เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอบทที่ 833 เทวดาปีศาจ!
เฉินชางออกมาจากห้องเวรอย่างเงียบๆ ท่ามกลางสายตา
พิฆาตของหัวหน้าอวี๋
แล้วก็ปิดประตูตามด้วย
จากนั้นพอคิดดูแล้วจึงหันไปล็อคประตูให้สนิท…
หลังจากลังเลว่าจะเฝ้าประตูหรือไม่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงแว่ว
มาเป็นระลอก!
“เหล่าอวี๋ ผมผิดไปแล้ว…เหล่าอวี๋…เบาหน่อย!”
“พี่ใหญ่…เฮือก เจ็บๆๆๆๆ!”
……
เฉินชางรีบออกมา
เขาออกมาอย่างตกใจทำอะไรไม่ถูก…
เขาคิดว่าสิ่งที่เหล่าอวี๋ทำไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ต่อให้ไม่ถึงกับ
ลงทัณฑ์แทนสวรรค์ แต่ก็ต้องช่วยแก้ความขี้โม้ขาดๆ เกินๆ ของเหล่าหม่าให้ได้อย่างแน่นอน
เขาพบว่าหัวหน้าทีมหม่าเป็นคนดีมาก แค่โม้เก่งไปหน่อย
ตอนนี้เฉินชางมองแม่ลูกอ่อนหยาง เอ๊ย! หยางเจี๋ยที่เปลี่ยน
ชุดลำลองแล้ว! จู่ๆ ก็รู้สึกว่านมขวดเมื่อกี้นั้นคงหอมมาก ออกจะ
เสียดายนิดหน่อย พอคิดถึงตรงนี้ เขาจึงตัดสินใจยืนอยู่หน้าห้องเวร
ต่ออีกหนึ่งนาที พอได้ยินเสียงโอดโอยของเหล่าหม่า อารมณ์ของ
เฉินชางก็เย็นลงมากในที่สุด
ให้คุณแย่งนมผมไป!
แถมยังเป็นนมของพี่หยางด้วย!
“พี่หยางเลิกงานแล้วเหรอ!” เฉินชางยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
หยางเจี๋ยอายุแค่สามสิบ ช่วงตั้งครรภ์ร่างกายเจริญเติบโตขึ้น
อีกครั้ง ดังนั้นหุ่นของเธอจึงไม่ได้เย้ายวนเหมือนสาวน้อย แต่ก็สวย
ไปอีกแบบ ตรงสเป็คแม่ลูกอ่อนของหวังเชียนพอดี!
เฉินชางไม่ชอบอยู่แล้ว สาเหตุที่เขาน้ำลายไหลก็เพราะโรคจิต
สมัยวัยรุ่นสร้างเรื่อง
โรคนี้…เรียกง่ายๆ ว่าบ้ากาม!สีหน้าหยางเจี๋ยค่อนข้างกังวล ส่ายหัวให้ “ไม่ใช่ค่ะ ลูกสาว
พี่สาวฉันป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ฉันจะไปดูหน่อย”
เฉินชางได้ยินแล้วก็ยิ้ม “มาโรงพยาบาลเราเลยสิ มีคุณอยู่
จะได้สะดวกหน่อย”
หยางเจี๋ยพยักหน้า “ตอนแรกนึกว่าไม่ร้ายแรง ฉันก็เลยไม่ค่อย
ใส่ใจ เดี๋ยวฉันจะไปดูตอนนี้เลยค่ะ”
พอพูดจบ หยางเจี๋ยก็รีบลุกออกไป
กว่าเหล่าหม่าจะออกมาก็อีกยี่สิบนาทีให้หลัง หน้าไม่บวมช้ำ
สักนิด แม้ว่าเฉินชางจะไม่รู้ว่าเขาเจออะไรมา แต่เขาก็ไม่รู้สึกแย่เลย
แม้แต่นิดเดียว!
สมน้ำหน้าอยู่ดี…
ใครให้คุณดื่มไปเยอะขนาดนั้น
ด้านเหล่าหม่าแกว่งแขน เตะขาไปมา เดาะปากด้วยความทึ่ง
“ผมนี่ก็แปลก ถ้าพี่ใหญ่ไม่ฝึกผม ผมคงอึดอัดตัวแย่ พอได้
ออกกำลังกายแบบนี้แล้วสบายทั้งตัวทันทีเลย!”
เฉินชางได้ยินคำนี้แล้วอึ้งไปครู่หนึ่งยังมีใครวอนโดนเก็บขนาดนี้ไหม
ไม่นานนักห้องฉุกเฉินก็เริ่มวุ่นวายขึ้นมา เฉินชางก็จดจ่อกับ
งานอันยุ่งวุ่นวาย
ต่อให้เป็นศูนย์ฉุกเฉินเมืองหลวง แต่สำ หรับประชาชน
เมืองหลวงแล้วก็ไม่ต่างกับโรงพยาบาลทั่วไป สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นใน
ห้องฉุกเฉินก็ยังมีอยู่ ผู้ป่วยบาดเจ็บทำแผลธรรมดาก็มีไม่น้อย
ทว่าประมาณห้าโมงกว่า หยางเจี๋ยก็กลับมาที่แผนก แต่
กลับมากับรถฉุกเฉิน
นี่ทำให้เฉินชางอึ้งไปทันที พอรถจอดสนิท ก็พบว่ามีเด็กหญิง
คนหนึ่งนอนอยู่บนเปลผู้ป่วย แต่ใส่หน้ากากมิดชิด บริสุทธิ์ไร้พิษสง
ดูสะอาดเอี่ยม
เฉินชางนิ่วหน้า “พี่หยาง เกิดอะไรขึ้น”
หยางเจี๋ยพูดทันควัน “ติดเชื้อร้ายแรง ตอนนี้มีไข้!”
เฉินชางผงะไปทันที อายุน้อยขนาดนี้ติดเชื้อร้ายแรงแล้วเหรอ
เกิดอะไรขึ้นกันแน่ตอนนี้เอง ผู้หญิงที่มีหน้าตาคล้ายหยางเจี๋ยมากคนหนึ่งก็วิ่ง
มาข้างๆ หยางเจี๋ย เธอค่อนข้างร้อนรน “หมอ นี่สำ เนาประวัติผู้ป่วย
ที่โรงพยาบาลชุมชน ฉันเอามาหมดแล้วค่ะ คุณดูที”
เฉินชางพยักหน้า เรียกให้เสี่ยวเคอพาผู้ป่วยไปห้องสังเกต
อาการ
ติดเชื้อร้ายแรง ถ้าตอนนี้สัญญาณชีพคงที่ ส่งไปห้องกู้ชีพก็
ไม่มีประโยชน์อะไร
ด้านเฉินชางอ่านการวินิจฉัยจากบันทึกส่งตัวแล้วนิ่วหน้าทันที
‘ผลการวินิจฉัย: โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ในเด็ก ปอดติดเชื้อ
จมูกติดเชื้อ ฝีที่ม้าม!’
พอเฉินชางเห็นเคสแล้วก็ขมวดคิ้วทันที ผู้ป่วยชื่อจ้าวซือหาน
อายุแค่สิบเอ็ดปี
ด้านเสี่ยวเคอกำลังเตรียมเตียงให้ผู้ป่วย หยางเจี๋ยไปเปลี่ยนชุด
ส่วนครอบครัวก็เริ่มเดินเรื่องอย่างร้อนรน!
สองสามนาทีต่อมา เฉินชางก็มาถึงห้องสังเกตอาการ เขาพูด
กับหยางเจี๋ยที่อยู่ข้างๆ ว่า “ถอดหน้ากากให้เด็กเถอะ ผมขอดูอาการหน่อย”
พอได้ยินว่าต้องถอดหน้ากาก เด็กหญิงก็เริ่มร้องไห้โวยวาย
ทันที!
“ไม่เอา หนูไม่อยากถอดหน้ากาก!
แม่จ๋า ขอร้องล่ะ ไม่ถอดหน้ากากได้ไหม…”
พอเด็กหญิงเริ่มน้ำตาไหล หญิงคนนั้นก็รีบไปเช็ดน้ำตาให้
ด้วยกลัวว่าถ้าน้ำตาไหลลงมาแล้วจะเจ็บมาก!
หยางชิงลูบมือลูกสาวอย่างรักใคร่ รีบเอ่ยปลอบ “ดีมาก หาน
หาน คุณอาหมอจะดูแผลให้ลูก ลูกมีไข้นิดหน่อยไม่ใช่เหรอ ให้
คุณอาหมอรักษาให้ก็หายแล้ว”
เด็กหญิงพูดอย่างคับข้องใจ “คุณอาหล่อมากเลย…หานหาน
ขี้เหร่มาก…”
หยางเจี๋ยรีบพูด “พอแล้วหานหาน น้าไม่ได้บอกหลานแล้ว
เหรอ รอหลานหายแล้วจะศัลยกรรมให้หลาน ถึงตอนนั้นก็จะไม่
เป็นอะไรแล้ว! ดีไหม”ปลอบไปปลอบมาอย่างนี้อยู่นานจึงถอดหน้ากากของเด็กหญิง
ออกมาได้
ทว่าทุกคนที่อยู่รอบๆ ต่างตกใจสะดุ้งโหยงทันที!
เด็กหญิงหลับตาปี๋ ราวกับว่าถ้าปิดตาแล้วคนอื่นก็จะไม่เห็น
เธอ
เธอก็ไม่กล้าเอามือมาโดนหน้า หมอบอกว่าบนมือมีเชื้อโรค…
เธอร้องไห้ไม่ได้ เพราะถ้าร้องไห้น้ำตาก็จะไหลลงไป…
ขณะที่เฉินชางดูเคสนี้ ศีรษะก็ชาหนึบขึ้นระลอกหนึ่ง!
บอกตามตรงว่าตกใจมากจริงๆ
เพราะดวงตาของเด็กหญิงสวยมาก แต่ใครจะคิดได้ว่าพอถอด
หน้ากากแล้วจะเป็นแบบนี้
เห็นเพียงว่าผิวหนังกับกระดูกอ่อนส่วนจมูกของเด็กหญิง
เสียหายรุนแรง ภายนอกจมูกเสียหายทั้งหมด เห็นแต่โพรงดำสนิท
สองรู!
ต่อให้บอกว่ามีแต่ผิวหนังใบหน้าส่วนน้อยที่ติดเชื้อ แต่…แค่คิดเชื้อที่ส่วนจมูก (ผิวหนังกับกระดูกอ่อน) ก็ทำลายคนคน
หนึ่งได้เลย…
อย่าว่าแต่ผิวหนังกับเนื้อเยื่อ ขนาดกระดูกอ่อนทั้งจมูกยัง
เสียหายร้ายแรง ดูไป…ค่อนข้างน่าตกใจจริงๆ
เฉินชางสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง เขามองเด็กหญิงที่หลับตา
อยู่ น้องอาจจะ…ยอมรับหน้าตาของตัวเองได้ยากละมั้ง
“เป็นแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วครับ”
หยางชิงรีบตอบ “เพิ่งกำเริบได้ประมาณสิบวันค่ะ แต่…ถ้ารวม
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ด้วยก็เป็นมานานแล้วค่ะ”
ตอนหานหานเรียนชั้นประถมก็ได้รับการวินิจฉัยจาก
โรงพยาบาลว่าเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ในเด็ก แต่เพราะ
ไม่ร้ายแรง ทุกคนเลยไม่ใส่ใจ ความหมายของหมอก็คือไม่จำ เป็น
ใช้ฮอร์โมนบำบัดเร็วขนาดนี้
แต่สองเดือนก่อนโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์เริ่มรุนแรงขึ้น ก็เลย
รีบส่งเข้าโรงพยาบาล พวกเราก็รักษาทันท่วงที เริ่มใช้ฮอร์โมนบำบัด…รักษาอยู่ประมาณเดือนกว่า แล้วถึงค่อยๆ ลดลง แต่ไม่เคยหยุด
ใช้ฮอร์โมนบำบัดเลย
หานหานฟื้นตัวจากโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้ดีขึ้นมาก
แถมยังไม่มีอาการอะไรด้วย แต่ช่วงเปิดเทอมก่อนหน้านี้พักหนึ่ง ไม่
ถึงสิบวันก่อนมั้งคะ ลูกก็เริ่มติดเชื้อที่จมูกเป็นวงกว้าง พอติดเชื้อ
แล้วก็คุมไม่ได้ ลามไปติดเชื้อที่ปอด…
เอ่อ…แค่สิบวันก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว!”
เฉินชางก้มมองเด็กหญิงปิดตาพลางกัดฟันไม่ให้ตนร้องไห้
ออกมา
Comments