ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ) 34 หรือว่านี่จะเป็นบัค…?

Now you are reading ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ) Chapter 34 หรือว่านี่จะเป็นบัค...? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

“อืม…นี่ฉัน…ถูกซุ่มโจมตี…อะไรน่ะ…ฮิอิโระเหรอ…?”

 

ผมก้มหน้าลงและหยุดเคลื่อนไหว

 

ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรหน่า จนกว่าสึกิโอริจะมาถึง ผมยังสามารถแกล้งแสดงเป็นหมาหัวเน่าต่อไปได้อยู่

ทางที่ดีผมควรจะเป็นผู้ชายห่วย ๆ ที่หยาบคาย อ่อนแอ และดูไม่น่าเชื่อถือให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

สถิตสิ!! จงมาสถิตในตัวผม ดาราชื่อดังในอดีต!! มาเลยสิ รางวัลออสการ์น่ะ!! เมาเลยเส้ รางวัลออสการ์น่ะ!!

 

“อะ…อึก…โดนเล่นเข้าแล้วสิ…! (รางวัลออสการ์สาขานักแสดงชายยอดเยี่ยม ฮิอิโระ)”

 

“เอ๊ะ!? ฮิอิโระ!?”

 

ลาพิสเดินเข้ามาหาผมและคุกเข่าลง

 

“มะ…มีแต่แผลไปหมดเลย…มะ…มันเกิดอะไรขึ้นกันน่ะ…ฮิอิโระ…!?”

 

“ขอโทษทีนะลาพิสฉันโดนเล่นงานเข้าแล้วล่ะฉันมันก็เป็นแค่พวกปลาซิวปลาสร้อยที่ไม่สามารถแม้แต่จะโจมตีพวกนั้นได้เลยแต่แล้วสึกิโอริก็เข้ามาช่วยเอาไว้สึกิโอรินี่สุดยอดจริงๆเลยนะลาพิสต้องขอบคุณสึกิโอริเลยนะเนี่ยสึกิโอริเนี่ยสุดยอดไปเลยล่ะ(พูดรวบรัด)”

 

(ผู้แปล : คือในต้นฉบับ ไอ้หมอนี่มันพูดรัว ๆ แบบนี้จริง ๆ ครับ ที่ผมไม่เว้นวรรคระหว่างคำพูดก็เพราะแบบนี้แหละ)

 

“อะไรกัน…ฮิอิโระเนี่ยนะแพ้…!”

 

เธอมองลงมาที่ผมและพูดออกมาเบา ๆ เธอเหมือนคนกำลังจะร้องไห้เลย

 

“ตาบ้า…! นี่นายปกป้องฉันเอาไว้งั้นเหรอ…!?”

 

Ahan?

 

เธอใช้มือเช็ดเลือดบนแก้มของผม จากนั้นเธอก็เอาฝ่ามืออุ่น ๆ ของเธอมาลูบแก้มผมเบา ๆ

 

“ฮิอิโระไม่มีทางแพ้พวกนั้นอยู่แล้ว…! แต่เพราะต้องต่อสู้และปกป้องฉันไปด้วย…ก็เลยทำให้นายมีแต่แผลเต็มไปหมดแบบนี้สินะ…ถ้าสึกิโอริไม่เข้ามาช่วยล่ะก็ นายคิดจะตายเพื่อปกป้องฉันเลยรึไง…!?”

 

“เดี๋ยวสิ คือว่า ขอเวลาซักเดี๋ยวหน่อยได้มั้ยครับ? มันไม่ใช่อย่างที่คิดเลย–“

 

มีของเหลวบางอย่างหยดลงมา

ผมรู้เลยว่านั้นคือน้ำตา และจากนั้นเองลาพิสก็ส่งเสียงสะอื้น

 

“ตาบ้านี่…!! ทำไมถึงฝืนตัวเองเพื่อฉันขนาดนี้…ถ้าตัวเองตายไปจะทำยังไงกันเล่า…!!”

 

ลาพิสร้องไห้และกอดผม

 

ความนุ่มนิ่มได้เข้าโอบกอด

ผมคิดในใจว่าแม้แต่เจ้าหญิงเองก็ยังต้องใช้ยาระงับกลิ่นกายเลยสินะ

 

ในขณะที่ผมกำลังคิดว่าเสื้อเธอจะเปื้อนเลือดรึเปล่า ผมก็มีคำถามอีกมากมายที่เกิดขึ้นในใจผม

 

เอ๋? ทำไมกันเนี่ย?

 

จากการคำนวณที่สุดแสนจะสมบูรณ์แบบของผม ( [คู่มือการคำนวณยูริที่แม้แต่ลิงก็ยังคำนวณได้] ขั้นพื้นฐาน ) แล้ว สึกิโอริก็ควรจะมาปรากฏตัวตอนที่ลาพิสกำลังเรียกผมพอดี ผมก็จะลุกขึ้นยืนและยกเครดิตให้สึกิโอริ

ลาพิสก็จะหลงรักสึกิโอริที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ แล้วผมก็จะจากไป เพราะหายเจ็บแล้ว

 

ก็แฮ็ปปี้เอ็นดิ้งเลยนี่!!

 

ทั้งที่มันควรจะเป็นแบบนั้น…แต่ทำไมตอนนี้ลาพิสถึงกำลังหลั่งน้ำตาให้กับก้อนหินริมทางอยู่กันล่ะเนี่ย?

คนที่ช่วยเธอไว้ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นสึกิโอรินะ?

 

“ละ…ลาพิส? คือว่าฉันน่ะ…เอ่อ…ไอ้นั่นไง? ฉันแพ้แล้วก็ปกป้องเธอไว้ไม่ได้นะ?”

 

“ก็เพราะนายต้องคอยปกป้องฉันไว้ไม่ใช่รึไง…?”

 

ลาพิสพูดในขณะที่กอดผม

 

“ไม่ได้ปกป้องซักหน่อย!! มันกลับกันเลย ฉันน่ะใช้เธอเป็นโล่เลยต่างหากล่ะ!!”

 

“โกหก! ฉันยังจำตอนที่ฮิอิโระกระโดดเข้ามาได้อยู่เลย! ฮิอิโระต่างหากล่ะ ที่คอยเป็นโล่ให้น่ะ!!”

 

“เอ้อ งั้นฉันเป็นโล่ก็ได้ แต่ว่าฉันก็แพ้อย่างน่าสมเพชอยู่ดีนะ…?”

 

“นั่นก็เป็นเพราะนายต้องคอยปกป้องฉันไม่ใช่รึไง…?”

 

ไม่เข้าใจเลย…ทั้งที่แพ้ แต่ทำไมค่าความชอบมันถึงเพิ่มขึ้นได้กันล่ะเนี่ย…?

 

“……?”

 

หรือว่าโลกนี้…มันจะบัคกันนะ…?

 

“แล้ว”

 

มีเสียงดังก๊อก ๆ ที่ต้นไม้ใหญ่ และสึกิโอริก็ได้ปรากฏตัวขึ้น

 

“ทำไมถึงได้มาจีบกันในสภาพนองเลือดแบบนี้ล่ะ?”

 

“สึกิโอริ…!!”

 

มาแว้ววววววววววววววววววววววว!! ในที่สุดสึกิโอริก็มาแว้ววววววววววววววววววววววว!! ชนะแน่!! แบบนี้ผมชนะแน่!! ผมรักสึกิโอริที่สุดเลยคร้าบ!!

 

“สึกิโอริ ซากุระ…”

 

ลาพิสเพ่งความสนใจไปทางสึกิโอริอย่างเร่าร้อน

 

ผมสนใส่ใจทุกการเคลื่อนไหวของพวกเธอด้วยหัวใจที่กำลังเต้นรัว

 

เพียงเท่านี้ ลาพิสก็จะตกหลุมรักสึกิโอริ แล้วทั้งคู่ก็จะพัฒนาความสัมพันธ์กันอย่างรวดเร็–

 

“ทำไมเธอถึงทิ้งฮิอิโระที่บาดเจ็บเอาไว้คนเดียวล่ะ!?”

 

“”หา?””

 

ผมกับสึกิโอริมองหน้ากัน แต่แล้วลาพิสก็จับผมกดลงไปในหน้าอกของเธออีกครั้ง

 

“ก็ขอบคุณที่ช่วยฉันเอาไว้อยู่หรอกนะ! แต่เรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันคนละเรื่องกัน!! ทำไมถึงได้ทิ้งฮิอิโระที่บาดเจ็บเอาไว้คนเดียวแบบนี้!?”

 

“ห๊ะ? พูดเรื่องอะไรน่ะ?”

 

ผมที่ได้ยินก็เริ่มหน้าซีดและรีบอธิบาย

 

“มะ…ไม่ใช่แบบนั้นนะ! ฉันเป็นคนขอร้องเธอเอง! พวกคนที่มาทำร้ายเธอมันหนีกันไปแล้ว ฉันก็เลยขอให้เธอไล่ตามไปน่ะ!! สึกิโอริไม่ผิดนะ!! ว่าไปแล้วก็เป็นคนดีมากเลยนะ!! ทั้งสวย ทั้งแข็งแกร่ง สุดยอดสุด ๆ !! สึกิโอริสุดยอดที่สุดเลย!!”

 

“พูดขนาดนี้ฉันก็เขินเป็นนะ”

 

สึกิโอริหวีผมส่วนยาวของเธอ

เธอยิ้มให้ผมและก็กวักมือพั่บ ๆ

 

ผมออกห่างจากลาพิสและเดินไปที่หลังต้นไม้กับสึกิโอริ–จากนั้นก็ก้มหัวให้อย่างสุภาพ

 

“ช่วยผมด้วยเถอะคร้าบบบ…!!”

 

“จ้า ๆ ไหนลองบอกมาสิ”

 

สึกิโอริพิงหลังที่ต้นไม้ใหญ่และยิ้มออกมาเบา ๆ

 

“ลาพิสถูกพวกลัทธิปีศาจเข้าโจมตี…แล้วฉันก็จัดการพวกนั้นได้น่ะนะ…แล้วถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากจะให้เธอเชื่อว่าสึกิโอริคือคนที่จัดการพวกนั้นได้น่ะ…”

 

“ทำไมล่ะ?”

 

“เพราะฉันอยากให้สึกิโอริได้เป็นเพื่อนกับลาพิสแล้วก็คนอื่น ๆ ยังไงล่ะ (ปราถนา)”

 

เธอยิ้มออกมาอย่างช้า ๆ  

จากนั้นเธอก็วางปลายนิ้วลงบนแก้มของผมและพูดกระซิบเบา ๆ

 

“ฮิอิโระคุงเนี่ย ใจดีจังเลยนะ”

 

……ห๊ะ?

 

“เพราะฉันอยู่อย่างสันโดษ ก็เลยคิดจะหาเพื่อนให้ฉันงั้นสินะ? มันก็จริงนะ ฉันดูไม่ค่อยเป็นมิตรซักเท่าไหร่ จุดแข็งเดียวที่มีก็แค่ความแข็งแกร่ง นายก็เลยคิดว่าถ้าไม่มีโอกาสแบบนี้ ฉันก็คงจะเข้ากับลาพิสแล้วก็คนอื่น ๆ ไม่ได้สินะ…?”

 

…พูดอะไรฟะเนี่ย ยัยนี่?

 

“ไม่ล่ะ ที่ฉันบอกว่าอยากให้สนิทกันน่ะ–“

 

“อีกฝ่ายมีกี่คนล่ะ?”

 

“ครับ?”

 

“พวกลัทธิปีศาจน่ะ มีกี่คนเหรอ?”

 

“3 คนน่ะ”

 

“เอาชนะด้วยตัวคนเดียวเนี่ยนะ?”

 

“เอ๊ะ…กะ…ก็นะ…ก็ต้องขอบคุณอาจารย์แหละนะ…”

 

ผมถูกสึกิโอริผลักเข้ากับต้นไม้ใหญ่

 

เธอเข้าหาผมอย่างอ่อนโยนด้วยรอยยิ้มที่งดงาม  

เสียงหัวใจเต้นจากร่างกายที่อบอุ่นนั่น ทำเอาร่างกายผมแข็งทื่อไปเลย

 

“ฝั่งฉันก็ 3 คนเหมือนกัน”

 

“เอ๊ะ…นี่เธอ…”

 

“อื้ม ก็นะ น้องสาวของฮิอิโระคุงเองก็ถูกซุ่มโจมตีเหมือนกัน ฉันก็เลยเข้าไปช่วยน่ะ ดูจากตราแล้วน่าจะเป็นตราของอาร์สฮาเรียล่ะนะ…และจากที่ฉันไม่โผล่ตัวให้เห็น น้องสาวก็คงจะคิดว่าฮิอิโระคุงเป็นคนช่วยเธอเอาไว้ละมั้งนะ”

 

“นี่เธอพูดเรื่องอะไรเนี่ย(หน้าตาจริงจัง)”

 

เฮ้ย ๆ ๆ !! ถ้าเป็นไปตามเนื้อเรื่องล่ะก็ ลาพิสกับเรย์ไม่น่าถูกโจมตีพร้อมกันได้นี่นา!!

 

อาร์สฮาเรียน่าจะยังไม่ลืมตาตื่น เพราะงั้นพวกลัทธิปีศาจ (สังกัดอาร์สฮาเรีย) ก็น่าจะยังไม่เคลื่อนไหวอะไรนี่นา

แถมสาวกที่สามารถควบคุมได้ก็มีจำนวนจำกัดด้วย…มันมีบางแปลก ๆ นะ…แต่จะว่าไปแล้ว ทำไมยัยนี่ถึงได้มาเกาะติดผมแบบนี้เนี่ย…?

 

“จ้ะ ขอบคุณนะ แยกย้ายได้”

 

ดูเหมือนว่าเธอจะพูดขอบคุณ (ทำไปทำไม?) ด้วยแฮะ

 

สึกิโอริถอยห่างออกจากผมแล้วก็เอาผมทัดหู

 

“ถ้าสนิทกันได้ก็คงจะดีกว่าสินะ กับลาพิสแล้วก็คนอื่น ๆ น่ะ”

 

“เอ๊ะ…อื้ม!! (เสียงต่ำสุดเท่าที่จะต่ำได้)”

 

“ก็เอาสิ ถ้าไม่ทำแบบนั้นล่ะก็ เดี๋ยวคนนิสัยดีบางคนแถวนี้ก็จะมาคอยดูแลฉันอีกน่ะสิ”

 

บางที นี่คงจะเป็นครั้งแรกเลยมั้งนะ

ที่สึกิโอริ ซากุระ ยิ้มกว้างและจริงใจให้ผมแบบนี้

 

“ขอบคุณนะ”

 

“เอ๊ะ…ทางนี้เองก็ต้องขอบคุณเหมือนกัน…?”

 

หลังจากที่ผมกับสึกิโอริแลกคำขอบคุณกันแบบงง ๆ พวกเราก็กลับไปหาลาพิส

ลาพิสที่กำลังมึนงงก็ได้มองไปทางสึกิโอริ สึกิโอริที่ถูกมองแบบนั้นก็ขดมุมปากขึ้นตามปกติ

 

“มองแบบนี้นี่ ไม่คิดจะขอบคุณผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเธอไว้หน่อยรึไงเนี่ย”

 

“กะ…ก็ฮิอิโระ…!”

 

“ลาพิส ก็อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้นั่นแหละ ฉันเป็นคนร้องเธอเองแหละ ถ้าสึกิโอริไม่ไล่ตามพวกนั้นไปล่ะก็ เรย์คงจะตกอยู่ในอันตรายไปแล้วล่ะ”

 

“ใช่ ๆ เพราะงั้นน่ะ”

 

สึกิโอริยิ้มสวยและยื่นมือไปหาลาพิส

 

“เรามาสนิทกันไว้เถอะนะ”

 

ลาพิสได้หันหลังกลับไป เธอหน้าแดงแล้วก็จับมือสึกิโอริไว้

คงจะเห็นด้วยกับสถานการณ์ในตอนนี้ไม่มากก็น้อยแล้วล่ะมั้งนะ

 

“กะ…ก็ไม่ได้คิดว่าไม่อยากสนิทกันด้วย…อะไรแบบนั้น…หรอกนะ…ฉันก็รู้สึกขอบคุณนะ…แต่ก็รองจากฮิอิโระ…”

 

ผมจ้องมองสายสัมพันธ์นั้นทั้งน้ำต

ให้ตายสิ ยูรินี่มัน…สุดยอดไปเลยครับท่าน…!!

 

เพียงเท่านี้ เรื่องนี้ก็ได้ยุติลงจนได้

 

ถึงจะรู้สึกไม่สบายใจอยู่หน่อย ๆ แต่จากการคาดการณ์ด้วยยูริไอคิว 180  

ผมก็ได้สังเกตเห็นถึงการแตกหน่อของยูริแบบไร้ปัญหาแล้ว

 

หลังจากนี้ไป ลาพิสกับสึกิโอริก็จะค่อย ๆ พัฒนาความรักกันมากขึ้น

เพียงเท่านี้ผู้ชายที่อยู่ท่ามกลางยูริ…ซันโจ ฮิอิโระนั้น ก็จะไม่ได้เข้าไปแทรกระหว่างยูริอีกต่อไป

 

ผมยิ้มและโบกมือให้กับสาว ๆ

 

ขอให้มีความสุขนะ…เดี๋ยวไอ้ผู้ชายตัวเกะกะจะค่อย ๆ หายตัว ไปอย่างช้า ๆ …

ผมแอบกลับไปที่เรือคนเดียว โดยพยายามไม่ให้พวกเธอรู้ตัว…แต่ลาพิสก็เดินเข้ามาพยุงผม

 

“อย่าฝืนตัวเองสิฮิอิโระ”

 

ผมมองไปที่เธอที่เข้ามาใกล้ผม และดวงตาของผมเบิกกว้างด้วยความตกใจ

ทำไมถึงมาพยุงผมแทนที่จะเป็นสึกิโอริกันเล่า!?

 

“ฮิอิโระคุง”

 

สึกิโอริเข้าหาผมจากอีกด้านหนึ่ง และค่อย ๆ สอดแขนเข้ามาใต้แขนผม

 

“พอดีว่าขาฉันสั่นน่ะ มาค่อย ๆ เดินไปกันเถอะนะ”

 

ผมเบือนหน้าหนีด้วยความสิ้นหวัง

แล้วทำไมเธอพุงมาพยุงผมแทนที่จะเป็นลาพิสกันเล่า!?

 

อยู่ท่ามกลางสาวสวยสองคนแบนี้ ทำเอาผมฟื้นสติกลับมาโลกความเป็นจริงเลย

ไม่ได้การ!! ครั้งนี้ คะแนนความชอบที่มีต่อผมมันเพิ่มขึ้นอีกแล้ว!!

 

“อ๊ะ…ลาพิส…สึกิโอริ…ทะ…ทิ้งฉันเอาไว้คนเดียวเถอะ…ปล่อยฉันเอาไว้คนเดียวเถอะ…!”

 

“พูดอะไรออกมาน่ะ โธ่”

 

พอลมพัดมา ผมสีทองของลาพิสก็ปลิวไสว

 

“ถ้าไม่มีนายอยู่ด้วยก็ไม่ได้หรอกนะ”

 

“ไม่อาววว…ฉันไม่เอาด้วยหรอก…!! แบบนี้น่ะ…แบบนี้น่ะมันไม่ใช่เอสโก้แล้ว…!! ความเป็นยูริเท่ากับ 0 เลย…เกมนี้มันหลอกลวงทั้งเพ…!! มันไม่ใช่แบบนี้…มันไม่ใช่แบบเน้…!!”

 

“ฮิอิโระคุง เป็นอะไรไปน่ะ? หัวไปกระแทกอะไรมารึเปล่า?”

 

“ฉันน่ะ…ฉันไม่ยอมแพ้หรอกนะ…ฉันน่ะ…!!”

 

ในขณะที่ผมถูกทั้งสองคนนั้นลากตัวไป ผมก็ปล่อยพลังเสียงที่รวบรวมไว้ออกมา

 

“ไม่ยอมแพ้หรอกน่าาาาา..!!”

 

เสียงนั้นคงส่งไปไม่ถึงเทพแห่งยูริอีกแล้–

 

“ฉันคงปล่อยฮิอิโระไว้แบบนี้ไม่ได้แล้วล่ะ”

 

ลาพิสหน้าแดงและพึมพำบางอย่างที่น่ากลัวออกมา

 

“ฉันจะคอยดูแล…อยู่ในห้องของฮิอิโระ…เองนะ…”

 

“….(หัวใจหยุดเต้น)”

 

ในวันแรกของค่ายนันทนาการ

ค่ำคืนอันแสนยาวนาน–ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

 

[ติดตามเรื่องนี้ได้ที่ Okuse-Translator]

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด