมด​ล้วน​ตก​อยู่​บน​ไหล่​ของ​อดีต​ประธาน​ลี​… เพราะ​ไม่ว่า​ใคร​จะกลายเป็น​ประธาน​คน​ต่อไป​ต่อ​กลุ่ม​แซมซัง มัน​ก็​ไม่มีใคร​ที่จะ​สามารถ​สั่นคลอน​จุดยืน​ของ​ลี​จอง​ซุก​ได้​เลย​!” คิม​แจฮวาน​กัดฟัน​แน่น​ “เธอ​เป็น​ปีศาจ! เธอ​ไม่ควรจะ​มีชีวิต​อยู่​ใน​โลก​นี้​ด้วยซ้ำ​! ดังนั้น​ตราบใดที่​ท่าน​ยอม​นำ​วิญญาณ​ของ​เธอ​ไป เช่นนั้น​พวกเรา​ทุก​คนใน​ตระกูล​ลี​จะมอบ​เงิน​ถวาย​คนละ​ 200 ล้าน​หยวน​! หรือ​เทียบ​กับ​มูลค่า​ใน​แบงค์​กงเต็ก​!”

 

ฉิน​เย่​ฟังที่​อีก​ฝ่าย​พูด​ด้วย​ความพึงพอใจ​เป็นอย่างมาก​ อย่าง​น้อย​ก็​จนกระทั่ง​คิม​แจฮวาน​เอ่ย​ประโยค​สุดท้าย​ออกมา​

 

นี่​เขา​จะเอา​แบงค์​กงเต็ก​ไปทำไม​?!

 

ฟังที่​ตัวเอง​พูด​เสีย​บ้าง​! นี่​เจ้าเป็น​มนุษย์​แบบ​ใด​กัน​? มัน​สมเหตุสมผล​หรือ​อย่างไร​ที่จะ​ขอบคุณ​ใคร​สัก​คน​โดย​ใช้แบงค์​กงเต็ก​?

 

แต่​…สิ่งที่​ทำให้​ฉิน​เย่​หัวเสีย​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​ข้อเท็จจริง​ที่ว่า​เขา​ไม่สามารถ​แสดง​ความโกรธ​ของ​ตัวเอง​ออก​ไปได้​!

 

ลอง​จิต​นา​การ​ดู​หาก​รูปปั้น​ของ​พระ​กษิ​ติ​ครรภ​โพธิสัตว์​ผู้​สูงส่งชูนิ้ว​ขึ้น​มาและ​ถูเข้าด้วยกัน​เพื่อ​ขอ​เงิน​ คนอื่น​ ๆ จะคิด​อย่างไร​? หาก​พระ​กษิ​ติ​ครรภ​โพธิสัตว์​กำลัง​มอง​ลง​มาจาก​สวรรค์​ เขา​คงจะ​มอง​ว่าที่​จ้าว​นรก​องค์​ต่อไป​ของ​ยมโลก​ด้วย​สายตา​ดูถูก​เหยียดหยาม​เป็นแน่​!

 

นอกจากนี้​ มัน​คง​สาย​เกินไป​แล้ว​สำหรับ​เขา​ที่จะ​เอ่ย​แนะนำตัว​ว่า​เป็น​ยมทูต​หัว​วัว​หน้าม้า​!

 

แล้ว​ทำไม​ตัว​เขา​ถึงมาสิงอยู่​ใน​รูปปั้น​ของ​พระ​กษิ​ติ​ครรภ​โพธิสัตว์​ตั้งแต่แรก​?!! ไม่ใช่ว่า​มัน​ยังมี​คน​เป็น​ ๆ อีก​สอง​คน​อยู่​แถว​นี้​หรอก​หรือ​? หาก​เขา​ไปเข้าสิง​ร่าง​ของ​คน​พวก​นั้น​ มัน​คงจะ​เหมาะสม​สำหรับ​เขา​มากกว่า​ที่จะ​แนะนำตัว​ว่า​เป็น​ยมทูต​หัว​วัว​หน้าม้า​! แต่​ตอนนี้​ที่​เขา​อยู่​ใน​รูปปั้น​ของ​พระ​กษิ​ติ​ครรภ​โพธิสัตว์​…มัน​ไม่สามารถ​หวนกลับ​ได้​อีกแล้ว​!

 

เด็กหนุ่ม​รู้สึก​โมโห​เป็นอย่างมาก​ แต่​คำตอบ​เดียว​ที่​เขา​สามารถ​ตอบกลับ​ไปได้​มีเพียง​ “อืม​…”

 

เขา​จำได้​ว่า​ผู้เฒ่า​ลี​มีลูก​ทั้งหมด​ 7-8 คน​ไม่ใช่หรือ​? นั่น​เป็น​มูลค่า​พัน​กว่า​ล้าน​เลย​นะ​… เขา​รู้​ เขา​จะต้อง​ส่งข้อความ​ไปถึงคน​พวก​นั้น​ผ่าน​ทาง​ความฝัน​ทันทีที่​กลับ​ไปยัง​ยมโลก​ เขา​จะบอ​กว่า​เขา​คือ​หนึ่ง​ใน​ผู้ส่งสาร​ของ​ยมโลก​ และ​จ้าว​นรก​ก็​กำลัง​ต้องการ​สิ่งตอบแทน​ นั่นแหละ​ ส่วน​เรื่อง​ภาพลักษณ์​และ​ศักดิ์ศรี​…

 

ล้อเล่น​หรือเปล่า​?!

 

มัน​มีเรื่อง​อะไร​ให้​ต้อง​พูดถึง​ภาพลักษณ์​และ​ศักดิ์ศรี​กัน​เมื่อ​เงิน​หลาน​พัน​ล้าน​หยวน​มาวาง​กอง​อยู่​ตรงหน้า​?!

 

ส่วน​เรื่อง​ของ​เซี่ยจิ่นเส้​อ.​.. มัน​ย่อม​มีสถานที่​สำหรับ​นางใน​ยมโลก​ ที่​ซึ่งนาง​สามารถ​ใช้ความ​ชาญฉลาด​ของ​นางใน​การ​ช่วย​สร้าง​อาณาจักร​ ฉิน​เย่​ผู้​มองการณ์ไกล​พยักหน้า​กับ​ตัวเอง​ พึงพอใจ​กับ​แผนการ​อัน​ไร้​ที่​ติ​นี้​

 

“มีสิ่งใด​พิเศษ​เกี่ยวกับ​นาง​บ้าง​หรือไม่​?” ฉิน​เย่​ถามออก​ไปหลังจากที่​เงียบ​ไปพักใหญ่​ ดวงตา​ของ​คิม​แจฮวาน​เป็นประกาย​ขึ้น​ทันที​ “มะ มี…มีครับ​!”

 

“บน​ร่าง​ของ​เธอ​…เต็มไปด้วย​รอยสัก​ ทั้ง​ตัวอักษร​จีน​ รวมถึง​เลข​อารบิก​ ผม​อ่าน​มัน​ไม่ออก​ แต่​ผม​ได้​ลอง​วาด​มัน​ออกมา​และ​นำ​ไปให้​คนอื่น​ดู​แล้ว​ น่าเสียดาย​ คำตอบ​เดียว​ที่​ผม​ได้​ก็​คือ​พวก​มัน​ไม่ได้​มีความหมาย​อะไร​เลย​ และ​นอกจากนี้​…” เขา​สูด​หายใจเข้า​ช้าๆ “สิ่งที่​เหมือนกับ​รอยสัก​พวก​นั้น​…ล้วน​ถูก​สลัก​ขึ้น​บน​ร่าง​ของ​เธอ​ด้วย​คม​มีด​…”

 

หัวใจ​ของ​ฉิน​เย่​หยุด​เต้น​ไปชั่วขณะ​…

 

สัก​คำ​พวก​นี้​บน​ผิวหนัง​ของ​ตัวเอง​ด้วย​มีด​?

 

เพราะอะไร​กัน​?

 

โหดเหี้ยม​ยิ่งนัก​…!

 

ฉิน​เย่​รู้ดี​ว่า​หาก​เป็นตัว​เขา​เอง​ เขา​คง​ไม่กล้า​ทำ​เช่นนั้น​

 

ผิวพรรณ​ของ​สตรี​นั้น​มีความสำคัญ​ไม่ต่าง​ไปจาก​กล้ามเนื้อ​ของ​บุรุษ​ ให้​ทำลาย​กล้ามเนื้อ​ของ​ตัวเอง​น่ะ​หรือ​? ไม่มีทาง​ ไม่มีทาง​เด็ดขาด​!!!!

 

“นาง​อยู่​ที่ใด​?” ฉิน​เย่​ถามอีกครั้ง​ เขา​จะต้อง​รีบ​ไปพบ​กับ​นาง​โดยเร็ว​ที่สุด​

 

แต่​แล้ว​เขา​ก็​ต้อง​ประหลาดใจ​เมื่อ​คิม​แจฮวาน​ตอบ​กลับมา​ “เมือง​ชางหลาน​ครับ​!”

 

เมือง​ชางหลาน​? นาง​ไปทำ​อะไร​ที่นั่น​?

 

โดย​ไม่เว้น​ช่วง​ คิม​แจฮวาน​รีบ​อธิบาย​ทันที​ “เธอ​ไปที่นั่น​ก็​เพราะ​โรงงาน​ผลิต​และ​ประกอบ​ชิ้นส่วน​ของ​แซมซังส่วนใหญ่​ล้วน​อยู่​ที่​มณฑล​ซาน​ตง​ มัน​ตั้งอยู่​ใกล้​แด​ฮัน​ และ​ค่าแรง​ถูก​ เธอ​ไปที่นั่น​เพื่อ​ตรวจสอบ​โรงงาน​เนื่องจาก​เมื่อไม่นานมานี้​ โทรศัพท์​ของ​แซมซังได้​เกิด​ปัญหา​หลายอย่าง​ และ​พวกเขา​ก็​บังเอิญ​ได้รับ​โอกาส​ให้​มีส่วน​ร่วมใน​เรื่อง​นี้​ด้วย​ ไม่เช่นนั้น​…เธอ​คง​ไม่มีทาง​อนุญาต​ให้​พวกเรา​มาที่นี่​…”

 

“เพราะ​ทันทีที่​เรา​ถูก​พบ​… เธอ​จะขัดขวาง​ความตั้งใจ​ของ​เรา​ใน​บริษัท​ทุก​วิถีทาง​ ใน​ตอนนี้​ กรรม​การบริหาร​กว่า​ครึ่งหนึ่ง​ของ​กลุ่ม​แซมซังจงรักภักดี​ต่อ​เธอ​! นอกจากนี้​ ด้วย​สัดส่วน​การ​ถือหุ้น​ 5% ของ​บริษัท​ เธอ​ได้​กลาย​เป็นหนึ่ง​ใน​ผู้ถือหุ้น​ใหญ่​ที่​มีสัดส่วน​มากกว่า​ 2%! หรือ​อีก​ความหมาย​หนึ่ง​ก็​คือ​คำพูด​และ​ความคิดเห็น​ของ​เธอ​มีน้ำหนัก​เป็นอย่างมาก​! เรา​สามารถ​พูด​ได้​เลย​ว่า​…เธอ​คือ​จักรพรรดินี​ที่​แท้จริง​ผู้อยู่เบื้องหลัง​อาณาจักร​แซมซัง!”

 

“ไม่ว่า​จะเป็น​รูปลักษณ์​ วิธีการ​ หรือ​ความคิด​ เธอ​คือ​สิ่งมีชีวิต​ที่​น่าสะพรึงกลัว​ที่สุด​ที่​ผม​เคย​พบ​เจอ​มาใน​ชีวิต​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​! เธอ​เป็น​ปีศาจที่​แท้จริง​ ผม​ขอ​วิงวอน​ท่า​น.​..ได้​โปรด​นำ​เธอ​ไป! พวกเรา​ไม่สามารถ​ปล่อย​ให้​แซมซังล่มสลาย​ภายใน​รุ่น​ของ​เรา​ได้​จริง ๆ​ ครับ​!”

 

อย่างนี้​นี่เอง​…

 

ฉิน​เย่​พยักหน้า​เบา​ ๆ ไม่แปลกใจ​เลย​ที่​คิม​แจฮวาน​จะเดินทาง​มาที่​แผ่นดิน​จีน​และ​ขอความช่วยเหลือ​จาก​เทพเจ้า​จีน​

 

พวกเขา​คิด​ว่า​มีเพียง​โลก​ใต้พิภพ​ของ​จีน​เท่านั้น​ที่​สามารถ​ทำ​อะไร​กับ​หญิงสาว​ที่​มีสายเลือด​จีน​ผู้​นี้​ นอกจากนั้น​…พวกเขา​ยัง​ไม่เคย​เดินทาง​มาที่​จีน​ใน​สถานการณ์​อื่น​ ๆ เลย​สักครั้ง​

 

แต่​…มีบางอย่าง​ไม่ถูกต้อง​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ ฉิน​เย่​เอง​ก็​ทาน​เห็ด​เทียน​สุ่ย​เข้าไป​เช่นกัน​…แต่​ทำไม​เขา​ถึงถูก​ผลักไส​ให้​ไปเปิดร้าน​ขาย​โลงศพ​ ในขณะที่​นาง​ได้​ขึ้นไป​นั่ง​อยู่​บน​จุดสูงสุด​ของ​อาณาจักร​แซมซังกัน​?!

 

หรือว่า​เขา​ทำผิด​มาโดยตลอด​? หรือว่า​เขา​ควรจะ​อาศัย​โอกาส​นี้​ใน​การขยับ​ไปอยู่​ใน​จุด​ที่สูง​กว่า​ที่​เคย​เป็น​? อย่างเช่น​การ​ที่​เป็นอยู่​ใน​ตอนนี้​ ใช้เงิน​ราวกับว่า​มัน​ไม่ได้​มีค่า​อะไร​!

 

แต่​ในขณะที่​ฉิน​เย่​กำลัง​จมอยู่กับ​ความคิด​ของ​ตนเอง​ เขา​ก็​ได้ยิน​เสียง​ตะโกน​ดัง​มาจาก​ด้านนอก​ประตู​ “คะ​…คุณ​มาทำ​อะไร​ที่นี่​?!”

 

“คุณ​ลี​จอง​ซุก​ อย่า​ให้​มัน​มากเกินไป​นะ​ครับ​!” “คุณ​ไม่ได้รับอนุญาต​ให้​เข้าไป​ด้านใน​! คุณ​คิม​กำลัง​ทำ​ธุระ​อยู่​!”

 

เสียง​อู้อี้​ดัง​ขึ้น​ ตามมา​ติด ๆ​ ด้วย​ของ​หนัก​ ๆ บางอย่าง​ร่วง​ลง​กับ​พื้น​ ไม่กี่​วินาที​ต่อมา​ ประตู​ของ​พระอุโบสถ​ก็​เปิด​ออก​กว้าง​

 

หญิงสาว​คน​หนึ่ง​ พร้อมด้วย​ผู้คุ้มกัน​อีก​สอง​แถว​ เดิน​ตรง​เข้ามา​ใน​อาคาร​

 

ถึงแม้ว่า​ฉิน​เย่​จะเคย​เห็น​ผู้หญิง​มากมาย​จาก​โลก​ออนไลน์​ แต่​เขา​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​ตกตะลึง​กับ​หญิงสาว​ตรงหน้า​

 

นาง​สวย​มาก​!

 

ผิวขาว​ราวกับ​หิมะ​ ดวงตา​ที่​ลึกล้ำ​ดุจ​ท้องฟ้า​ยาม​ราตรี​ คิ้ว​คม​ จมูกโด่ง​ และ​ริมฝีปาก​สีเชอร์รี่​

 

นาง​สูงประมาณ​ 1.68 เมตร​ แต่​รองเท้าส้นสูง​ที่​สวม​อยู่​กลับ​ทำให้​นาง​ดู​ไม่ต่าง​กับ​นางแบบ​เลย​สักนิด​ ผม​ของ​นาง​แตกต่าง​ไปจาก​รูปถ่าย​ที่​ฉิน​เย่​ได้​เห็น​มัน​ถูม้วน​เป็น​มวย​แบบ​ผู้ใหญ่​

 

ผู้หญิง​ตรงหน้า​อาจจะ​สวย​ แต่​…เขา​สามารถ​บอก​ได้​เลย​ว่า​นาง​ไม่ใช่คน​ที่จะ​สามารถ​หาเรื่อง​ได้​ง่ายๆ​

 

นี่​คือ​ความคิด​แรก​ของ​ฉิน​เย่​ที่​มีต่อ​นางใน​ครั้งแรก​ที่​ได้​พบกัน​

 

มัน​ผุด​ขึ้น​มาจาก​ลักษณะ​อารมณ์​และ​นิสัย​ของ​นาง​

 

นาง​มีท่าที​เด็ดเดี่ยว​และ​บรรยากาศ​ของ​ความจริงจัง​ กระโปรง​ทำงาน​สีดำ​และ​ชุด​สูท​ที่​ถูก​ตัดเย็บ​มาอย่าง​ดี​พาด​ไว้​บน​บ่า​ คอ​เสื้อเชิ้ต​และ​กระดุม​ข้อมือ​ล้วน​ถูก​ประดับ​ด้วย​กระดุม​มรกต​ทำให้​เธอ​ดู​สง่างามจน​แยกตัว​ออกจาก​คนอื่น​ ๆ ที่อยู่​โดยรอบ​อย่าง​สิ้นเชิง​ ต่างหู​ขนาดเล็ก​สอง​อัน​ห้อย​ลง​มาจาก​หู​ของ​นาง​ ยิ่ง​ส่งให้​หญิงสาว​ดู​ทันสมัย​และ​สูงส่งเป็นอย่างมาก​…

 

ดวงตา​ของ​หญิงสาว​หด​เล็ก​ลง​ทันทีที่​เธอ​ก้าว​เท้า​เข้ามา​ใน​พระอุโบสถ​

 

ที่​เป็น​เช่นนี้​ก็เพราะว่า​เธอ​เห็น​ แม้ว่า​ภายใน​พระอุโบสถ​ที่​มืดสนิท​ และ​แสงเทียน​ทั้งหมด​ถูก​ดับ​ เธอ​กลับ​มองเห็น​ดวงตา​สีดำขลับ​ของ​รูปปั้น​ของ​พระ​กษิ​ติ​ครรภ​โพธิสัตว์​ได้​อย่าง​ชัดเจน​

 

“ทุกคน​ออก​ไปให้​หมด​” เธอ​เอ่ย​เสียง​นิ่ง​ และ​ผู้คุ้มกัน​ทั้งสอง​แถว​ก็​พยักหน้า​ ก่อน​จะเดิน​ออก​ไปจาก​ห้อง​โดย​ไม่ถ้วน​สิ่งใด​ทั้งสิ้น​

 

เหลือ​เพียง​คิม​แจฮวาน​และ​ลี​จอง​ซุก​เท่านั้น​ที่​ยังคง​ยืน​อยู่​ภายใน​พระอุโบสถ​

 

เงียบ​…เสียง​ไม่กี่​เสียง​ที่​ยังคง​ได้ยิน​มีเพียง​เสียง​ของ​จิ้งหรีด​ที่อยู่​ด้านนอก​ และ​เสียง​ของ​รองเท้าส้นสูง​ที่​ลี​จอง​ซุก​สวม​อยู่​เท่านั้น​

 

“คุณ​รู้​ไหม​ว่า​นี่​มัน​กี่​โมงแล้ว​?” เธอ​หัน​ไปหา​คิม​แจฮวาน​อย่าง​ด้วย​ความโมโห​ ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ คิม​แจฮวาน​กลับ​ตัวสั่น​จน​ต้อง​เอนหลัง​พิง​กับ​เสาขนาดใหญ่​ เขา​กัด​ริมฝีปาก​ของ​ตัวเอง​อย่าง​แรง​และ​ส่ายหน้า​เบา​ๆ

 

ลี​จอง​ซุก​สวม​ถุงน่อง​ยาว​ไว้​ที่​ขา​ และ​เธอ​ก็​เดิน​ไปหา​คิม​แจฮวาน​ด้วย​ท่วงท่า​ที่​สง่างาม และ​จากนั้น​เธอ​ก็​ชูข้อมือ​ไปที่​ด้านหน้า​ของ​เขา​…

 

คิม​แจฮวาน​ตัว​สั่นเทา​ขณะที่​เปิด​ไฟฉาย​จาก​โทรศัพท์​เพื่อ​ดู​เวลา​จาก​นาฬิกา​ของ​อีก​ฝ่าย​ แทบจะ​เหมือนกับ​ว่า​เขา​เคย​ทำ​เช่นนี้​มาหลายครั้ง​แล้ว​ใน​อดีต​

 

“ทีนี้​รู้​คำตอบ​หรือยัง​?” ลี​จอง​ซุก​เอ่ย​ถามด้วย​รอยยิ้ม​บาง​

 

คิม​แจฮวาน​เม้มปาก​แน่น​และ​พยักหน้า​แบบ​ๆ

 

ไม่กี่​เสี้ยว​วินาที​ต่อมา​ เธอ​ก็​หยิก​แก้ม​ของ​เขา​อย่าง​แรง​และ​เอ่ย​ต่อ​ด้วย​น้ำเสียง​นิ่ง​เรียบ​ “ตอนนี้​เป็นเวลา​ตี​ 4″

 

“ตี​ 4!!!!”

 

“ฉัน​ต้อง​รีบ​ไปที่​โรงงาน​ผลิต​เพื่อ​จัดการ​กับ​ปัญหา​โทรศัพท์​ระเบิด​ แต่​คุณ​กลับมา​อยู่​ใน​ที่​แบบนี้​น่ะ​เหรอ​?!”

 

“พวกคุณ​คิด​จริง ๆ​ หรือ​ว่าลับหลัง​ฉัน​ พวกคุณ​เรียก​ฉัน​ว่า​อะไร​? ปีศาจ? ปีศาจแห่ง​ฮันยาง​? ลี​จอง​ซุก​ผู้​ต้อง​สาป? ฉัน​จะบอก​อะไร​ให้​นะ​…” เธอ​โน้ม​หน้า​เข้าไป​ใกล้​ ๆ กับ​คิม​แจฮวาน​ ใกล้​จน​เขา​สามารถ​สัมผัส​ได้​ถึงลมหายใจ​ของ​เธอ​ที่​กระทบ​กับ​แก้ม​ของ​ตัวเอง​ “ฉัน​ไม่สนใจ​เลย​สักนิด​”

 

จากนั้น​ เธอ​ก็​ผลัก​ร่าง​ของ​คิม​แจฮวาน​ให้​ล้ม​ลง​ไปกับ​พื้น​พร้อมกับ​มอง​ด้วย​สายตา​เหยียดหยาม​ “มัน​ไม่สำคัญ​ว่า​พวกคุณ​จะพูดว่า​อะไร​ ที่​แซมซังสามารถ​ดำเนิน​มาถึงอย่าง​ที่​เป็นอยู่​ทุกวันนี้​ได้​ก็​เพราะ​ฉัน​! คุณ​รู้​บ้าง​หรือเปล่า​ว่า​ฉัน​จะต้อง​แข่งขัน​กับ​ใคร​บ้าง​? แล้ว​อย่า​พูด​เชียว​นะ​ว่า​พวก​กรรม​การบริหาร​พวก​นั้น​จงรักภักดี​ต่อ​ฉัน​ ผิด​แล้ว​ พวกเขา​แค่​จงรักภักดี​ต่อ​ผลประโยชน์​กลุ่ม​แซมซังเท่านั้น​…พวกเขา​รู้ดี​ว่า​กลุ่ม​แซมซังจะไม่มีทาง​ล่มสลาย​หาก​ฉัน​ยังอยู่​ ดังนั้น​…บอก​ฉัน​มา…ฉัน​ทำ​พลาด​อะไร​ไปอย่างนั้น​เหรอ​?! ฉัน​โกงเงิน​ของ​ตระกูล​ลี​อย่างนั้น​เหรอ​? หรือว่า​คุณ​รู้สึก​ว่า​เงินปันผล​ที่​ตัวเอง​ได้​นั้น​ไม่เพียงพอ​? ทำไม​พวกคุณ​ถึงต้องการ​จะฆ่าฉัน​ขนาด​นี้​?!”

 

จากนั้น​ เธอ​ก็​แย้มยิ้ม​บาง​ออกมา​ ราวกับ​ดอก​ป๊อป​ปี้ที่​เบ่งบาน​ใน​ความมืด​ “น่าเสียดาย​…ที่​ฉัน​ไม่มีทาง​ตาย​…”

 

“ไปซะ” เธอ​หันไป​มอง​ที่​รูปปั้น​ภายใน​ห้อง​ “นี่​จะเป็น​ครั้งสุดท้าย​ หาก​เรื่อง​แบบนี้​ยัง​เกิดขึ้น​อีก​ เช่นนั้น​ก็​อย่า​มาโทษ​ฉัน​ก็แล้วกัน​ที่​ใช้วิธีการ​ที่​รุนแรง​ ฉัน​ทน​พวกคุณ​มานาน​มาก​พอแล้ว​…!”

 

คิม​แจฮวาน​ที่​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​รีบ​วิ่ง​จากไป​ทันที​…

 

มัน​เป็น​ภาพ​ที่​ค่อนข้าง​น่าดู​ไม่น้อย​สำหรับ​การ​ที่​คน​ ๆ หนึ่ง​ที่​เต็มไปด้วย​ความเกลียดชัง​จะรีบ​วิ่งหนี​หาง​จุก​ตูด​ออก​ไปแบบ​นั้น​ นอกจากนั้น​…ทันทีที่​วิ่ง​ออก​ไปด้านนอก​ เขา​ยัง​รีบ​ปิดประตู​ลง​อย่าง​แรง​อีกด้วย​

 

ภายใน​พระอุโบสถ​ถูก​ปกคลุม​ด้วย​ความ​เงียบ​อีกครั้ง​…

 

มัน​เงียบ​เสีย​จน​แม้แต่​เสียง​ของ​สายลม​ยามค่ำคืน​ก็​สามารถ​ได้ยิน​ได้​อย่าง​ชัดเจน​

 

ทั้งหมด​ที่​เหลืออยู่​ภายใน​พระอุโบสถ​มีเพียง​หนึ่ง​หญิงสาว​และ​หนึ่ง​รูปปั้น​เพียง​เท่านั้น​

 

หลังจาก​เงียบ​ไปพักใหญ่​ ลี​จอง​ซุก​ก็​เอ่ย​ขึ้น​อีกครั้ง​ แต่​ครั้งนี้​ น้ำเสียง​ของ​เธอ​กลับ​ฉายแวว​เหน็ดเหนื่อย​ บุคลิก​ที่​ยิ่งใหญ่​ก่อนหน้านี้​ได้​จางหาย​ไป เผย​ให้​เห็น​เด็กสาว​ที่​ไร้เดียงสา​คน​หนึ่ง​ที่​เพียง​ปัด​ผม​ไปทัด​หู​ของ​ตัวเอง​ขณะที่​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ “นี่​เขา​สามารถ​อัญเชิญ​บางอย่าง​มาได้​จริง ๆ​ สินะ​…? เทพเจ้า​งั้น​เหรอ​?”

 

ฉิน​เย่​ยังคง​เงียบ​ และ​ลอบ​สังเกต​คน​ตรงหน้า​ด้วย​แววตา​ที่​ซับซ้อน​ต่อไป​

 

น่า​เกรง​ขา​ม…เด็ดเดี่ยว​และ​เด็ดขาด​ แต่​…เขา​ไม่ค่อย​ชอบ​ผู้หญิง​แบบนี้​เลย​สักนิด​!

 

เขา​ชอบ​ผู้หญิง​ที่​อ่อนโยน​ดุจ​สายน้ำ​ ไม่ใช่เผ็ดร้อน​จน​ทำให้​ปาก​ของ​เขา​ต้อง​ร้อน​จน​ชาไปหมด​

 

“หรือ​ปีศาจ?”

 

ยังคง​ไร้​ซึ่งคำตอบ​

 

ลี​จอง​ซุก​พยักหน้า​เบา​ๆ “ขอบคุณ​”

 

และ​จากนั้น​…เธอ​…ก็​เริ่ม​ปลด​เสื้อ​ของ​ตนเอง​!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด