ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ 1476 ข้าสั่งให้เจ้าตาย!

Now you are reading ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ Chapter 1476 ข้าสั่งให้เจ้าตาย! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 1476 ข้าสั่งให้เจ้าตาย!

ทุกอย่างเกิดขึ้นไวยิ่งนัก!

ประกายแสงสีแดงแกมทองและแสงสีม่วงเหลื่อมทองเข้าโรมรันประชันแววเจิดจ้าเสียจนผู้ชมตาพร่าไปตามกัน

ยังมิทันดูให้ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น การต่อสู้ครานี้ก็จบลงแล้ว!

ปึก!

เจียงเฮ่อเทียนสองขาอ่อนแรง คุกเข่าทรุดลงกับพื้น

สองตาของเขาเบิกโพลงจนลูกตาแทบถลน มุมปากค่อยๆ มีโลหิตไหลซึม

บนหน้าอกของเขามีเลือดไหลทะลักออกมาจากรูโหว่ขนาดใหญ่เท่าถ้วยกลางอก

เลือดที่ไหลนองสดๆ เป็นสายมีสีแดงเข้ม ทั้งยังคงความอุ่นไว้

ยังไม่ทันหยดลงบนพื้นน้ำแข็ง ก็จับตัวแข็งกันเป็นก้อนอย่างรวดเร็วแล้ว

ฉากนี้ทำเอาคนตกใจกลัวจนแทบสิ้นสติโดยแท้

บรรดาผู้คนต่างเงียบกริบในบัดดล ด้วยแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า

เจียงเฮ่อเทียนเป็นถึง…ผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูงเทียวหนา!

กระบี่นี้ของซั่งกวนเยว่ กลับแทงทะลุหัวใจเขาอย่างจัง!

เห็นชัดเลยว่าหมายคร่าชีวิตเขาเข้าจริงๆ!

“ท่านพ่อ…“

เสียงร้องตะโกนโหยหวนอย่างสิ้นหวังทำลายความเงียบงันจนสิ้น

เจียงจื่อหยวนมองทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา สีหน้าของนางซีดเผือด ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้าน

ซั่งกวนเยว่…

ทุกอย่างล้วนโทษซั่งกวนเยว่ผู้เดียว!

หากมิใช่เพราะด้านข้างมีไป๋หลี่ฉุนคอยพยุงอยู่ เกรงว่านางได้ทรุดตัวลงพื้นทั้งอย่างนั้นแล้วจริงๆ

เดิมทีนางก็ได้รับบาดเจ็บ ใจเปี่ยมด้วยความโศกาแลแรงโกรธเกลียดอยู่แล้ว พอบัดนี้เพลิงโทสะเข้ากัดกินจิตใจ แลวิตกกังวลเป็นทุนเดิม จึงกระอักเลือดออกมาหลายคำจนแทบหมดสติไปเสียเดี๋ยวนั้น

“หยวนหยวน!”

ใจของไป๋หลี่ฉุนเปี่ยมด้วยความกังวลแลปวดร้าวนัก

เด็กคนนี้อยู่กับเขามาหลายปีเพียงนี้ มิเคยต้องลำบากยากแค้น ประสบพบเจอปัญหารุมเร้ามาก่อน

ทว่ามาช่วงเวลาครานี้ นางกลับได้เผชิญความทุกข์ทรมานแทบทุกรูปแบบแล้ว!

เขาพยุงเจียงจื่อหยวนไว้ ก่อนตวัดสายตามองฉู่หลิวเยว่อย่างเข้มงวดดุดัน

“ซั่งกวนเยว่! เจ้าบังอาจนัก!”

เพราะเปี่ยมด้วยแรงโทสะ เขาออกปากติเตียนครานี้ดั่งอัสนีบาตฟาดพสุธากะทันหัน เสียงก้องสั่นสะเทือนเสียจนหูของคนในเหตุการณ์อื้ออึงไปตามกัน

ทว่าฉู่หลิวเยว่กลับมิเสียเวลาปรายตามองเขาด้วยซ้ำ

นางค่อยๆ หยัดกายขึ้น ภายในแววตาดำมืดเย็นยะเยือก แฝงไว้ซึ่งจิตสังหารอันน่าหวาดหวั่น!

ฟึ่บ!

กระบี่ชื่อเซียวลอยกลับไปอยู่ในมือนาง

บนใบกระบี่คมสะท้อนแววเงินมิมีคราบเลือดหลงเหลือแม้แต่ครึ่งหยด

นางมองมันอย่างพึงพอใจ จากนั้นเหลือบตามองเจียงเฮ่อเทียน

เปรี๊ยะ!

อาณาเขตเซียนเทพของเจียงเฮ่อเทียนแตกสลายพร้อมเสียงดังลั่น!

นี่ทำให้สีหน้าของเขาซีดเผือดยิ่งกว่าเดิม

“เจ้า…”

นัยน์ตาที่แต่เดิมเต็มไปด้วยแววจองหองและยโสโอหังอย่างที่ได้เห็นอยู่บ่อยครั้ง บัดนี้กลับเปี่ยมด้วยความหวาดผวาและเคียดแค้น

ในไม่ช้า ศีรษะของเขาก็ฟุบลงกับพื้น

กลุ่มประกายแสงมากมายลอยขึ้นมาจากร่างของเขา จากนั้นก็รวมตัวกันกลางอากาศเป็นเงาวิญญาณกึ่งโปร่งใสตนหนึ่ง

นั่นคือจิตวิญญาณของเจียงเฮ่อเทียนนั่นเอง

ยามเห็นภาพฉากนี้ คนจำนวนไม่น้อยต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไป

“ที่แท้เจียงเฮ่อเทียนก็ไม่มีร่างศักดิ์สิทธิ์หรือนี่!”

“มิใช่ว่าเขาหยุดที่ระดับเทพขั้นสูงมาหลายปีแล้วรึ? พูดตามตรง อย่างไรก็ควรจะหลอมร่างศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว ก่อนหน้านี้เห็นเขาทำตัวจองหองปานนั้น นึกว่าหลอมร่างได้ตั้งนานแล้วเสียอีก ใครจะรู้…ว่าแค่แกล้งทำตัวอวดอ้างไปวันๆ กันเล่า!”

“เขาก็เป็นแบบนี้มาตลอดไม่ใช่หรือไร? หลายปีมานี้เพราะมีพระราชวังเมฆาสวรรค์คอยคุ้มกะลาหัว เขาถึงได้ออกมาทำตัวยโสโอหังข้างนอกอยู่บ่อยๆ คนที่ไม่รู้คงหลงคิดว่าเขาคือผู้กุมอำนาจของพระราชวังเมฆาสวรรค์น่ะซี!”

“ชิ ต่อให้ไม่มีร่างศักดิ์สิทธิ์ เป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูง ถูกจอมยุทธ์ระดับเก้าขั้นกลางตีเสียจนมีสภาพแบบนี้ได้ ช่าง…น่าขายขี้หน้าคนเขาเสียจริงๆ! หากข้าเป็นเขา ทั้งชีวิตนี้คงไม่มีหน้าออกมาเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอกแล้ว!”

“ฮ่า ฮ่า เขาอาศัยหนังหน้านี้ออกมาวิ่งพล่านอยู่ได้ตั้งหลายปี เช่นนั้นตัวข้าก็ย่อมเทียบไม่ติดแล้ว!”

คนจำนวนไม่น้อยพากันหัวเราะเสียงขรม

แม้นเจียงเฮ่อเทียนยามอาศัยอยู่ในพระราชวังเมฆาสวรรค์จะนับว่ามีสถานะสูงส่ง ใครต่อใครต่างเรียกเขา ‘ท่านประมุขเจียง’

ทว่ายามอยู่ด้านนอก ต่อหน้าบรรดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ในอาณาจักรเสิ่นซวี่แล้ว เขากลับมิอาจนับว่าเป็นกระไรได้

เมื่อก่อนที่ทำตัวนอบน้อมกับเจียงเฮ่อเทียนอยู่หลายส่วน ก็เป็นเพราะพวกเขาส่วนใหญ่เห็นแก่หน้าหรงซิวทั้งนั้น

มาบัดนี้ ทีท่าของหรงซิวเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าเอนเอียงไปทางซั่งกวนเยว่อย่างเห็นได้ชัด

เช่นนั้นแล้ว เหตุใดพวกเขายังต้องสนใจว่าเจียงเฮ่อเทียนจะมีสีหน้าอย่างไรด้วยเล่า?

น่าเสียดายที่บัดนี้เจียงเฮ่อเทียนโมโหจนแทบเสียสติ จึงมิมีเวลาพอจะไปคิดถึงเรื่องพวกนี้ได้อีก

เขารู้แค่ว่าตัวเองถูกซั่งกวนเยว่ทำลายร่างเนื้อจนสูญสิ้นไปเสียแล้ว!

ไม่รู้ว่าจะต้องเสียพลังไปอีกมากน้อยเท่าไร สำหรับผู้ฝึกตนเช่นเขาในการประกอบร่างเนื้อขึ้นมาอีกรอบ!

“ซั่งกวนเยว่! เซียนสุ่ยหลิงเป็นถึงผู้นำของยี่สิบแปดกองกำลังแห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์! อีกทั้งข้ายังเป็นประมุขของตระกูลเจียงแห่งเซียนสุ่ยหลิง! เจ้ากล้าทำเช่นนี้กับข้า…”

ฉู่หลิวเยว่พลันหัวเราะออกมา

“ประมุขเจียง เหมือนว่าท่านจะลืมสถานะของข้าไปนะเจ้าคะ”

เจียงเฮ่อเทียนพลันสะอึก

ฉู่หลิวเยว่ก้าวไปด้านหน้าด้วยท่วงท่าหลังเหยียดตรง ประหนึ่งต้นสนที่ปกคลุมด้วยหิมะมิปาน!

ทั้งอดทนอดกลั้น! ยโสจองหอง! เปี่ยมคุณธรรม!

นางเชิดคางขึ้นน้อยๆ จากนั้นก็ถอดหน้ากากบนหน้าออก

ดวงหน้าหยดย้อยงดงามล่มเมืองปรากฏต่อหน้าฝูงชน!

บริเวณโดยรอบพลันเงียบกริบในบัดดล

ส่องสว่างดุจสุริยา งามสง่าดั่งบุหลัน

คิ้วเข้มดั่งทิวผา จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากแดงระเรื่อเผยอเชิดเป็นเรียวโค้งไร้ที่ติ

โดยเฉพาะนัยน์ตาหยกดำประดับน้ำคู่นั้น ดั่งเมฆหมอกเลื่อนลอย หลั่งไหลไม่รู้ทิศทาง

ชั่วพริบตานี้เอง ลมปราณที่ปกคลุมบนร่างของนางพลันเกิดความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่!

เด็กหนุ่มรูปงามนิสัยอ่อนโยนผู้นั้นหายไปแล้ว แทนที่ด้วยเด็กสาวรูปลักษณ์งามหยดย้อย แฝงกลิ่นอายสูงศักดิ์หาที่เปรียบไม่ได้!

เห็นได้ชัดว่านางยังไม่ทำสิ่งใดด้วยซ้ำ แต่กลับมีกลิ่นอายสูงศักดิ์เต็มเปี่ยมอยู่ในกระดูก ทำให้คนต้องเงยมองด้วยความเคารพโดยไม่รู้ตัว

นางหัวเราะ ก่อนจะเอ่ยเตือนสติอย่างช้าๆ ว่า

“ข้า…ซั่งกวนเยว่ เป็นชายาแห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์! ข้าเป็นนาย เจ้าเป็นบ่าว! อย่าพูดแต่สั่งสอนเจ้าเลย ต่อให้วันนี้ข้ากุดหัวเจ้ากับมือทิ้งเสียที่นี่ เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์บ่นแม้แต่ครึ่งคำ!”

ข้าสั่งให้เจ้าตาย เจ้าก็ต้องตาย!

ในที่แห่งนี้มิเกี่ยวว่าอะไรถูกอะไรผิด มีแค่ฐานะสูงศักดิ์กับต่ำต้อยเท่านั้น!

“ลบหลู่เบื้องสูง พยายามกระทั่งเอาชีวิตข้า…เจียงเฮ่อเทียน! ต่อให้เจ้ามีสิบชีวิต ก็ไม่พอจะชดใช้บาปของเจ้าในวันนี้ได้!”

ทุกทุกคำมีพลังและอำนาจ พูดตอกใส่เจียงเฮ่อเทียนเสียจนเขาเถียงไม่ออก!

อีกทั้งในตอนนั้นเอง บรรดาพวกผู้อาวุโสฮวาเฟิงเองก็มองเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของฉู่หลิวเยว่เช่นกัน

สีหน้าของคนพวกนั้นต่างก็พร้อมใจกันเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่

“นางหนูเยว่เออร์!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด