เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอบทที่ 889 ฉันเจอความลับอย่างหนึ่ง!
อารมณ์ดีๆ เริ่มต้นจากตอนเลิกงานวันศุกร์แล้ววันรุ่งขึ้น
ไม่ต้องทำงานเสมอ
อย่างเช่นตอนนี้ เฉินชางกลับบ้านเร็ว อยากจะจัดดินเนอร์ใต้
แสงเทียน เขาคิดว่าชีวิตต้องมีความสุนทรีย์ ถึงกับซื้อดอกกุหลาบ
มาสองสามดอกด้วยซ้ำ !
สำ หรับศัลยแพทย์หลักเฉินแล้ว ของอย่างสเต็กมันง่ายเกินไป
ช่วงนี้เขาผ่าตัดหัวใจ จึงรู้จักโครงสร้างกายวิภาคของส่วน
ซี่โครงดีเหมือนนิ้วมือตัวเอง แค่เปลี่ยนจากคนเป็นวัวเท่านั้น!
เขาคิดว่าทักษะการใช้มีดกับการจัดการรายละเอียดปลีกย่อย
ของตนจะดึงรสชาติเส้นใยกล้ามเนื้อประสาทของเนื้อวัวออกมาได้
แน่
แต่พอเฉินชางนั่งคิดบนโซฟาอยู่นาน จู่ๆ ก็คิดได้ว่าทั้งสเต็กกับ
แชมเปญก็ซื้อมาจากร้าน ดอกกุหลาบก็เหมือนต้องซื้อ ดินเนอร์ใต้แสงเทียนยังต้องซื้อเทียน สุดท้ายขยะก็ต้องแยกประเภท…ที่ทิ้งขยะ
เปียกยังห่างออกไปจากชั้นล่างอีกสองร้อยเมตรด้วย
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าไปเสียเงินที่ร้านเลยดีกว่า!
เขาจึงลุกขึ้นไปเตรียมเซอร์ไพรส์ยัยฉินขี้ประจบเสียเลย
ตอนที่ออกมา จู่ๆ ก็เห็นว่าฉินเยว่ดันถอดเสื้อตัวหนาแขวนไว้ที่
ตู้เสื้อผ้า เฉินชางอดยิ้มไปด่าไปไม่ได้ ยัยนี่ ยอมหนาวแต่ไม่ยอม
ไม่สวย
บ่ายวันนี้มีลม อุณหภูมิก็ลดลง เลิกงานแล้วฉินเยว่จึงเดินกลับ
ทุกวันเพราะไม่ได้ไกลมาก เดินสิบกว่านาทีก็ถือเสียว่าเดินเล่น
เฉินชางหยิบเสื้อมาแล้วลงไปขับรถ
……
ตอนนี้ฉินเยว่ทั้งหนาวทั้งหิว ที่แท้อากาศดีๆ ก็เหมือนกับ
ประจำ เดือนของผู้หญิง คิดจะมาก็มา ตกบ่ายจู่ๆ อากาศก็เริ่มเย็น
ยิ่งด้านนอกมีลมพัดหวือๆ นี่ถ้าเดินกลับบ้านจะไม่ต้องหนาวจน
เป็นหวัดกันเลยหรือที่จริง…เป็นหวัดก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ถือเสียว่าให้ระบบ
ภูมิคุ้มกันได้เผาผลาญสักครั้งก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรนัก
แต่…พรุ่งนี้ไม่ทำงาน ขลุกตัวอยู่ในบ้านน้ำมูกไหลจะกระทบ
ภาพลักษณ์ของตนในใจของคุณเฉินที่รักได้
มิหนำซ้ำ จะจุ๊บก็ไม่ได้ แถมจู๋จี๋กันไม่ได้อีก…
ถึงยังไงเป็นคนคีพลุค ตอนนอนก็ต้องสวย!
พอคิดว่าพรุ่งนี้จะซุกตัวใต้ผ้าห่มกับเฉินชางทั้งวัน จู่ๆ ฉินเยว่ก็
อารมณ์ดีขึ้นมาก
“เสี่ยวฉิน พรุ่งนี้คุณก็ไม่ได้มา ตอนกลางคืนอ่านประวัติ
อาการป่วยเพิ่มหน่อย อีกอย่าง เช็คยาผู้ป่วยที่ออกจากโรงพยาบาล
สองคนแล้วสั่งยาด้วย ตอนเจ็ดโมงครึ่งมีตรวจร่างกายหลังผ่าตัด…”
รุ่นพี่แม่มดพร่ำแจกภาระงานหลังเลิกงาน
ฉินเยว่อดแขวะไม่ได้ พร
ุ่งนี้ฉันไม่มา พูดอย่างกับฉันจะมากับ
คุณ…
ฉินเยว่ “อ๋อ ได้ค่ะ อาจารย์เถียน”ที่จริงเธอไม่มีอำนาจไปแขวะ คุณไม่มีทางจินตนาการได้ว่า
โลกในจิตใจของผู้หญิงที่โสดมาสามสิบสี่สามสิบห้าปีจนต่อมไร้ท่อ
อาจไม่สมดุลคนหนึ่งเป็นอย่างไร
ในที่สุดก็ยุ่งจนเลิกงาน ฉินเยว่ถอดชุดกาวน์เตรียมเลิกงาน
รุ่นพี่ก็ออกมาแล้ว พอเห็นฉินเยว่เป็นแบบนี้แล้วก็อดพูดไม่ได้
“ทำไมคุณถึงใส่เสื้อน้อยขนาดนี้ ขอแค่สวยก็ยอมหนาวได้
ถ้าเป็นหวัดไปจริงๆ จะทำยังไง”
ฉินเยว่ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ความใส่ใจของรุ่นพี่ “สามีฉันมารับ
ค่ะ”
พอรุ่นพี่ได้ยินเข้าก็สีหน้าอึมครึมทันที พูดว่า “ผู้ชายพึ่งไม่ได้
ทั้ง
นั้น
! พึ่งตัวเองยังดีเสียกว่า”
พอพูดจบก็ออกไปเลย…
ที่จริงฉินเยว่ก็แค่คุยโว เฉินชางยุ่งกว่าตนยังจะมารับตนได้
อย่างไร…
เธอถอนใจอย่างจนใจ ห่อตัวมิดชิดเตรียมออกไปข้างนอก!แต่พอเธอออกมา ก็เห็นชายหนุ่มสูงยาวเข่าดีคนหนึ่งเดินมารับ
ในมือถือเสื้อโค้ทผ้าขนสัตว์ที่คุ้นเคยตัวหนึ่ง
“ผมเอาเสื้อมาให้แล้ว!”
ขณะที่เห็นคุณเฉินที่รักยิ้มพลางสวมเสื้อให้ ฉินเยว่ก็ใจละลาย
เสียแล้ว!
ความสุขมาเยือนปุบปับไปไหมนะ
เธอไม่เคยคิดว่าจะมีคนเห็นว่าลมแรงแล้วคิดว่าวันนี้ตนใส่เสื้อ
ออกมาน้อย จึงเอาเสื้อมาเพิ่มให้!
“ที่รัก สวมให้ฉันหน่อย”
ฉินเยว่อดยิ้มไม่ได้
ความคับข้องใจในวันนี้มลายหายไปและแทนที่ด้วยความสุข
ล้นทันทีที่เห็นคุณเฉินที่รัก
เฉินชางพยักหน้า สวมเสื้อให้อย่างระวัง
ฉินเยว่รู้สึกว่าคืนนี้ต้องเลี้ยงข้าวตอบแทนคุณเฉินที่รัก เข้าอก
เข้าใจเกินไปแล้ว
อบอุ่นถึงกลางใจเลยตอนที่เฉินชางสวมเสื้อให้ฉินเยว่ เธอก็เขย่งปลายเท้าขึ้นจุมพิต
ที่หน้าผากเฉินชางครั้งหนึ่ง
เฉินชางอดยิ้มไม่ได้ “คนเยอะแบบนี้เนี่ยนะ”
ฉินเยว่ยิ้มเอ่ย “ไม่กลัว ถึงยังไงก็ไม่มีใครรู้จักฉันกับคุณ”
ทันทีที่พูดจบ ตอนนี้เองก็มีเสียงพูดดังขึ้น
“เอ๊ะ? อาจารย์เฉิน? อาจารย์เสี่ยวฉิน? ทำไมพวกคุณมาอยู่ที่นี่
ได้”
เฉินชางหันไปมอง เห็นว่าเป็นหวังทง จึงยิ้มเอ่ยทันทีว่า
“หัวหน้าหวังนี่เอง ฉินเยว่เลิกงานแล้วผมก็เลยมารับเขาครับ”
หวังทงพลันยิ้มให้ “อ๋อ ฮ่าๆ ผมไม่กวนพวกคุณแล้ว ไว้คุยกัน
วันหลัง”
เดิมทีหวังทงยังอยากคุยต่ออีก แต่เห็นว่าฉินเยว่เขินจน
หน้าแดงจึงจากไปอย่างรู้กาลเทศะทันที
ฉินเยว่ก็หน้าแดง อยากมุดเข้าไปในเสื้อของเฉินชางเต็มแก่
“เพราะคุณเลย!”
“คุณทำโมเม!”เฉินชางจนใจ ทำไมถึงมาโทษผมล่ะเนี่ย…
ทั้ง
สองสวมเสื้อตัวหนา เอะอะเสียงดังออกจากโรงพยาบาล รถ
ของเฉินชางจอดอยู่ด้านหนึ่ง
ขณะที่ฉินเยว่กำลังจะขึ้นรถ จู่ๆ ก็เห็นรุ่นพี่จึงทักทายทันที
“รุ่นพี่ ฉันกลับก่อนนะคะ!”
แม่มดหันมามองเฉินชาง ฉินเยว่ พานาเมล่า แล้วพลันชะงักไป
ครู่หนึ่ง “ระวังตัวด้วย!”
ฉินเยว่ยิ้มให้ ดีใจยิ่งกว่าอะไร
“นั่นรุ่นพี่ฉันเอง! หึ ปีนี้อายุสามสิบห้าแล้วยังไม่แต่งงาน เชิด
อย่างกับอะไร ดูถูกนั่น ดูถูกนี่…ต่อมไร้ท่อเสียสมดุลไปแล้ว คุณดู
นางแต่งหน้าสิ กลบรอยหยินหยางเสียสมดุลไม่มิด!”
หลังจากฉินเยว่โชว์แสดงความรักสำ เร็จก็สะใจมาก
เฉินชางยิ้ม “คืนนี้ไปกินอาหารฝรั่งไหม”
ฉินเยว่ส่ายหน้า “ไม่ ฉันอยากกินหม้อไฟ!”
เฉินชางอึ้งไป อดยิ้มไม่ได้ “โอเค!”“ทำไมคุณถึงชอบหม้อไฟขนาดนี้ล่ะ อาหารฝรั่งโรแมนติกกว่า
ไหม”
ฉินเยว่กลอกตาใส่เฉินชาง “ตาทึ่ม อาหารฝรั่งโรแมนติกกว่า
งั้นเหรอ อาหารฝรั่งมันเปลือง!
หม้อไฟสิถึงเป็นสิ่งที่โรแมนติกที่สุดในโลก!”
เฉินชางสงสัยทันที “ทำไมล่ะ”
แน่นอนว่าฉินเยว่ไม่มีทางพูดว่าเพราะอาหารฝรั่งกินจานใคร
จานมัน จะไปมีโอกาสให้คุณป้อนฉันได้ยังไง
หม้อไฟน่ะ ฉันยังกินพวกเนื้อกับปูอัดที่คุณต้มให้ได้…ใช่!
ฉันมันเด็กเจ้าเล่ห์จริงๆ!
ฉินเยว่ยิ้มพลางส่ายหน้า “ไม่บอกคุณหรอก!”
พอออกมาจากร้านหม้อไฟ ฉินเยว่เดินไปประมาณสิบกว่า
เมตรก็ยืนนิ่งไม่เดินต่อ โอบแขนของเฉินชางไว้ “ฉันรู้สึกเหมือนไฟ
สุมท้องตัวเองเลย!”
เฉินชางกลอกตา “แล้วให้คุณกินเผ็ดเยอะขนาดนั้นหรือไง”
ฉินเยว่จ้องเฉินชาง “ฉันอยากดื่มชานม…”คราวนี้เฉินชางจึงหันไปเจอร้านชานมร้านหนึ่ง เขาอดยิ้มขึ้นมา
ไม่ได้ มิน่าถึงยืนนิ่งเลย ที่แท้ก็เจอร้านชานมนี่เอง!
ยังมาบอกว่าไฟสุมท้องอะไรกัน
ทำไมคุณมารยาเยอะขนาดนี้นะ
เฉินชางตั้งใจทำหน้าขึงขัง ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ได้ กินเยอะ
แล้ว กินตอนกลางคืนเดี๋ยวจะอ้วนเอา”
ฉินเยว่ได้ยินเข้าก็เริ่มมุ่ยปากออดอ้อนงอแง อย่างไรก็ไม่ไป
อยู่ดี “ดื่มอะไรก็เสริมสิ่งนั้นไง ก็ต้องให้อ้วนไงจะได้โต!”
เฉินชางจนใจ เห็นท่าทางอย่างนี้ของเธอทีไรก็ใจแข็งไม่ได้ทุกที
“จ้า…สวยจ้า ทำตามใจได้เลยจ้า!” เฉินชางอดถอนใจไม่ได้
ฉินเยว่ได้ยินแล้วหัวเราะจนตัวงอ ลงไปนั่งยองหัวเราะร่า
“ไม่ไหวๆ ฉันไม่ดื่มแล้ว ท้องไม่มีที่แล้ว”
“คุณเฉินที่รัก ตอนนี้คุณประจบเก่งขึ้นทุกทีเลย!”
รอยยิ้มของฉินเยว่เปล่งประกายท่ามกลางค่ำคืนที่แสงไฟส่อง
สว่างไสวทั้ง
สองต่อล้อต่อเถียงเสียงดัง ขับรถกลับบ้าน ขณะที่อยู่บนรถ
จู่ๆ ฉินเยว่ก็มองเฉินชาง เธอยิ้มยั่วยวน เอ่ยว่า “ฉันเจอความลับ
อย่างหนึ่งเข้า!”
Comments