ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลกบทที่ 571 ข้าช่วยเจ้าครั้งใหญ่

Now you are reading ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก Chapter บทที่ 571 ข้าช่วยเจ้าครั้งใหญ่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 571 ข้าช่วยเจ้าครั้งใหญ่

บทที่ 571 ข้าช่วยเจ้าครั้งใหญ่

“เอาละ วางของไว้ที่นี่แล้วกลับกันไปได้แล้ว” หลังนำกลุ่มคนพร้อมสินค้ามาถึงตำแหน่งเทเลพอร์ต อู๋ฝานจึงสั่งพวกเขาแยกย้ายกันกลับไป

“ขอรับนายท่าน”

เมื่อกลุ่มคนจากไป อู๋ฝานจึงสำรวจรอบด้านอีกครั้งเพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่าไม่มีใคร จากนั้นจึงเก็บสินค้าทั้งหมดจากรถลากเข้าสู่กระเป๋าหลัง สินค้าทุกรายการถูกเก็บเข้าไปเพียงแค่มือสัมผัสแต่ละกอง ไม่เช่นนั้นก็ไม่ทราบแล้วว่ากว่าจะเก็บครบทั้งหมดเขาต้องใช้เวลาถึงเท่าใด

โชคดีที่กระเป๋าหลังมีพื้นที่ใหญ่โตมากขึ้น และยังโชคดีที่มันสามารถเก็บสิ่งมีชีวิตเข้าไปได้ ไม่งั้นเขาคงไม่มีทางเก็บสินค้าทั้งหมดเข้าไป

หลังตรวจสอบแน่ชัดว่าไม่มีสิ่งใดผิดพลาด เขาก็เริ่มการเทเลพอร์ต เพียงแค่กะพริบตาอีกครั้ง ก็พบว่ามาอยู่ที่ป่านอกประตูตะวันออกของนครเหยียนหยางแล้ว

ชายหนุ่มตรวจสอบว่ารอบด้านไม่มีใครอื่น เขาจึงเริ่มนำสินค้าทั้งหมดจากกระเป๋าหลังออกมา จากนั้นจึงขึ้นไปนั่งรอที่ด้านบนรถลากเพื่อรอโจวกวงส่งคนมารับสินค้า

เมื่อถึงเวลานัดหมาย เขาก็ได้เห็นกลุ่มคนมุ่งหน้ามา และผู้ที่นำมาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นโจวกวง

“นายท่าน ไฉนอยู่ที่นี่ล่ะขอรับ?” โจวกวงเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

ในตอนที่อู๋ฝานบอกให้มารับสินค้าที่นี่ เขาคิดเพียงว่าคงเป็นคนอื่นนำมาส่ง ไม่ได้นึกคิดว่าอู๋อีกฝ่ายจะจัดการด้วยตนเอง

“อยากจะออกมาตรวจสอบพอดีน่ะ” อู๋ฝานตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “ของทั้งหมดอยู่ที่นี่ ขนย้ายนำกลับไป ชาตื่นรู้และสัตว์เลี้ยงมีจำนวนค่อนข้างมาก ส่วนเหล้าองุ่นสุดเหนือเมฆยังมีจำนวนค่อนข้างจำกัด ดังนั้นคงต้องจำกัดการขายเหมือนที่เคยทำ”

เพราะแมวเมฆหิมะช่วยเหลือจึงสามารถจับตัวสัตว์เลี้ยงอย่างง่ายดาย ส่วนชาตื่นรู้ก็มีสูตรการเพาะปลูกอยู่ เนื่องจากฝากฝังเอาไว้ก่อนจะออกเดินทาง แม้ตัวเขาไม่อยู่ที่หมู่บ้านเร้นลับก็ยังดำเนินต่อไปได้ด้วยดี

มีแต่ไวน์สุดเหนือเมฆที่แตกต่างออกไป แม้ว่ามันมีสูตรการผลิตเช่นเดียวกัน แต่ต่อให้บ่มไวน์ด้วยสูตรเดียวกันแต่คนทำเป็นคนละคน รสชาติของมันก็จะเกิดความแตกต่าง เหตุผลที่รสชาติของสุดเหนือเมฆดีเยี่ยมเป็นเพราะมาสเตอร์เช่นอู๋ฝานลงมือทำด้วยตนเอง ทั้งยังมีโบนัสจากการเป็นผู้เล่น หากบ่มโดยคนอื่น รสชาติของไวน์จะด้อยกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

เพื่อไม่ให้กระทบกับชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของสุดเหนือเมฆ เขาจึงจำเป็นต้องหยุดการบ่มในช่วงเดินทาง ทำให้ปริมาณสินค้ามีจำกัด ดังนั้นจนกว่าเขาจะมีเวลาว่างพอบ่มไวน์ครั้งถัดไป ก็จำเป็นต้องจำกัดปริมาณการขายของมันเอาไว้ก่อน

“ทราบแล้วขอรับ” โจวกวงตอบรับ

“กลับไปในเมืองพร้อมกันเลยก็แล้วกัน” อู๋ฝานเอ่ยคำ

จากนั้นกลุ่มคนจึงเดินทางกลับเข้าเมือง เมื่อมาถึงโจวกวงก็ไม่อาจรอคอยการได้นำสินค้าไปเติมในโกดังของร้าน ส่วนอู๋ฝานเดินทางกลับศาลาพักม้า

“อู๋ฝาน ธุระเจ้าเสร็จแล้วหรือ? เจ้าบอกให้ข้ารอเสียนาน ยังคิดว่าหากเจ้ายังไม่กลับมาข้าจะออกเดินทางด้วยตนเองแล้ว” เพียงอู๋ฝานกลับมาถึงศาลาพักม้า เจ้าฉีที่มารออยู่นานแล้วจึงบ่นออกมา

“พอดีข้ามีแผนจะเดินทางไปจากนครเหยียนหยางวันนี้ ดังนั้นจึงมีเรื่องต้องจัดการส่วนหนึ่ง ลำบากคุณชายเจ้ารอนานแล้วขอรับ” อู๋ฝานตอบรับ

“เจ้าจะกลับแล้ว?” เจ้าฉีชะงัก เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้าไม่เคยมีการพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน

“ขอรับ ข้าจัดการธุระที่นครเหยียนหยางเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงถึงเวลาเดินทางกลับ” อู๋ฝานตอบกลับ

ตอนนี้เองที่เจ้าฉีนึกขึ้นมาได้ว่าอู๋ฝานมาเข้าเฝ้าจักรพรรดิเพราะเรื่องที่ดินศักดินา ตอนนี้เสด็จพ่อของนางจัดการเรื่องที่ดินศักดินาให้เรียบร้อยแล้ว อีกฝ่ายจึงไม่จำเป็นต้องรั้งอยู่ในเมืองหลวงอีกต่อไป

“กลับไปเร็วยิ่งนัก นึกว่าจะได้เที่ยวเล่นด้วยกันนานกว่านี้เสียอีก” เจ้าฉีเอ่ยคำออกมาอย่างผิดหวัง

ระหว่างช่วงเวลานี้ นางมักจะคอยอยู่เคียงข้างจักรพรรดิชราที่ภายในวัง ปัจจุบันสุขภาพของจักรพรรดิดีขึ้นมากแล้ว ดังนั้นนางจึงคิดออกไปเที่ยวเล่นหาความสำราญในเมืองต่อ แต่ก็ไม่ได้นึกคิดว่าอู๋ฝานจะเดินทางกลับเสียแล้ว

“ข้าคือข้าราชบริพารของราชสำนัก ดังนั้นจึงมีเรื่องราวบ้านเมืองให้ต้องสะสาง ทำให้ไม่อาจอยู่ที่นี่ไปตลอดได้” อู๋ฝานยิ้มตอบรับ

“หากข้าคิดหาทางให้เจ้าอยู่ต่อจะว่าอย่างไร?” เจ้าฉีเอ่ยขึ้น

“อย่าเลย ถือว่าข้าขอ!” อู๋ฝานรีบตอบ เพราะหากเป็นคนอื่นเขาคงคิดว่าอีกฝ่ายพูดเล่น อีกทั้งจักรพรรดิชรายังมีคำสั่งให้เขาไปลอบสังหารจักรพรรดิแห่งหนานปิง ภารกิจลับดังกล่าวมีความสำคัญใหญ่หลวง ดังนั้นอีกฝ่ายคงไม่เปลี่ยนใจโดยง่าย

แต่หากว่าผู้ที่พูดกล่าวเป็นเจ้าฉี บุตรสาวอันเป็นที่รักที่สุดของจักรพรรดิชรา หากคิดเกลี้ยกล่อมให้กษัตริย์ตรัสแล้วคืนคำนั้นไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

แม้ภารกิจลอบสังหารจักรพรรดิแห่งหนานปิงจะค่อนข้างอันตราย แต่อู๋ฝานก็ไม่ได้อยากจะอยู่ที่เมืองหลวงไปตลอด เขายังมีเรื่องการช่วยอูหย่าล้างแค้น รวมถึงการฆ่ามอนสเตอร์เพื่อเพิ่มเลเวล หากต้องอยู่แต่ที่เมืองหลวงคงไม่มีอะไรคืบหน้า

“เจ้าไม่อยากอยู่ที่นี่ขนาดนั้นเลย?” เจ้าฉีเอ่ยถาม

“บุรุษมีความฝันและความทะเยอทะยานที่จะเดินทางไปให้ทั่วทิศทุกแดน ยิ่งไปกว่านั้นที่ดินศักดินาของข้าก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ ตามกฎของอาณาจักรเหยียนเฟิง ข้าไม่อาจอยู่ห่างจากที่ดินศักดินาได้นานสักเท่าใดนัก” อู๋ฝานตอบกลับ

“เสด็จพ่อก็เหลือเกิน ทั้งที่ขอให้มอบที่ดินศักดินาที่ดีให้เขา แต่ทำไมที่ที่ดี ๆ มันถึงได้อยู่ไกลแบบนั้นกัน” เจ้าฉีบ่นอุบอิบเสียงเบา

“เจ้าพูดอะไรหรือ?” อู๋ฝานเอ่ยถาม

“ไม่มีอะไร” เจ้าฉีตอบกลับ “ข้าคิดจะขอให้เจ้าเลี้ยงอาหารสักมื้อ เพราะเจ้าติดค้างข้าครั้งใหญ่ ไม่สิ สองครั้งใหญ่เลยต่างหาก”

“เรื่องใดกัน?” อู๋ฝานเอ่ยถาม

“เรื่องที่ดินศักดินาของเจ้าและโฉวหย่งเชา” เจ้าฉีตอบกลับ “ครอบครัวของข้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับทางราชสำนัก ดังนั้นข้าจึงเล่าเรื่องราวของเจ้าออกไป หรือเจ้าไม่คิดว่าน่าประหลาดใจบ้างหรือ ที่จื่อเจวี๋ยคนหนึ่งกลับได้เทศมณฑลเป็นที่ดินศักดินา? อีกทั้งผู้ว่าการของที่นั่นที่คิดจะชิงเอาความดีความชอบของเจ้า ก็เป็นข้าที่พบเห็นจึงเปิดโปง เมื่อใดเจ้ากลับไปเทศมณฑลชิงหยวนแล้วจะได้ทราบเองว่าเกิดเรื่องใดขึ้นบ้าง เช่นนั้นลองบอกว่าใช่ติดค้างข้าถึงสองครั้งหรือไม่?”

เจ้าฉีเอ่ยคำพลางเผยยิ้ม แต่นางหาได้ทราบไม่ว่าอู๋ฝานไปเทศมณฑลชิงหยวนมาแล้ว จึงได้ทราบว่าเกิดเรื่องราวใดขึ้นกับกัวจื่อหมิงบ้าง

หลังได้ฟังคำบอกเล่าของเจ้าฉี เขาถึงกับได้ตระหนัก

ไม่แปลกใจที่จื่อเจวี๋ยเช่นตัวเขาจะได้เทศมณฑลแห่งหนึ่งเป็นที่ดินศักดินา และไม่แปลกใจที่เพราะอะไรจักรพรรดิชราถึงถามเรื่องโฉวหย่งเชาในช่วงที่เข้าเฝ้าก่อนหน้านี้ ทั้งยังจัดการกับกัวจื่อหมิงอย่างเด็ดขาดและเรียบร้อย

ที่แท้ก็เป็นเพราะเจ้าฉี

หากเป็นคนอื่น หรือต่อให้เป็นองค์หญิงหรือองค์ชายเข้ามาแทรกแซง พวกเขาก็คงไม่เล่นใหญ่ถึงเพียงนี้ เนื่องจากพวกเขาไม่อาจเทียบกับเจ้าฉี แต่เพราะเรื่องนี้เช่นกัน จึงทำให้ได้ทราบว่าจักรพรรดิชรารักและเอ็นดูเจ้าฉีถึงเพียงใด

แท้จริงแล้วอู๋ฝานและเจ้าฉีไม่ได้ทราบถึงเหตุผลว่าเพราะอะไรจักรพรรดิถึงมอบเทศมณฑลชิงหยวนเป็นที่ดินศักดินา และเพราะอะไรถึงลงดาบจัดการกับกัวจื่อหมิง ทั้งหมดไม่ใช่เพียงปัจจัยเช่นหญิงสาวเพียงอย่างเดียว แต่ยังเพราะอีกฝ่ายต้องการตกรางวัลแก่การที่ช่วยเหลือชีวิต ขณะเดียวกันก็เพื่อสร้างขวัญกำลังใจอันดี เวลาเช่นตอนนี้จักรพรรดิไม่คิดใส่ใจหากจะต้องทำดีกับชายหนุ่มสักเล็กน้อยเพื่อคาดหวังถึงผลลัพธ์อื่น

“เป็นเช่นนี้นี่เอง ข้าขอขอบคุณอย่างเป็นทางการ” อู๋ฝานบอกกับเจ้าฉี “แต่ข้าก็ต้องเดินทางกลับอยู่ดี หากเมื่อใดเจ้าไปเทศมณฑลชิงหยวน เมื่อนั้นข้าจะรับรองอย่างเต็มที่”

คำพูดของอู๋ฝานมีความหมายแฝง เนื่องจากเขาไม่คิดว่าจักรพรรดิชราจะยอมปล่อยเจ้าฉีเดินทางไปยังที่ห่างไกล

แต่พอเจ้าฉีได้ยินคำตอบ ดวงตาของนางถึงกับทอประกายพลางกระซิบเสียงเบากับตนเอง “ไปเทศมณฑลชิงหยวน? นับว่าเป็นความคิดที่ดี”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด