Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 777 ยากเกินกว่าจะปฏิเสธ

Now you are reading Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน Chapter 777 ยากเกินกว่าจะปฏิเสธ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 777 ยากเกินกว่าจะปฏิเสธ

ชาวเน็ตล้วนตกตะลึงเมื่อได้เห็นข่าวนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวเน็ตจากฉินโจวซึ่งตกยิ่งกว่าใคร

‘อะไรนะ!’

‘ติดตามสถานการณ์ปัจจุบันอย่างใกล้ชิดจริงๆ ข้อสอบพาร์ทความเข้าใจในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของฉินโจวใช้บทกวีผีเสื้อรักบุปผาของฉู่ขวงเลยหรือ?’

‘ไม่มีเหตุผล!’

‘กวีนิพนธ์สือบทนี้เพิ่งปล่อยออกมาได้นานแค่ไหนเชียว?’

‘ข้อสอบเดิมน่าจะมีอะไรผิดพลาด เลยเปลี่ยนข้อสอบหรือเปล่า กวีนิพนธ์สือนี้นับว่ายังใหม่มากสำหรับนักเรียนมัธยมกลาย พวกเขาจะทำได้ไหม?’

‘ยากจริงๆ !’

‘ฉันก็ทำไม่ได้!’

‘ฮ่าๆๆๆๆๆ เจ้าแก่ฉู่ขวงเสียสติมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเริ่มทรมานนักเรียนแล้ว’

‘นักเรียนรุ่นนี้จะเกลียดฉู่ขวงเข้ากระดูกดำเลยละ!’

‘สงสารหลานสาวของฉันที่ต้องสอบเข้าเลย รายนั้นเป็นแฟนตัวยงของฉู่ขวง!’

‘ลูกคนเล็กที่บ้านโกรธมากจนเกือบฉีกยอดนักสืบปัวโรต์ของฉู่ขวงทิ้ง นักเรียนมัธยมฉินโจวพวกนี้เป็นแฟนหลังสือของฉู่ขวงกันทั้งนั้น วัยรุ่นชอบเขามาก!’

‘ฮ่าๆๆๆๆๆ ราคาของการเป็นแฟนคลับฉู่ขวงช่างสูงจริงๆ !’

……

เมื่อเทียบกับความความตลกเรื่อยเปื่อยของชาวเน็ตแล้ว นักเรียนชาวฉินโจวกลับโมโหสุดขีด!

“ฉันกับเจ้าแก่ฉู่ขวงจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้!”

“เจ้าแก่ฉู่ขวงว่างจัดจนต้องเขียนบทกวีที่ยากขนาดนี้ออกมาเลยหรือไง!”

“ไม่แปลกใจที่ถูกเรียกว่าเจ้าแก่ฉู่ขวง!”

“ฉู่ขวงโผล่หน้ามาเดี๋ยวนี้ ฉันรับรองว่าจะไม่ทุบคุณถึงตาย!”

“เจ้าแก่ฉู่ขวงยังมีความเป็นคนอยู่บ้างไหม!”

“ไอ้คนหลอกลวง!”

“เจ้าแก่ฉู่ขวงทำไมถึงสร้างหายนะให้นักเรียนฉินโจวอย่างพวกเราแบบนี้ ทำไมไม่ไปสร้างหายนะให้นักเรียนทวีปอื่น!”

“วิชาภาษาปีนี้ยากมาก!”

“ระยะโจมตีของฉู่ขวงขยายขึ้นแล้ว เมื่อก่อนมุ่งเป้าไปที่คนอ่าน ต่อนนี้มุ่งเป้าไปที่นักเรียนที่จบมอปลาย!”

……

ผู้ปกครองก็ร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออกเช่นกัน

หลังจากการสอบวิชาภาษาจบลง หลายคนรวมกลุ่มกันเพื่อตำหนิเจ้าแก่ฉู่ขวง แต่จากอีกมุมหนึ่ง เรื่องนี้ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะไม่ได้มีเพียงคนเดียวที่คิดว่ากวีนิพนธ์สือบทนี้ของฉู่ขวงนั้นยาก นักเรียนซึ่งเขาสอบทุกคนล้วนรู้สึกว่ายากไม่ต่างกัน!

ผลลัพธ์ยังคงเหมือนเดิม

มันจะไม่มีผลกระทบต่อการเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาของทุกคน

นอกจากนี้

ไม่อาจกล่าวได้ว่าเรื่องนี้คือความผิดของฉู่ขวง

ฉู่ขวงไม่มีอำนาจตัดสินใจเลือกคำถามในข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย คณะกรรมการออกข้อสอบต่างหากที่เป็นผู้ตัดสินใจเลือกคำถาม ควรจะไปสาปส่งคนออกข้อสอบมากกว่า แต่กลับกลายเป็นว่าสุดท้ายแล้วฉู่ขวงกลับต้องแบกรับคำก่นด่าทั้งหมด!

ช่วยไม่ได้

ก็ใครให้เจ้าแก่ฉู่ขวงคนนี้มีประวัติด่างพร้อยกันล่ะ?

ไม่ว่าเรื่องใดที่เกี่ยวโยงไปถึงฉู่ขวง ก็มักเป็นเรื่องไม่ดีทั้งนั้น

ลองนึกถึงหยางเสี่ยวฝานและฉินเทียนเกอก่อนหน้านี้ เรื่องราวกำลังภายในสุดคลาสสิก กลับถูกเขาเชือดไม่เลี้ยงจนเลือดไหลรินเป็นสายน้ำ!

ไหนจะการทรมานสารพัดรูปแบบ!

นอกจากนั้น

ไม่ใช่เพียงฉินโจวที่ข้อสอบส่วนความเข้าใจในการอ่านนั้นยากแสนยาก ข้อสอบข้อสอบส่วนความเข้าใจในการอ่านในทวีปอื่นๆ ก็ยากเช่นกัน เรรื่องจากบลูสตาร์ให้ความสำคัญกับความการศึกษาที่เปิดกว้างและยืดหยุ่น ข้อสอบในแต่ละทวีปจะมีคำถามซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นร้อนซึ่งได้รับความสนใจเป็นวงกว้างในทวีปนั้นๆ

……

หลินเยวียนรู้สึกงุนงงทันทีเขารู้เรื่องนี้

เขาไม่รู้จริงๆ ว่าผีเสื้อรักบุปผาของฉู่ขวงกลายเป็นคำถามในข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นไปไม่ได้ที่คณะกรรมการออกข้อสอบจะแจ้งเรื่องนี้กับเขาล่วงหน้า มิฉะนั้นก็เท่ากับข้อสอบรั่วไม่ใช่หรือ?

ส่วนเรื่องเวลาที่กระชั้นเช่นนี้

หลินเยวียนก็รู้สึกว่าทางคณะกรรมการผู้ออกข้อสอบได้ปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่าง ภายใต้สถานการณ์ปกติจะไม่มีทางเปลี่ยนคำถามในข้อสอบอย่างแน่นอน แต่ต่อให้ไม่มีคำถามใหม่ เนื้อหาส่วนใหญ่ในข้อสอบสอบพาร์ทความเข้าใจในการอ่านก็มักจะเป็นสิ่งที่นักเรียนไม่เคยเห็นมาก่อน

ไม่ว่าจะเป็นผีเสื้อรักบุปผาหรือไม่ก็ตาม

ต่อให้เลือกใช้ผลงานเมื่อหลายปีก่อนสักชิ้นหนึ่ง นักเรียนส่วนใหญ่ก็คงไม่เคยอ่าน เดิมทีนี่เป็นการทดสอบความสามารถในการเข้าใจที่นักเรียน เพียงแต่ในครั้งนี้เกี่ยวโยงไปถึงฉู่ขวง จึงทำให้ชาวเน็ตทั้งหลายบ่นกันขึ้นมาก็เท่านั้นเอง

ตำหนิก็ส่วนตำหนิ

หลินเยวียนสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าค่าความโด่งดังด้านวรรณกรรมของเขาเพิ่มสูงขึ้น

ไม่รู้ว่าเป็นค่าความโด่งดังซึ่งได้มาจากนักเรียน หรือเป็นค่าความโด่งดังจากการที่ผีเสื้อรักบุปผาของฉู่ขวงกลายเป็นข้อสอบสำหนับสอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือมาจากทั้งสองกรณี

……

หลังเที่ยง

ข่าวออกมาแล้ว

ข่าวทุกสำนักล้วนรายงานเกี่ยวกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของฉินโจวซึ่งนำผีเสื้อรักบุปผาของฉู่ขวงไปใช้เป็นแบบทดสอบวัดความเข้าใจในการอ่านในวิชาภาษา

‘การสอบเข้ามหาวิทยาลัยในทุกทวีปดำเนินไปตามปกติ ฉินโจวใช้กวีนิพนธ์สือของฉู่ขวงเพื่อทดสอบความเข้าใจในการอ่าน’

‘นักเรียนชาวฉินโจวตะโกนลั่น เจ้าแก่ฉู่ขวง!’

‘ฉู่ขวงสร้างหายนะให้แก่นักเรียนมัธยมปลาย?’

‘ฉินโจวยกผลงานของฉู่ขวงมาเป็นคำถามในข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย นี่อาจหมายถึงการปฏิรูปการสอบเข้า’

‘จัดอันดับคำถามที่ยากที่สุดจากข้อสอบวิชาภาษาในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปีนี้ ผลงานของฉู่ขวงเข้าชิงสามอันดับแรก’

‘…’

บนโลกออนไลน์มีกระแสผีเสื้อรักบุปผาระลอกหนึ่งเป็นทุนเดิม

ด้วยแรงกระตุ้นจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในฉินโจว ทำให้มียอดฝีมือในวงการกวีนิพนธ์คันไม่คันมือและเริ่มต้นเขียนผีเสื้อรักบุปผามากขึ้นเรื่อยๆ !

อย่ามองว่าฉู่ขวงถูกนักเรียนสาปแช่ง

อันที่จริง ในวงการกวีมีไม่รู้ตั้งกี่คนที่อิจฉาเขา!

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเรื่องดี!

ลองถามผู้คนในวงการกวีดูก็ได้ว่าใครไม่อยากให้ผลงานของตนเองกลายเป็นข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยบ้าง

นั่นหมายความว่าผลงานของคุณได้รับการยอมรับแล้ว!

นอกจากนั้นยังเป็นการยอมรับจากทางการ!

และนั่นคือการยอมรับจากเหล่าบรมครูชั้นนำผู้ออกข้อสอบ!

ทางการคิดว่าผีเสื้อรักบุปผามีคุณค่าทางวรรกรรมมากพอ จึงได้เล่นแบบนี้!

‘พูดไปก็อาจฟังดูแย่ แต่ผมอยากถูกนักเรียนด่ามาก!’

‘ถ้าผลงานของฉันกลายเป็นคำถามพาร์ทความเข้าใจในการอ่านบ้างก็คงดี!’

‘ทีนี้ผีเสื้อรักบุปผาของฉู่ขวงก็กลายเป็นบทคลาสสิกที่ทุกคนยอมรับแล้ว ไม่ใช่งานคลาสสิกไม่มีทางได้ไปอยู่ในข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรอก’

‘ได้ยินว่าเดิมทีข้อสอบพาร์ทความเข้าใจในการอ่านใช้ผลงานของถูกัง’

‘เมื่อเดือนที่แล้วถูกังถูกจับเข้าคุกเพราะคดีอาชญากรรมไม่ใช่หรือ?’

‘มิน่าล่ะ ข้อสอบความเข้าใจในการอ่านถึงเปลี่ยนไปใช้ผลงานของเซี่ยนอวี๋ ผลงานของถูกังใช้ไม่ได้แน่นอน งานของเขาถูกควบคุมชั่วคราว!’

‘ไม่มีใครโชคดีขนาดนี้แล้ว’

……

ในวงการกวีอิจฉาฉู่ขวงมากก็จริง ทว่าทุกคนก็เข้าใจ

ส่วนเหตุผลที่ทำไมผีเสื้อรักบุปผาของอี้อันจึงไม่ถูกใช้ในข้อสอบ ทุกคนก็เข้าใจเช่นกัน

ผีเสื้อรักบุปผาบทนั้นของอี้อันแม้ว่าจะไม่ได้แย่ ทว่าเมื่อเอ่ยถึงบทกวีบทนั้นของอี้อัน สิ่งที่อยู่ในความคิดของพวกเขาคือ ‘ที่ใดในใต้หล้าไร้ใบหญ้ารัญจวน’ ซึ่งให้ความรู้สึกว่าไม่จริงจังมากพอ

จะว่าไปแล้ว

อิทธิพลนี้ยังเกี่ยวข้องไปถึงวรรค ‘ไยจึงควรผูกใจรักบุปผาเดียว’ ซึ่งฉู่ขวงเติมเข้ามาอีกด้วย

เดิมทีบทกวีนี้ของอี้อันให้ความรู้สึกจริงจังมากทีเดียว

และขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอยู่นั้น

การประกาศครั้งใหญ่อย่างกะทันหันของสมาคมวรรณศิลป์ก็ดึงดูดความสนใจจากผู้คนในวงการวรรณกรรมและศิลปะได้นับไม่ถ้วน

“ขณะนี้เรากำลังเรียบเรียงหนังสือเรียนใหม่ ฉิน ฉี ฉู่ เยี่ยน หาน และจ้าวกำลังจะผนวกรวมกันในปีหน้า ในอนาคต เว่ยโจวและจงโจว…”

ประกาศนั้นยาวเหยียด

สรุปใจความได้ว่า เบื้องบนจะปรับเปลี่ยนตำราเรียนของนักเรียน และผนวกรวมการศึกษาในแต่ละทวีป!

ในชั่วพริบตา!

ผู้คนนับไม่ถ้วนได้กลิ่นแปลกๆ !

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเชื่อมโยงเรื่องนี้กับการสอบเข้ามหาวิยาลัยของฉินโจวในครั้งนี้

วงการวรรณกรรมต่างหิวโหยประหนึ่งฉลามได้กลิ่นเลือดในท้องทะเล!

ต้องเข้าใจก่อน

ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สมาคมวรรณศิลป์ได้รับเปลี่ยนแผนการศึกษา

ในตอนนั้น

การตัดสินใจสมาคมวรรณศิลป์ในการส่งเสริมการอ่านนิทานนอกหลักสูตรก็มีลักษณะคล้ายคลึงกับเหตุการณ์นี้

ขณะนี้

ในสตูดิโอของอิ่งจือ

หลินเยวียนได้รับข่าวนี้จากจินมู่

ก่อนที่เขาจะแสดงความคิดเห็นได้ทันท่วงที จินมู่ก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าปลาบปลื้ม

“หนังสือเรียนตั้งแต่ระดับประถมถึงมหาวิทยาลัยจะได้ถูกเขียนขึ้นใหม่ ข้อมูลที่เปิดเผยจากเรื่องนี้ไม่ธรรมดา ผมคิดว่าผีเสื้อรักบุปผาบทนั้นมีโอกาสได้รับเลือกให้บรรจุลงในหนังสือเรียน การเลือกผีเสื้อรักบุปผาของคุณให้เป็นข้อสอบในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในครั้งนี้นับเป็นสัญญาณที่ดี นอกจากนั้นผลงานก่อนหน้านี้ของคุณก็ยังมีโอกาสได้รับเลือกให้เข้าไปอยู่ในหนังสือเรียนระดับประถมหรือแม้แต่มหาวิทยาลัย…”

หลินเยวียนตกใจเล็กน้อย

คำพูดของจินมู่มีความเป็นไปได้ไม่น้อยเลย

สมาคมวรรณศิลป์ได้ดำเนินการครั้งใหญ่มากมายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในกระบวนการเตรียมการสำหรับผนวกบลูสตาร์โดยสมบูรณ์

ในอดีต มีการกระจายอำนาจการปกครองในแต่ละทวีป

การศึกษาและหนังสือเรียนของนักเรียนในแต่ละทวีปตั้งแต่เด็กจนโตนั้นแตกต่างกัน รวมไปถึงตำราเรียนก็มีความแตกต่างกันในบางประการ

เห็นได้ชัดว่ามาตรการเหล่านี้มุ่งเป้าไปยังการผนวกรวมรากฐานทางการศึกษาในแต่ละทวีป

คาดว่าหลังจากการผนวกรวมทั้งหมดเสร็จสิ้น ตำราเรียนจะยังมีการแก้ไขอีกบางส่วน

ดูเหมือนว่าเขากำลังมีส่วนร่วมในกระบวนการสำคัญแห่งยุคสมัยในครั้งนี้ของบลูสตาร์ และสมาคมวรรณศิลป์อาจผลักดันมาตรการอื่นเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต

จริงสิ

ระยะนี้ผีเสื้อรักบุปผากำลังเป็นกระแสไม่ใช่หรือ?

ชาวเน็ตหลายค นขอให้เซี่ยนอวี๋เขียนผีเสื้อรักบุปผาสักบทหนึ่ง

เดิมทีหลินเยวียนไม่สนใจ

แต่ในขณะนี้หลินเยวียนกลับรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากเกินกว่าจะปฏิเสธเสียงเรียกร้องของทุกคน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด