ซวยจริง กลายเป็นสาวน้อยไม่พอยังเจอเหล่าเจ้าหญิงของโรงเรียนมาจีบอีก 21 ฝึกเล่นเกมกับใจที่เต้นตึกตัก
นี่มันอะไรกันเนี่ย นี่มันอะไรกัน
ไหงจากนัดเล่นเกมธรรมดา ๆ ถึงได้กลายเป็นการแข่งแย่งชิงวันหยุดของผมไปได้!!!ถามสุขภาพของผมสักคำไหมว่าอยากเหรอเปล่าน่ะ
…..
เที่ยวกับสาวสวยงั้นเหรอ… เอาจริงมันก็ดีอยู่หรอก ถ้าไม่ติดว่าทั้งสองคนออกจะรุกรุนแรงไปหน่อยจะผมเองยังรู้สึกเกร็ง ๆ แต่นั่นล่ะ ไม่ว่าอย่างไรมันก็แปลกไม่ใช่เหรอไงที่จู่ ๆ มาเอาผมเป็นรางวัลเนี่ย
ถ้างั้นปฏิเสธไปเลยจะดีไหม… นั่นคือความคิดแวบแรกที่เข้ามาในหัว ทว่าตอนนั้นเองมันก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาในหัว
‘จะยอมแค่นี้งั้นเหรอ…ฟ้า’
เสียงนั้นไม่ใช่เสียงใครที่ไหน แต่เป็นเสียงของผมเอง เสียงจากใจของผม เสียงของจิตวิญญานที่ไม่รู้ว่าเป็นนางฟ้าหรือปีศาจ
‘ฉันไม่ใช่อะไรพวกนั้น แต่เป็นวิญญาณแห่งเกมเมอร์ของนาย ใช่ จิตวิญญาณแห่งเกมเมอร์อันแสนภูมิใจ’
จะ….จิตวิญญาณแห่งเกมเมอร์!!
‘ใช่แล้ว ฉันคือตัวตนอันแสนภาคภูมิของนาย และเป็นตัวตนที่จะถามนายอย่างชัดเจน…’
ถามงั้นเหรอ.. ถามอะไร
‘จะยอมแพ้จริง ๆ งั้นเหรอ’
วะ…ว่าไงนะ
‘เจอกับมือใหม่สองคนกลับคิดที่จะถอยหนี แบบนี้ยังจะเรียกตัวเองว่าเป็นเกมเมอร์ได้อีกงั้นเหรอ!!! จิตวิญญาณของลูกผู้ชาย จิตวิญญาณของเกมเมอร์น่ะ นึกมันให้ออกสิ ณัฐชา!!!’
เรื่องนั้นมันก็จริง…..
เสียงจากจิตใจที่พูดขึ้นมานั้นทำให้ผมตระหนักอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ใช่ นี่ผมหลงลืมไปได้ไงกันนะ เกมน่ะมันคือสิ่งที่ผมรักและถนัดที่สุดไม่ใช่เหรอไง….เพราะงั้นกับทั้งสองคนที่เกมก็ยังไม่เคยจับก็คิดถอยหนี แบบนี้จิตวิญญาณของเกมเมอร์ของผมก็คงร่ำไห้พอดี ไม่สิ มันได้ร่ำไห้ออกมาแล้ว
คิดได้แบบนั้นผมก็ไม่รอช้าที่จะยิ้มออกมาอย่างมั่นใจก่อนจะหันไปหาทั้งสองคนที่กำลังเถียงกันไปมาและพูดออกมาด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น
“ทั้งสองคนท้าทายมาแบบนี้เรายินดีรับคำท้าค่ะ…. ถ้าใครชนะการแข่งครั้งนี้ล่ะก็ เอาวันหยุดของเราไปได้เลยแต่ว่า…..”
นิ้วได้ยื่นออกไปข้างหน้าเป็นดั่งการท้าทาย รอยยิ้มได้แสยะออกอย่างมั่นใจ
“เราเองก็จะแข่งด้วยเช่นกัน ถ้าเราชนะละก็ขอนอนพักที่บ้านแบบสบาย ๆ ใจไปก็แล้วกันนะ”
ใช่ จะหนีไม่ได้ เวลาพักอันแสนสบายนั้นจะต้องไม่ได้มาจากการถอยหนี แต่ต้องมาจากชัยชนะอันหอมหวานเท่านั้น นี่ล่ะจิตวิญญาณแห่งเกมเมอร์!!
“ว้าววว เท่จังเลยค่ะคุณฟ้า”
“ความมั่นใจนั่นน่ะ ขอชื่นชมเลยฟ้า”
ทั้งสองคนดูประทับใจกับท่าทีของผม ไม่พอยังคว้ามือถือขึ้นมาพร้อมรุมถ่ายกันรัว ๆ จนทำเอาผมที่ทำท่ามั่นใจเมื่อครู่ยกมือขึ้นมาบังอย่างเขิน ๆ
“เดี๋ยว ๆ นี่ทำอะไรกันเนี่ย”
แฉะ ๆ
“แหม นาน ๆ ทีคุณฟ้าจะมีด้านนี้ให้เห็นนี่น่า ต้องเก็บเอาไว้หน่อยนะคะ”
“อ่า ทำเอานึกถึงตอนที่เธอปกป้องฉันจะคนของที่บ้านเลย ลุคแบบนี้น่ะ…ชอบมากเลยนะฟ้า”
“อึยยยยยย”
ยิ่งฟังก็ยิ่งหน้าแดง สติที่รวบรวมมาเมื่อครู่ก้พลันเตลิดไปไกลให้กับคำบอกชอบฉับพลันของคุณบีม
“เดี๋ยวสิคะคุณบีม แบบนี้มันฉวยโอกาสนี่นา… เราเองก็ชอบคุณฟ้ามาก ๆ นะคะ เท่มาก ๆ เลยค่ะ”
“จะ..ใจเย็น ๆ นะทั้งสองคน แบบนี้เรารับไม่ไหวหรอกก”
“ใบหน้าที่เขินนั่นก็น่ารักมากค่ะคุณฟ้า ชอบมาก ๆ เลยค่ะ”
“ไม่ว่าจะแบบไหน ฟ้าก็ดูดีไปหมดเลยนะ”
“โถ่ ทั้งสองคนก็บอกให้พอไง ไม่งั้นเราไม่ได้ไปไหนต่อพอดี”
กว่าจะพ้นสภาพนั้นได้ก็ใช้เวลาอยู่ชั่วครู่หนึ่งและในที่สุดเราก็กลับมาอยู่ในสภาวะสงบสุขอีกครั้งหนึ่งซึ่งก็คือช่วงเวลาของการเลือกเกมที่จะมาเล่น โดยทั้งสองคนนั้นให้ผมเป็นคนเลือกเกมที่จะเล่นและแน่นอนว่าเกมที่ผมเลือกก็คือ….
เกมไฟท์ติ้ง
สิ่งที่พวกเราต้องการคือการตัดสิน ดังนั้นการเล่นเกมประเภทให้ความร่วมมือกันอย่างพวกเกมทำอาหารกระชากมิตร หรือพวกแนวกระดานบอร์ดจึงตัดออกไป ส่วนพวกโมบ้านี่ไม่ต้องพูดถึง อันนั้นเล่นเป็นทีมคงจะหาทางตัดสินอะไรไม่ได้เลย
ดังนั้นมันก็เลยมาวนอยู่ที่อะไรที่พอจะแข่งกันได้ หากไม่ใช่พวกเกมยิงปืนแบบเซอร์ไววัลก็ต้องเป็นเกมไฟต์ติ้งนี่ล่ะ ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองที่ไม่เคยเล่นเกมมาก่อน จะให้มาเล่นเกมชูตติ้งที่ต้องพึ่งทักษะเกินไปเขาจะหาว่ารังแกมือใหม่ ดังนั้น……เกมต่อสู้นี่ล่ะเหมาะสมสุดแล้ว
แน่นอนว่าถึงแม้ตัวผมเองจะไม่ใช่มือฉมังเรื่องเกมไฟตติ้งแต่อย่างน้อยฝีมือก็พอแข่งลงแรงค์กับเขาได้อยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น…..ไม่มีทางแพ้แน่นอน!!
“แข่งเลยอาจไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นทั้งสองคนมาลองซ้อม ๆ ดูก่อนก็ได้นะ”
“แบบนั้นดีเลยค่ะ เอาเป็นว่าซ้อมสักชั่วโมงแล้วค่อยมาแข่งป็นไงคะ”
“ก็ไม่เลวนะ แต่ถ้าเธอไม่ไหวจะขอเพิ่มเป็นสองชั่วโมง ทางฉันก็ไม่มีปัญหานะยัยน้ำ”
“แหม ๆ แค่ชั่วโมงเดียวก็พอแล้วคะ คุณบีมต่างหากล่ะคะ ไม่ขอเวลาฝึกเพิ่มหน่อยเหรอ ได้ข่าวไม่ถนัดเรื่องเกมนี่คะ”
“อะไรที่ฟ้าชอบ ฉันก็ถนัดหมดนั่นล่ะ”
อะไรจะปานนั้น….
ต้องขอบคุณที่ในห้องนี้นั้นมีเครื่องเกมจำนวนมากและจอทีวีหลายจอไว้สำหรับเล่น ดังนั้นทั้งสองคนจึงพอที่จะแยกฝึกได้ ส่วนผมที่เล่นเป็นอยู่แล้วก็ทำหน้าที่สอนทั้งสองคนเล่นไปแต่ใครจะไปนึกว่ากับแค่สอนมันยังมีอะไรให้ใจเต้นได้อีก
“คุณฟ้า แบบนี้ใช่ไหมคะ?”
เสียงของน้ำถามพลางขยับคอนโทรลเลอร์ในมือ เธอย่นคิ้วเล็กน้อยเหมือนตั้งใจสุด ๆ ดวงตาคู่สวยจ้องจออย่างจริงจัง
“อ่า…ใช่เลย คุณน้ำ! ลองกดปุ่มนี้ต่อจากเมื่อกี้ดูค่ะ แล้วก็…” ผมยื่นมือไปจับคอนโทรลเลอร์ของน้ำเพื่อช่วยแนะนำตำแหน่งนิ้ว
“แบบนี้เหรอคะ?”
คุณน้ำถามพร้อมโน้มตัวเข้ามาใกล้จนใบหน้าของเราห่างกันไม่ถึงคืบ ผมหันไปมองด้วยความตกใจแต่สายตาที่จ้องมานั้นเต็มไปด้วยความหวานซึ้งจนใจมันเต้นอย่างรุนแรง พลันนั้นเองนิ้วของเผลอสัมผัสกันอย่างไม่ตั้งใจ
เพียงแค่สัมผัสปลายนิ้วของน้ำเท่านั้นก็ทพเอาใจเต้นรุนแรงไปหมด จากนั้นเธอก็หันมามองผม ดวงตาใสแจ๋วจนผมต้องเบือนหน้าหนีทันที
“คุณฟ้า…” น้ำพูดเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน “ขอบคุณนะคะ”
“มะ…ไม่เป็นไรค่ะ”
ผมรีบปล่อยมือออกแล้วขยับตัวไปนั่งห่าง ๆ พลางพยายามควบคุมใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ
“อะแฮ่ม!” เสียงกระแอมของบีมดังขึ้นจากอีกฝั่งของห้อง
“ฟ้า! มาช่วยฉันบ้างสิ! นี่มันยากชะมัดเลย” คุณบีมเรียกพร้อมโบกคอนโทรลเลอร์ไปมา
“ได้ค่ะ ๆ” ผมเดินไปนั่งข้าง ๆ เธอที่จออีกฝั่ง บีมนั่งไขว่ห้างสบาย ๆ แต่คิ้วขมวดแน่นเหมือนกำลังจริงจังสุด ๆ
“นี่นะ ฟ้า บอกหน่อยสิ ฉันต้องกดปุ่มไหนถึงจะออกท่าพิเศษได้?”
“ตรงนี้ค่ะ กดพร้อมกันแบบนี้นะ…” ผมยื่นมือไปชี้ปุ่มที่ต้องกด แต่คุณบีมไม่ฟัง เธอกลับจับมือผมไว้แทน
“สอนฉันแบบนี้ดีกว่าไหม?กดให้ดูเลย ฟ้าจับมือฉันกดท่าให้ดูน่าจะสอนได้ดีกว่านะ” คุณบีมพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น แต่แววตาแฝงไปด้วยความจริงจัง
“อ๊ะ…มะ ไม่ต้องจับมือก็ได้ค่ะ คุณบีมลองเองก็น่าจะ…”
“ไม่ได้! ถ้าฟ้าไม่ช่วย ฉันจะไม่มีวันชนะยัยน้ำนั่นแน่” เธอพูดพลางจับมือผมแน่นขึ้นอีก
หัวใจผมเต้นแรงจนแทบหลุดจากอก ผมหันไปมองบีมที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม ใบหน้าเธอดูจริงจัง แต่ริมฝีปากโค้งเป็นรอยยิ้มเล็ก ๆ
“งั้นลองดูนะคะ…” ผมพูดเบา ๆ พลางกดปุ่มไปตามท่าที่เคยซ้อมให้ ระหว่างนั้นตาของคุณเจ้าชายแทบไม่ได้มองจอเลย ดวงตาสีดำของเธอกลับจ้องหน้าผมตลอดเวลา
“ฟ้า…”
“คะ?”
“ใกล้แบบนี้ ใจเต้นแรงใช่ไหม?”
เสียงกระซิบเบา ๆ ดังมาที่ข้างหูพร้อมกับลมหายใจที่ได้ยินอย่างชัดเจนจากระยะอันแสนใกล้ มันทำเอาจิตใจที่เพิ่งสงบมาหมาด ๆ กลับมาเต้นอย่างรุนแรงอีกครา
“ห๊ะ!?” ผมสะดุ้งสุดตัวพร้อมพยายามดึงมือออก แต่มือบางนั่นกลับไม่ปล่อย เธอยิ้มกว้างกว่าเดิมแล้วหัวเราะเบา ๆ
“ฉันเองก็เหมือนกัน…”
ปี๊ดดดด
เลือดของทั้งร่างแทบจะถูกสูบฉีดขึ้นมาที่บริเวณหน้าทั้งหมด ใบหน้าของผมตอนนี้มันร้อนผ่าวยิ่งกว่ากระทะที่ถูกเปิดแก๊สระดับสูงสุดเสียอีก
“ดะ…เดี๋ยวค่ะ!!”
ทันใดนั้นเอง น้ำก็เดินเข้ามาขัดจังหวะพร้อมเสียงที่ดูอ่อนโยนแต่แฝงความเฉียบขาด
“คุณบีมคะ…มือของคุณไม่ควรจับอะไรเกินจำเป็นนะคะ โดยเฉพาะมือของคุณฟ้า”
“หืม?ทำไมล่ะ?หรือว่าหวง?” เจ้าชายยิ้มกวน ๆ ก่อนจะคลายมือออก
“ค่ะ หวงมากด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นช่วยปล่อยมือด้วยจะเป็นพระคุณมากเลยค่ะ” คุณน้ำพูดพร้อมก้าวเข้ามายืนข้าง ๆ ผม
ผมยิ้มแห้ง ๆ “เอ่อ…เรามาซ้อมเกมต่อกันเถอะค่ะ…”
ทั้งสองหันมาพยักหน้าเบา ๆ แต่สายตายังคงจ้องกันเหมือนจะเปิดสงครามเงียบ ผมถอนหายใจแล้วกลับไปช่วยทั้งคู่เล่นต่อ พร้อมกับดับความร้อนรุ่มและหัวใจที่ยังคงเต้นโครมครามนี้ให้ได้
หลังจากครบหนึ่งชั่วโมงไป ต้องบอกว่าทั้งสองคนนั้นทำให้ผมทึ่งมาก ๆ เพราะเพียงแค่ชั่วครู่เดียวเท่านั้นแต่ทั้งสองคนก็เรียกได้ว่าเล่นเก่งระดับที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนที่ไม่เคยจับจอยเล่นเกมมาก่อนในชีวิต….. นี่มัน…
ชักแย่แล้วสิ ทำไมกันนะ ทำไมกัน รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย แต่ไม่ได้เด็ดขาดฟ้า อย่าไปกลัว คนที่กลัวคือคนที่แพ้ และเกมเมอร์ชั้นเซียนอย่างเราจะต้องไม่กลัวและไม่แพ้!!!
และแล้วการแข่งขันของพวกเราก็เริ่มต้นขึ้น…….
Comments