Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 771 คุณชอบเวอร์ชันไหน

Now you are reading Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน Chapter 771 คุณชอบเวอร์ชันไหน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 771 คุณชอบเวอร์ชันไหน

……….

หลังจากความคิดนี้ปรากฏขึ้นในสมอง ชาวเน็ตพลันสับสนขึ้นมา…

คำถามสามข้อที่หลงหยางเสนอขึ้นนั้น ไม่มีใครให้คำตอบที่แน่ชัดได้

สักพักหนึ่ง

ความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนถูกกระตุ้น พวกเขามองลงไปตามเนื้อหา

หลังจากหลงหยางโยนคำถามสามข้อ เขาก็อธิบายใจในบทวิจารณ์ภาพยนตร์ต่อจากนั้นว่า

“เรามาพูดถึงคำถามแรกกันก่อนดีกว่า ว่าทำไมเรือโดยสารถึงเกิดอุบัติเหตุได้”

。หลายคนมองข้ามฉากที่พ่อให้อาหารสัตว์ เนื่องจากสัตว์อาจเมาเรือได้ พ่อจึงคิดว่าจะใช้ยาสลบเพื่อทำให้สัตว์สงบขณะล่องเรือ

ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดคือ…

เมื่อก่อนคนงานเป็นคนทำหน้าที่เหล่านี้ พ่อไม่เคยให้ยาสลบกับสัตว์ ดัง นั้นยาสลบเขาจึงเผลอไปทำให้ปนเบื้อนอยู่ในอาหารของลูกเรือโดยไม่ได้ตั้งใจ

เนื่องจากการทะเลาะกันระหว่างแม่กับแม่ครัว ครอบครัวของตัวเอกจึงไม่ได้กินอาหารในระหว่างวัน

เพราะฉะนั้น

เมื่อเกิดพายุฝนขึ้น คนบนเรือล้วนหลับใหลด้วยฤทธิ์ของยาสลบ ไม่มีลูกเรือคนใดใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพได้ทันท่วงที จึงเกิดเหตุขึ้นกับเรือโดยสารลำนี้ นี่คือสาเหตุที่พายหลีกเลี่ยงสาเหตุที่แน่ชัดของเหตุเรืออับปาง

ผู้ผลิตภาพยนตร์ชั้นนำย่อมไม่ใส่ฉากที่ไร้ประโยชน์มาให้พวกคุณอย่างแน่นอน

ฉากที่ดูคล้ายว่าจะไร้ประโยชน์เหล่านี้อาจเป็นเบาะแสที่ซ่อนอยู่ หากไม่ใคร่ครวญอย่างรอบคอบ คุณอาจมองข้ามข้อมูลสำคัญๆ ไปอย่างง่ายดาย ครอบครัวของตัวเอกไม่ได้กินอาหาร ทั้งยังให้สัตว์กินยาสลบ นี่คือข้อมูลสำคัญที่ผมกำลังพูดถึง!

…”

ชาวเน็ตดวงตาเบิกกว้าง!

ไม่มีใครฉุกคิดถึงปัญหานี้!

เป็นเพราะความผิดพลาดของพ่อหรือ?

ชาวเน็ตบางคนนึกอยากตอบโต้ตามสัญชาตญาณ ว่าเช่นนั้นพ่อครัวและลูกเรือจะขึ้นมาบนเรือชูชีพได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม

การตีความคำถามสองข้อต่อไปได้ให้คำตอบ และปิดปากบรรดาชาวเน็ตในทันที

“เมื่อคุณมีคำตอบสำหรับคำถามแรก คำตอบของคำถามที่สองและคำถามที่สามย่อมล้มล้างเรื่องราวเวอร์ชันที่สองของพายได้ในทันที”

เชื่อว่ามีคนเดาออกแล้ว

แท้จริงแล้วไม่มีลูกเรือหรือพ่อครัว!

ลูกเรือไม่เหลือแล้ว คนที่ขึ้นเรือชูชีพลำนี้คือครอบครัวของตัวเอก!

ม้าลายที่ว่านั้นไม่ใช่ลูกเรือ หากแต่เป็นพ่อของตัวเอก ส่วนไฮยีนาคือพี่ชายของตัวเอก และหนูตัวนั้นก็คือแฟนสาวของตัวเอก เธอลักลอบขึ้นมาบนเรือ เชื่อว่าจุดนี้มีชาวเน็ตหลายคนเดาได้แล้ว เพราะเดิมทีคำว่าหนู เป็นคำที่ใช้สำหรับเรียกผู้โดยสารซึ่งลักลอบขึ้นเรือ

นี่คือคำตอบของคำถามที่สาม

ทำไมแม่ตีพ่อครัว แต่พ่อครัวไม่สู้กลับ

ก็เพราะพ่อครัวคือไฮยีนา ซึ่งก็คือพี่ชายของตัวเอก

แม่ทุบตีพี่ชาย เป็นเรื่องธรรมดาที่พี่ชายจะไม่ตอบโต้

แน่นอนว่าแม่ย่อมทนไม่ได้เมื่อพี่ชายใช้ขาที่พ่อตัดออกมา ไปเป็นเหยื่อตกปลา ทว่าพี่ชายเป็นคนมีเหตุผล การเกริ่นเรื่องสามสิบนาทีแรกไม่ได้ไร้ประโยชน์ เพียงแต่พ่อของเขาเสียชีวิตเนื่องจากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมหลังจากตัดขา ดังนั้นพี่ชายจึงกินเนื้อของพ่อเพื่อประทังชีวิต…”

ชาวเน็ตตกตะลึงสุดขีด!

ไม่มีพ่อครัวหรือลูกเรือ?

แท้จริงแล้วครอบครัวของตัวเองลงเรือชูชีพไป?

การตีความนี้น่ากลัวยิ่งกว่าเดิมไม่รู้กี่เท่า และทำให้รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว!

ตัวเอกโกรธมากจนฆ่าพี่ชายของตนเอง!

หากพี่ชายเป็นคือพ่อครัวจริงๆ เขาคงสู้กลับไปนานแล้ว ทว่าอันที่จริงเขาคือพี่ชายอย่างไรเล่า ดังนั้นพี่ชายจึงไม่ได้ตอบโต้ เพราะเขารู้ว่าตนเองทำสิ่งที่ผิดลงไป

ฉะนั้นแล้ว จึงเหลือตัวเอกและพี่ชายอยู่บนเรือ

ตัวเอกบอกว่าเขาจำรายละเอียดวันสุดท้ายที่อยู่กับแฟนสาวได้ แต่กลับจำไม่ได้ว่าแยกทางกันได้อย่างไร ที่จริงแล้วไม่ใช่จำไม่ได้ พวกเขาไม่ได้แยกทางกันจริงๆ ต่างหาก สุดท้ายแล้ววิธีที่พวกเขาแยกทางกันนั้นโหดร้ายมากเสียจนพายไม่สามารถแม้แต่จะแต่งเรื่องขึ้นมาได้

…”

บรรยายมาจนถึงจุดนี้ หลงหยางจึงสรุปว่า

“การตีความของผมอาจไม่ถูกต้องไปเสียทั้งหมด แต่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากกว่าเรื่องราวเวอร์ชันที่สองอย่างแน่นอน ฉากในภาพยนตร์เรื่องนี้มีการอุปมามากมายเหลือเกิน เช่นกรดกำมะถันซึ่งปรากฏกลางทะเลสาบบนเกาะกินคนในเวลากลางคืน แท้จริงแล้วคือกรดในกระเพาะมนุษย์ เป็นต้น แต่ผมยืนยันได้ว่ามีช่องโหว่ในเรื่องราวเวอร์ชันที่สองของพาย ซึ่งบอกเป็นนัยอยู่ในภาพยนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นถกเถียงว่ากล้วยสามารถรับน้ำหนักของลิงอุรังอุตังได้หรือไม่นั้นคือคำใบ้ที่ชัดเจนที่สุด และบนเรือย่อมต้องเป็นครอบครัวของตัวเอก ไม่เช่นนั้นทำไมในช่วงสามสิบนาทีแรกของภาพยนตร์จึงเกริ่นเรื่องด้วยเรื่องราวของครอบครัวของตัวเอก

ยังคงเป็นคำพูดเดิม

ผู้ผลิตภาพยนตร์ที่ชาญฉลาดจะไม่ใส่ฉากที่ไร้ค วามหมาย สามสิบนาทีแรกอาจดูคล้ายกับเป็นการเกริ่นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ ทว่าแท้จริงแล้วนี่คือคำใบ้ว่าพ่อครัวและลูกเรือคือสมาชิกในครอบครัว เมื่อเข้าใจจุดนี้แล้ว คุณจึงจะเข้าใจถึงความน่ากลัวของภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างแท้จริง…”

บทวิจารณ์ภาพยนตร์จบลงแล้ว

เมื่ออ่านบทวิจารณ์จบ ชาวเน็ตต่างตะลึงจนอ้าปากค้าง

การกินเนื้อคนนั้นน่ากลัวมากอยู่แล้ว แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าความจริงนั้นจะน่ากลัวยิ่งกว่าเรื่องเล่าเวอร์ชันที่สองนับร้อยเท่า!

บนเรือคือคนในครอบครัว!

นี่ไม่ใช่แนวคิดเดียวกับเรื่องราวเวอร์ชันที่สองอีกต่อไป!

‘ฉันอยากโต้กลับ แต่หาจุดยืนไม่ได้!’

‘อะไรกันวะเนี่ย ท้ายที่สุดตัวเอกก็กินแฟนกับแม่?’

“อ๊ากๆๆๆ เอาเวอร์ชันแรกคืนมานะ!”

‘เวอร์ชันแรกโลกสวยสุดแล้ว เวอร์ชันสามมืดมนสุดๆ !’

‘ที่แท้เสือก็คือความป่าเถื่อนของตัวเอก การฝึกเสือคือกระบวนการกล่อมเกลาความป่าเถื่อน!’

‘การตีความนี้สุดยอดไปเลย!’

“ฉันก็ว่าทำไมสามสิบนาทีแรกถึงน่าเบื่อนัก พูดถึงแต่เรื่องของคนในครอบครัวตั้งมากมาย แต่หลังจากที่เรือล่ม ครอบครัวก็ตายกันหมด เหลือแต่แม่กับตัวเอกที่ขึ้นเรือ ที่แท้เหตุผลคือแบบนี้นี่เอง!”

‘เรื่องราวแบบนี้ แต่กลับถ่ายทำออกมาได้สวยมาก โลกทัศน์ของผมพังทลายในชั่วพริบตา!’

‘ที่คือหนังที่มีการอุปมามากที่สุดเท่าที่ฉันเคยดู ไหนบอกว่าเป็นหนังเชิงพาณิชย์!’

‘จินตนาการของเซี่ยนอวี๋ไร้เทียมทานจริงๆ !’

‘แม่เจ้าโว้ยย!’

‘…’

การตีความนำไปสู่จุดไคลแม็กซ์ที่บ้าบิ่นที่สุ ด!

แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าไม่มีใครตอบโต้ความคิดเห็นของหลงหยาง แต่เป็นเพียงการขยายความเพิ่มเติม ซึ่งไม่มีทางเหมือนกัน ตัวอย่างเช่นบางคนคิดว่าไฮยีนาคือพ่อ ส่วนม้าลายคือพี่ชาย เพราะพ่อกินเนื้อสัตว์ ส่วนสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ เป็นมังสวิรัติ

ถึงขั้นที่

มีคนเอ่ยถึงเทพเจ้าและพระเจ้า รวมไปถึงพลังของศาสนาและความศรัทธา ซึ่งสมเหตุสมผลมากเช่นกัน

เห็นได้ชัด

ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีคำตอบตายตัว และผู้ผลิตจะไม่ตอบคำถามนี้นอกภาพยนตร์ นี่คือสิ่งที่มีเสน่ห์ที่สุดของภาพยนตร์เชิงศิลปะ

เช่นเดียวกับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ซึ่งมักมีการตีความซุนหงอคงจากมุมมองต่างๆ มากมาย…

ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือการตีความใหม่ ล้วนถูกปกคลุมไปด้วยความลึกลับ!

สิ่งเดียวที่แน่ใจได้คือเรื่องราวนี้มืดมนเกินกว่าที่ทุกคนจะจินตนาการได้!

ศึกษาแล้วศึกษาอีก จนชาวเน็ตแทบเสียสติ!

และการกระทำของพายก่อให้เกิดประเด็นถกเถียงขึ้นนับไม่ถ้วน!

บางคนคิดว่าพายเป็นบ้า

บางคนคิดว่าพายเปลี่ยนผ่านจากความสูญเสียตัวตนไปสู่การค้นพบการไถ่บาป ซึ่งส่งผลให้เขาได้รับการปลดปล่อยทางจิตวิญญาณ

นั่นคล้ายกับว่าจะย้อนกลับไปสู่คำถามท้ายเรื่อง

คุณชอบเวอร์ชันที่มีเสือ หรือเวอร์ชันที่ไม่มีเสือ?

แปลกเหลือเกิน

ยามที่ทั้งสองเวอร์ชันปรากฏขึ้น หลายคนคิดว่าเวอร์ชันที่ไม่มีเสือน่าตื่นเต้นกว่า แต่เมื่อการตีความเวอร์ชันที่สามปรากฏขึ้น จู่ๆ ทุกคนก็เริ่มอยากหันกลับไปเลือกเวอร์ชันที่หนึ่งขึ้นมาทันที

ตัวภาพยนตร์เองก็มีความหมายเช่นนี้

คุณชอบเวอร์ชันไหนก็เชื่อเวอร์ชันนั้น

คำถามซึ่งทิ้งท้ายจากภาพยนตร์เรื่องนี้จึงนี้จึงกระตุ้นให้ขบคิด

คุณชอบเวอร์ชันไหนมากกว่ากัน

——————————

ปล. คำใบ้ของภาพยนตร์เรื่องนี้เติมจนเกือบเต็มแล้ว ภาพยนตร์เรื่องต่อไปจะเป็นเรื่องอะไรยังไม่ได้ตัดสินใจ ทุกคนมีคำแนะนำกันไหม?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด