ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ) 32 ※นันทนาการ

Now you are reading ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ) Chapter 32 ※นันทนาการ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ท่าเรือรับรองแห่งแรก [เกาะฟินิกซ์]

 

เกาะนี้เป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่

 

ซึ่งในโลกของเอสโก้จะมีอีกโลกหนึ่งที่เรียกว่าโลกอื่นอยู่ด้วย เป็นโลกแฟนตาซีที่เข้าใจได้ง่าย

โลกอื่นที่ว่ากับโลกความจริง (หรือที่เรียกว่าโลกความเป็นจริงนั่นแหละ) มีความไม่มั่นคงพอ ๆ กับการที่ไปยืนขาเดียวอยู่บนโต๊ะที่มีความมั่นคงแหละนะ

 

สภาวะที่ไม่มั่นคงและการซ้อนทับกับโลกอื่นที่ว่านี้มีผลต่อโลกทางกายภาพในรูปแบบต่าง ๆ ด้วย

 

ตัวอย่างก็เช่น ดันเจี้ยนที่มีมอนสเตอร์เกิดขึ้นมา ก็จะมุ่งไปสู่อีกโลกหนึ่งเสมอ (ปิดไม่ได้)

หรือในอัลฟ์ไฮม์ดินแดนของเอลฟ์ ที่สามารถเชื่อมไปสู่โลกอื่นได้ผ่านพิธีกรรม (เปิดและปิดได้)  

แล้วก็มีสถานที่อย่างเกาะฟินิกซ์ ที่แตกต่างจากโลกอื่น เพราะมาปรากฎขึ้นในโลกแห่งความจริง

 

ในเซ็ตติ้งนั้น อะไรอย่างอนุภาคเวทย์เอง ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่มาจากโลกอื่นเหมือนกัน

และอุปกรณ์เวทย์ก็จะใช้เทคโนโลยีกับอนุภาคนั้น เชื่อมกับภาพในจิตนาการทำให้มนุษย์สามารถใช้งานมันได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

 

เกาะฟินิกซ์ที่ปรากฏขึ้นใกล้ ๆ โตเกียวนั้น อยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลโอโตริ (ตระกูลดยุกที่เป็นเจ้าของโรงเรียนโอโตริ)

ซึ่งใช้อำนาจของตนเองอย่างเชี่ยวชาญ เพื่อควบคุมเศรษฐกิจนับตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มเชื่อมต่อกับโลกอื่น และทำให้กลายเป็นที่พัก ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมบนเกาะฟินิกซ์ถึงมีบ้านข้างชายหาดขาว กลายเป็นชายหาดส่วนตัว ซึ่งไม่มีใครนอกจากนักเรียนนั่นเอง

 

แต่การมานั่งบรรยายอะไรระหว่างการเข้าค่ายปฐมนิเทศแบบนี้นั้น คงถือว่าเป็นการเสียมารยาทล่ะนะ

 

เหล่าคุณหนูทั้งหลายถอดชุดนักเรียนออกและเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาสุดน่ารัก

 

“ลมทะเลนี่มันดีจริง ๆ เลยนะคะเนี่ย!!”

 

คุณหนูปากร้ายสวมหมวกฟางใหญ่และใส่ชุดสีขาวปิดหน้าอกอยู่ (นี่เธอเป็นดาราฮอลลีวู้ดรึเปล่าเนี่ย?)

 

“…หย่อนยานมาก”

 

ในทางกลับกันแล้ว สึกิโอริมัดผมด้วยางรัดผมและสวมชุดลำลอง เป็นเสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนส์

เพราะสไตล์ชุดที่แต่งมันดูดีเกินไป รวมกับความหยาบกระด้างนั่นมันยิ่งทำให้เธอโดดเด่นขึ้นไปอีก

เหล่าคุณหนูจะจ้องมองอย่างหลงไหลกันแบบนั้น ก็ไม่แปลกอะไรเลย

 

…จะว่าไปแล้ว ยัยนี่จะหน้าตาดีเกินไปหน่อยรึเปล่าเนี่ย?

 

เธอเอามือล้วงกระเป๋าและหรี่ตาลง พอรวมเข้ากับรูปร่างหน้าตาของเธอแล้ว มันยิ่งทำให้เธอดูเปร่งประกายเลย

 

“…อะ…เอ่อ…คุณสึกิโอริครับ?”

 

“หืม? อะไรเหรอ?”

 

ผมชี้ไปที่คุณหนูด้วยความอาย

 

“ชะ…ช่วยแตะไหล่ของคุณหนูให้ดูซักทีนึงได้รึเปล่า?”

 

“ห๊ะ? ทำไมล่ะ?”

 

“ไม่มีอะไรหรอก เอ่อ…ก็แค่นิดนึงน่ะ…ขอโทษนะ แต่ขอแค่นิดเดียวก็ยังดี”

 

สึกิโอริถอนหายใจและเดินเข้าไปหาคุณหนูพร้อมกอดไหล่เธอเบา ๆ

 

“ว้าย!? จู่ ๆ ก็ทำอะไรคะเนี่ย!?”

 

“……”

 

คุณหนูเริ่่มหน้าแดง ในขณะที่สึกิโอริกำลังมองดูอย่างเงียบ ๆ

 

“อะ…อะไรกันคะเนี่ย…”

 

สึกิโอริกอดแน่นขึ้น

คุณหนูซ่อนใบหน้าไว้หลังพัดแล้วจากนั้นก็หันหลังกลับ

 

“ดะ…เดี๋ยวสิ…”

 

“…ไม่ชอบเหรอ?”

 

“กะ…ก็ไม่ได้ไม่ชอบหรอก…อะ…เอ่อ…”

 

“ไม่ชอบเหรอ(กระซิบ)”

 

“เอ๋!? เอ๊ะ เอ๋!?”

 

อ๊ะ สะ…สุดยอดเลย…ยอดเลย…ดีจังที่ยังมีชีวิตอยู่…ดีใจจัง…สุดยอดเลย(ตาขาว)

พอได้มองดูทั้งสองคนนั้นอย่างใกล้ชิด ตาขาวผมก็แทบจะกลอกจนหมุนเข้าไปในสมองเลย

 

สึกิโอริ ผมรู้อยู่แล้วล่ะว่าเธอเป็นคนที่มีความสามารถ…โดยปกติแล้วตัวเธอน่ะเป็นคนที่สามารถตกสาว ๆ ได้อย่างง่ายดาย…

เอาเลยสิ…เอาเลยเส้…! แสดงพลังที่แท้จริงของเธอออกมาให้เห็นหน่อยเส้…สึกิโอริ…เอาเลยเส้…!

 

“โอฟิเลีย”

 

“อ๊ะ…คะ…ข๊ะ…”

 

สึกิโอริยิ้มแล้วหมุนตัวหันกลับมาทางผม

คุณหนูที่กำลังตกตะลึงถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง และจากนั้นสึกิโอริก็หันมาทักผม

 

“เหนื่อยแล้วล่ะ(ยิ้มสดชื่น)”

 

“เดี๋ยวสิครับ คุณสึกิโอริ…ขอร้องล่ะครับ…ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็…คืนนี้ผมนอนไม่หลับแน่เลยนะครับ…”

 

“หืม? ถ้างั้นเดี๋ยวฉันนอนกับนายเองก็แล้วกัน”

 

สึกิโอริยิ้มแล้วลูบแก้มของผม

 

“เดี๋ยวจะคอยกล่อมจนหลับเลย โอเคมั้ย?”

 

“ถ้าเธอไปกล่อมคุณหนูแทนฉัน แป๊บเดียวก็คงหลับได้แล้วล่ะ”

 

“นี่นายเชื่อมต่อกับคุณหนูคนนั้นอยู่รึไง…? ผลิตมาจากโรงงานเดียวกันเหรอ…?”

 

“สึ…สึกิโอริ ซากุร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!! มาทำอะไรบ้า ๆ กับดิฉันอีกแแล้วนะค้าาาาาาาาาาาาา!!”

 

คุณหนูวิ่งมาทางผมและล้มลง หน้าจุ่มลงไปในทราย

ดูเหมือนว่าขาเธอจะถลอกด้วย เธอค่อย ๆ ประคองเข่าที่แดงของเธอขึ้นพร้อมกับหน้าที่บูดบึ้ง

 

“…อูย”

 

ยะ…แย่แล้ว จะร้องไห้แล้ว!! ผมไม่อยากจะเห็นเธอร้องไห้นะ!!

สึกิโอริกำลังวุ่นอยู่กับการจัดผมยุ่ง ๆ ของผม ดูแล้วเธอไม่คิดจะช่วยคุณหนูเลยซักนิด

ผมปล่อยเธอไว้คนเดียวไม่ได้ ผมจึงรีบไปหาคุณหนูที่กำลังจะร้องไห้

 

“นี่ คุณหนู จับเอาไว้สิ”

 

“ยะ…อย่างมายุ่งไม่เข้าเรื่องนะคะ!! คะ…ใครมันจะไปอยากให้ผู้ชายมาคอยดูแลกัน…”

 

พอเห็นคุณหนูน้ำตาไหล ผมก็นั่งลงและยื่นหลังให้เธอ

 

“เอ้านี่ คุณหนู ขึ้นมาสิ คิดซะว่าฉันเป็นยานพาหนะหรืออะไรซักอย่างก็แล้วกัน จะบอกกับคนอื่น ๆ ว่าฉันใช้กำลังพาขึ้นเรือก็ได้ เพราะงั้นกลับไปที่เรือแล้วไปรักษาแผลเถอะนะ”

 

“อย่ามาทำเหมือนดิฉันเป็นเด็กนะ!! ดะ…เดิมทีแล้ว ดิฉันน่ะไม่อยากแม้แต่จะแตะต้องผู้ชายเลยด้วยซ้ำค่ะ!!”

 

“เข้าใจแล้วล่ะ ถ้างั้นให้เรียกสึกิโอริมาแทนดีมั้ย? แบบนั้นคงไม่ว่าอะไรนะ? งั้นเดี๋ยวจะไปเรียกมาให้เดี๋ยวนี้แหละ”

 

“มะ…ไม่เอา…เด็กคนนั้นน่ะ ชอบทำบ้า ๆ กับดิฉัน…”

 

“งั้นเอาเป็นเด็กผู้หญิงคนอื่นมั้ย?”

 

“มะ…ไม่เอาด้วยหรอก…ดิฉันคือบุตรสาวตระกูลมาร์เจไลน์นะคะ…ฉันไม่อยากให้ใครมาเห็นสภาพน่าสมเพชแบบนี้ค่ะ…”

 

อืม ความเอาแต่ใจนี่่ เกินต้านจริง ๆ (ดีใจ)

ช่วยไม่ได้นะ คงต้องลงแรงซักหน่อยแล้วสิ

 

ผมโอบเธอไว้ในอ้อมแขนและยกเธอขึ้น

 

“ว้าย!”

 

ผมอุ้มเธอด้วยท่าเจ้าหญิง และรีบกลับไปที่ควีนวอร์ช พร้อมกับหลบเลี่ยงสายตาคนอื่นไปด้วย

 

“ยะ…หยุดนะคะ!! ปล่อยเดี๋ยวนี่นะคะ!! เจ้าคนไร้มารยาท!!”

 

คุณหนูตีผมด้วยแรงที่อ่อนแอและนุ่มนวล

พลังของคุณหนูปากร้าย…ไม่มีดาเมจเลยซักนิด…แล้วเวลาที่เธอหน้าแดงแล้วก็ดูท้อแท้เนี่ย…มันพลังคุณหนูในตัวผมได้เต็มเลย

 

ไม่รู้เป็นเพราะว่ายอมแพ้ไปแล้ว หรือเป็นเพราะหมดแรง

คุณหนูถึงได้ทิ้งน้ำหนักลงและมองมาที่ผมด้วยดวงตาที่ชื้น

 

“เจ้า…บ้า…!”

 

“อ๊ะ ครับ(ตอบเหมือนทำธุรกิจ)”

 

ความรู้สึกที่ต้องอับอายของเธอมันอยู่เหนือกว่าความรู้สึกรังเกียจไปแล้วสินะ

เธอจับเสื้อของผู้ชายที่เธอดูถูกไว้แน่นและซุกหน้าเพื่อที่จะหนี

 

“โธ่…พอที…”

 

“ดีคร้าบ ขอโทษนะครับ แต่พอดีว่ารีบอยู่น่ะครับ(วิ่ง)”

 

“……”

 

หลังจากนั้น คุณหนูก็หน้าแดงลงไปจนถึงต้นคอ

ตัวของเธอสั่นแล้วก็ปิดปากโดยที่ไม่พูดอะไรเลยซักคำ

 

“ถึงจะรักษาเสร็จแล้ว แต่ก็อยู่ที่นี่ไปซักพักก่อนนะ ถ้าฝืนขยับมันจะอันตราย เพราะงั้นอยู่ที่นี่เฉย ๆ ไปก่อนแล้วกันนะ? ขอโทษนะครับ พอดีว่าเด็กคนนี้ไวต่อความรู้สึกเจ็บปวดน่ะครับ เพราะงั้นฝากเด็กคนนี้ด้วยนะครับ”

 

“รับทราบแล้วค่ะ”

 

“……”

 

คุณหนูจ้องมาทางผมด้วยใบหน้าที่เหมือนจะร้องไห้

 

“ซันโจ ฮิอิโระ..ความแค้นใจนี้ ดิฉันจะไม่มีทางลืมแน่ค่ะ…ถึงจะรู้สึกขอบคุณ….ก็เถอะ…เจ้าบ้า…”

 

“อย่าใส่ใจเลยน่า ฉันไม่ได้หวังอะไรตอบแทนหรอกนะ แต่ถ้าคืนนี้เธอจะนอนเตียเดียวกับสึกิโอริก็จะดีมากเลยล่ะนะ(ยิ้มเป็นประกาย)”

 

“ฮึ่ม…ไม่มีเซนส์ในการเล่นมุขเอาซะเลยนะคะ…ในฐานะทาสแล้ว ก็ถือว่าทำได้ดีอยู่แหละนะคะ…”

 

ไม่ใช่มุขซักหน่อย (จริงจัง)

แต่ก็นะ แนวทางของผมนั้นก็คือการเคารพความสมัครใจของอีกฝ่ายอยู่แล้ว เพราะงั้นผมจะไม่บังคับอะไร

แต่ผมก็อยากมองหาทุกความเป็นไปได้อยู่ตลอดอยู่แล้ว

 

หลังจากที่ผมกลับมาที่ชายหาด การนันทนาการก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

สึกิโอริยิ้มและหันมาทักทายผม

 

“ยินดีต้อนรับกลับนะ เจ้าชาย”

 

“เธอนี่นะ ขอทีเถอะ จริง ๆ แล้ว ควรเป็นเธอต่างหากที่มาทำอะไรแบบนี้น่ะ ขอร้องเลย การนันทนาการนี้น่ะ มันจะเปลี่ยนอะไรหลายอย่างเลยนะ เพราะงั้นก็เตรียมตัวเอาไว้ด้วยล่ะเธอน่ะ นี่ถือเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ฉันจะทำอะไรแบบนั้น”

 

จะว่าไปแล้ว มันก็ไม่ใช่เวลาที่ผมจะมาทำอะไรแบบนี้ซักหน่อย

 

ผมที่มาสาย ได้มองไปรอบ ๆ ดูทุกกลุ่มตั้งแต่คลาส A ถึง E

 

“……”

 

“……”

 

“……”

 

3 คนนั้น เป็นคลาส B รึเปล่านะ เหมือนกับในต้นฉบับเลยสินะ

 

เอาล่ะ ถ้าเรื่องราวมันดำเนินไปตามต้นฉบับล่ะก็ 3 คนนั้นจะต้องก่อความวุ่นวายหลังจากนี้…

แต่สึกิโอริก็จะแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว เพราะงั้นผมจะไม่เข้าไปแทรกแซงอะไร

 

ถึงจะคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นก็เถอะ แต่ถ้าสึกิโอริจะต้องตายล่ะก็ ผมจะปกป้องเธอไว้แน่นอน

ผมไม่คิดจะเข้าไปยื่นมือเข้าไปยุ่งจนถึงวินาทีสุดท้าย แต่ถ้าเกิดสึกิโอริตายขึ้นมาล่ะก็ แฮ้ปปี้เอ็นดิ้งก็จะหายไปทั้งหมด

เพื่ออนาคตของยูริแล้ว ผมจะต้องหาเวลาที่เหมาะสมในการช่วยเหลือ และต้องไม่พรากโอกาสของตัวเอกไปเด็ดขาด

 

“ด้วยเหตุนี้เอง ดิฉันจึงจะขอแจกบัตรแนะนำตัวนี้ไว้ให้กับทุกคนค่ะ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้กระจัดกระจายกันไปตามแต่ละที่บนเกาะเพื่อคอยช่วยเหลือ ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ แล้ว เมื่อทำกิจกรรมไหนกิจกรรมหนึ่งเสร็จแล้ว ได้โปรดบอกเจ้าหน้าที่ และใช้บัตรแนะนำตัวเองนี้ เพื่อทักทายกับกลุ่มอื่น ๆ เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมในรูปแบบการแข่งขันนะคะ ถ้าชนะก็จะได้ 2 แต้ม แต่ถ้าแพ้จะได้รับ 1 แต้ม กลุ่มไหนที่ได้คะแนนมากที่สุด ทางเราจะมีของรางวัลให้ ฉะนั้นพยายามให้เต็มทีกันไปเลยนะคะ”

 

ทันทีที่คำอธิบายจบลง สมาชิกคลาส B ทั้ง 3 คนนั้น ก็ได้รีบเดินทางไปทั่วเกาะ–

 

“สึกิโอริ มาทางนี้สิ เราจะปล่อยให้เจ้าพวกนั้นทำกิจ–สึกิโอริ?”

 

ไม่มีวี่แววของสึกิโอริเลย

ผมตกตะลึงเพราะมองหาเธอที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ผมเมื่อกี้นี้ไม่เจอ

 

“สึกิโอริ!? นี่ สึกิโอริ!? ไปไหนแล้วเนี่ย!?”

 

ผมมองหาเธอทุกที่แล้ว แต่ดูเหมือนสึกิโอริจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยเลย

ผมห้อยคุกิ มาซามุเนะไว้ข้างเอว แล้วยืนอึ้งอยู่บนชายหาด

 

มีเสียงเชียร์ดังมาจากที่ไหนซักแห่ง

ดูเหมือนว่าสาว ๆ ที่กระจัดกระจายไปตามที่ต่าง ๆ จะเริ่มทำกิจกรรมกันแล้วล่ะ

 

งะ…งานเข้าแล้ว…ทะ…ทำไมถึงได้หายตัวไปในเวลาแบบนี้กันละฟะ…! ถ้าไม่มียัยนั่นอยู่ล่ะก็ ต้องแย่ในหลาย ๆ เรื่อง แน่ ๆ เลยนะเฮ้ย…!

 

ผมกดทริกเกอร์ทันที

 

แย่แล้ว ๆ ๆ !! ถ้าสึกิโอริไม่ได้เจอกับพวกนั้นล่ะก็ งานเข้าแน่!!

ผมวิ่งเข้าไปในป่าทึบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

ผมทั้งเตะกิ่งไม้ ทั้งวิ่งบนอากาศ–แต่แล้วก็เป็นไปอย่างที่คิด ผมได้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเข้าแล้ว

 

กลุ่มคลาส B ทั้ง 3 คน

 

ด้านหลังมีเด็กผู้หญิงที่มีดวงตาเฉียบคม แขนสีแดงเข้มสองข้างยื่นออกมา

และแขนแปลก ๆ นั้น ก็กำลังกดเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไว้กับต้นไม้และกำลังบีบคอเธออยู่

 

“หึหึ อย่าโทษกันเลยนะ…ท่านจะได้กลายเป็นรากฐานของท่านผู้นั้น…ก่อนที่แอสเทมีร์จะมา ฉันจะขอจบชีวิตคุณลงที่นี่นี่แหละค่ะ…”

 

“อะ…อึ้ก…!!”

 

ลาพิสที่ไร้อุปกรณ์เวทย์เนื่องจากกำลังพักผ่อน ได้ถูกซุ่มโจมตีในเวลาแบบนี้

รอยฟกช้ำสีแดงกระจายไปทั่วคอ และใบหน้าของเธอก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวด

 

เรียกหาสึกิโอริซะสิ–ผมคิดแบบนั้น แต่แล้วความคิดนั้นก็ได้ปลิวหายไปหลังจากที่ผมได้เห็นภาพนั้น

ทันใดนั้นผมก็พุ่งตัวเข้าไป

 

“ห๊ะ!?”

 

ผมฟันเข้าไปที่แขนสีดำแดงที่กำลังจับลาพิสอยู่

ผมกระซิบและจ้องมองไปทางทั้ง 3 คน ที่กำลังถอยหลังเพราะความตกใจ

 

“…ไว้ซะ”

 

“เอ๊ะ?”

 

“เตรียมตัวเอาไว้ซะ”

 

ผมสร้างนีลแอร์โรว์ขึ้นด้วยแขนขวาของผม

 

“ถึงจะไม่มีทางหลบได้ก็เถอะ…แต่ฉันจะให้โอกาสก็แล้วกัน”

 

ผมยืดนิ้วชี้และกลางให้ตรง ทำให้ศรน้ำยืดออกจนตึงที่สุด

 

“ถ้าไม่อยากตาย ก็เตรียมตัวเอาไว้ซะ”

 

ผมจ้องมองปลายนิ้วทะลุผ่านไปยังทั้ง 3  คนนั้น

 

“พวกเธอไม่มีสิทธิ์แตะต้องนางเอกคนนี้…มารัดคอเด็กผู้หญิงแบบนี้…อย่าคิดเชียวว่าจะได้รับการยกโทษให้…”

 

ทั้ง 3 คนนั้นตัวสั่น และผมก็ยิ้มออกมา

 

“ถ้าเป็นเรื่องของพวกเธอกับเด็กคนนี้ล่ะก็ ฉันยินดีจะเข้ามาอยู่คั่นกลางเลยล่ะ”

 

ผมท้าทายทั้ง 3 คนนั้น ที่เป็นคนที่สามารถฆ่าฮิอิโระได้ในทันที ด้วยนิ้วของผม

 

“ไอ้ท่านผู้ชายชั้นต่ำคนนี้จะเป็นเพื่อนเล่นให้เอง…ดาหน้ากันเข้ามาเลยเส้”

 

ทันใดนั้นเอง พวกเธอ–ก็ยื่นแขนสีแดงนั้นมาทางผม

 

[ติดตามเรื่องนี้ได้ที่เพจ Okuse-Translator]

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด