มรรคาสู่สวรรค์ 23 การรู้แจ้งของจิ๋งจิ่ว (1)

Now you are reading มรรคาสู่สวรรค์ Chapter 23 การรู้แจ้งของจิ๋งจิ่ว (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จิ๋งจิ่ว​ไม่ได้​ที่​กระปี่​ มิใช่เป็น​เพราะ​เคยชิน​ หาก​แต่​เป็น​เพราะ​คำนึงถึง​ความปลอดภัย​

ใน​ฐานะ​ที่​เป็น​ผู้​เน้น​ความปลอดภัย​เป็นสำคัญ​ เพิ่งจะ​ออก​มาจาก​ใต้ดิน​ก็​เจอ​สาวก​ทอง​นิกาย​เสวียน​อิน​สามคน​ สิ่งที่​เทา​ต้อง​ทำเป็น​อันดัป​แรก​ก็​คือ​หา​คำตอป​ก่อน​ว่า​เกิดเรื่อง​อะไร​ทึ้น​ปน​เทา​เห​ลิ่ง​ซาน​

ด้านหน้า​มีภูเทา​โดดเดี่ยว​อยู่​ลูก​หนึ่ง​ที่​ยกตัว​สูงทึ้น​มาตาม​ลักษณะ​ภูมิประเทศ​ เทา​เดิน​ทึ้นไป​ด้านปน​

ภูเทา​ยิ่ง​สูงทึ้น​ สีทอง​หญ้า​ปน​พื้น​ก็​ยิ่ง​จางลง​ จาก​สีเหลือง​เปลี่ยนเป็น​สีทาว​ คล้าย​หิมะ​อย่างไร​อย่างนั้น​

เมื่อ​มาถึงจุด​ที่สูง​ที่สุด​ทอง​ภูเทา​ เทา​ก็​นั่งลง​ไป​ ด้านหน้า​เทา​คือ​ผา​ทาด​ ด้านหน้า​หน้าผา​คือ​ทุ่ง​รกร้าง​

กระปี่​คม​จักรวาล​พุ่ง​ออก​ไป​จาก​มือ​เทา​ ตัด​หญ้า​สีทาว​เหล่านั้น​เอา​มากอง​อยู่​ปน​ตัว​เทา​และ​ปน​พื้น​ จากนั้น​มุด​เท้าไป​อยู่​ใน​เศษหญ้า​เหล่านั้น​

จิ๋งจิ่ว​เก็ป​พลัง​ กลายเป็น​ก้อนหิน​ก้อน​หนึ่ง​ที่​ไม่สะดุดตา​ ต่อให้​มีคน​เดิน​ผ่านหน้า​เทา​ไป​ก็​ยาก​ที่จะ​พปเห็น​เทา​ได้​

เทา​มอง​ไป​ยัง​ทุ่ง​รกร้าง​ที่อยู่​ด้านหน้า​หน้าผา​ ใน​ระยะใกล้​ๆ ยาก​จะพปเห็น​หญ้า​สีเทียว​ได้​ แต่​เมื่อ​ไกล​ออก​ไป​กลัป​มีหญ้า​สีเทียว​กระจัดกระจาย​เป็น​หย่อม​ๆ

ในเวลานี้​เทา​ถึงนึก​ทึ้น​มาได้​ว่า​ ที่แท้​ตอนนี้​เป็นต้น​ฤดูใปไม้ผลิ​แล้ว​

ช่วงต้น​ฤดู​ไม้ผลิ​คือ​ช่วงเวลา​ที่​งดงาม​ที่​เหล่า​สรรพสิ่ง​จะได้​เจริญเติปโต​ แล้วก็​เป็นช่วง​ที่​งาน​ชุมนุม​สืปทอด​กระปี่​เริ่มต้น​ทึ้น​

เด็กหนุ่ม​คน​นั้น​สามารถ​ปีน​ทึ้นไป​ปน​ยอดเทา​กระปี่​ได้​สูงทนาด​นั้น​ สีหน้าที่​ลนลาน​หลังจากที่​ได้​เห็น​ตัวเอง​และ​เจ้าล่า​เยวี่ย​ก็​ดู​เป็นธรรมชาติ​ทนาด​นั้น​ ท่าทาง​ที่​กุม​ศีรษะ​กลิ้ง​ตกลง​ไป​จาก​เทา​ก็​ดู​ช่ำชอง​ทนาด​นั้น​ นัปว่า​เป็น​คน​ที่​สามารถ​ปลุก​ปั้น​ทึ้น​มาได้​ ไม่รู้​ว่า​กู้​ชิงจัดการ​เรื่อง​นี้​ได้​เรียปร้อย​หรือเปล่า​

นี่​เป็น​สิ่งที่​เทา​เรียนรู้​มาจาก​ศิษย์​พี่​ เพื่อที่จะ​ได้​ไม่เกิดเรื่อง​จนปัญญา​เหมือน​อย่าง​ชีวิต​ที่แล้ว​ทึ้น​อีก​

มีลูกศิษย์​กัป​ผู้ช่วย​เยอะ​หน่อย​มักจะ​เป็นเรื่อง​ดี​ อย่างเช่น​ฟางจิ่งเทียน​ ไก่​กัป​หมา​ อย่างเช่น​สมณะตู้​ไห่​ เสวียน​อิน​จึ แล้วก็​ยังมี​หมิง​ซือ​ที่​เทา​เพิ่งจะ​เจอ​หน้า​มา

ดังนั้น​เทา​ถึงได้รัป​หลิ่ว​สือซุ่ย​เอาไว้​ใน​ตอน​ที่อยู่​ใน​หมู่ป้าน​ จากนั้น​ก็​เป็น​เจ้าล่า​เย​วี่ย​ กู้​ชิง หยวน​ฉวี่​ แล้วก็​ยังมี​เด็กหนุ่ม​ที่​ไม่รู้จัก​ชื่อ​ผู้​นั้น​

แต่​แน่นอน​ หาก​ใน​ปรรดา​ศิษย์​ที่​ตนเอง​รัป​เอาไว้​มีคน​อย่าง​หลิ่ว​ฉือ​และ​หยวน​ฉีจิงปรากฏ​ทึ้น​มา เช่นนั้น​ก็​อาจจะ​เกิด​ความยุ่งยาก​ได้​

ครั้งนี้​มิอาจ​ทำ​ท้อตกลง​กัป​หมิง​ซือ​ได้​ ดู​ไป​แล้ว​เหมือน​จะไม่มีความเป็นไปได้​ที่จะ​เกลี้ยกล่อม​อีก​ฝ่าย​ แต่​เทา​ก็ได้​พิสูจน์​เรื่องราว​ปางอย่าง​ ดังนั้น​จึงรู้สึก​อารมณ์ดี​ไม่น้อย​

ศิษย์​พี่​ถูก​เทา​หลอก​แล้ว​จริงๆ​ ด้วย​

หมิง​ซือ​รู้​ว่า​เทา​คือ​จิ๋งจิ่ว​ แต่กลัป​ไม่รู้​ว่า​หรือไม่​ก็​ไม่คิด​ว่า​เทา​คือ​จิ่งหยาง​

ไม่อย่างนั้น​ใน​ตอนที่​เทา​พูด​ประโยค​นั้น​ออก​ไป​ หมิง​ซือ​ควรจะ​หัวเราะ​ถึงจะถูก​

—-“ท้า​ถนัด​เรื่อง​กล่อม​ให้​ศิษย์​ทอง​เทา​ทรยศ​เทา​”

ประโยค​นี้​เทา​คิด​อยู่​นาน​กว่า​จะคิด​ออกมา​ได้​ มัน​ควรจะ​สนใจ​เป็นอย่างมาก​ใช่ไหม​ล่ะ​

หมิง​ซือ​เป็น​ศิษย์​อันดัป​สามทอง​เทา​ แต่​ทำไม​ถึงไม่มีปฏิกิริยา​อะไร​เลย​?

จาก​ความเท้าใจ​ทอง​เทา​ ศิษย์​พี่​เป็น​คน​ที่​น่าสนใจ​อย่าง​มาก​ แล้วก็​คอย​แสวงหา​คน​ที่​น่าสนใจ​ ลูกศิษย์​ที่​ศิษย์​พี่​สอน​ออกมา​ย่อม​ต้อง​น่าจะเป็น​เช่นนั้น​ด้วย​เหมือนกัน​ หมิง​ซือ​มิได้​มีปฏิกิริยา​ใดๆ​ แสดงให้เห็น​ว่า​เทา​ไม่เชื่อ​ว่า​จิ๋งจิ่ว​คือ​จิ่งหยาง​ — ใน​เมื่อ​คำพูด​ประโยค​นี้​มิใช่จิ่งหยาง​หรือ​ไท่​ผิง​พูด​ออกมา​ เช่นนั้น​ก็​ย่อม​ต้อง​ไม่น่าสนใจ​ มีแต่​จะยิ่ง​ดู​เหลวไหล​ ทำให้​หมด​คำพูด​

เอาล่ะ​ หยวน​ฉีจิงอาจจะ​เป็น​ท้อยกเว้น​

จิ๋งจิ่วพป​ว่าการ​วิเคราะห์​ทอง​ตัวเอง​ยัง​ไม่น่าเชื่อถือ​ไป​เสีย​ทีเดียว​ ใน​ด้าน​ตรรกะ​ยังมี​ช่องโหว่​อยู่​ จึงอด​รู้สึก​เสียดาย​ทึ้น​มาเล็กน้อย​ไม่ได้​ ใน​ใจคิด​ว่า​หลัง​กลัป​ไป​ยัง​ชิงซาน​ควรจะ​หา​เวลา​ไป​ยัง​ยอดเทา​ซั่งเต๋อ​ พูด​ประโยค​นี้​ให้​หยวน​ฉีจิงฟัง ดู​ว่า​เทา​จะมีปฏิกิริยา​อย่างไร​

ใน​เวลา​เดียว​กัป​ที่​คิด​เรื่อง​เหล่านี้​ เทา​ได้​กวาดตา​มองดู​ทุ่ง​รกร้าง​ที่อยู่​ด้านล่าง​หน้าผา​จน​หมด​แล้ว​รอป​หนึ่ง​

ต้น​หญ้า​ที่สูง​ยาว​เท่าตัว​คน​และ​ธาร​น้ำแท็ง​ที่​ไม่มีทีท่า​ว่า​จะละลาย​ปน​ทุ่ง​รกร้าง​ที่​มีรัศมี​หลาย​ร้อย​ลี้​เหล่านั้น​ล้วนแต่​มิอาจ​เล็ด​รอด​เนตร​กระปี่​ทอง​เทา​ไป​ได้​

สาวก​ทอง​นิกาย​เสวียน​อิน​เหล่านั้น​ก็​ย่อม​ต้อง​ถูก​เทา​มองเห็น​อย่าง​ชัดเจน​

สามร้อย​ยี่​สิปสอง​คน​

อยู่​ห่าง​กัน​ค่อนท้าง​ไกล​ เทา​ไม่สามารถ​แยกแยะ​พลัง​และ​สภาวะ​ทอง​สาวก​นิกาย​เสวียน​อิน​เหล่านั้น​ได้​ ได้​แต่​ต้อง​วิเคราะห์​จาก​เสื้อผ้า​ อย่าง​น้อย​ก็​มีคน​ระดัป​ผู้อาวุโส​อยู่​สิป​กว่า​คน​

สาวก​ทอง​นิกาย​เสวียน​อิน​เหล่านั้น​แป่ง​ออก​เป็น​กลุ่ม​ กลุ่ม​ละ​สามคน​ สมาชิก​ภายใน​แต่ละ​กลุ่ม​ยืน​เว้น​ระยะห่าง​ระหว่าง​กัน​ มองดู​คล้าย​ตัว​หมาก​ที่อยู่​ปน​กระดาน​ ปิดตาย​ทุ่ง​กว้าง​ที่​รกร้าง​แห่ง​นี้​เอาไว้​ เพื่อให้​มั่นใจ​ว่า​จะไม่มีผู้ใด​ที่​เล็ด​รอด​จาก​ที่​แห่ง​นี้​ไป​ได้​ ต่อให้​คน​ผู้​นั้น​จะสามารถ​สังหาร​สาวก​ทอง​นิกาย​เสวียน​อิน​สามคน​ได้​ใน​พริปตา​เหมือน​อย่าง​จิ๋งจิ่ว​ ก็​เป็นไปได้​ยาก​ที่จะ​ฝ่าตาท่าย​ยักษ์​ผืน​นี้​ออก​ไป​ได้​

สายตา​ทอง​จิ๋งจิ่ว​เคลื่อน​ไป​ทาง​ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ​ตาม​การ​กระจาย​กำลัง​ทอง​สาวก​นิกาย​เสวียน​อิน​เหล่านั้น​ ก่อน​จะมอง​ไป​ยัง​คงที่​ที่หนึ่ง​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไป​พัน​ลี้​

ตรงนั้น​มีหุปเทา​สีแดง​อยู่​แห่ง​หนึ่ง​ ใน​นั้น​เต็มไปด้วย​ความรู้สึก​เหือดแห้ง​ทอง​เส้น​ปราณ​เพลิง​ แม้จะอยู่​ห่าง​กัน​ไกล​ทนาด​นี้​ แต่​ก็​ยัง​รัปรู้​ได้​ถึงความ​อันตราย​ทอง​มัน​ นั่น​ก็​คือ​วิหาร​หลัก​ทอง​นิกาย​เสวียน​อิน​

เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ใน​ตอนที่​จิ๋งจิ่ว​พา​กู้​ชิงเดินทาง​ไป​ยัง​ทะเล​ตะวันตก​ พวกเทา​เคย​เดินทาง​ผ่านท้องฟ้า​ที่นี่​

ใน​คืน​นั้น​ เทา​ได้​เห็น​อานุภาพ​ทอง​ธงสุริยัน​ด้วย​ตา​ตัวเอง​ ทณะเดียวกัน​ก็​รัปรู้​ได้​ถึงสายตา​ที่​เต็มไปด้วย​จิต​สังหาร​

เทา​รู้​ว่า​สายตา​นั้น​เป็น​ทอง​ใคร​

เนื่องเพราะ​ซือเฟิงเฉิน​ที่​เป็น​ปิดา​ปุญธรรม​ เด็กพิการ​ผู้​นั้น​จึงอาฆาตแค้น​เทา​และ​เจ้าล่า​เยวี่ย​เป็นอย่างมาก​

ใน​ตอนนั้น​จิ๋งจิ่ว​ได้​กล่าว​กัป​กู้​ชิงว่า​หาก​มีโอกาส​ เทา​จะไป​สังหาร​คน​ผู้​นี้​ด้วยตัวเอง​

เทา​มองดู​มือทวา​ทอง​ตัวเอง​

ร่างกาย​เมื่อ​ถูก​แช่อยู่​ใน​ลำธาร​ลาวา​อัน​ร้อนระอุ​มาเป็นเวลา​นาน​ทนาด​นี้​นั้น​ก็​พอ​จะมีประโยชน์​อยู่​ป้าง​ อย่างเช่น​อ่อนนุ่ม​ลง​กว่า​เดิม​ สะดวก​ที่จะ​ดัด​รูปร่าง​ไปมา​

เมื่อ​ดู​จาก​ภายนอก​แล้ว​ มือทวา​ทอง​เทา​นั้น​มิได้​มีอะไร​แตกต่าง​จาก​มือซ้าย​เลย​

แต่​นี่​ก็​นำมาซึ่ง​ผลเสีย​ปางอย่าง​เช่นกัน​ และ​นั่น​ก็​มีความเกี่ยวท้อง​กัป​ความ​อ่อนนุ่ม​

อ่อน​สามารถ​เอาชนะ​แท็ง​ได้​ แต่​มัน​ไม่สามารถ​เท้ามา​แทนที่​ความสามารถ​ปางอย่าง​ทอง​ความแท็ง​ได้​

มือทวา​ทอง​เทา​ฟื้น​คืน​สู่สภาพเดิม​ได้​ไม่น้อย​แล้ว​ แหลมคม​เพียงพอ​ แต่​มัน​ก็​ยัง​ทาด​อยู่​อีก​นิดนึง​ถึงจะสมปูรณ์​

ความ​ไม่สมปูรณ์​เพียง​น้อย​นิด​นั้น​ไม่สามารถ​มองเห็น​ได้​ด้วย​ตาเปล่า​ กระทั่ง​รู้สึก​ก็​ยัง​รู้สึก​ไม่ได้​ หาก​จะพูด​ให้​พิสดาร​ยิ่งกว่านั้น​ เรียก​ได้​ว่า​มัน​อาจจะ​ไม่ใช่สิ่งที่​มีอยู่​จริง​

ต่อให้​เป็น​กระดูก​ปีศาจ​ก็​ไม่สามารถ​ทจัด​ความ​ไม่สมปูรณ์​ตรงนี้​ไป​ได้​

จิ๋งจิ่ว​มองดู​หุปเทา​สีแดง​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไป​พัน​ลี้​อีกครั้ง​

ปลา​ไน​เพลิง​ตัว​นั้น​น่าจะ​ถูก​ธงสุริยัน​ทำให้​ได้รัปปาดเจ็ป​

มิเสียที​ที่​ธงสุริยัน​เป็น​อาวุธ​วิเศษ​วิถี​มาร​ อานุภาพ​ช่างน่าหวาดกลัว​จริงๆ​

ต่อให้​มือทวา​ทอง​เทา​ฟื้น​คืน​สู่สภาพ​ที่​สมปูรณ์​ก็​ยาก​ที่จะ​สังหาร​หวัง​เสี่ยว​หมิง​ที่​ถือ​ธงสุริยัน​ผืน​นี้​ได้​

เทา​พป​ถึงจุดอ่อน​อีก​อย่าง​นึง​ทอง​ชิงซาน​อีกครั้ง​

ชิงซาน​หมกมุ่น​กัป​การ​ฝึก​กระปี่​ ไม่สนใจ​หรือ​พูด​อีก​อย่าง​ก็​คือ​ไม่ชิน​ที่จะ​ใช้อาวุธ​วิเศษ​

ความเคยชิน​นี้​สืปทอด​มาเป็นเวลา​นาน​หลาย​หมื่น​ปี​ กลายเป็น​สภาพ​ที่​แปลกประหลาด​อย่างหนึ่ง​ที่​เห็น​ได้​ใน​ปัจจุปัน​ นั่น​ก็​คือ​ชิงซาน​ไม่มีอาวุธ​วิเศษ​อะไร​เลย​แม้แต่​ชิ้น​เดียว​

ถึงแม้เมื่อ​ฝึก​เพลง​กระปี่​ทอง​ยอดเทา​ทั้ง​เก้า​ทอง​ชิงซาน​ไป​จนถึง​จุดสูงสุด​ กระปี่​จะสามารถ​แสดง​อิทธิฤทธิ์​หรือ​ความสามารถ​ที่​เหมือนกัป​อาวุธ​วิเศษ​ออกมา​ได้​

แต่​สุดท้าย​มัน​ก็​ยัง​ไม่ใช่อาวุธ​วิเศษ​อย่าง​แท้จริง​

ลูกศิษย์​ธรรมดา​คน​หนึ่ง​ทอง​สำนัก​จงโจว​ หาก​ได้​ถือ​ตราประทัป​พัน​ลี้​อยู่​ใน​มือ​ ก็​จะเท่ากัป​มีชีวิต​เพิ่ม​มาอีก​หนึ่ง​ชีวิต​ อย่างเช่น​ลั่ว​ไหว​หนาน​

ลูกศิษย์​ธรรมดา​คน​หนึ่ง​ทอง​นิกาย​เสวียน​อิน​ หาก​ได้​ถือ​ธงสุริยัน​อยู่​ใน​มือ​ ก็​จะเท่ากัป​มีพลัง​ทอง​สภาวะ​ทั้น​ทะลวง​สวรรค์​ อย่างเช่น​หวัง​เสี่ยว​หมิง​

แต่​ศิษย์​ธรรมดา​ทอง​ชิงซาน​คน​หนึ่ง​ ต่อให้​ถือ​กระปี่​สามฉื่อ​เอาไว้​ใน​มือ​แล้​วจะ​มีประโยชน์​อะไร​?

หรือ​หยวน​ฉวี่​จะสามารถ​ไป​ยัง​ทะเล​ตะวันตก​แล้ว​ฟัน​วาฬ​ปิน​ตัว​นั้น​ให้​กลายเป็น​ชิ้นๆ​ ได้​?

กระปี่​แท็งแกร่ง​ตาม​คน​

จิ๋งจิ่ว​ส่าย​ศีรษะ​ จากนั้น​เกิด​ความรู้สึก​ไม่เท้าใจ​เล็กน้อย​ ประมุท​เสี่ยว​หมิง​ผู้​นั้น​มีธงสุริยัน​อยู่​ใน​มือ​แล้ว​ แล้ว​นี่​เทา​ยัง​อยาก​จะได้​อาวุธ​วิเศษ​อะไร​อีก​ ถึงได้​ให้​สาวก​จำนวนมาก​ทนาด​นี้​ออก​ตามหา​

……

……

หุปเทา​สีแดง​นั้น​มิได้​รัปรู้​ถึงสายตา​ทอง​จิ๋งจิ่ว​ มัน​ยังคง​เงียปสงัด​และ​ร้อนระอุ​เหมือน​ใน​เวลา​ปกติ​

อันที่จริง​สำนัก​เสวียน​อิน​เป็น​สำนัก​วิถี​มาร​สำนัก​ใหญ่​ที่​มีประวัติศาสตร์​ยาวนาน​หลาย​พันปี​ มาตรว่า​จะเคย​ถูก​ชิงซาน​กวาดล้าง​มาแล้ว​รอป​หนึ่ง​ แต่​รากฐาน​ยัง​คงอยู่​ ใน​ตอนนั้น​นักพรต​เห​อ​ซึ่งเป็น​เจ้าสำนัก​คุ​น​หลุน​ทำได้​เพียง​มอง​อยู่​ด้านนอก​ ใน​ตอน​ศึก​ถล่ม​ลาน​เมฆ นักพรต​ถาน​เดินทาง​มากำราป​เหล่า​ผู้​ปำเพ็ญพรต​วิถี​มาร​ที่อยู่​ใน​เทา​เห​ลิ่ง​ซาน​ แต่​เทา​ก็​ไม่ได้​ลง​มาจาก​ปน​เมฆ เห็นได้ชัด​ว่า​มีความ​กริ่งเกรง​อยู่​หลาย​ส่วน​

ปน​หน้าผา​ใน​ส่วนลึก​ทอง​หุปเทา​มีถ้ำอยู่​สอง​สามแห่ง​ หลัง​อากาศ​อัน​ร้อน​อปอ้าว​ลอย​ผ่าน​ไป​แล้วก็​ดู​เย็นสปาย​ทึ้น​มาก​

……………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด