Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย

Now you are reading Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน Chapter 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย

……….

ผีเสื้อรักบุปผา?

ชาวเน็ตนึกไม่ถึงว่าฉู่ขวงจะเขียน ‘ผีเสื้อรักบุปผา’ ออกมา!

หากพอมีความรู้อยู่บ้าง ย่อมรู้ว่าผีเสื้อรักบุปผาคือชื่อประเภทของกวีนิพนธ์สือ ไม่ใช่ชื่อเฉพาะของผลงานชิ้นใดชิ้นหนึ่ง!

ไม่มีใครหัวเราะเยาะว่าฉู่ขวงลอกเลียนหัวข้อผลงานของอี้อัน

สิ่งที่ทำให้ทุกคนขบขันจริงๆ ก็คือ เจ้าแก่ฉู่ขวงถึงกับตอบโต้คำสัพยอกของชาวเน็ตกวนประสาทเหล่านั้น และเขียนกวีนิพนธ์สือผีเสื้อรักบุปผารูปแบบเดียวกันออกมาซะเลย!

‘อุกก!’

‘ขำปอดโยก!’

‘การยั่วยุของชาวเน็ตจอมกวนได้ผลจริงด้วย?’

‘มีงานเขียนระดับเทพของอี้อันวางอยู่ตรงหน้า เขายังกล้าเขียนผีเสื้อรักบุปผา นี่คือเชื่อมั่นในตัวเองหรือมั่นใจเกินเหตุ!’

‘เป็นนักเขียนนิยาย จะมาเริ่มเติบโตสายกวีนิพนธ์?’

‘เติบโตสายกวีหมายความว่ายังไง บทกวีในบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศยังไม่มากพออีกหรือไง ด้วยพรสวรรค์ของเจ้าแก่ฉู่ขวง บางทีเขาอาจเขียนผีเสื้อรักบุปผาออกมาได้ดีจริงๆ ก็ได้นะ!’

‘ฉันไม่สงสัยเรื่องนี้หรอก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอาชนะอี้อัน’

‘บทกวีของอี้อันคลาสสิกสุดๆ !’

‘เจ้าแก่ฉู่ขวงเขียนบทกวีรูปแบบเดียวกับอี้อันออกมาจริงๆ ยกโทษให้ผมด้วยที่หัวเราะดังไปหน่อย งั้นมาดูกันว่าคุณเขียนออกมาเป็นยังไง!’

‘…’

ระหว่างการสนทนาในวงเล็กๆ ชาวเน็ตคลิกเข้าไปยังผีเสื้อรักบุปผาของฉู่ขวง!

ในที่สุดกวีนิพนธ์บทนี้ก็ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน

ยืนเคียงหอสูงลมโชยเบา ทอดมองสุดสายตา วสันตฤดูอาดูร ขอบฟ้าหม่นหมอง หญ้าเขียวสูญสิ้นแสงอัสดงในหมู่เขม่า ใครเล่าจะเข้าใจปณิธาน

ใคร่เมามายตามใจ ร่ำสุราเพลงขับขาน ฝืนยิ้มไร้ความหมาย อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย

ในชั่วพริบตา!

ตกตะลึง !

ทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นกวีนิพนธ์สือบทนี้!

ไม่ทันไร ความตกใจก็ปรากฏบนใบหน้าชาวเน็ตทุกคน!

‘นี่คือความแข็งแกร่งของเจ้าแก่ฉู่ขวงเหรอเนี่ย?’

‘ฉันรู้ว่าถ้าเจ้าแก่ฉู่ขวงกล้าเล่นแบบนี้ จะต้องเขียนออกมาได้ไม่ธรรมดา ถึงยังไงฝีมือด้านวรรณกรรมก็อยู่ถึงระดับนั้น แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะเขียนได้ดีขนาดนี้!’

‘กวีนิพนธ์สือนี้สุดยอดมาก!’

‘อาภรณ์หลวมมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้ายอมผ่ายผอมอิดโรย สายสง่างามแบบคลาสสิก ทั้งเศร้าโศกและสง่างาม!’

‘นี่เทียบได้กับบทกวีคลาสสิกที่ตกทอดมาจากสมัยโบราณแล้ว!’

‘ประโยคสุดท้ายเทพมาก ไม่ได้ด้อยไปกว่าอี้อันเลย!’

‘ผีเสื้อรักบุปผาของทั้งสองคนนี้มีข้อดีของตัวเอง!’

‘ผมชอบของฉู่ขวงมากกว่า!’

‘ฉันกลับคิดว่าของอี้อันตรงจริตมากกว่า แต่รสนิยมของคนก็แตกต่างไม่จำเป็นต้องเถียงกัน บทกวีนี้ของฉู่ขวงยอดเยี่ยมมากอย่างไม่ต้องสงสัย!’

‘ยังไงเจ้าแก่ฉู่ขวงก็เก๋ากว่า!’

‘หลังจากนี้เจ้าแก่ฉู่ขวงควรมุ่งมั่นกับการเขียนบทกวี ด้วยฝีมือที่แสดงออกผ่านผีเสื้อรักบุปผา เขาสามารถคว้าตำแหน่งที่โดดเด่นในวงการกวีนิพนธ์ได้!’

‘เร็วๆๆ ฉันยังรอหนังสือเล่มใหม่ของเจ้าแก่ฉู่ขวงอยู่นะ!’

‘เจ้าแก่ฉู่ขวงเขียนนิยายคือสายหลัก แต่ฝีมือในการเขียนนิยายนั้นสูงกว่าที่พวกเราจินตนาการไว้มาก กวีนิพนธ์สือบทนี้ของอี้อันนับว่าเป็นผีเสื้อรักบุปผาที่คลาสสิกที่สุดได้อย่างแน่นอน!’

‘…’

ชาวเน็ตต่างฮือฮา!

อี้อันไม่เป็นที่รู้จัก ดังนั้นอิทธิพลของเขาจึงมีจำกัด แต่ฉู่ขวงชื่อเสียงโด่งดัง เมื่อกวีนิพนธ์สือนี้ออกมา เขาจึงได้รับเสียงชื่นชมในทันที!

สุดยอดมาก!

ไม่ต้องให้อู๋ตุนโพสต์ กวีนิพนธ์สือนี้เผยแพร่ไปทั่ว ดึงดูดความสนใจของแวดวงกวี และนักประพันธ์บทกวีมืออาชีพล้วนต้องตกตะลึง!

‘กวีนิพนธ์สือนี้สุดยอดมาก!’

‘วรรคสุดท้ายคือวรรคทองเลย!’

‘อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย ต้องฝีมือระดับไหนถึงเขียนออกมาแบบนี้ได้!’

‘นี่คือพรสรรค์ที่แท้จริงของฉู่ขวง!’

‘อี้อันไม่เลวแล้ว ฉันถึงขั้นที่คิดว่าอี้อันเหลือเชื่อยิ่งกว่าอีก ทั้งที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร แต่กลับเขียนบทกวีออกมาในระดับที่ทัดเทียมกับฉู่ขวงได้!’

‘บ้าไปแล้ว!’

‘เซี่ยนอวี๋กับฉู่ขวงเป็นคู่ที่ลงตัวกันมาก คนหนึ่งเขียนนิยายและสามารถเขียนบทกวีออกมาได้อย่างปอกกล้วยเข้าปาก อีกคนหนึ่งเล่นดนตรีและทำได้เหมือนกัน ทำไมบนบลูสตาร์มีสัตว์ประหลาดเยอะขนาดนี้ จะให้พวกเราที่เป็นกวีมืออาชีพสู้ไหวได้ยังไง!’

‘ฝีมือระดับแนวหน้า!’

‘ทำนองวารีของเซี่ยนอวี๋ไร้เทียมทานก็จริง แต่สองคนนี้ก็ไม่ได้แย่เลย เขียนได้คลาสสิกมาก!’

‘บทกวีนี้ยอดเยี่ยมเพราะเข้าใจถึงความโศกเศร้าในฤดูใบไม้ผลิได้เป็นอย่างดี แต่กลับไม่เปิดเผยออกมาตามตรง เพียงแต่เปิดเผยคำใบ้ต่อผู้ชมอย่างแยบยล ขณะที่กำลังจะแสดงอารมณ์ออกมากลับหยุดลง และเปลี่ยนจุดโฟกัส จนเกิดความรู้สึกคลุมเครือและสับสน หลังจากพลิกผันมาหลายครั้งจนกระทั่งท้ายที่สุดความจริงปรากฏ และแตะถึงจุดสูงสุดในสองประโยคสุดท้ายก่อนจะหยุดอย่างฉับพลัน ทิ้งไว้เพียงความรู้สึกที่ก้องกังวาน!’

‘อ่านแล้วผมคันไม้คันมือ อยากเขียนสักบทเหมือนกัน!’

‘ในเมื่อคึกคักอย่างที่ไม่ได้หาได้บ่อยนัก ฉันก็เขียนผีเสื้อรักบุปผาบ้าง ขอโทษด้วยถ้าออกมาไม่ดี!’

‘…’

วงการกวีต่างตื่นตกใจ!

ต้องเข้าใจว่าผีเสื้อรักบุปผานี้คือหนึ่งในสามผลงานชิ้นเอกของหลิวหย่งยอดกวีสายสง่างามสมัยราชวงศ์ซ่ง บนโลกสองประโยคสุดท้ายมีชื่อเสียงเหลือกาลเวลา!

ถ้าหากบทกวีในลักษณะนี้ได้รับเสียงตอบรับปานกลาง ที่นี่คงไม่ใช่บลูสตาร์!

ยิ่งไปกว่านั้น ผีเสื้อรักบุปผาที่หลินเยวียนเลือกนับว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่คลาสสิกที่สดในผลงานประเภทเดียวกัน!

ความตกตะลึงของวงการกวีนิพนธ์ เป็นสิ่งที่อยู่ในความคาดหมาย!

บางคนถึงกับมีคนแสดงความชื่นชมต่อผีเสื้อรักบุปผาบนโลกออนไลน์โดยตรง!

ข้อสรุปนั้นสอดคล้องกัน

ไม่ว่าจะเป็นผีเสื้อรักบุปผาของฉู่ขวงหรืออี้อัน ล้วนเป็นตัวอย่างคลาสสิกภายใต้กวีนิพนธ์ประเภทนี้!

พรึบๆๆ !

บทกวีนี้มีจำนวนการรีโพสต์สูงมาก!

สิ่งเดียวที่เหนือความคาดหมายคือ ขาใหญ่บางคนในวงการกวีได้เกิดอาการคันไม้คันมือ และเขียนผีเสื้อรักบุปผาออกมา!

สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ

ยังมีกวีชื่อดังหลายคนได้เขียนบทกวีภายใต้ชื่อผีเสื้อรักบุปผา พร้อมทั้งเผยแพร่ลงบนแพลตฟอร์มออนไลน์!

ไม่นาน ผีเสื้อรักบุปผานับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้น!

ในบรรดาบทกวีเหล่านี้ มีบทกวีส่วนหนึ่งซึ่งได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ต วงการกวีบลูสตาร์นับว่ามีฝีมือจริงๆ

ต่างจากพวกพิลึกบางคนในแดนมังกนที่ที่บิดเบือนคำว่ากวี[1]ให้เป็นความหมายเชิงลบ

ชาวเน็ตต่างตื่นเต้นที่ได้อ่าน

‘ผีเสื้อรักบุปผาที่เหล่าอันจากฉู่โจวเรา ท่อนจบมีความหมายลึกซึ้งมาก!’

‘อาจารย์หานจากฉินโจวก็สุดยอดเหมือนกัน’

‘พวกคุณไปอ่านบทของอาจารย์อี้หลงจากฉู่โจว มีบรรยากาศฤดูใบไม้ผลิ บรรยายความหมายได้งดงามมาก’

‘โอ้ว ดูที่ปรมาจารย์จากเยี่ยนโจวเขียนซะก่อน!’

‘ผีเสื้อรักบุปผาของอาจารย์หลิวหยางจากฉีโจวน่าสนใจที่สุด ทั้งที่ใช้คำเรียบง่ายไม่หรูหรา แต่กลับทำให้รู้สึกดื่มด่ำ!’

‘…’

ดูเหมือนว่าจะเป็นการจุดกระแสโดยไม่ทันตั้งตัว

นับตั้งแต่อี้อันและฉู่ขวงปรากฏตัว กระแสของผีเสื้อรักบุปผาก็เริ่มต้นขึ้น!

แม้แต่ความขัดแย้งระหว่างพื้นที่ก็เริ่มปะทุขึ้นแล้ว

เมื่อเห็นว่ามีกวีชั้นนำอีกหลายคนยังไม่เคลื่อนไหว ชาวเน็ตจอมปั่นก็ล่งเสียงเรียกร้องให้พวกเขาเขียนผีเสื้อรักบุปผา!

ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้

ทั่วทั้งวงการกวีนิพนธ์มีชีวิตขึ้นมา

ในฐานะผู้ริเริ่มกระแสนี้ อี้อันมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม

บริษัทหลายแห่งต้องการร่วมมือกับอี้อันในการโฆษณา นี่คือสิทธิพิเศษซึ่งบัญชีใหญ่ระดับวีไอพีซึ่งมีจำนวนแฟนคลับถึงระดับหนึ่งบนแพลตฟอร์มจึงจะได้รับ

แน่นอนว่าหลินเยวียนปฏิเสธ

เขาเห็นว่าชาวเน็ตบางคนเรียกร้องให้เซี่ยนอวี๋เขียนผีเสื้อรักบุปผาออกมาด้วยซ้ำ!

หลินเยวียนเพิกเฉย

ให้ไปสองบทแล้ว

ผมไม่ใช่พวกบ้ายอสักหน่อย!

[1] กวี บางครั้งใช้เป็นคำสแลง สื่อถึงผู้ที่ไม่มีงานมีการทำ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด