Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน 786 จ้าวโจว
ตอนที่ 786 จ้าวโจว
หลินเยวียนไม่รู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนิทรรศการศิลปะ ทว่าความเคลื่อนไหวที่รุนแรงซึ่งเกิดขึ้นนั้นไม่อาจรอดพ้นจากสายตาของผู้สื่อข่าวได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรื่องเกี่ยวข้องกับอิ่งจือ สองเทพจากวงการภาพวาดพู่กันโบราณ และพ่อเพลงอย่างเจิ้งจิง
ช่วงเที่ยงในวันเดียวกัน
ผลงานภาพวาดพู่กันโบราณของอิ่งจือสร้างความตกตะลึงอย่างมากในนิทรรศการศิลปะ ขณะเดียวกันสื่อก็รายงานข่าวว่าผลงานชิ้นนี้ได้รับคำชมจากยอดฝีมือทั้งสองท่านในวงการภาพวาดพู่กันโบราณ!
[อิ่งจือวาดภาพพู่กันโบราณได้ด้วย?]
[ผลงานชิ้นเอกของอิ่งจือปรากฏโฉมในนิทรรศการศิลปะแห่งหนึ่ง!]
[เทพธิดาแห่งวงการภาพวาดพู่กันโบราณเอ่ยชมผลงานของอิ่งในนิทรรศการว่า ‘ฝีมือระดับปรมาจารย์’!]
[หลัวเฉิงผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการภาพวาดพู่กันโบราณ: อิ่งจือเปลี่ยนทัศนคติที่ผมมีต่อนักเขียนการ์ตูน]
[เปิดตัวภาพวาดพู่กันโบราณของอิ่งจือ ภาพม้าควบ]
[ในนิทรรศการศิลปะแห่งหนึ่ง ภาพม้าควบ ภาพวาดพู่กันโบราณของอิ่งจือได้สร้างความตกตะลึงไปทั่วทั้งงาน ทั้งยังเรียกเสียงชื่นชมจากผู้ที่ชื่นชอบภาพศิลปะได้อย่างล้นหลาม!]
[…]
ขณะที่มีการรายงานข่าว ภาพม้าควบซึ่งได้รับการปรับแต่งด้วยเทคนิคขั้นสูง เพื่อรักษาความดั้งเดิมให้ได้มากที่สุดก็ปรากฏบนโลกออนไลน์!
ชาวเน็ตแตกตื่นขึ้นมาในชั่วพริบตา!
‘ให้ตายสิ นี่คือภาพวาดพู่กันโบราณของอิ่งจือ?’
‘ภาพม้าควบนี้ทรงพลังมาก!’
‘วงการการ์ตูนไม่เพียงพอสำหรับอิ่งจืออีกต่อไป เขาจะบุกวงการภาพวาดพู่กันโบราณแล้วเหรอ เพราะภาพนี้สุดยอดจริงๆ !’
‘ถึงฉันจะไม่มีความรู้เรื่องศิลปะ แต่ภาพนี้ก็สวยจริงๆ !’
‘ดูไปดูมาแล้วรู้สึกว่ายอดเยี่ยมกว่าผลงานของปรมาจารย์ส่วนใหญ่ซะอีก!’
‘ขาใหญ่ในวงการภาพวาดพู่กันโบราณชอบดูถูกวงการการ์ตูนมาตลอดเลยไม่ใช่หรือ ผมจำได้ว่าขาใหญ่สักคนหนึ่งเคยวิจารณ์อย่างเปิดเผยต่อสาธารณะว่าวงการการ์ตูนไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นจิตรกร นับได้เพียงว่าเป็นนักธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาถูกเทพอิ่งตบหน้าฉาด!’
‘ให้ตายสิ ฉันก็โดนตบหน้าเหมือนกัน เทพอิ่งแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!’
‘ภาพวาดพู่กันโบราณกับการ์ตูนเป็นคนละแนวคิดกัน ฉันคิดเสมอว่าฝีมือในการวาดภาพของเทพอิ่งนั้นสะท้อนออกมาผ่านการ์ตูน นึงไม่ถึงว่าเมื่อเขาวาดภาพเขียนโบราณ ฝีมือของเขาจะไม่ได้ด้อยไปกว่าการ์ตูนเลย!’
‘ข่าวนี้ไร้สาระมาก คนที่ชื่นชอบภาพวาดพู่กันโบราณเนี่ยนะจะชมอิ่งจือ?’
‘แหะๆๆ จะใช้ไม่ชมได้ยังไง ภาพม้าควบนี้ทำให้คนที่ชื่นชอบภาพวาดพู่กันโบราณเงียบปากได้เลยละ!’
‘คนที่ชื่นชอบภาพวาดพู่กันโบราณดั้งเดิมบอกเองไม่ใช่หรือว่าผลงานของนักวาดการ์ตูนหยาบโลนไม่ชั้นสูงมากพอ’
‘…!’
ใช่ว่าชาวเน็ตจะไม่ตระหนักถึงห่วงโซ่แห่งการดูถูกในวงการจิตรกรรม
ผู้ที่ชื่นชอบภาพวาดพู่กันโบราณเหล่านี้มักรู้สึกกระหยิ่มใจว่าตนมีรสนิยมสูง และมักมองการ์ตูนด้วยความเหยียดหยามมาโดยตลอด
ต่อให้เป็นมือหนึ่งในวงการ์ตูนอย่างอิ่งจือก็ไม่สามารถทำให้พวกเขาเชื่อได้อย่างสนิทใจ
อาจมีกระทั่งบางคนที่พยายามแสดงออกถึงความเหนือกว่าของตนด้วยการว่าร้ายอิ่งจือซึ่งเป็นมือหนึ่งในวงการการ์ตูนด้วยซ้ำไป
อย่างไรก็ตาม…
ไม่ว่าพวกเขาจะเหยียดหยามการ์ตูนมากแค่ไหน เมื่อมาอยู่ต่อหน้าภาพม้าควบ ผู้ที่ชื่นชอบภาพวาดพู่กันโบราณเหล่านี้ก็ทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับ!
จุดนี้ชาวเน็ตต่างคาดเดาได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้สื่อรายงาน!
ไม่ต้องเอ่ยถึง…
เพราะในไม่ช้า ก็มีผู้ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ออกมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในนิทรรศการศิลปะ
ต้องบอกก่อนว่าผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นไม่ใช่ผู้ที่ชื่นชอบภาพวาดพู่กันโบราณและคิดว่าตนเองมีรสนิยมสูงส่งกว่าใครไปเสียทั้งหมด ยังมีอีกจำนวนน้อยซึ่งเป็นแฟนคลับของอิ่งจือ
พวกเขาคือแฟนคลับอิ่งจือซึ่งถูกผู้ที่ชื่นชอบภาพวาดพู่กันโบราณในนิทรรศการกดดันจนไม่กล้าลุกขึ้นมาโต้แย้ง
ขณะนี้มีภาพม้าควบออกมา คนเหล่านี้จึงทนไม่ไหว!
สิ่งที่เกิดขึ้นในนิทรรศการศิลปะได้รับการเล่าอย่างละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบโดยชาวเน็ตบางส่วนซึ่งอยู่ในงาน
นอกจากนี้ บันทึกการสนทนาบางส่วนซึ่งตีแผ่ความจริงก็ถูกส่งไปยังกลุ่มแช็ตใหญ่ๆ เช่นกัน
ทันใดนั้น บนโลกออนไลน์ก็คึกคักขึ้นมา!
‘อุก’
‘ยังมีมุกนี้อยู่อีกเหรอ?’
‘จินตนาการภาพที่เกิดขึ้นตอนนั้นได้เลย’
‘ที่แท้ในนั้นก็ยังมีภาพผีเสื้อรักบุปผาของอิ่งจือด้วย!’
‘เทพอิ่งเอาเรื่องอยู่นะ ในที่สุดเขาก็ใช้วิธีนี้สร้างผีเสือรักบุปผาออกมาจนได้!’
‘กลุ่มแฟนคลับภาพวาดพู่กันโบราณพวกนี้ไม่กระอักกระอ่วนแย่เลยหรือ?’
‘ฮ่าๆๆๆๆๆ คนพวกนี้อวยภาพม้าควบเพื่อเหยียบย่ำภาพผีเสื้อรักบุปผา แต่นึกไม่ถึงว่าภาพม้าควบจะเป็นผลงานของเซี่ยนอวี๋เหมือนกัน อึ้งอยู่ตรงนั้นเลยสินะ!’
‘อวดเก่งดีนัก โดนตอกหน้าไปแรงๆ !’
‘ปกติแล้วคนกลุ่มนี้ชอบดูถูกคนที่ชอบการ์ตูนอย่างพวกเรา บอกว่าพวกเราเป็นพวกเนิร์ดอ้วนที่ชอบคนในกระดาษ วันนี้เทพอิ่งนับว่าได้ช่วยวงการการ์ตูนแก้แค้นอย่างสาสมแล้ว!’
‘…’
ห่วงโซ่แห่งการดูถูกมีอยู่ทุกหนแห่ง
ยอดฝีมือด้านจิตรกรรมหลายคนดูแคลนนักเขียนการ์ตูน และบรรดาผู้ที่ชื่นชอบงานจิตรกรรมแบบดั้งเดิมก็ดูแคลนผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูน
ปรากฏการณ์นี้มีมานานแล้ว
ต่างฝ่ายต่างขัดแย้งกันมานาน
ทว่าการปรากฏตัวของภาพม้าควบ กลับไปแทงใจดำผู้ที่ชื่นชอบงานจิตรกรรมแบบดั้งเดิม หรือแม้แต่ยอดฝีมือในวงการจิตรกรรมแบบดั้งเดิมอีกบางส่วน!
ไม่นาน
ผู้ที่ชื่นชอบงานจิตรกรรมแบบดั้งเดิมพลันเงียบลง
บ้าชะมัด!
ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย!
เป็นนักเขียนการ์ตูน แต่กลับเชี่ยวชาญด้านภาพวาดพู่กันโบราณได้ถึงขนาดนี้!
ไม่เพียงเท่านี้
หลังจากยอดฝีมือในวงการจิตรกรรมหลายคนได้เห็นระดับของภาพม้าควบ พวกเขาก็ตกตะลึงไปเช่นกัน ความสามารถด้านจิตรกรรมระดับปรมาจารย์ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น!
“นี่คือภาพที่อิ่งจือวาดหรือ?”
“มีคนที่ฝีมือระดับนี้ในหมู่นักเขียนการ์ตูนด้วย?”
“ความสามารถสุดยอดแบบนี้ มัวแต่วาดการ์ตูนอยู่ทำไม เสียดายพรสวรรค์”
“อิ่งจือคนนี้มีฝีมือจริงๆ แต่กลับวาดการ์ตูนอะไรก็ไม่รู้ ต้องเรียกว่าเต็มใจตกต่ำด้วยตัวเอง”
“ฉันกลับรู้สึกว่าการ์ตูนก็เป็นจิตรกรรมประเภทหนึ่ง ไม่ควรถูกต่อต้าน หลายปีมานี้วงการการ์ตูนพัฒนาไปมาก ผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมาตั้งมากมาย”
ฃ“ท้ายที่สุดแล้วการ์ตูนก็เป็นเพียงแขนงรองเท่านั้น จิตรกรรมจ้าวโจวโด่งดังก็เพราะพวกเขาไม่ได้แสวงหาผลกำไร!”
“ใครบอกว่าจิตรกรจ้าวโจวไม่แสวงหาผลกำไร?”
“แล้วผลงานของจ้าวโจวที่ราคาสูงลิ่วพวกนั้นล่ะ?”
“…”
ในวงการจิตรกรรมดั้งเดิม ถึงขั้นที่เกิดประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับภาพม้าควบ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ หลังจากการเปิดตัวอย่างสะเทือนวงการของภาพม้าควบ อิ่งจือก็ก้าวเข้าสู่วงการจิตรกรรมดั้งเดิมได้สำเร็จ!
……
ในสตูดิโอ
ในที่สุดหลินเยวียนก็รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับนิทรรศการศิลปะ
จินมู่ซึ่งอยู่ด้านข้างเอ่ยกับหลินเยวียนด้วยความตื่นเต้น
“ตอนนี้คุณแค่กำลังเริ่มสร้างชื่อในวงการจิตรกรรม รอคุณกลายขาใหญ่ในวงการจิตรกรรมก่อน หลังจากนั้นภาพของคุณจะมีมูลค่าสูงมากนะครับ”
“ผลงานของจิตรกรจะมีมูลค่าขึ้นมาก็ตอนที่ตายไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
หลินเยวียนเบ้ปาก
จินมู่ชะงักไปชั่วขณะ “ทฤษฎีอะไรของคุณครับเนี่ย ถึงแม้ผลงานจะมีมู ลค่าสูงขึ้นหลังจากที่จิตรกรเสียชีวิต แต่นั่นก็เป็นเพราะหลังจากที่จิตรกรจากไป ผลงานกลายเป็นผลงานหลังมรณกรรม ขณะที่จิตรกรชื่อดังส่วนใหญ่มีชีวิตอยู่ ผลงานของพวกเขาก็ขายได้ในราคาสูงอยู่แล้ว”
“มีด้วยหรือ?”
หลินเยวียนไม่มีความรู้ในด้านนี้มากนัก
จินมู่หัวเราะร่วน “มีสิครับ คุณรู้จักจ้าวโจวใช่ไหม?”
“อื้ม”
อีกไม่กี่เดือนจ้าวโจวก็จะเข้าสู่กระบวนการผนวกรวมดินแดน
หลินเยวียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับจ้าวโจวอยู่บ้าง เขามักค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตเมื่อเขารู้สึกเบื่อ
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของจ้าวโจวคือ
ยกย่องกลิ่นอายความโบราณ!
ว่ากันว่าในช่วงเทศกาล แม้แต่คนท้องถิ่นทั่วไปก็สวมชุดสไตล์โบราณชอบออกไปข้างนอก
ไม่เพียงวัฒนธรรมชุดสไตล์โบราณเท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเขียนตัวอักษรและจิตรกรรม ซึ่งชาวจ้าวโจวถนัดเป็นพิเศษ
ศิลปะคลาสสิกซึ่งตกทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณล้วนได้รับการรักษาไว้เป็นอย่างดีในจ้าวโจว
ไม่เพียงแต่งานศิลปะเท่านั้น แม้แต่สถาปัตยกรรมโบราณ ชาวจ้าวโจวก็อนุรักษ์ไว้อย่างดีเช่นเดียวกัน
นั่นส่งผลให้ผู้คนจากทุกทวีปในบลูสตาร์ชอบเดินทางไปจ้าวโจว
ที่นั่นมีโบราณสถานซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นวัดโบราณ เจดีย์โบราณ หรือเมืองโบราณ!
หลินเยวียนเองก็คิดหาโอกาสไปเยือนจ้าวโจวสักครั้ง
เมื่อเอ่ยถึงจ้าวโจว ชาวบลูสตาร์มักเอ่ยอย่างสะท้อนใจ ว่าในจ้าวโจวสามารถสัมผัสได้ถึงร่องรอยวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยก่อน แม้แต่คำพูดคำจาของพวกเขาก็ล้วนไพเราะสง่างาม
เรื่องนี้เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการเสาะแสวงหากลิ่นอาจความโบราณมาอย่างยาวนานของจ้าวโจว
จินมู่กล่าวว่า “ในเมื่อคุณรู้จักจ้าวโจว ก็น่าจะรู้ว่าปราชญ์จิตรกรรมของบลูสตาร์คือจ้าวโจวใช่ไหมล่ะครับ ถึงแม้ปรมาจารย์ด้านจิตรกรรมจะเป็นบุคคลเมื่อหลายร้อยปีก่อน แต่ผลงานซึ่งเป็นมรดกตกทอดของเขากลับได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หนึ่งในภาพวาดที่คลาสสิกที่สุดประมูลได้ในราคาสูงถึงเกือบหนึ่งพันล้านหยวน สร้างสถิติในวงการจิตรกรรม และคนที่ซื้อก็คือเศรษฐีจากจ้าวโจว!”
หลินเยวียน “นั่นเท่ากับว่าตายไปแล้วผลงานถึงมีมูลค่าขึ้นมาไม่ใช่เหรอครับ?”
จินมู่ส่ายหน้า “ผมเพียงแค่อธิบายถึงความหลงใหลในจิตรกรรมของคนจ้าวโจวให้คุณฟัง ที่จริงแล้วจิตรกรร่วมสมัยชื่อดังในจ้าวโจวหลายคน ผลงานล้วนแต่มีมูลค่าสูงมาก ในบรรดากลุ่มที่โด่งดังที่สุด ราคาประมูลภาพวาดของพวกเขาทะลุร้อยล้านเชียวนะครับ!”
หลินเยวียนตกตะลึง “ผลงานร่วมสมัย ราคาประมูลทะลุร้อยล้าน?”
จินมู่ยิ้ม เอ่ยตอบ “นั่นเป็นเรื่องเมื่อยี่สิบปีที่ผ่านมา ตอนนี้ตลาดไม่ได้เล่นใหญ่ขนาดนั้นหรอกครับ แต่ต่อให้ผลงานจะประมูลได้ในราคาหลักล้านหรือหลักสิบล้านก็ไม่ได้มีมากนัก แต่ก็ยังมีอยู่ ทั้งยังเป็นผลงานของจิตรกรร่วมสมัย”
หลินเยวียน “…”
จินมู่พูดต่อ “จ้าวโจวจัดงานประมูลงานเขียนตัวอักษรและภาพวาดครั้งใหญ่ทุกปี นี่เป็นงานใหญ่ที่ได้รับความสนใจจากทั่วทั้งบลูสตาร์ การประมูลงานเขียนตัวอักษรและภาพวาดในทุกๆ ปีจะมีผลงานของจิตรการร่วมสมัยที่ได้ราคาประมูลสูงลิ่ว ดังนั้นที่คุณบอกว่าหลังจากจิตรกรตายไปแล้วผลงานถึงมีมูลค่าสูงขึ้นมาจึงไม่ได้เป็นความจริงเสมอไป แต่อันที่จริงก็มีแค่ผลงานของจิตรกรจากจ้าวโจวเท่านั้นที่มักมีราคาสูงลิบ ฝีมือของจิตรกรดั้งเดิมจากทวีปอื่นมักจะเป็นรองจ้าวโจวเสมอ”
เมื่อเล่าถึงตรงนี้
จินมู่เอ่ยด้วยความคาดหวัง “ในงานประมูลงานเขียนตัวอักษรและภาพวาด บรรดาเศรษฐีลึกลับมักแย่งชิงผลงานของศิลปินร่วมสมัยจากจ้าวโจว จนราคาพุ่งสูงขึ้นจนเวียนหัว ภาพนั้นผมเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่ง น่าตกใจจริงๆ ครับ ถ้าไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วยตัวเอง คงเป็นเรื่องยากมากที่จะเข้าใจความหลงใหลอย่างสุดขั้วที่คนเหล่านั้นมีต่องานเขียนตัวอักษรและภาพวาด การที่มหาเศรษฐีทุ่มเงินมหาศาลเพื่อภาพวาดภาพหนึ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นกันได้บ่อยๆ ”
“…”
หลินเยวียนยังคนไม่ได้พูดอะไร ทว่าคีย์เวิร์ดจำพวก ‘จ้าวโจว’ ‘งานประมูล’ หรือ ‘การเสนอราคาของเศรษฐี’นั้นล้วนหยั่งรากลึกในใจของเขาแล้ว
งานใหญ่เช่นนี้ ถ้ามีโอกาส ก็สามารถเข้าร่วมได้ใช่ไหม?
จะว่าไปแล้ว
ด้วยชื่อเสียงของเขา ต่อให้หยิบผลงานคลาสสิกเหล่านั้นจากบนโลกออกมา บรรดาเศรษฐีและมหาเศรษฐีจะสนใจจริงหรือ?
ท่ามกลางความสับสน
หลินเยวียนก็ตั้งตารอการผนวกรวมของจ้าวโจว
“จินตนาการได้ว่า เมื่อจ้าวโจวเข้าผนวกรวม จิตรกรและนักอักษรวิจิตรจากแต่ละทวีปจะต้องหลั่งไหลกันเข้ามาอย่างแน่นอน ใครไม่อยากให้ผลงานของตัวเองได้เข้าไปอยู่ในงานประมูลของจ้าวโจวบ้าง งานนี้ดึงคนมาได้มากที่สุด”
จินมู่เอ่ยอย่างแน่วแน่
หลินเยวียนพยักหน้า สถานที่มหัศจรรย์อย่างบลูสตาร์ แต่ละทวีปมีเอกลักษณ์ทางศิลปะของตนเอง และจ้าวโจวคล้ายกับว่าจะเข้ากับความสามารถของหลินเยวียน
ต้องเข้าใจว่า
หลินเยวียนไม่ได้มีเพียงทักษะด้านจิตรกรรมระดับปรมาจารย์ แต่เขายังเพิ่งได้รับทักษะด้านการเขียนตัวอักษรระดับปรมาจารย์เพิ่มมาอีก!
และความสามารถทั้งสองนี้เอง เป็นสิ่งที่ชาวจ้าวโจวยกย่องและแสวงหามากที่สุด!
Comments