[เอเลี่ยนเกยตื้น] สเปซทรัคเกอร์ รูดี้คุง 30 ท่วงทำนองที่เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก
ตอนที่30 ท่วงทำนองที่เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก
หลังจากที่ตัดผมเสร็จแล้วกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่น รูดี้ก็เดินเข้าไปหานาโอมิ
“ชิโชว อาหารเย็นวันนี้เป็นอาหาร นอร์ดิก เดส”
“มันเป็นอาหารแบบไหนล่ะนั่น?”
“มันเป็นอาหารที่เน้นเนยเยอะเป็นพิเศษ เดส”
“เนย? จะว่าไปเมื่อไม่นานมานี้ฉันก็เอามันมาทาขนมปังอยู่นี่นะ มันเหมือนกับว่าจะเป็น ไขมันจากนมที่แข็งตัวใช่ไหม?”
“ชิโชว ไม่เคยได้ลองกินมันมาก่อนที่จะมาที่นี่เหรอ เดส?”
“เปล่าหรอก จำได้ว่าเมื่อก่อนก็เคยกินอยู่แหละ แต่มันนานมากแล้วจนจำรสชาติของมันไม่ได้เลย”
เพราะสภาพอากาศที่อบอุ่นในละแวกนี้ อาหารที่เสียง่ายอย่างนมและเนยจึงไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก
“ถ้าอย่างนั้นก็ตั้งตารอได้เลย เดส แต่ก่อนหน้านั้นคุณต้องไปตรวจสุขภาพก่อนนะ”
“ตรวจสุขภาพ?”
“เพราะชิโชวได้รับบาดเจ็บมาเมื่อเร็วๆนี้ไง เราจึงต้องตรวจสอบดูว่ามีอะไรผิดปรกติหรือเปล่า เดส”
“ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปรกตินะ”
“ถึงอย่างนั้นก็ต้องตรวจ เดส ถ้าไม่ยอมไปตรวจละก็ เย็นนี้ไม่มีเหล้านะ เดส”
“ถ้างั้นก็มาตรวจกันเลย”
นาโอมิ ที่ถูกหลอกล่อด้วยเหล้าก็ก็ยอมไปตรวจสุขภาพแต่โดยดี
“แค่ให้เจาะเลือดไปก็พอแล้วเหรอ?”
“วันนี้มันเป็นแค่การสังเกตความเปลี่ยนแปลง เพราะงั้นก็แค่นี้แหละ เดส”
พอตอบนาโอมิแบบนั้นเขาก็เดินเข้าไปในครัวแล้วเริ่มทำอาหาร
เมื่อไม่มีอะไรทำนาโอมิก็เริ่มเอาสมาร์ทโฟนที่ได้มาออกมาเล่น
ฮาล นั้นได้ดัดแปลงระบบแปลภาษาของมันให้เป็นภาษาของดาวดวงนี้จึงทำให้นาโอมิสามารถอ่านตัวอักษรในสมาร์ทโฟนได้
เท่าที่จำได้เขาเคยบอกว่ามันสามารถเล่นดนตรีได้นี่นะ….พอนึกได้แบบนั้นนาโอมีก็เปิดแอปพลิเคชันสำหรับเล่นเพลงขึ้นมา บนหน้าจอหลักของมันแสดงให้เห็นตัวเลือกของแนวดนตรีหลายชนิด
“ไอ้ที่เรียกว่า เฮฟวี่เมทัล เนี่ยมันเป็นคนตรีแบบไหนกันนะ?”
เริ่มมาก็ดันไปเปิดด้วยแนวเพลงที่รุนแรงที่สุด นาโอมิก็ถูกต้อนรับด้วย เสียงอันดุดันและบ้าคลั่งของเครื่องดนตรี และเนื้อเพลงสุดหยาบกร้านตามกันออกมา
[ ซาบาต! ซาบาต! ซาบาต! ซาบาต! เหล่าปิศาจเอ๋ยจงตื่นขึ้นมา กวาดล้างก๊อบบลินให้สิ้นซาก ไปจากจักรวาล ! ฟ้ากกิ้ง ซาบาต!!!!]
“นะ..บ้าอะไรเนี่ย!!!”
ตกใจไปกับเสียงบาดหูอย่างกะทันหัน นาโอมิที่หน้ามุ่ยก็ปิดเพลงลงทันที
“รูดี้!!”
ได้ยินเสียงเรียกรูดี้ที่กำลังสวมผ้ากันเปื้อนก็เดินออกมา
“มีอะไรเหรอ เดส?”
“บนอวกาศพวกเธอฟังไอ้แพลงสุดบาดหูสุดๆแบบนี้กันเหรอ?”
“เพลงแนวไหนเหรอ เดส?”
“เห็นมันเรียกว่า เฮฟวี่เมทัล น่ะ”
พอได้ยินแบบนั้นรูดี้ก็แสดงให้เห็นว่าเข้าใจสาเหตุออกมาทางใบหน้าของเขา
“อา…ไอ้เพลงแนวนั้นมันเอาไว้ฟังตอนที่คุณกำลังหงุดหงิดแล้วอยากจะฆ่าใครสักคน อ่ะ เดส ถ้าอยากได้อะไรที่มันลื่นหูก็ลองเลือกแนว คลาสสิค หรือพวกแนวบรรเลงเครื่องดนตรี เดส”
“อ่าวเหรอ…ขอบใจ”
“ไม่มีปัญหา เดส”
ว่าแล้วเขาก็กลับเข้าไปในครัว
“เพลงที่เอาไว้ฟังตอนที่กำลังอยากจะฆ่าใครสักคนเหรอ…จักรวาลนี่มันช่างกว้างใหม่จริงๆนะ”
แม้ว่าจริงๆแล้วเฮฟวี่เมทัลมันไม่ใช่เพลงที่เอาไว้ฟังตอนที่อยากจะฆ่าใครสักคนก็เถอะ มันเป็นความผิดของรูดี้ที่อธิบายไปชุ่ยๆแบบนั้น
คราวนี้เธอเลือกไปที่เพลงแนวคลาสสิค ตามที่รูดี้แนะนำ แล้วเลือก “La Campanella” ที่อยู่บนหัวลองรายการ เสียงอันไพเราะของเปียโนก็ลอยออกมา ทันไดนั้นร่างกายของนาโอมิก็รู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่า
ท่วงทำนองของมันช่างไพเราะจริงๆ มันใช้เครื่องดนตรีแบบไหนในการบรรเลงเพลงนี้ออกมากันนะ?
เพราะว่าดาวดวงนี้ยังไม่เคยมีการสร้างเปียโนมาก่อน เมื่อได้ยินเสียงของมันเป็นครั้งแรกก็ทำให้นาโอมิประทับใจเป็นอย่างมาก
แม้ว่าเมื่อสักครู่เธอจะเพิ่งเคยได้ฟัง เฮฟวี่เมทัลเป็นครั้งแรกเหมือนกันก็ตาม แต่สำหรับเธอมันฟังดูเหมือนเสียงรบกวนบาดหู จึงไม่ได้ประทับใจไปกับมัน
นาโอมิอยากจะถามรูดี้เกี่ยวกับเครื่องดนตรีชิ้นนี้ แต่ว่าเธอก็ไม่อยากที่จะไปรบกวนการทำอาหารของเขา
เธอจึงกลับไปสำรวจสมาร์ทโฟนของเธอต่อไปเพื่อที่จะฟังเพลงอื่นๆแต่เธอก็ไปเจอเข้ากับ ลิ้งก์ ของวิดีโอที่บันทึกการแสดงสดของ La Campanella เข้าโดยบังเอิญ แล้วมันก็เริ่มแสดงออกมา
“โอ๊ะ…ภาพมันขยับได้ด้วย!”
นาโอมิรู้สึกทึ่งไปกับการแสดงในวิดีโอนั้น แล้วเริ่มสนใจในเปียโนมากขึ้น จึงเริ่มไล่ดูบทเพลงต่างๆที่บรรเลงโดยเปียโนไปในขณะที่รอรูดี้ทำอาหาร
“ชิโขว อาหารพร้อมแล้ว เดส”
เคลิบเคลิ้มไปกับท่วงทำนองของเปียโนเธอจึงลืมเรื่องของอาหารไปครู่หนึ่งจนกระทั่งรูดี้โผล่มาพร้อมกับอาหารที่ทำไว้
“วันนี้ก็ขอบใจนะ”
“มันเป็นงานอดิเรกอยู่แล้วเพราะงั้นไม่ต้องใส่ใจ เดส จะว่าไปกำลังฟังอะไรอยู่เหรอ เดส?”
“เอ…ตอนนี้รู้สึกว่าจะเป็น ไอ้ที่เรียกว่า Chopin’s Etude Op. 10, No. 12 อ่ะนะ ”
“อา..อันนั้นรู้สึกว่ามันจะชื่อว่า การปฏิวัติ เดส ”
“โฮ่…”
ชื่อของมันกระตุ้นความสนใจของนาโอมิ เธอจึงคะยั้นคะยอให้รูดี้เล่าต่อ
“มันเป็นเพลงที่แต่งขึ้นเมื่อนานมาแล้ว เกี่ยวกับประเทศเล็กๆที่ถูกแบ่งแยกและปรกครองโดยประเทศที่ใหญ่กว่านั้นเริ่มการการปฏิวัติเพื่อประกาศเอกราช แต่ก็ถูกปราบปรามลง”
“เพราะอย่างนั้นเลยรู้สึกได้ถึงความโกรธเกรี้ยวในท่วงทำนองสินะ”
“คงจะเป็นอย่างนั้นแหละ เดส”
รูดีตอบระหว่างที่จัดอาหารลงบนโต๊ะ
สลัดมันฝรั่งผสมโยเกิร์ตทำนั้น ประกอบไปด้วยมันบด แตงกวา ข้าวโพด และแอปเปิ้ล หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปคลุกรวมกับมายองเนสและโยเกิร์ตเพื่อให้ได้รสชาติที่สดชื่น
แจนสัน เทมป์เทชั้น คือ กราแตง ที่ทำโดยการผัดมันฝรั่งกับหอมใหญ่ในเนยแล้วใส่ปลาเอนโชวี่แล้วราดด้วยครีมแทนการทำซอสขาว หลังจากนั้นก็เอาไปอบแล้วโรยหน้าด้วยชีสขูดกับเกร็ดขนมปัง
ปลาแซลม่อนผัดเนย ทำโดยการเอาเนื้อปลาแซลม่อนชิ้นโตไปทอดในเนยให้ด้านนอกกรอบ เทครีมเปรี้ยวลงไปแล้วนำไปอบ จบด้วยการโรยหน้าด้วย แครอท สับและกะหล่ำปลีดอง เพื่อใช้สำหรับล้างคาวในปาก
ซุปครีมที่เรียกว่า เคไฮคีตโต้ นั้นทำโดยการผัดมันฝรั่ง แครอท หอมใหญ่ และเห็ด ในเนย แล้วจึงใส่เครื่องเทศแล้วเทน้ำลงำไปต้มประมาณ15นาทีแล้วจึงใส่แซลม่อนสับ และครีมลงไปบนซุปที่เสิร์ฟในถ้วย แล้วจึงโรยหน้าด้วยผักชีฝรั่ง
“….รูดี้”
เมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะ นาโอมิก็กล่าวออกมา
“อะไรเหรอ เดส?”
“ที่ว่าเมื่อก่อนฉันเคยกินอาหารที่ทำด้วยเนยนั่นน่ะ โกหกล่ะ”
“……?”
ไม่เข้าใจว่านาโอมิกำลังจะสื่อถึงอะไร รูดี้ก็ได้แต่เอียงหัวงุนงง
“ฉันไม่เคยกินอะไรที่มันมีกลิ่นหอมน่ากินของเนยขนาดนี้มาก่อนเลย ไอ้ที่ฉันเคยกินมันเป็นแค่อาหารที่ใส่เนยไปเลกน้อยเท่านั้นเอง”
“ชิโชวจะยืนกรานแบบนั้นไปทำไม เดส?”
“ฉันกำลังชมฝีมือในการทำอาหารของรูดี้ว่ายอดเยี่ยมอยู่ยังไงล่ะ”
“ไม่เห็นจะเข้าใจเลย ช่างมันละกัน ก่อนอื่นมาเริ่มดื่มกันเลยดีกว่า เดส”
“…อืม”
รูดี้มองข้ามคำชมของนาโอมิแล้วก็ยื่นแก้วสุรากลั่นที่โดรน ขนมาไปให้เธอ
“เย็นจัง!”
เมื่อนาโอมิจับไปที่แก้วก็แปลกใจไปกับความเย็นของมัน
“นี่คือ อควาวิต ทำมาจาก…..มันฝรั่ง? ก่อนอื่นก็ดื่มเจ้านี่รวดเดียวเลย เดส”
“อืม…งั้นมาลองกันเลย”
เมื่อนาโอมิยกมันขึ้นมาจิบก็พบว่ามันลื่นคอและรสชาติค่อนข้างนุ่มนวลมากสำหรับเหล้ากลั่น
“อืม…ก็ไม่แย่นะมันเย็นสดชื่นดี”
“เจ้านี่มันไม่ว่าจะดื่มตรงๆ ผสมน้ำ หรือผสมกับค็อกเทล ก็ได้ เดส แต่ส่วนใหญ่มักนิยมดื่มตามหลังจากดื่มเบียร์ หรือดื่มสลับกัน เดส”
“ฟังดูเป็นวิธีดื่มที่หรูหลาแล้วก็น่าสนุกดีนะ”
นาโอมิยิ้มออกมาอย่างสนุกสนานแล้ก็เริ่มกินอาหารที่รูดี้ทำ
“ร้อน!”
เธอนั้นเกือบที่จะลวกปากตัวเองด้วยกราแตงที่กำลังระอุอยู่จึงยกแก้ว อควาวิต ขึ้นมาจิบเพื่อให้มันเย็นลง
“ฮาฮาฮา…ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทำไมถึงได้เสิร์ฟเหล้าเย็นๆ”
“ในแถบยุโรปเหนือ อากาศมันจะหนาวเย็น แม้ว่าอาหารจะร้อนก็ตาม แต่เหล้าจะเย็นอยู่เสมอ เดส”
“อบอุ่นร่างกายด้วยอาหารร้อนๆแล้วทำให้ปากเย็นลงด้วยเหล้าเย็นๆ แล้วเหล้ามันก็จะทำให้รู้สึกว่าร่างกายอุ่นขึ้นด้วย นั่นเป็นแนวคิดที่น่าสนใจดีนะ”
“อย่างที่คิดไว้เลย ชิโชว เข้าใจมันได้ถูกต้องเลย เดส”
รูดีชมนาโอมิ เธอจึงยิ้มกลับ แล้วเริ่มกลับไปกินต่อ
“เอาล่ะ มากินต่อกันเถอะ”
“กินให้จุใจไปเลย เดส”
ว่าตามนั้นแล้วพวกเขาทั้งสองก็จัดการกับอาหารร้อนๆและเหล้าเย็นๆกันต่อไป
*(TLnote: วิ่งควายเควสกิจกรรมเสน็จแล้ว แต่ยังต้องหาเงินมาอุดไอ้ที่เผาไปอยู่ กว่าจะเสร็จคงอีกสักพักใหญ่ๆ )
Comments