คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า 812 เจ้าดูความปรารถนาบ้าๆ ที่อยากจะเอาชนะของข้าสิ
ตอนที่ 812 เจ้าดูความปรารถนาบ้าๆ ที่อยากจะเอาชนะของข้าสิ
……….
สีเจิงไม่ใช่คนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ฉินหลิวซียินดีที่จะใช้เส้นสายของตัวเองมาปูทางให้นาง สิ่งนี้ราวกับเนื้อที่ตกลงมาจากท้องฟ้า โอกาสเช่นนี้ หากนางไม่คว้าเอาไว้ไม่ได้เรียกว่าสูงส่ง แต่โง่เขลาต่างหาก
ไม่มีต้นทุนก็ทำได้เพียงพึ่งพาตัวเอง หากมีต้นทุน เสริมด้วยพละกำลัง นางก็ไม่จำเป็นต้องเดินเส้นทางที่มันคดเคี้ยวมากนัก
แต่น่าอายหรือไม่
ไม่ ในโลกนี้ มีใครบ้างที่ไม่พึ่งพาความสัมพันธ์พึ่งพาเส้นสาย การแต่งงานระหว่างตระกูลชนชั้นสูงนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อรวบรวมทรัพยากรและผลประโยชน์ไว้ด้วยกัน มีลูกศิษย์หัวโบราณจากตระกูลยากจนที่ไม่สามารถสนองความปรารถนาของตัวเองได้กล่าวว่าลูกหลานตระกูลชั้นสูงเอาแต่พึ่งพาสถานะของตระกูลด้วยความอิจฉา ถุย หากเป็นพวกเขาเองก็ทำเหมือนกันนั่นแหละ!
ตั้งแต่โบราณมาจนถึงปัจจุบัน การแบ่งชนชั้นวรรณะ ไม่มีสิ่งใดที่มีจุดเริ่มต้นที่เหมือนกันอย่างแน่นอน และทรัพยากรเหล่านั้นก็ถูกสะสมผ่านความพยายามของคนรุ่นพ่อแม่กระทั่งหลายชั่วอายุคน นี่คือบุญบารมีของบรรพบุรุษ!
ในทำนองเดียวกัน หากเจ้ามีเส้นสาย ย่อมสามารถปูทางให้กับตัวเองได้
อย่างเช่นสีเจิงมีสหายเก่าซึ่งเป็นแพทย์ทหารที่สามารถช่วยนางปกปิดในค่ายทหารได้ และตอนนี้ก็มีฉินหลิวซีที่ยินดีที่จะแนะนำให้นางรู้จักกับทิศทางที่มีอนาคตยิ่งใหญ่กว่า และเป็นเส้นสายของนางด้วย
แม้ว่าเส้นสายนี้จะไม่ใช่ระดับเดียวกัน แต่นางกำลังปีนขึ้นที่สูง ไหนเลยจะไม่ใช่โชคดีของนาง
เมื่อสีเจิงกับฉินหลิวซีแยกจากกัน เฝ้าดูอีกฝ่ายหายตัวไปตรงหัวมุมถนน เอื้อมมือไปจับเครื่องรางหยกที่ห้อยอยู่ใต้คอ ทันใดนั้นก็นึกถึงคำพูดที่นางชี้แนะตัวเองในตอนนั้น
เป็นทางทิศตะวันตก หากเจ้ากล้าพอ เจ้าจะมีที่ทางเป็นของตนเอง
อีกฝ่ายไม่เคยโกหก
สีเจิงหันกลับมา นางก็ต้องดียิ่งขึ้น มิเช่นนั้น หากในภายภาคหน้าถอยออกมาเป็นทหารหญิงก็ยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ!
…
ต้องการปรุงยาลูกกลอนให้สีเจิง ฉินหลิวซีเลี้ยวไปที่ร้านขายวัตถุดิบยา เขียนใบสั่งยาหนึ่งแผ่น นั่งรออยู่ในร้าน อย่างไรเสียเพื่อที่จะปรุงยาได้ดี มีวัตถุดิบยาบางอย่างต้องผ่านกระบวนการแปรรูป อย่างเช่นบดให้เป็นผงอะไรทำนองนั้น
เขารีบเอาวัตถุดิบยาที่คนผู้นี้เลือกมาทำการแปรรูป
“ท่านหมอ ท่านหมอช่วยด้วย” หญิงชราคนหนึ่งดึงเจ้าตัวอ้วนเดินเข้ามา ตรงมาที่ตรงหน้าฉินหลิวซี กล่าวว่า “ท่านหมอ จินตั้นตั้นของข้าไม่กินข้าว หรือว่าจะป่วยเป็นอะไรหรือไม่”
ฉินหลิวซี “?”
นางมองดูตำแหน่งของตัวเอง เอาเถิด ทันทีที่นั่งก็ไปนั่งตำแหน่งของหมอแล้ว
นางลุกขึ้นยืน เมื่ออีกฝ่ายเห็นนางก็ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยว่า “เหตุใดจึงได้เปลี่ยนหมอเสียแล้ว ท่านหมอซุนล่ะ เจ้าอายุยังน้อยเช่นนี้ รักษาโรคได้หรือ”
เด็กขายยาถอนหายใจ กำลังจะอธิบายสักสองประโยค ฉินหลิวซีก็ไม่ปล่อยให้เขาได้อธิบาย
เหอะ เจ้าดูความปรารถนาบ้าๆ ของข้าที่อยากจะเอาชนะนี่สิ สงสัยข้า เช่นนั้นข้าก็จะต้องตรวจดูอาการให้เจ้าเสียแล้ว!
นางนั่งลงอีกครั้งพลางเอ่ยว่า “ท่านป้า อายุน้อยไม่ได้หมายความว่าข้าทำไม่ได้ มิเช่นนั้นหากข้าบอกว่าท่านไม่ไหวแล้ว ท่านคิดว่าน่าฟังหรือไม่ ยิ่งอายุน้อยยิ่งมีความสามารถ!”
เด็กขายยา “?”
เดี๋ยวนะ นี่มันวาจาไร้สาระอะไรกัน
ฉินหลิวซีไม่รอให้หญิงวัยกลางคนได้เอ่ยอะไร เหลือบมองนางแล้วกล่าวว่า “พูดถึงเรื่องท่านก็แล้วกัน ปัญหาร้ายแรงยิ่งกว่าจินตั้นของท่านเสียอีก”
หญิงวัยกลางคนดีดตัวขึ้นมา เอ่ยเสียงดัง “คนรุ่นหลังอย่างเจ้าเหตุใดจึงกล่าวเช่นนี้ ข้ามีปัญหาอะไร ข้ากินอิ่ม เดินก็ไม่เจ็บขา ร่างกายแข็งแรงดีจะตาย”
เด็กขายยากลัวว่าลูกค้าอย่างฉินหลิวซีจะไปล่วงเกินผู้อื่นเข้า รีบก้าวเข้าไป ฉินหลิวซีเหลือบมองเขา “ทำงานของเจ้าไป”
เด็กขายยา ‘ฟังดูน้ำเสียงที่คุ้นเคยนี่สิ เจ้าไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนนอกเลยจริงๆ!’
ฉินหลิวซีมองหญิงวัยกลางคนพลางเอ่ย “ข้าขอถามท่านป้าหน่อยว่าช่วงนี้ท่านเจ็บแปลบๆ ที่เอวและหน้าท้อง ปวดแสบปวดร้อนในช่องท้อง ปัสสาวะอ่อนแรงเจ็บแสบ ซ้ำยังเคยปัสสาวะเป็นลิ่มเลือดหรือไม่”
หญิงวัยกลางคนใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ กล่าวอ้ำๆ อึ้งๆ ว่า “อากาศหนาวแล้ว ก็เป็นเรื่องปกติ”
“นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ ใบหน้าของท่านหมองคล้ำ ไม่ใช่สีผิวสุขภาพดี ท่านแลบลิ้นให้ดูหน่อย” ฉินหลิวซีบุ้ยปาก มองดูนางอ้าปากแลบลิ้นแล้วจึงเอ่ย “ลิ้นเป็นสีแดงเคลือบด้วยสีเหลืองหนาเตอะ ร่างกายร้อนชื้นอย่างรุนแรง จริงๆ แล้วหากท่านสังเกตดู ท่านยังเคยมีลิ่มเลือดในปัสสาวะหรือแม้กระทั่งเป็นเศษกรวดเล็กๆ”
“นี่มันอะไรกัน เด็กรุ่นหลังอย่างเจ้ากำลังพยายามหลอกหญิงชราอย่างข้าหรือ ข้าอยู่ดีๆ ตอนนี้ก็ไม่ได้ยากลำบากถึงขั้นต้องกินดิน ในร่างกายข้าจะมีก้อนกรวดได้อย่างไร”
หญิงวัยกลางคนหัวเราะลั่น
ฉินหลิวซีส่ายหน้า “ไม่กินดิน แต่กินทรายที่มากับลม ที่เมืองอู่ลมทรายแรง ท่านกินอาหารไม่มีระเบียบ ชอบกินเนื้อ ไม่ค่อยกินผักใบเขียว และในวันปกติท่านก็ไม่ชอบดื่มน้ำเยอะ และไม่ชอบขยับ เป็นเพราะท่านรูปร่างอ้วน เมื่อขยับเยอะเหงื่อก็จะออกเยอะ ดังนั้นสิ่งต่างๆ จึงสะสมอยู่ในร่างกาย กลายเป็นนิ่วเล็กๆ ในไต เรียกว่านิ่วในทางเดินปัสสาวะ เมื่อนิ่วเล็กๆ เหล่านี้ค่อยๆ ใหญ่ขึ้น ท่านก็รู้สึกเจ็บบริเวณเอว ไต และแสบเวลาปัสสาวะไม่ใช่หรือ”
นางลุกขึ้นยืน กดลงไปบริเวณไตของหญิงวัยกลางคนเบาๆ “รู้สึกอย่างไรบ้าง”
“โอ๊ย เจ็บๆๆ” หญิงวัยกลางคนตื่นตระหนก “นี่มัน เจ้าพูดจริงหรือ ก้อนหินไม่เพียงแต่เกิดในท้อง ซ้ำยังขยายใหญ่ได้ด้วย?”
“ขับออกมาไม่ได้ ก็จะสะสมอยู่ในร่างกายเรื่อยๆ ย่อมใหญ่ขึ้น ดังนั้นท่านต้องดื่มน้ำเยอะๆ แล้วก็จินตั้นของท่าน หากไม่อยากให้เขาเดินตามรอยท่าน ก็ไม่ควรให้เขากินแต่เนื้อไม่กินผักไม่ดื่มน้ำ โรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะของสตรียังนับว่าดีกว่า หากเป็นบุรุษ เมื่อนิ่วเข้าไปในท่อปัสสาวะ ท่านลองนึกถึงสิ่งที่บุรุษใช้ปัสสาวะ หากปัสสาวะไม่ออก จะไม่เจ็บปวดแสนสาหัสหรือ”
หญิงวัยกลางคนสีหน้าซีด ก้มลงมองหลานชายที่อ้วนจนเป็นก้อนกลมของตัวเอง ใช่แล้ว ครอบครัวตัวเองได้หลานชายหัวแก้วหัวแหวนมา ย่อมเป็นสิ่งล้ำค่า จึงอยากให้กินแต่เนื้อ?
เรื่องกิน ใช่ว่าในตระกูลจะไม่มีปัญญา
แต่ว่าเขาไม่ชอบกินผักแล้วก็ไม่ชอบดื่มน้ำจริงๆ เด็กที่ปกติกินข้าวได้สามชาม ตอนนี้กินไม่ลงแม้แต่ชามเดียว จึงได้รีบร้อนมาหาหมอไม่ใช่หรือ
แต่คิดไม่ถึงว่าปัญหาของหลานชายยังไม่ได้รับการแก้ไข หมอน้อยท่านนี้ก็พูดถึงปัญหาของตัวเองเสียก่อนแล้ว ซ้ำยังพูดไม่ผิดแม้แต่นิด
“ท่านหมอ แล้วจะรักษาอย่างไร” นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินว่ามีก้อนหินโตอยู่ในร่างกายของคน
“นั่งลง ข้าจะจับชีพจรให้ท่าน”
หญิงวัยกลางคนนั่งลงบนเก้าอี้ ยื่นมือมา ฉินหลิวซีวางสองนิ้วลงไป
เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ เด็กขายยาถึงกับอึ้ง ดังนั้นลูกค้าท่านนี้มีความสามารถอยู่บ้างจริงๆ
เมื่อนึกถึงที่นางบอกว่าบุรุษเป็นนิ่วในทางเดินปัสสาวะจะยิ่งทรมานกว่า เขาคิดตามคำพูดของนาง ขาทั้งสองข้างเกร็ง หนีบนกน้อยที่น่าสงสาร
“เป็นนิ่วในทางเดินปัสสาวะจริงๆ มีการสะสมของความร้อนชื้น ข้าจะเขียนใบสั่งยาขับน้ำระบายความชื้น บวกกับน้ำแกงลดอาการปวด ดื่มหนึ่งถ้วยต่อวัน ต้มใส่น้ำสามชามแล้วดื่มหนึ่งชาม เศษยาสามารถมาต้มเป็นน้ำดื่มได้ นอกจากนี้ให้ต้มน้ำใส่หญ้าจินเฉียนและใบหลงลี่แล้วดื่มเยอะๆ เพื่อกระจายความร้อนไล่ความชื้นแล้วขับออกมา ท้ายที่สุดเรื่องอาหารการกิน ไม่ควรเอาแต่กินเนื้อไม่กินผัก ดื่มน้ำเยอะๆ”
หญิงวัยกลางคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เช่นนั้นท่านก็รีบเขียนใบสั่งยาเถิด”
ฉินหลิวซีมองไปยังเด็กขายยา อีกฝ่ายถือพู่กันและหมึกมาอย่างรู้งาน มองดูนางเขียนใบสั่งยา เขารับมาดู ถามว่า “ท่าน ท่านเป็นสายงานเดียวกันหรือ”
เมื่อหญิงวัยกลางคนได้ฟังดังนั้น ก็มองมาด้วยความสงสัย
“ใช่แล้ว ข้าก็เป็นหมอ!”
หญิงวัยกลางคนได้สติกลับมา เบิกตาโตพลางเอ่ย “ท่านไม่ใช่หมอที่นี่หรือ”
“ไม่ใช่ ข้าก็เหมือนกับท่าน มาเป็นลูกค้าที่นี่!” ฉินหลิวซีฉีกยิ้ม “เพียงแต่ว่า ข้าเป็นลูกค้าที่เป็นหมอ ท่านป้า ค่ารักษาหนึ่งตำลึง!”
หนึ่งตำลึง ทำไมเจ้าไม่ปล้นเสียเลยล่ะ
Comments